Day4-1 เที่ยวชม “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」เพื่อชมการทำงานเก็บไข่มุกของ “อามะ” หญิง และช้อปปิ้งสินค้าสุดคุ้ม

ROUND THE C･H･I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Wakayama-Shirahama-NachiKatsuura-Shingu-Toba-Ise-Nagoya

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เพลิดเพลินไปกับดินเนอร์สุดอลังการที่มีเมนูหอยเป่าฮื้อ ชมวิวอ่าวโอโนะอุระและแช่ออนเซ็นธรรมชาติที่「Sun Urashima Yuki no Sato」ไปอย่างเต็มที่แล้ว

และแล้ววันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้วค่ะ ก่อนอื่นเราจะทานอาหารเช้าของ「Sun Urashima Yuki no Sato」เพลิดเพลินไปกับวิวอ่าวโอโนะอุระ แล้วเราจะเช็คเอ้าท์กันเลย ซึ่งวันนี้เราจะไป “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」ที่อยู่ภายในโทบะเป็นที่แรกกัน

ICHIGO-CHAN ได้ผ่อนคลายร่างกายพร้อมผิวพรรณที่เนียนนุ่มด้วยออนเซ็นธรรมชาติ ทานดินเนอร์สุดหรู และนอนพักผ่อนไปจนเต็มอิ่มแล้ว เตียงที่ทางผู้ดูแลจัดเตรียมให้ก็สบายมากๆ หลับลึกมากๆ จนไม่รู้ตัวเลยค่ะ

มองออกไปนอกหน้าต่าง เราก็จะได้เห็นวิวยามเช้าของอ่าวโอโนะอุระ วิวอ่าวที่เมื่อวานตอนเย็นเราได้เห็นแสงอาทิตย์กระทบผิวทะเลจนเป็นสีทอง วิววันนี้ก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากเมื่อวานเลยค่ะ

เราจะได้ทานอาหารทั้งเช้าและเย็นที่ห้องพักเลย ช่วงเวลาอาหารเช้าจะอยู่ที่ 7:30－/8:00－/8:30－ เราสามารถเลือกเวลาที่ชอบได้เลยค่ะ โดยสามารถแจ้งให้พนักงานทราบไว้เลยตอนเช็คอินค่ะ ส่วน ICHIGO-CHAN เลือกรอบ 8:00 ค่ะ เพราะฉะนั้นเราจะออกไปเดินเล่นที่ระเบียงชมวิวที่ชั้น 5F ก่อนอาหารเช้าซักหน่อย

เมื่อกลับมาที่ห้องพัก อาหารเช้าก็ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อย หน้าตาน่าทานมากๆ สไตล์ญี่ปุ่นสุดๆ

เมนูอาหารมีทั้ง ผักสด และแกงต่างๆ ถ้วยฟองเต้าหู้กับแป้งรำข้าวสาลี ไม่ว่าเมนูไหนๆ ก็น่าทานทั้งนั้นเลย จะโฟกัสที่แต่ละจานก็ดูน่าทาน หรือจะมองโดยภาพรวมก็ยิ่งน่าดู อยากทานก็อยากทาน แต่ต้องขอถ่ายรูปเก็บไปเยอะๆ หน่อยค่ะ

เริ่มด้วย เต้าหู้น้ำที่มากับหม้อดิน ไข่ตุ้นเด้งดึ๋ง และซุปมิโซะปู ปิดท้ายด้วยข้าวต้มญี่ปุ่น เมนูมีให้ทานหลากหลายเหมือนตอนทานดินเนอร์เลยค่ะ มื้อเช้าเราก็ได้เพลิดเพลินไปกับอาหารแสนอร่อยไปแบบเต็มอิ่มเลย

ICHIGO-CHAN ได้ทานอาหารเช้าไปจนเต็มอิ่ม ตอนนี้ก็ใกล้จะได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว เราจะไปเช็คเอ้าท์กันเลย และสถานที่แรกที่เราจะไปในวันนี้ก็คือ “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」ค่ะ

บัสจากโรงแรมที่มุ่งหน้าไปสู่สถานีโทบะ ที่สามารถเดินทางไปยังนาโกย่า หรืออิเสะ นั้นจะมีวันละ 3 รอบ เวลา 9:00 / 10:00 / 11:30 ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางจากที่นี่ไปสถานีโทบะ 20 นาที ขากลับก็มีพนักงานมาส่งขึ้นรถเหมือนตอนขามาเลยค่ะ ถึงจะเป็นช่วงเวลาเพียงแปปเดียวแต่ก็รู้สึกไม่อยากไปจากที่นี่เลยค่ะ

บัสจะวิ่งเรียบอ่าวไปเรื่อยๆ เหมือนตอนขามาไปประมาณ 20 นาที ก็จะมาถึงป้ายรถบัส「TOBA SUIZOKUKAN MAE」ใกล้ที่หมายแรกของเราในวันนี้ที่ “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”『MIKIMOTO PEARL ISLAND』 จากตรงนี้เดินไปเกาะไข่มุกจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีค่ะ

ลงจากรถบัสเดินไปตามทางข้างหน้าเรื่อยๆ และข้ามทางม้าลายไปถนนอีกฝั่ง เมื่อข้ามทางม้าลายมาแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ เดินตรงไปตามทางเรียบพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้า “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」อยู่ทางด้านขวามือเลยค่ะ

ซึ่งด้านข้าง “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”『MIKIMOTO PEARL ISLAND』ก็คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งแห่งกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ「TOBA AQUARIUM」ภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจะมีทั้งแมวน้ำ วอลรัส เต่าทะเล หรือเพนกวิน มีสัตว์ที่หาดูที่ไทยไม่ได้เยอะแยะมากมาย อีกทั้งยังมีโชว์น่ารักๆ จากสัตว์เหล่านี้ด้วย ยิ่งถ้ามากับเด็กๆ แนะนำว่าให้ไป พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ「TOBA AQUARIUM」เลยค่ะ แต่ถ้ามาเป็นทริปผู้ใหญ่ทั้งหมด ก็อาจไปแค่ “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」หรือจะไปทั้งสองที่ เราก็เชื่อว่าต้องสนุกแน่ๆ เลยค่ะ

ค่าเข้า “เกาะไข่มุกมิกิโมโต” จะอยู่ที่ผู้ใหญ่ 1500 เยน นอกจากตั๋วปกติแล้ว ยังมีแพ็กเกจส่วนลดต่างๆ เช่น หากซื้อพร้อมตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะจะอยู่ที่ 3400 เยน（ราคาปกติ 4000 เยน ลดไป 600 เยน）

หรือ เมื่อซื้อพร้อมตั๋วท่องเที่ยวรอบอ่าวโทบะ จะอยู่ที่ 2700 เยน（ราคาปกติ 3300 เยน ลดไป 600 เยน）

『MIKIMOTO PEAL MUSEUM TICKET』

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ลงบันไดเลื่อนที่อยู่ข้างจุดขายบัตร และข้ามสะพานเพื่อไปทาง “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」เลยค่ะ ระหว่างทางจะเป็นทางเดินกระจกที่สามารถชมวิวทะเลโทบะที่สวยงาม อีกทั้งยังได้ชมบรรยากาศเรือเข้าออกฝั่งในบริเวณนี้อีกด้วย

เมื่อข้ามสะพานมาแล้วก็จะเข้าสู่ “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」ซึ่งที่นี้เป็นธีมปาร์คที่ทางแบรนด์「MIKIMOTO」เป็นผู้สร้างขึ้นมา เดิมทีไข่มุกจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติเท่านั้น ทำให้ไข่มุกมีราคาแพง ที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถซื้อได้ ซึ่งแบรนด์ MIKIMOTO นี้ประสบความสำเร็จทางด้านการเพาะไข่มุก

“เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」จะมีวิธีการผลิตแบบไข่มุกเพาะเลี้ยง ภายในนี้เราสามารถชมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สวยงามมากมาย อีกทั้งยังสามารถชมการแสดงของ “อามะโชว์”「AMA SHOW」(อามะ คือ ผู้หญิงที่มีอาชีพงมหอยมุก) เป็นโชว์จากเหล่านักดำน้ำหญิงที่จะทำการดำน้ำลงไปเก็บไข่มุกที่อยู่ใต้ทะเลที่ถูกเพาะเลี้ยงเอาไว้นั่นเอง

บริเวณทางเข้าจะมีตู้ล๊อคเกอร์เก็บของอยู่ ทางขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ จะอยู่ที่ 200 เยน ส่วนขนาดใหญ่ ที่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ จะอยู่ที่ 300 เยนเท่านั้นค่ะ

ภายในเกาะไข่มุกนี้กว้างขวางมากๆ และถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนก็คือส่วนที่มี「Pearl Museum」「Pearl Plaza」และ「Women Divers’ Exhibition Stand」กับอีกส่วนคือ「Kokichi Mikimoto Memorial Hall」ที่มีการจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้สร้าง “โคคิจิ มิกิโมโตะ KOKICHI MIKIMOTO”

สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่มีเวลามากก็แนะนำให้เที่ยวพื้นที่ส่วนที่อยู่ในวงกลมสีเหลืองเลยค่ะ

เมื่อข้ามสะพานมา และไปทางซ้ายมือก็จะเจอ「Pearl Museum」ที่พิพิภัณฑ์นี้จะมีการจัดแสดงการเกิดไข่มุกธรรมชาติ และเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างไข่มุกเพาะเลี้ยงของแบรนด์ MIKIMOTO เป็นต้น แม้จะเป็นคนที่ไม่ได้สนใจไข่มุก ก็รู้สึกน่าตื่นตาเลยค่ะ

ไข่มุกจะมีทั้งแบบธรรมชาติ และแบบเพาะเลี้ยง โดยไข่มุกที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือไข่มุกเพาะเลี้ยงจากมนุษย์ ที่มีลักษณะกลมนำไปทำตุ้มหู หรือสร้อยคอ ไข่มุกที่ทุกคนคิดว่าไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ แต่ที่นี่กลับสามารถทำให้เป็นจริงได้ ทำให้คนทั่วโลกตื่นตามากๆ เลยค่ะ

A กับ B ฝั่งหนึ่งจะเป็นไข่มุกแท้ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นไข่มุกพลาสติก เพื่อนๆ ลองเดากันสิคะว่าฝั่งไหนคือของจริง

คำตอบก็คือ A

รูปอาจเล็กไปทำให้ไม่สามารถเห็นได้ชัด แต่สร้อยที่มีเม็ดไข่มุกเรียงตัวสวยและเท่ากันทุกเม็ดนั้น แสดงว่าสิ่งนั้นเป็นของปลอมค่ะ เนื่องจากถ้าเป็นของแท้ไข่มุกทุกเม็ดจะแตกต่างกัน ไม่มีเม็ดไหนเหมือนกันเลยนั่นเองค่ะ เมื่อถือบนมือก็จะรู้ได้ทันทีเลยค่ะ เพราะว่าเมื่อสัมผัสกับไข่มุกแล้วจะให้ความรู้สึกเย็น และเมื่อนำไข่มุกมาถูกกันก็จะให้ความรู้สึกขรุขระอีกด้วย

และสิ่งนี้ก็คือ ระฆัง เป็นระฆังที่ประดับตกแต่งด้วยเพชรและไข่มุก เป็นระฆังสันติภาพ「Liberty Bell」ที่เป็นผลงานที่นำไปจัดแสดงในงานจัดแสดงที่นิวยอร์กในปีพ.ศ. 2482 ซึ่งระฆังนี้ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้ชาวต่างชาติได้รู้จักไข่มุกเพาะเลี้ยงมากขึ้น โดยได้นำแบบระฆังมาจาก JIYUU NO KANE (LIBERTY BELL) และได้จัดแสดงในครั้งที่ได้ไปจัดงานแสดงที่นิวยอร์ก โดยใช้ไข่มุกไปทั้งหมด 2250 เม็ด พร้อมเพชรอีก 366 เม็ด สร้างความตื่นตาให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชมมากเลยทีเดียวค่ะ

ไฮไลท์ของ “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」ก็คือ “อามะโชว์”「AMA SHOW」

ในพื้นที่นี้ที่มีหอยหรือสัตว์น้ำก้นทะเลอุดมสมบูรณ์ การเก็บหอยเป๋าฮื้อ หรือ หอยไข่มุก จึงเป็นงานของผู้หญิงที่เรียกว่า “อามะ”「AMA」ซึ่งเราสามารถชมเทคนิคการดำน้ำของอามะ หรือชมการทำงานดำน้ำเก็บหอยของอามะ ได้เพียงที่นี่ที่เดียวในโลกเท่านั้น การแสดง 1 รอบ ใช้เวลา 20 นาที สามารถรับชมได้ที่「Women Divers’ Exhibition Stand」หน้า Pearl Museum ภายในช่วงเวลา 9:00 ถึง 15:00 น. การแสดงจะเริ่มขึ้นทุกๆ นาทีที่ 20 นาที เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละวันและแต่ละฤดูกาลค่ะ

เมื่อถึงเวลาการแสดง เรือที่มีหน้าต่างบานกระจกก็จะแล่นเข้ามาให้เห็นเลยค่ะ บนเรือลำนี้จะมีอามะอยู่ประมาณ 5 คน เมื่อเรือมาจอดอยู่หน้า「Women Divers’ Exhibition Stand」เหล่าอามะก็จะเริ่มดำลงไปในน้ำ พร้อมลอยถังไม้สำหรับเก็บหอยไว้ใกล้ตัว 1 รอบจะใช้เวลาดำประมาณ 1－2 นาที และดำไปลึกถึงประมาณ 15m โดยไม่มีเครื่องช่วยหายใจเลยค่ะ ดูไปก็เป็นห่วงไป แต่เหล่าอามะมืออาชีพและเชี่ยวชาญอยู่แล้ว แปปเดียวก็ขึ้นมาพร้อมกับหอยเลยค่ะ

เหล่า “อามะ” จะใส่ชุดสีขาว ซึ่งสาเหตุที่ใส่ชุดสีขาวก็เพราะว่า ให้ตัวเองดูตัวใหญ่ขึ้น ป้องกันปลาฉลามหรือสัตว์น้ำอื่นๆ จู่โจมนั่นเอง อามะในพื้นที่นี้มีทั้งหมด 900 คน อยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 20 ปี ไปจนถึงช่วง 40 ปี ในจำนวนนั้นมีอามะที่อยู่ในช่วงอายุ 70 ปีเช่นกันค่ะ เมื่อเทียบกับ ICHIGO-CHAN แล้ว อย่าพูดถึงดำลึก 15m เลยค่ะ แค่ว่ายน้ำ 15m ยังทำไม่ได้เลย ทึ่งกับความเก่งของอามะเหล่านี้มากๆ เลยค่ะ

และเราได้นำคลิปการทำงานของ “อามะ” มาให้เพื่อนๆ ชมเล็กน้อยด้วยค่ะ ทุกคนดำลงไปยังก้นทะเลอย่างมุ่งมั่น โดยไม่ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจใดๆ เรียกได้ว่าต้องชำนาญและมีเทคนิคที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นเท่านั้นเลย ทุกคนชำนาญกันมากๆ จริงๆ ค่ะ

เมื่อชมโชว์การดำน้ำเก็บหอยของเหล่าอามะแล้ว ก็ถึงเวลาช้อปปิ้งของสาวๆ แล้วค่ะ ที่ “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」นี้เราสามารถซื้อสินค้าระดับโลกของ MIKIMOTO ได้ในราคาที่ถูกกว่าที่อื่นเลยค่ะ

MIKIMOTO ที่มีร้านอยู่มากมาย ทั้งกินซ่า โตเกียว, นิวยอร์ก, ปารีส, ลอนดอน และที่สยาม กรุงเทพ ซึ่งเราสามารถซื้อสินค้าต่างๆ ที่เหมือนจำหน่ายอยู่ที่ร้านอื่นๆ ในเมืองได้ในราคาที่ถูกกว่า นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่มีตำหนิเพียงเล็กน้อย และสินค้าเอ้าท์เลท มาลดราคาถูกสุดๆ อีกด้วย มีฝรั่งบางคนถึงกับเดินทางมาจากโตเกียวหรือโอซาก้ามาที่โทบะเพื่อมาซื้อไข่มุกที่นี่เลยค่ะ

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เที่ยวชมรอบๆ “เกาะไข่มุกมิกิโมโต”「MIKIMOTO PEARL ISLAND」ทั้งลานจัดแสดง ทั้งโชว์อามะ และช้อปปิ้งไข่มุกแท้ไปเต็มที่แล้ว สถานที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการท่องเที่ยวรอบคาบสมุทรคิอิกับ “ศาลเจ้าอิเสะ”「ISE JINGU」และทางเดินบริเวณรอบๆ กับ “โอฮาราอิมาจิ”「OHARAIMACHI」 และ “โอคาเกะ โยโกโจ”「OKAGE YOKOCHO」

ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปชม “ศาลเจ้าอิเสะ”「ISE JINGU」ที่มีความเป็นแบบแผนมากที่สุดในญี่ปุ่น และทานของกินอร่อยๆ ที่ “โอฮาราอิมาจิ”「OHARAIMACHI」และ “โอคาเกะ โยโกโจ”「OKAGE YOKOCHO」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ

【ตารางการเดินทาง Day4-1 Sun Urashima Yuki no Sato/MIKIMOTO PEARL ISLAND】