Day4-2 เที่ยวร้าน『AKB48Cafe』เดินทางกลับไปที่ กทม จากสนามบินNARITA

Day4-2 เที่ยวร้าน『AKB48Cafe』เดินทางกลับไปที่ กทม จากสนามบินNARITA

หลังจากที่ไปเดินเล่นในเมือง AKIHABARA ที่สามารถแอบขำไปกับความเป็นโอตาคุแล้ว ICHIGO-CHAN ก็ได้ไปเปิดตัวที่ร้านเมดคาเฟ่สมใจอยากค่ะ

https://ichigojapan.jp/roundthechi/hakone_tokyo_day4-1

แล้วก็ใกล้จะถึงเวลาของเที่ยวบินขากลับแล้วค่ะ ICHIGO-CHAN แฟนตัวยงของ BNK48

ก่อนจะกลับไทยก็แวะไปที่『AKB48 CAFE』ที่รู้สึกสนใจมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ค่ะ

『AKB48 CAFE』ที่รู้สึกสนใจมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ค่ะ

http://akb48cafeshops.com/akihabara/english

รู้สึกตื่นเต้นจนใจเต้นรัว ๆ แต่ก็เข้าไปในร้านกันเลยค่ะ

พอเข้าไปในร้านแล้วก็พบว่ามีการตกแต่งร้านแบบน่ารัก ๆ ตามสไตล์ AKB48 มาต้อนรับ ICHIGO-CHAN ค่ะ

เข้าร้านไปและเดินตรงไปตามทางเดินก็จะเห็น「THEATRE ROOM」อยู่ทางซ้ายมือ

มีจอขนาดใหญ่ติดตั้งเอาไว้ ทำให้เราสามารถรับชมวิดีโอเกี่ยวกับ AKB48 ไปพร้อมกับนั่งทานอาหารและขนมหวานได้ด้วยนะคะ

ทางขวามือมี「CAFE AREA」ค่ะ บริเวณนี้จะสว่างและมีบรรยากาศแบบป๊อป ๆ นะคะ และในบริเวณนี้เองก็มีจอมอนิเตอร์ติดตั้งเอาไว้หลายที่เลยค่ะ

3

ที่โต๊ะของ CAFE AREA ก็มีเหล่าสมาชิกของวง AKB ที่เข้าร้านมาแจกลายเซ็นด้วย!!

อดไม่ได้ที่จะเป็นแฟนคลับจริง ๆ นะคะ

สามารถเลือกรายการอาหารที่สมาชิกของวง AKB คิดค้นขึ้นมาได้ด้วยนะคะ

ไม่ว่าจะเป็น「SAMONKUNAIDARO SALMON CREAM PASTA」(1000 เยน)

「MINNA NO EGAO NI BEST SMILE BURGER」(1000 เยน)

นอกจากนี้ยังสามารถทานอาหารมากมายได้ในราคา 1000 เยน เช่น「Tsukemen」ค่ะ

และยังมีบาร์เครื่องดื่ม 500 เยน ที่สามารถดื่มน้ำหวานได้ไม่อั้นอีกด้วยนะคะ

สำหรับคนที่สั่งอาหารไปแล้วจะได้รับส่วนลดสุดคุ้ม 300 เยน ด้วยค่ะ

ส่วนอาหารที่ ICHIGO-CHAN สั่งไปก็คือ

「AI GA TAPPURI ICECREAM MO NAKA」(800 เยน)

มีหน้าตาที่น่ารักมากเลยค่ะ เหมาะจะเอาไปโพสต์ขึ้น SNS สุด ๆ

ที่ภายในร้านมีทั้งแฟ้มที่เป็นโปสเตอร์รูปถ่าย, กระดาษแข็งที่มีรูปของสมาชิกในวง และก็อัลบั้มรวมรูปภาพให้เราสามารถดูได้ตามสบายด้วยนะคะ

ถ้าเป็นแฟนคลับของ AKB แล้ว ไม่ว่าจะอยู่นานกี่ชั่วโมงก็ไม่มีเบื่อเลยค่ะ

ส่วนใหญ่แล้วคาเฟ่ในลักษณะแบบนี้มักจะมีราคาแพงว่าคาเฟ่ทั่วไปนะคะ แต่ว่าครั้งนี้คิดเงินแล้วเพียงแค่ 1,280 เยนเองค่ะ

ถ้าเทียบไปแล้วก็ดูเป็นราคาที่สมเหตุสมผลดีนะคะ

นอกจากนี้เวลาที่สมาชิกวง AKB เข้ามาที่ร้านก็จะมีมุมที่เราสามารถดูความคิดเห็นต่าง ๆ และลายเซ็นซึ่งเขียนไว้บนกำแพงและเรายังสามารถขอให้เล่นเพลงของ AKB48 ที่เราชื่นชอบได้ด้วยค่ะ

ถ้าเป็นแฟนตัวยงของ AKB (รวมถึง BNK) แล้วก็คิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ต้องแวะมาให้ได้เลยค่ะ

และบริเวณที่อยู่ติดกับคาเฟ่ก็มีร้านค้าจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ของวง AKB และวงพี่น้องอื่น ๆ ด้วยค่ะ อย่าลืมไปแวะชมสินค้ากันด้วยนะคะ

เอาล่ะ ใกล้จะได้เวลากลับไปประเทศไทยแล้วนะคะ

ก่อนอื่นก็ไปรับกระเป๋าเดินทางกันก่อน เราจะกลับไปที่โรงแรมด้วยเส้นทางเดียวกับที่เราใช้ตอนขามานะคะ

กลับถึงโรงแรมแล้วก็ไปรับกระเป๋าเดินทางค่ะ

สำหรับการเดินทางจากโรงแรมไปที่สนามบินนาริตะนะคะ ก่อนอื่นเลย

①  เดินไปที่สถานี JR KANDA

②   จากสถานี KANDA ก็ไปที่สถานี TOKYO ด้วยสาย YAMANOTE

③   จากชานชาลาใต้ดินของสถานี TOKYO ก็ไปที่สนามบินด้วย「NARITA EXPRESS」

เราจะไปด้วยวิธีนี้กันนะคะ

พอเราออกจากโรงแรม ให้เลี้ยวขวาและเดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะถึงสถานี KANDA ค่ะ

พอเราเข้าไปที่ประตูทิศใต้ของสถานี KANDA ก็เจอสำนักงานจำหน่ายตั๋วที่ชื่อว่า「MIDORI TICKET OFFICE」อยู่ทางซ้ายมือค่ะ

ตรงนี้เราจะซื้อตั๋วรถไฟสำหรับเดินทางไปที่สนามบินนาริตะกันนะคะ

ถ้าเป็นไปได้ขอแนะนำให้เลือก「ที่นั่ง A」ที่อยู่ฝั่งหน้าต่างทางด้านซ้ายค่ะ ส่วนรายละเอียดไว้จะอธิบายหลังจากนี้นะคะ

ค่าตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ NARITA EXPRESS จากสถานี TOKYO อยู่ที่ 3020 เยน – 3220 เยนค่ะ         

ที่ JR มีจำหน่ายตั๋วแบบไปกลับจากสถานี NARITA AIRPORT TERMINAL 1 ไปยังสถานี TOKYO หรือ YOKOHAMA สำหรับชาวต่างชาติ (ใช้งานได้ไม่เกิน 14 วัน) ด้วยนะคะ แต่เพราะว่าในครั้งนี้เรามาลงเครื่องที่สนามบินฮาเนดะและขึ้นเครื่องกลับที่สนามบินนาริตะเลยไม่สามารถใช้ได้ค่ะ『N’EX TOKYO ROUND TRIP TICKET』

จากสาย YAMANOTE ที่สถานี TOKYO เราจะไปที่ชานชาลาใต้ดินของสาย YOKOSUKA ซึ่งรถไฟ NARITA EXPRESS จะออกรถค่ะ

①            ก่อนอื่นลงรถของสาย YAMANOTE และลงบันไดเลื่อนของชานชาลากลาง

②            พอลงบันไดเลื่อนมาแล้ว ให้เลี้ยวขวาและเดินตรงไปเรื่อย ๆ พอสุดทางแล้วเลี้ยวขวาและเดินไปอีกนิดก็จะเจอบันไดเลื่อนที่จะลงไปใต้ดินอยู่ทางซ้ายมือ ลงบันไดเลื่อนนี้ได้เลย

③            ลงบันไดเลื่อนมาแล้ว เดินตรงไปอีกนิดก็จะเจอบันไดเลื่อนที่ยาวมาก ๆ อยู่ทางขวามือ ลงบันไดเลื่อนนี้ได้เลย

④            พอลงบันไดเลื่อนมาแล้วให้เลี้ยวกลับ จากนั้นเดินตรงไปเรื่อย ๆ จะเจอบันไดเลื่อน หลังจากที่ลงบันไดเลื่อนนี้แล้วจะเป็นชานชาลาของ NARITA EXPRESS

เราจะขึ้นรถ NARITA EXPRESS ที่มีเส้นคาดสีแดงเป็นจุดเด่นค่ะ

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ก็จะไปถึงสนามบินนาริตะค่ะ

เพราะทั้งสองฝั่งของรถ NARITA EXPRESS จะมีชั้นวางกระเป๋าเดินทาง ถึงเราจะมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ก็สามารถขึ้นรถได้แบบสบาย ๆ ค่ะ

พอรถไฟออกเดินทางจากสถานี TOKYO ไปสักครู่ก็จะวิ่งขึ้นมาบนดินค่ะ สิ่งที่เราจะมองเห็นจากหน้าต่างทางซ้าย (ที่นั่ง A) ก็คือ「TOKYO SKYTREE」นั่นเอง TOKYO SKYTREE เป็นตึกสูงเสียดฟ้าซึ่งมีความสูงถึง 634 เมตรค่ะ พอรถวิ่งไปได้สักพัก เราก็จะสามารถรับชม TOKYO SKYTREE ที่แสดงตัวออกมาท่ามกลางตึกต่าง ๆ ได้ค่ะ

สำหรับเที่ยวบินของการบินไทยและ ANA จะอยู่ที่อาคาร 1 ของสนามบินนาริตะซึ่งเป็นสถานีปลายทางค่ะ

ส่วนสายการบิน JAL, AIRASIA, SCOOT ให้ลงรถไฟที่อาคาร 2 ของสนามบินนาริตะซึ่งเป็นสถานีที่จะแวะจอดถัดจากสถานี TOKYO นะคะ

สนามบินนาริตะในเวลานี้มีเที่ยวบินที่จะออกเดินทางเต็มไปหมดทำให้มีผู้คนหนาแน่นค่ะ

โดยเฉพาะแถวของเที่ยวบิน TG677 ที่ใช้เครื่องบิน A380 ขนาดใหญ่ก็ดูมีแนวโน้มว่าแถวจะยาวนะคะ

ถ้าหากไม่ต้องการจะต่อแถว ให้เราใช้บริการ WEB CHECK-IN กันนะคะ

จะว่าไปแล้ว สายการบินที่ ICHIGO-CHAN ใช้บริการในครั้งนี้คือ ANA ค่ะ

ถึงจะมีแถวสั้นกว่าแถวของการบินไทย แต่จะการเช็คอินของผู้โดยสารชั้นประหยัดมักจะต้องใช้เวลาอยู่ เพราะงั้นขอแนะนำให้มาถึงที่สนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงนะคะ

ร้านขายของฝากในสนามบินนาริตะมีอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ

ส่วนของฝากยอดนิยมของคนไทยนั้นก็เป็น「JAGA POKKURU」ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะที่ฮอกไกโดเท่านั้นและช็อกโกแลต「ROYCE」นั่นเองค่ะ

เพราะว่าที่แคชเชียร์มักจะแน่นไปด้วยของฝากและผู้คนนะคะ เลยคิดว่าเราควรจะเผื่อเวลาเอาไว้ดีกว่าค่ะ

ที่บริเวณใกล้เคียงประตูหมายเลข 51 ในอาคารผู้โดยสาร 1 มีมุมกิจกรรมจัดเอาไว้ด้วยค่ะ

กิจกรรมที่จัดขึ้นก็จะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลานะคะ แต่ในครั้งนี้ก็เป็นกิจกรรมทดลองสวมใส่ชุดกิโมโนค่ะ

เอาล่ะ ได้เวลาออกเดินทางแล้วค่ะ

เที่ยวบินที่ ICHIGO-CHAN จะขึ้นในครั้งนี้จะไปขึ้นเครื่องด้วยรถบัสค่ะ

บางคนอาจจะบอกว่าการไปขึ้นเครื่องด้วยรถบัสเป็นอะไรที่ยุ่งยาก แต่ ICHIGO-CHAN คิดว่าการได้มองเห็นลานกว้างของสนามบินก็น่าสนใจดีไม่น้อยนะคะ

กำลังจะออกเดินทางจากสนามบินนาริตะที่มีพระอาทิตย์ตกดินอันงดงามแล้วนะคะ

ICHIGO-CHAN ได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่ภูเขาไฟ FUJI, HAKONE และโตเกียวในบรรยากาศหิมะที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนค่ะ

และในครั้งนี้ก็ได้ดื่มด่ำไปกับประเทศญี่ปุ่นแบบสุด ๆ เช่นเคยค่ะ

ยังไม่ถึงเวลาจะแยกจากประเทศญี่ปุ่นนะคะ แต่ ICHIGO-CHAN ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในครั้งถัดไปดีน้า….

ทริปในครั้งหน้าจะเป็นแบบไหนกันน้า?? อดใจรอกันหน่อยนะคะ

        Go to the top Page        

  ◀ BACK