เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day4-2 ชมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่นที่ “อาราชิยาม่า” กับ “สะพานโทเก็ตสึเคียว” “สวนป่าไผ่” และ “ศาลเจ้าโนโนมิยะ” ในเกียวโต
NAGOYA-TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-KANAZAWA-KYOTO-OSAKA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN เดินทางมาสู่ “อาราชิยามะ” ในเกียวโต สถานที่ที่สามารถชมตึกอาคาร และสวนแบบญี่ปุ่น พร้อมวิวธรรมชาติที่สวยงามท่ามกลางบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงนี้ที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมากันเป็นจำนวนมาก
Day4-1 ออกเดินทางไปยังอาราชิยามะ เพื่อเที่ยวชมสวนญี่ปุ่นใน “วัดเท็นริว” TENRYUJI TEMPLE ในเกียวโต
หลังจากที่ได้ชม “สวนโซเก็นจิ” ท่ามกลางบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีในวัดเท็นริวจิแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไปยัง “สวนป่าไผ่” กันแล้ว ซึ่งภายในสวนป่าไผ่แห่งนี้จะมีบริการรถลากที่ให้บรรยากาศญี่ปุ่นสุดๆ
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในตอนที่ 14 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปเดินเที่ยวชม “สวนป่าไผ่(CHIKURIN NO KOMICHI竹林の小径)” “ศาลเจ้าโนโนมิยะ”「NONOMIYA JINJA(野宮神社)」ที่อยู่ศูนย์กลางป่าไผ่ และ “สะพานโทเก็ตสึเคียว”「TOGETSUKYO BRIDGE(渡月橋)」กันค่ะ
สวนป่าไผ่(CHIKURIN NO KOMICHI竹林の小径) ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของ “อาราชิยามะ” เมื่อเดินมาภายในนี้ก็ได้ยินเสียงคนไทยพูกันอยู่ตลอดทางเลย และวันนี้เราก็ได้เจอกับคนไทยกลุ่มนี้ ด้วยค่ะ เห็นบอกว่าครั้งนี้มาเที่ยวเกียวโตแค่ 3 วัน แต่ก็เคยมาที่ญี่ปุ่นหลายสิบครั้งแล้ว ขอให้เที่ยวกันให้สนุกนะคะ
ถึงแม้ว่าบริเวณทางออกวัดเท็นริวจิ หรือบริเวณทางออกจากประตู KITAMON ไปทางขวามือทางไปศาลเจ้าโนโนะมิยะ จะเป็นบริเวณที่นักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ ค่อนข้างเป็นเรื่องยากที่จะได้รูปสวยๆ บริเวณนี้ แต่ถ้าเดินออกจากประตูไปทางซ้ายมือ และเดินไปอีกนิดก็จะเป็นบริเวณที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ทำให้ถ่ายรูปได้สบายๆ ได้มุมสวยๆ เลยค่ะ
หลังจากที่เพลิดเพลินกับ สวนป่าไผ่(CHIKURIN NO KOMICHI竹林の小径) ไปเต็มที่แล้ว ก็เดินกลับไปทางวัดเท็นริวจิ ประตู KITAMON กันเลย โดยตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอ “ศาลเจ้าโนโนะมิยะ”『NONOMIYA(野宮神社)』อยู่ทางซ้ายมือ
ซึ่ง “ศาลเจ้าโนโนมิยะ”「NONOMIYA(野宮神社)」แห่งนี้เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1000 ปี เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ในสวนป่าไผ่ที่เด่นเรื่องความรัก ภายในบริเวณศาลเจ้าก็จะมีต้นไม้ใบหญ้ากำลังเปลี่ยนสีสวยงามอยู่เช่นกัน
และเมื่อมองไปบริเวณที่พื้นก็จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีหล่นกองที่พื้นทั่วบริเวณ เป็นมุมที่น่ารักมากๆ บรรยากาศรอบๆ ดีมาก ICHIGO-CHAN เห็นอะไรก็สวยไปหมดเลย
ซึ่ง “ศาลเจ้าโนโนมิยะ” นี้เป็นศาลเจ้าที่เด่นในทุกๆ ด้าน แต่ด้านที่เด่นเป็นพิเศษเลยก็คือ “ความรัก” และ “การสอบเข้า” จะเห็นวัยรุ่นไม่น้อยมาสักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งที่นี่จะมีแผ่นไม้ขอพร “เอมะ”(500 เยน)ให้ได้เขียนขอพรห้อยไว้ที่ศาลเจ้า หรือ แผ่นไม้ “โกมากิ護摩木”(300 เยน)ที่จะเห็นทั้งภาษาญี่ปุ่น และภาษาต่างประเทศ อย่างภาษาไทยด้วย
เราเข้าไปกราบไหว้กันเลย โดยโยนเหรียญใส่กล่องทำบุญ(ตามจิตศรัทธา โดยปกติประมาณ 5-50 เยน)จากนั้นให้ทำการ
โค้งคำนับ 2:โค้งคำนับไปทางศาลเจ้า 2 ครั้ง
ปรบมือ 2:ปรบมือ 2 ครั้ง
โค้งคำนับ 1:อธิษฐานในใจ และโค้งคำนับอีก 1 รอบ
ซึ่งขั้นตอนวิธีการกราบไหว้นี้จะเป็นขั้นตอนของศาลเจ้าเท่านั้น หากกราบไหว้ที่วัด ก็เพียงแค่พนมมืออธิษฐาน และโค้งคำนับ 1 ครั้งเท่านั้น
และที่ศาลเจ้ายังมีเครื่องรางของขลังจำหน่ายอยู่ด้วย ทั้งเครื่องราง หรือกระดาษยันต์ จำหน่ายที่สำนักงานศาลเจ้าบริเวณด้านข้าง เครื่องรางก็มีทั้ง เครื่องรางความรัก เครื่องรางการเรียน หรือเครื่องรางบการเดินทาง ฯลฯ (แต่ละอย่าง 500 เยน)เป็นต้น
และที่บริเวณศาลเจ้าจะมุมเซ่นไหว้หินขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า “คามิอิชิ : 神石”(คาเมะอิชิ : 亀石)โดยมีความเชื่อว่าหากลูบหินนี้พร้อมอธิฐานขอพร พรที่ขอก็จะสมหวังภายใน 1 ปีนั้น จะเห็นได้เลยว่าบริเวณผิวหินเรียบเนียนมาก คงเป็นเพราะมีคนมาขอพรอยู่ตลอดแน่ๆ เลยค่ะ
เมื่อกราบไหว้สักการะที่ศาลเจ้าโนโนมิยะแล้ว ก็ไปที่ “สะพานโทเก็ตสึเคียว” กันเลย สามารถเดินไป “สะพานโทเก็ตสึเคียว” ได้โดยใช้เวลา 10 นาที ออกจากบริเวณศาลเจ้าไปทางขวามือ และตรงไปตามทางเดินภายในป่าไผ่ไปเรื่อยๆ เป็นเส้นทางแคบที่รถลากสามารถผ่านได้พอดี เดินไปตามทางนี้ประมาณ 5 นาที ก็จะออกมาสู่ถนนใหญ่ที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย เมื่อออกมาสู่ถนนใหญ่แล้วก็เดินไปทางขวามือ
ทั้งสองข้างทางที่มีรถลากวิ่งผ่านนี้ จะเต็มไปด้วยร้านจำหน่ายอาหารต่างๆ มากมาย กลิ่นอาหารหอมโชยมาแต่ไกล ทั้งทาโกยากิ ไก่ทอด หรือยากิโซบะ นอกจากนี้ยังมีของหวานอย่างเช่น คาเฟ่มัทฉะ หรือเค้กมัทฉะให้ได้เลือกทานมากมาย และหากเป็นช่วงหน้าร้อนก็จะมีน้ำแข็งใสในทานคลายร้อนอีกด้วย
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ กลิ่นหอมๆ ของอาหารก็หอมแตะจมูก ICHIGO-CHAN จนเริ่มหิวขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นเราจะไปทานอาหารกลางวันกันเลย ไม่ว่าร้านไหนๆ ก็น่าทานไปหมดเลย แต่วันนี้เราจะเลือกทานร้านโซบะ「KOBAYASHI(こばやし)」ที่มีเมนู “นิชินโซบะ” ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของเกียวโตกันค่ะ เป็นร้านยอดนิยมที่แม้แต่วันธรรมดาก็คนเยอะ ที่นั่งภายในร้านมีประมาณ 40 ที่นั่ง ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้สถานีอาราชิยามะ ที่เป็นสถานีปลายทาง ในเส้นทางรถไฟอาราชิยามะ ที่เชื่อมระหว่างอาราชิยามะ กับชิโจโอมิยะ และสามารถเดินไป “สะพานโทเก็ตสึเคียว” ได้โดยใช้เวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น
เมนูภายในร้านก็จะมีให้เลือกมากมายอย่างเช่น “นิชินโซบะ”(900 เยน)หรือ “นาเบะยากิอุดง”(1100 เยน)นอกจากนี้หากเพิ่มเงินอีก +200เยน ก็สามารถสั่งเป็นชุดอาหารที่มาพร้อมกับ ข้าวปั้นโอนิกิริ หรือ ข้าวทากิโคมิ ได้อีกด้วย ซึ่งภายในเมนูอาหารจะมีภาษาอังกฤษกำกับ พร้อมรูปภาพประกอบ เพราะฉะนั้นสามารถสั่งอาหารได้ไม่ยากเลยค่ะ
ICHIGO-CHAN ได้สั่งเป็นชุดเมนู “นิชินโซบะ”(1100 เยน)และ「เต้าหู้เย็น」(100 เยน)
น้ำซุปที่หวานหอมของนิชินโซบะ กับข้าวทากิโคมิที่มาในเซต ปริมาณแบบจัดเต็ม ซึ่งภายในเมนูนิชินโซบะนั้นจะมี ปลานิชิน(ปลาแฮร์ริ่ง) ย่างหวานๆ อยู่ในซุปเป็นความหอมแบบกลมกล่อม สามารถใส่ต้นหอมซอยเพิ่มได้ตามความชอบอีกด้วย เป็นรสชาติน้ำซุปของปลานิชิน ที่เป็นเมนูเด่นของเกียวโตเลยทีเดียว
นิชินโซบะขึ้นชื่อของเกียวโตที่เราทานไปเมื่อกี้ราคา 1200 เยน สามารถชำระได้เฉพาะเงินสดเท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่าลืมเตรียมเงินสดไว้ด้วยนะคะ เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ก็ออกจากร้านไปที่ “สะพานโทเก็ตสึเคียว” กันเลย
หันหลังออกจากร้าน และเดินไปทางซ้ายมือ ซักพักก็จะเจอสี่แยกเชิง “สะพานโทเก็ตสึเคียว” เลย และหากเลี้ยวซ้ายที่แยกนี้ก็จะเจอบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอยู่ขวามือ เป็นจุดชมวิว “สะพานโทเก็ตสึเคียว” ทั้งแม่น้ำ สะพาน และภูเขาใบไม้เปลี่ยนสีที่เป็นฉากหลัง ที่เป็นภาพที่สวยมากๆ
และเมื่อชมวิวจากบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแล้วเราจะไปเดินข้ามสะพานโทเก็ตสึเคียว ที่มีความยาว155m กัน และชมวิวจากบนสะพานกันค่ะ เห็นทั้งวิวแม่น้ำคะสึระสีใสสะอาด พร้อมวัดญี่ปุ่นที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติป่าเขาใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่โด่งดังเทียบเคียงกับ “ภูเขาไฟฟูจิ” หรือ “วัดเซ็นโซ” เลยทีเดียว
อันที่จริงเราก็อยากจะชมวิวสวยๆ อยากใช้เวลาอยู่ตรงนี้นานๆ นะคะ แต่เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกเลยที่นักท่องเที่ยวจะเยอะมากๆ ไม่สามารถยืนชมวิว หรือยืนถ่ายรูปชิวๆ บนสะพานได้เลยค่ะ ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้เพื่อนๆ มาช่วงเวลาที่คนไม่เยอะอย่างช่วงเช้าๆ ในวันธรรมดาค่ะ
ซึ่งวิวสะพานโทเก็ตสึเคียว แห่งนี้จะเป็นจุดที่สามารถเพลิดเพลินกับความสวยงามของแต่ละฤดูได้ โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่เดือนมกราคม ไปจนถึงเดือนมีนาคม(หากโชคดี)ก็จะได้ชมวิวหิมะ ไปพร้อมๆ กับสะพานโทเก็ตสึเคียว เลย เท่านั้นไม่พอเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนมีนาคม ไปจนถึง เดือนเมษายนก็จะเป็นช่วงดอกซากุระที่สวยงามในฤดูใบไม้ผลินั่นเอง
หากได้มาเที่ยวในเกียวโต ก็อย่าลืมแวะมาที่อาราชิยามะกันดูนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
หลังจากที่ได้ชมวิวสวยๆ ของสะพานโทเก็ตสึเคียว แล้ว ก็ใกล้เวลาเดินทางกลับประเทศไทยกันแล้ว แต่ก่อนจะเดินทางไปท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เราจะขอแวะไปที่โอซาก้าเพื่อไปช้อปปิ้งกันซักหน่อย
ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเดินทางจากสะพานโทเก็ตสึเคียวไปยัง “โอซาก้า” ได้หลายวิธีดั งนี้
1.นั่งรถไฟจากสถานีฮังคิว อาราชิยามะ ไปสถานีคาสึระ จากนั้นก็นั่งไปจนถึงสถานีฮังคิวอุเมดะ
2.นั่งรถบัสไปยังสถานีเดมาจิยานางิ จากนั้นนั่งรถไฟเคฮัง ต่อไปยัง สถานีโยโดยาบาชิ ในโอซาก้า
3.นั่งรถไฟ จาก สถานีรถไฟ JR สถานีซากะ อาราชิยามะ ไปสถานีเกียวโต เพื่อมุ่งหน้าไปสู่สถานีโอซาก้า
เป็นต้น ซึ่งเราจะเลือกเดินทางด้วยวิธีที่ 3 ที่สามารถใช้「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในการเดินทางจากสถานีเกียวโต ไปยังโอซาก้าได้ กับรถไฟ JR นั่นเองค่ะ
เพื่อนๆ สามารถเดินจากสะพานโทเก็ตสึเคียว ไปยังสถานีรถไฟ JR สถานีซากา อาราชิยามะ ได้โดยใช้เวลา 10-15 นาที โดยเดินจากสะพานโทเก็ตสึเคียว กลับไปทางถนนใหญ่ เพื่อเดินไปทางวัดเท็นริว และสวนป่าไผ่กันเลย และเมื่อเดินเลย สถานีรถไฟรันเด็น อาราชิยามะ ไปก็จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวาที่สามแยกนี้ และตรงไปจนสุดทาง จะเจอสามแยกอีกรอบ ให้เลี้ยวไปทางซ้ายมือ และตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอสถานีซากา อาราชิยามะเลย
เมื่อเข้ามาในสถานีซากะ อาราชิยามะ แล้วก็ไปซื้อตั๋วรถไฟกันเลย โดยเส้นทางระหว่างสถานี「Saga Arashiyama(嵯峨嵐山)」สถานีใกล้อาราชิยามะ ไปยังโอซาก้านั้น เส้นทางที่ไปถึงเกียวโตจะไม่อยู่ในขอบเขตของพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」เพราะฉะนั้นจะต้องซื้อตั๋วแยกในช่วงเส้นทางนี้ค่ะ วิธีซื้อตั๋วก็ไม่ยาก ก่อนอื่นจะต้องเช็คราคาตั๋วจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติตามจุดหมายปลายทางที่ต้องการไป ซึ่งค่าโดยสารจาก สถานีซากะอาราชิยามะ ไปยังสถานีเกียวโต จะอยู่ที่ 240 เยน จากนั้นให้แตะไปที่ปุ่มรูปตั๋วบนหน้าจอ และกดปุ่มตามจำนวนเงินค่าโดยสาร「¥240」ตามด้วยชำระเงินในขั้นตอนสุดท้ายเท่านี้ก็เรียบร้อย
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านช่องตรวจตั๋วไป จากนั้นก็ลงบันไดที่อยู่ซ้ายมือเพื่อไปที่ชานชาลาหมายเลข 1・2 เพื่อขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่สถานีเกียวโตเลย โดยรถไฟที่วิ่งจาก สถานีซากะ อาราชิยามะ ไป สถานีเกียวโต จะวิ่งชั่วโมงละ 4-6 เที่ยว หากเป็นรถไฟด่วน Rapid จะวิ่งชั่วโมงละ 1 เที่ยว ใช้เวลาในการเดินทาง 11-12 นาที ส่วนรถไฟแบบธรรมดาที่จอดทุกสถานีจะใช้เวลาในการเดินทาง 15-17 นาที ไม่ว่าจะนั่งแบบด่วน หรือรถไฟธรรมดาจอดทุกสถานีก็ใช้เวลาในการเดินทางต่างกันไม่มาก เพราะฉะนั้นสามารถขึ้นรถไฟที่ออกตัวก่อนได้เลย
และตอนนี้ก็ได้เข้าสู่ช่วงท้ายของทริปกันแล้ว โดยเราจะไปช้อปปิ้งที่โอซาก้ากันก่อนเดินทางกลับกรุงเทพกันค่ะ ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจาก “สถานีซากะ อาราชิยามะ” ไปในตัวเมืองโอซาก้า เพื่อเดินช้อปปิ้งที่แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังอย่าง “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day4-2 NOMIYA SHRINE/CHIKURIN NO KOMICHI/MENDOKORO KOBAYASHI/TOGETSUKYO】
PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass”
Sponsored by JR TOKAI