ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
ชมวิวโอซาก้าจากสวนลอยฟ้า “คูจูเทเอ็น”「KUCHU TEIEN OBSERVATORY」ที่ “อุเมดะสกาย”「UMEDA SKY BUILDING」พร้อมเที่ยวชมย่านร้านอาหารโบราณชั้นใต้ดิน “ทากิมิโคจิ”「TAKIMIKOJI」
FUKUI-SHIGA-KYOTO-OSAKA
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/1%28171%29.jpg)
จากความเดิมตอนที่แล้วที่เราได้พักที่โรงแรม “เออร์เบิน โฮเต็ล เกียวโต นิโจ พรีเมียม”「URBAN HOTEL KYOTO NIJO PREMIUM」แล้ว ตอนนี้ ICHIGO-CHAN ก็ได้เดินทางมาถึงโอซาก้าเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากที่เราได้ไป “ฟุกุอิ” “ชิงะ” และเกียวโตแล้ว ก็ใกล้จะจบทริปนี้แล้ว เที่ยวบินกลับไทยของเราในวันนี้คือเวลา 17:35 เพราะฉะนั้นก่อนไปสนามบินเราจะขอแวะไปที่ตึก “ตึกอุเมดะสกาย”「UMEDA SKY BUILDING」สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน「20 ตึกที่เป็นตัวแทนของโลก」ใน นสพ.ไทมส์ TIMES จากนั้นต่อด้วยย่านร้านค้าบรรยากาศโบราณ “ทากิมิโคจิ”「TAKIMIKOJI」ชั้นใต้ดินกันค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/2%28149%29.jpg)
เมื่อลงรถไฟทที่สถานีโอซาก้าแล้ว เราจะใช้เวลาเดินไปตึกอุเมดะสกาย 10 นาที “ตึกอุเมดะสกาย”「UMEDA SKY BUILDING」นี้ถูกพูดถึงว่าเป็นตึกที่มีรูปทรงแปลกทันสมัยใน นสพ.ไทมส์ TIMES หรือ มิชลินไกด์ ด้วย เราไปกันเลยดีกว่าค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%28132%29.jpg)
โดยเดินไปตามทางลอดใต้ดินจาก สถานีโอซาก้า หรือ แกรนด์ฟร้อนท์โอซาก้า เพื่อเข้าไปสู่เขตอาคาร เดินไปจนถึงหน้าจึกสกายแล้วก็เลี้ยวไปทางขวา เมื่อเลี้ยวมาแล้วก็จะเจอกับทางเข้า「KUCHU TEIEN OBSERVATORY」ที่อยู่บนตึก เมื่อเข้าทางเข้ามาแล้วก็ตรงไปขึ้นลิฟต์เลย เมื่อขึ้นลิฟต์มาแล้วก็ตรงไปอีก
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%28129%29.jpg)
เดินไปตามทางเดินยาวไปจนสุดทางจากนั้นเดินไปทางซ้าย เมื่อตรงไปอีกก็จะเจอกับลิฟต์สองตัวที่จะมุ่งหน้าไปสู่ “คูจูเทเอ็น (สวนลอยฟ้า)”「KUCHU TEIEN OBSERVATORY」อยู่ซ้ายมือ ขึ้นลิฟต์ฝั่งไหนก็สามารถขึ้นไปได้ทั้งหมดค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%28138%29.jpg)
เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาแล้วก็จะเป็นตึกอุเมดะสกายทางฝั่งทิศเหนือ ที่สามารถชมวิวส่วนกลาง และทางเหนือของโอซาก้าได้ รวมถึงวิวสวยๆ ของแม้น้ำโยโดะด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/6%28136%29.jpg)
เมื่อลงบันไดเลื่อนมาแล้วก็จะเห็นบันไดเลื่อนยาวเพื่อขึ้นไปข้างบน เหมือนกำลังขึ้นไปบนฟ้าเลยค่ะ ซึ่งบันไดเลื่อนที่เรากำลังขึ้นอยู่ตอนนี้ก็คือ บันไดเลื่อนที่อยู่สูง 130 เมตร ในรูปขวาที่อยู่ในวงกลมสีเหลือง บันไดเลื่อนที่ด้านข้างเป็นกระจกใส ในความรู้สึกหวาดเสียวนิดๆ เพื่อขึ้นไปที่ทางเข้า “คูจูเทเอ็น (สวยลอยฟ้า)”「KUCHU TEIEN OBSERVATORY」
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%28138%29.jpg)
เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาแล้วก็จะเป็นส่วนทางเข้า『KUCHU TEIEN OBSERVATORY』
จากส่วนตรงนี้หากต้องการเข้าไปสู่ “คูจูเทเอ็น”「KUCHU TEIEN OBSERVATORY」ก็จำเป็นต้องเสียค่าเข้าชม 1000 เยนค่ะ นอกจากเงินสดแล้วสามารถชำระด้วสยบัตรเครดิต เช่น VISA หรือ Master ฯลฯ เราสามารถขึ้นไปจนถึงส่วนจำหน่ายตั๋วได้ฟรี เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากลองขึ้นมาถึงจุดนี้ดูก็ได้ค่ะ แต่ไหนๆ ก็มาแล้วแนะนำว่าให้ไปถึงส่วน “คูจูเทเอ็น” หรือ สวนลอยฟ้า เลยดีกว่านะคะ เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ด้านข้างเพื่อขึ้นไปที่ “คูจูเทเอ็น” หรือ สวนลอยฟ้า กันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/8%28138%29.jpg)
“คูจูเทเอ็น”「KUCHU TEIEN OBSERVATORY」จะเป็นชั้นเปิดโล่งชั้นบน กับส่วนชั้นล่างที่เป็นห้องกระจก ส่วนเปิดโล่งชั้นบนจะอยู่ที่ความสูง 173 เมตร วิวจากจุดนี้เป็นอะไรที่สวยมากๆ ค่ะ บรรยากาศโรแมนติก มีลมพัดแรงๆ อยู่ตลอดทำให้รู้สึกหวาดเสียวเล็กน้อย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%28134%29.jpg)
ส่วนดาดฟ้าของ “คูจูเทเอ็น”「KUCHU TEIEN OBSERVATORY」 จะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง 360 องศา สามารถชมวิวได้จากทุกทิศทาง ทั้ง “ABE NO HARUKUS” “USJ” “ปราสาทโอซาก้า” และภายในเมืองโอซาก้าทั้งหมด หากเป็นวันที่อากาศดีท้องฟ้าแจ่มใสก็สามารถเห็นไปถึงภูเขาร็อคโค หรือ สนามบินคันไซเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%28141%29.jpg)
ที่นี่จะชมวิวตอนกลางวันก็สวยอยู่แล้ว แต่ถ้ายิ่งได้มาตอนกลางคืนก็จะได้ชมแสงไฟยามค่ำคืนที่สวยไม่แพ้กันเลยค่ะ
ซึ่งเปิดให้บริการถึง 22:00 น. ยังไงถ้าได้พักที่โอซาก้าก็ลองมาชมวิวแสงไฟยามค่ำคืนของโอซาก้าดูนะคะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%28147%29.jpg)
วิวจากชั้น 40F ที่เป็นส่วนในอาคารก็สวยไม่แพ้วิวจากดาดฟ้าเปิดโล่งเช่นกันค่ะ เราสามารถเที่ยวชมวิวทั้งหมดของโอซาก้าได้แม้กระทั่งวันที่อากาศไม่เป็นใจ วันที่ฝนตก วันที่อากาศร้อนหรือหนาวเป็นพิเศษ ในส่วนด้านในอาการที่มีแอร์หรือฮีทเตอร์นั่นเอง ซึ่งในโซนด้านในอาคารชั้น 40F นี้จะเป็นห้องกระจกมีทั้งเก้าอี้พิเศษนั่งชมวิว ร้านกาแฟ หรือร้านขายของฝาก ที่บรรยากาศโรแมนติกมากๆ มากันเป็นคู่รักก็ยิ่งได้บรรยากาศเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีมุมให้ทำ กุญแจเหล็ก(1000 เยน)อีกด้วยค่ะ และสามารถนำกุญแจเหล็กนี้ไปคล้องไว้ที่มุมุหนึ่งของ “คูจูเทเอ็น” ได้อีกด้วย ในส่วนนี้ก็ได้รับความนิยมจากคู่รักไม่น้อยเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%28148%29.jpg)
“ตึกอุเมดะสกาย”「UMEDA SKY BUILDING」ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก วันที่ ICHIGO-CHAN ไปก็มีคนไทยอยู่เยอะเหมือนกันค่ะ ส่วนคุณพี่ๆ คู่นี้เป็นคนที่มาทัก ICHIGO-CHAN ว่า “ถ่ายรูปให้ไหมคะ?” ตอนกำลังพยายามเซลฟี่อยู่คนเดียวด้วย ใจดีมากๆ ว่าแล้วก็ถ่ายรูปด้วยกันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%28142%29.jpg)
หลังจากที่ได้เพลิดเพลินกับวิวสวยๆ ที่ “คูจูเมเอ็น(สวนลอยฟ้า)”「KUCHU TEIEN OBSERVATORY」แล้วก็ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ เราจะเดินกลับไปทางเดิมจนถึงบันไดเลื่อนทางเข้าเลย จากนั้นเราจะลงไปที่ชั้นใต้ดินในสถานที่เดียวกันเพื่อลงไปที่ย่านร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ “ทากิมิโคจิ”『TAKIMIKOJI』
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%28147%29.jpg)
บรรยากาศที่นี้จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองญี่ปุ่นโบราณ กับย่านร้านอาหาร “ทากิมิโคจิ”「TAKIMIKOJI」ซึ่งเป็นสถานที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองบรรยากาศเมืองโอซาก้าเมื่อ 80 กว่าปีก่อนที่เคยมีความเจริญกว่าโตเกียว ให้ความรู้สึกแตกต่างจาก “คูจูเทเอ็น” ที่เราไปมาเมื่อกี้เลยค่ะ ภายในนี้ก็จะมีมุมให้ถ่ายรูปมากมายทั้ง โทริอิสีแดง รูปปั้นสุนัข หรือศาลเจ้าเล็กๆ เป็นต้น
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%28141%29.jpg)
ภายย่านร้านอาหาร “ทากิมิโคจิ”「TAKIMIKOJI」กว่า 20 ร้านนี้ จะมีร้านโอโคโนมิยากิที่ได้รับความนิยมมากๆ อยู่ร้านหนึ่งนั่นก็คือ “คิจิ”「KIJI」 ซึ่งร้านนี้เป็นร้านโอโคโนมิยากิเก่าแก่ที่มีสาขาแรกอยู่ห่างออกไปจากที่นี่เล็กน้อย ได้รับความนิยมจากทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ สามารถทานโอโคโนมิยากิแบบรสชาติต้นตำรับได้ในราคาสบายกระเป๋า ภายในร้านจะมีทั้งที่นั่งแบบ 2 คน 4 คน หรือจะเป็นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ที่มีกระทะร้อนอยู่ตรงหน้า ถึงแม้ว่าที่นี่แขกจะเยอะมาก แต่อยากแนะนำให้นั่งที่นั่งเคาน์เตอร์นะคะ จะได้ดูขั้นตอนการทำโอโคโนมิยากิได้แบบใกล้ๆ เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%28139%29.jpg)
เมนูก็จะเป็นเมนูแบบพื้นฐานทั่วไปคือ หน้าหมู(660 เยน)หน้าปลาหมึก(770 เยน) นอกจากโอโคโนมิยากิแล้วก็มี ยากิโซบะ(680 เยน)โมดันยากิ MODANYAKI(830 เยน)ฯลฯ ยิ่งทานพร้อมกับ เบียร์สด(480 เยน)หรือ โค้ก(200 เยน)ยิ่งดีไปเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%28146%29.jpg)
ถ้าได้นั่งที่นั่งเคาน์เตอร์ก็จะได้เห็นขั้นตอนการทำแบบใกล้สุดๆ น่าทานแล้วก็หอมโชยแตะจูมกมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้แม่พิมพ์หรือแบบ แต่โอโคโนมิยากิแต่ละแผ่นขนาดเท่ากันและกลมดิ๊กทุกแผ่นเลย แค่ดูระหว่างทำน้ำลายก็ไหลแล้ว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%28136%29.jpg)
ICHIGO-CHAN สั่งโอโคโนมิยากิหน้าผสม ที่มีทั้งหมู กุ้ง และปลาหมึก ซึ่งพนักงานก็จะตัดแบ่งเป็นสี่ชิ้น และตักใส่จานที่ละชิ้นให้ทานจากกระทะร้อน จะได้ทานโอโคโนมิยากิที่ร้อนๆ ตลอดเวลา ด้วยความใส่ใจลูกค้าแบบนี้อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ร้านนี้ได้รับความนิยมมากๆ นั่งเองค่ะ ด้วยซอสหวานๆ เค็มๆ ราดลงบนโอโคโนมิยากิร้อนๆ หอมนุ่ม เครื่องแน่น อร่อยสุดๆ ไปเลย เป็นมื้อสุดท้ายของทริปที่ดีมากๆ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%28138%29.jpg)
พนักงานที่ดูท่าทางใจดีคนนี้ก็ทำงานที่ร้านนี้มายาวนานมากกว่า 10 ปี จนเชี่ยวชาญทางด้านโอโคโนมิยากิเลยค่ะ
และเราก็ออกจากร้านเพื่อมุ่งหน้าไปที่สนามบินกันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/20%28132%29.jpg)
เดินกลับไปตามทางเดิมเรื่อยๆ เพื่อย้อนกลับไปที่สถานีโอซาก้า ด้านหน้าอาคารสถานีโอซาก้าจะมีห้างตึกขนาดใหญ่ “แกรนด์ฟร้อนท์โอซาก้า GRAND FRONT OSAKA” ซึ่งภายในนี้จะมีทั้งร้านนาฬิกา「TIC TAC」หรือ「Taylor Made」นอกจากนี้ก็มีร้านรองเท้า「new balance」หรือ สินค้าแฟชั่นต่างๆ อีกมากมาย และที่สำคัญคือ ด้านข้างตึกนี้จะมีร้าน「YODOBASHI CAMERA」ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่มีสินค้ามากมายแบบครบวงจร
ถึงแม้ว่า ย่านชินไซบาชิ หรือ ย่านนัมบะจะได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากกว่า “อุเมดะ” แต่ที่นี่ก็มีข้อดีคือ เพื่อนๆ สามารถเดินเลือกซื้อของในบรรยากาศที่โปร่งโล่งสบาย ไม่แออัด เป็นสถานที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวรีพีทเตอร์เลย ยังไงลองมาเดินเที่ยวกันดูนะคะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/21%28121%29.jpg)
หลังจากที่เราได้ชมวิวโอซษก้าจาก UMEDA SKY BUILDING ช้อปปิ้ง และทานอาหารกันไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินทางกลับประเทศไทยแล้วจริงๆ ค่ะ โดยเราจะนั่งรถไฟด่วนจากสถานีโอซาก้าตรงไปยังสถานีสนามบินคันไซด้วย「KANSAI AIRPORT RAPID SERVICE」ซึ่งสามารถซื้อเพียงตั๋วขึ้นรถไฟแบบทั่วไปเท่านั้น หากใครต้องการซื้อตั๋วด้วยบัตรเครดิตก็ต้องซื้อที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว แต่หากซื้อด้วยเงินสดก็สามารถซื้อได้จากเครื่องจำหน่ายตั๋สอัตโนมัติเลยค่ะ
วิธีซื้อตั๋วจากเครื่องจำหน่ายตั๋วก็ไม่ยากเลยค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องเช็คราคาตั๋วรถไฟจากบอร์ดแผนผังรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋ว โดยราคาตั๋วไปสนามบินคันไซจะอยู่ที่ 1190 เยน จากนั้นก็กด English บนหน้าจอเครื่อง ต่อด้วย Purchase Tickets จากนั้นกดปุ่มราคาคือ「1190」และใส่เงินเข้าไปในเครื่องจำหน่ายตั๋วเท่านี้ก็เรียบร้อย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/22%2897%29.jpg)
รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่สนามบินจะออกตัวจากชานชาลาที่ 1 ของสถานีโอซาก้า โดยผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วที่อยู่ข้างเครื่องจำหน่ายตั๋วไปด้านขวา ไปจนสุดทางก็จะเจอบันไดเลื่อน หรือ บันได เพื่อลงไปสู่ชานชาลา 1 ・2 ซึ่งข้อควรระวังในการขึ้นรถไฟด่วนไปสนามบินคันไซคือ รถไฟคันนี้จะเป็น KISHUUJI RAPID SERVICE ไปสู่วาคายาม่า กล่าวคือ โบกี้ที่ 1-4 จะมุ่งหน้าไปสู่สนามบินคันไซ ส่วนขบวนที่ 4-8 จะมุ่งหน้าไปสู่วาคายาม่า เพราะฉะนั้นต้องขึ้นให้ถูกโบกี้นะคะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/23%2893%29.jpg)
รถไฟด่วนคันไซ KANSAI RAPID SERVICE จะวิ่งชั่วโมงละ 4 เที่ยว ใช้เวลาเดินทางจากสถานีโอซาก้าไปสนามบินคันไซ 70 นาที (แล้วแต่รอบวิ่ง) ที่นั่งภายในจะเป็นแบบ ฝั่ง 2 แถว กับ 1 แถว รวมเป็น 3 แถว แบบที่นั่ง Cross Seat ที่สามารถปรับฝั่งหันหน้าที่นั่งได้ โดยจับมือจับที่อยู่ข้างพนักพิง เท่านี้เราก็สามารถนั่งหันหน้าเข้าหากันได้ 4 คน หรือ 2 คนเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/24%2866%29.jpg)
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 70 นาที ตอนนี้เราก็มาถึงสนามบินคันไซเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ เมื่อถึงสนามบินแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนไป เพื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ จากนั้นให้เดินไปทางซ้ายมือ และตรงไปเรื่อยๆ เพื่อเข้าไปในอาคารสนามบินเลยค่ะ เมื่อเข้ามาในอาคารแล้ว ก็ขึ้นลิฟต์ที่อยู่ซ้ายหรือขวา เพื่อขึ้นไปที่ชั้น 4F เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/25%2853%29.jpg)
เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 4F แล้วก็ไปที่เคาน์เตอร์สายการบินไทยที่อยู่ด้านซ้ายช่อง D เลย (ข้อมูลปัจจุบัน เดือนมิถุนายน พ.ศ.2561)โดยสามารถเช็คอินได้จากเคาน์เตอร์ที่มีพนักงานประจำ เครื่องเช็คอินอัตโนมัติหน้าเคาน์เตอร์ หรือ เช็คอินทางเว็ปไซต์ที่สามารถเช็คอินได้ตั้งแต่ก่อนบิน 24 ชั่วโมง ไปจนถึง ก่อนบิน 1 ชั่วโมง ซึ่งหากได้จองที่นั่งเอาไว้ล่วงหน้า หรือจองผ่านทางเว็บเช็คอินก็จะสามารถเลือกที่นั่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังจองให้นั่งที่นั่งติดกันได้ด้วย ถึงแม้ว่าจะยุ่งยากเล็กน้อยแต่ถ้าได้นั่งด้วยกัน หรือได้ที่นั่งที่ถูกใจระหว่างบินก็เป็นเรื่องที่ดีใช่ไหมคะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/26%2839%29.jpg)
ที่สนามบินคันไซตั้งแต่ช่วงบ่ายไปจนถึงช่วงเย็นคนจะเยอะเป็นพิเศษ บรรยากาศเหมือนกับสุวรรณภูมิเลย ในขั้นตอนการตรวจเช็คกระเป๋าหรือเช็คที่ตรวจคนเข้าเมืองอาจใช้เวลานานมากกว่า 30 นาทีเลยทีเดียว ถ้าเป็นไปได้ก็แนะนำว่าให้รีบผ่านเข้าตรวจคนเข้าเมืองมาเลยนะคะ เพราะว่าเมื่อผ่านตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว จะมีร้านค้าต่างๆ มากมายเลย ทั้งร้านของฝากที่จำหน่าย “คุ๊กกี้ชิโรอิโคอิบิโตะ”「SHIROI KOIBITO」「TOKYO BANANA」นอกจากร้านขายของฝากแล้วก็ยังมี ร้านค้าปลอดภาษี ร้านโมเดลกันดั้ม หรือ UNIQLO ฯลฯ ให้ได้เลือกช้อปจนหนำใจก่อนเดินทางกลับไทยเลยค่ะ และเมื่อผ่านตรวจคนเข้าเมืองมาทันทีก็จะเจอกับร้านซูชิชื่อดัง “ร้านกังโกะ GANKO” อยู่ตรงหน้า ทานอาหารญี่ปุ่นส่งท้ายก่อนกับไทยอีกซักมื้อก็ไม่เลวนะคะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/27%2828%29.jpg)
หลังจากที่ช้อปปิ้งส่งท้ายที่ร้านปลอดภาษี หรือร้านค้าต่างๆ แล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ โดยให้เคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองอยู่ด้านหลัง เพื่อไปขึ้นรถรางไฟฟ้าสนามบินแบบไม่มีคนขับ เพื่อไปที่เกทกันเลยค่ะ ซึ่งเกทจะมีการเปลี่ยนแปลงตามเที่ยวบินหรือเวลาบินในแต่ละวัน เพราะฉะนั้นเช็คที่ตั๋วเครื่องบินหรือเช็คจากตารางการบินก่อนมุ่งหน้าไปที่เกทด้วยนะคะ เที่ยวบินของสายการบินไทยจะบินวันละ 2 เที่ยว เที่ยวบินรอบเช้าจะเป็นเครื่องลำใหญ่ A380 ส่วนเที่ยวบินรอบเย็นของ ICHIGO-CHAN จะเป็นเครื่องบินลำใหม่ล่าสุด A350 ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางจากโอซาก้าไปกรุงเทพ 6 ชั่วโมง 20 นาที ในเครื่องลำใหม่ล่าสุดนี้จะมีบริการถ่ายทอดโทรทัศน์ด้วยตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป(ตอนที่ ICHIGO-CHAN ไปมีถ่ายสดฟุตบอลเวิลด์คัพด้วย)ดูไปเพลินๆ แปปเดียวก็มาถึงที่กรุงเทพเลย
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับทริปท่องเที่ยว “ฟุกุอิ” และ “ชิงะ” ของเราในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าสถานที่ที่เราไปในครั้งนี้จะเป็นเมืองที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย แต่ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ ประวัติความเป็นมายาวนาน เพียงแค่เดินทางออกมาจากเกียวโต หรือโอซาก้าเพียงแปปเดียวเท่านั้น ก็สามารถท่องเที่ยวญี่ปุ่นในบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองยอดนิยมหรือเมืองใหญ่เลย ยังไงลองเลือก “ฟุกุอิ” หรือ “ชิงะ” เป็นตัวเลือกในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งต่อไปของเพื่อนๆ ดูนะคะ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้าค่ะ
【ตารางการเดินทาง Day4-2 UMEDA SKY BUILDING/KANSAI INTERNATIONAL AIRPORT】
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/28%2819%29.jpg)