Day4-1 เดินทางจาก「HOTEL ART INN NAMBA」ในตัวเมืองโอซาก้า ไปยัง “ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ”

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day4-1 เดินทางจาก「HOTEL ART INN NAMBA」ในตัวเมืองโอซาก้า ไปยัง “ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ”

OSAKA-KYOTO-KURAMA-UJI-OSAKA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ทานของทอดเสียบไม้ “คุชิคัตสึ” อาหารขึ้นชื่อของโอซาก้าที่ร้าน「KUSHIKATSU TANAKA(串カツ田中)」และได้ลองทำทาโกยากิด้วยตัวเอง จากนั้นก็เดินทางผ่านย่านวัยรุ่นของโอซาก้าที่ย่าน “อเมริกามูระ”「アメリカ村」เพื่อเดินทางเข้าที่พักโรงแรม「HOTEL ART INN NAMBA」เมื่อคืนก่อน

Day3-5 เดินทางจาก “อุจิ” ทางตอนใต้ของเกียวโต เข้าสู่ “นัมบะ” ในตัวเมืองโอซาก้า พร้อมทาน “คุชิคัตสึ” ของทอดเสียบไม้ขึ้นชื่อของโอซาก้า

โรงแรม「HOTEL ART INN NAMBA」อยู่ห่างจากย่านดังในโอซาก้าที่ “ชินไซบาชิ・โดทงโบริ” เพียงปลายจมูกเท่านั้น นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว ยังเป็นโรงแรมที่สามารถเข้าพักได้ในราคาที่ไม่แพงมาก อีกทั้งยังมีบริการต่างๆ มากมายได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยเลยทีเดียว

การท่องเที่ยวด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในตอนที่ 16 ตอนสุดท้ายนี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ เข้าพัก「HOTEL ART INN NAMBA」และการเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซกันค่ะ

เดินออกจากร้านของทอดเสียบไม้ “คุชิคัตสึ” อาหารขึ้นชื่อของโอซาก้าที่ร้าน「KUSHIKATSU TANAKA(串カツ田中)」ที่อยู่บริเวณย่านวัยรุ่น “อเมริกามูระ” ออกมาประมาณ 10 นาที ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาที่โรงแรม『HOTEL ART INN NAMBA』ที่ตั้งอยู่ใกล้ย่านดังในโอซาก้าอย่าง “ชินไซบาชิ” หรือ “โดทงโบริ” แล้ว

ซึ่งโรงแรม HOTEL ART INN NAMBA นี้ได้ทำการปรับปรุงไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รอบๆ บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของโอซาก้า อย่างย่าน “ชินไซบาชิ” หรือ “โดทงโบริ” เท่านั้นไม่พอยังตั้งอยู่ใกล้ “สถานีนันไคนัมบะ” ที่มีรถไฟเชื่อมต่อโดยตรงไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ และหากเดินไปเล็กน้อยก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอย่าง “ตลาดคุโรมง” หรือ “ย่านเด็นเด็นทาวน์” เท่านั้นไม่พอยังเป็นโรงแรมที่มีการบริการดีๆ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย

และแล้ววันพรุ่งนี้ก็เป็นวันที่เราต้องเดินทางกลับประเทศไทยกันแล้ว ซึ่งโรงแรม「HOTEL ART INN NAMBA」เป็นโรงแรมที่สะดวกมากๆ เพราะว่าบริเวณรอบๆ โรงแรมจะมีทั้งย่านชินไซบาชิ แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังที่มีร้านค้าต่างๆ ในได้เลือกช้อปมากมายทั้ง ร้าน “OnitsukaTiger” หรือ “ดองกี้โฮเตะ” นอกจากนี้ยังมีร้าน Drugstore หรือ ร้าน 100 เยน ฯลฯ เท่านั้นไม่พอยังมี “วัดโฮเซ็นจิ” ให้ได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่น เรียกได้ว่าสามารถท่องเที่ยวได้จนวินาทีสุดท้ายก่อนเดินทางกลับเลยค่ะ

และที่พิเศษสุดๆ คือ ด้วยที่ตั้งของโรงแรมที่อยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งเหล่านี้ เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถเดินกลับมาเก็บของที่ช้อปปิ้งเต็มมือ และกลับไปเที่ยว หรือช้อปปิ้งต่อได้แบบไม่เสียเวลาเลยค่ะ

และเมื่อเข้ามาภายในโรงแรมก็จะเจอพนักงานให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยโรงแรมนี้ยังรองรับพนักงานที่สามารถพูดภาษาอื่นๆ นอกจากภาษาญี่ปุ่น หรือภาษาอังกฤษ อย่างเช่น ฟิลิปปินส์ หรือจีน ฯลฯ อีกด้วย

ภายในล็อบบี้จะประกอบไปด้วยส่วนห้องอาหารเช้า ที่แขกผู้เข้าพักทุกท่านสามารถทานอาหารเช้าของโรงแรม「HOTEL ART INN NAMBA」ได้ฟรี นอกจากนี้ในช่วงเวลานอกเหนือจากอาหารเช้า ก็สามารถใช้พื้นที่บริเวณนี้เป็นจุดพักผ่อนได้อีกด้วย

และที่บริเวณมุมหนึ่งของล็อบบี้ยังมีส่วนจัดแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเสริมความงาม โมเดิลกันพลา หรือเกมต่างๆ อยู่อีกด้วย ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าเสริมความงามที่จัดแสดงอยู่ในจุดนี้จะเป็นสินค้าที่แขกผู้เข้าพักสามารถยืมไปใช้ที่ห้องพักได้ฟรี(ได้ถึง 3 เครื่อง)อย่าเช่น ไดร์เป่าถนอมผมของพานาโซนิค, เครื่องอบไอน้ำให้ผิวนุ่มเด้ง หรือ เครื่องนวดหน้า เป็นต้น

และสำหรับเพื่อนๆ ที่รู้สึกถูกใจสินค้าที่ได้ทดลองใช้ก็สามารถซื้อสินค้าเหล่านี้ได้ที่ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ร้าน “JOSHIN” ที่อยู่ใกล้เคียงได้พร้อมส่วนลดสุดพิเศษสำหรับผู้เข้าพัก(ส่วนลดประมาณ 16% OFF)

ห้องพักของ ICHIGO-CHAN เป็นห้องทวินรูม ตกแต่งกำแพงด้วยลายโมเสก ห้องพักขนาดกระทัดรัด ที่มีทั้งโทรทัศน์ และบริการ Wifi แบบใช้ได้ไม่อั้น

ห้องน้ำขนาดกำลังพอดีมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ใช้ทั้งยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าขนหนู หรือชุดเย็บผ้า อยู่อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการน้ำแร่อยู่ในแต่ละชั้นของโรงแรม สามารถดื่มได้ทั้งแบบน้ำเย็น และร้อนเลยทีเดียว

ตั้งแต่เช้า ICHIGO-CHAN ได้ออกเดินทางจากหน้าสถานีเกียวโต จากนั้นก็เดินทางไปยัง “คุรามะ” และ “อุจิ” จากนั้นก็ได้เดินทางกลับมาที่โอซาก้า มาที่บริเวณโดทงโบริ เป็นอีกหนึ่งวันที่เดินเยอะมากๆ ลองเช็คดูแล้ววันนี้เราเดินไปตั้ง 2 หมื่นก้าวเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งวันที่ได้เที่ยวเต็มที่มากๆ แต่ก็เหนื่อยพอสมควรเลยค่ะ เพราะฉะนั้นขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ…..

และแล้วก็เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการท่องเที่ยวโอซาก้า・เกียวโตเป็นเวลา 5 วัน 3 คืนแล้ว โดยเราจะเดินทางกลับประเทศไทยด้วยสายการบินนกสกู้ดเที่ยวบิน XM111 เที่ยวบินเช้า 8:30 น. เพราะฉะนั้นเราจะต้องออกจากโรงแรมกันตั้งแต่ตี 5 เพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซกันเลย

ซึ่งการเดินทางจากโรงแรมไปสู่ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซนั้น เดินทางด้วยรถไฟนันไค จากสถานีนัมบะจะสะดวกที่สุด โดยเดินออกจากโรงแรมไปเพียง 5 นาทีเท่านั้นก็สามารถเดินทางไปยังสถานีนันไคนัมบะได้เลย ออกจากโรงแรมไปทางขวามือ(ไปทางที่มีร้านสะดวกซื้อเซเว่น) เมื่อออกมาสู่ถนนใหญ่แล้วก็เดินไปทางขวามือ จากนั้นข้ามทางม้าลายไปทางซ้ายมือ และเดินไปทางขวามือ ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอตึกสูงๆ อยู่ตรงหน้าเลย(สถานีนันไคนัมบะ)

เมื่อเดินมาถึงหน้าตึกแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ เดินเรียบตึกไปเรื่อยๆ ประมาณ 20 ก้าว ก็จะเจอทางเข้าสถานีอยู่ทางขวามือเลย เมื่อเข้าไปในสถานีแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 3F เพื่อไปที่ชั้นช่องตรวจตั๋วเลย จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วรถไฟไปสนามคันไซที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วหรือเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเลย

ซึ่งรถไฟที่เชื่อมระหว่างสถานีนันไคนัมบะ และ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ จะมีอยู่ 2 แบบคือ รถไฟด่วนพิเศษ “Limited Express rapi:t” ที่ใช้เวลาในการเดินทาง 35-40 นาที และ รถไฟแบบด่วนรถด่วนสนามบิน “Airport Express” ที่ใช้เวลาในการเดินทาง 45-55 นาที โดยรถไฟด่วนพิเศษ “Limited Express rapi:t” จะวิ่งทุกๆ 30 นาที ส่วนรถด่วนสนามบิน “Airport Express” จะวิ่งชั่วโมงละ 3-4 เที่ยวค่ะ ซึ่งการขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ “Limited Express rapi:t” นั้นนอกจากตั๋วค่าเดินทางแล้ว จำเป็นจะต้องซื้อตั๋วรถไฟด่วนพิเศษเพิ่มอีกค่ะ (500 เยน) เพราะฉะนั้นหากนั่งรถไฟชนิดนี้จะต้องซื้อตั๋วเพิ่มก่อนผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วเลยนะคะ

วันนี้เราจะออกเดินทางกันตั้งแต่ช่วงตี 5 เลยซึ่งเป็นเวลาที่รถไฟด่วนพิเศษ “Limited Express rapi:t” ยังไม่เปิดให้บริการ เพราะฉะนั้นเราจะเดินทางด้วยรถด่วนสนามบิน “Airport Express” ไปท่าอากาศยานนานาชาติคันไซกันค่ะ

รถด่วนสนามบิน “Airport Express” ส่วนใหญ่จะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 5 เมื่อผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วมาแล้ว ก็เดินเยื้องไปทางซ้ายมือ เพื่อไปขึ้นรถไฟที่ชานชาลาหมายเลข 5 เลยค่ะ

รถไฟจะวิ่งผ่านอาคารบ้านเรือน และย่านในเมืองไปเรื่อยๆ เมื่อเริ่มเข้าใกล้สนามบินแล้ว วิวโดยรอบก็จะเริ่มเป็นวิวธรรมชาติมากขึ้น และเมื่อออกจากนัมบะมาประมาณ 40 นาที ก็จะวิ่งข้ามสะพานที่เชื่อมกับเกาะท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เมื่อถึงท่าอากาศยานนานาชาติคันไซแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนหรือลิฟต์ไปที่ชั้นช่องตรวจตั๋วกันเลย

และตอนนี้เราจะขอย้อนไปดูค่าเดินทางทั้งหมดที่เราได้ใช้「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในการเดินทางกันค่ะ

「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」นี้ราคา 1200 ซึ่ง ICHIGO-CHAN ได้ใช้ไปกับการเดินทางดังนี้

วันที่ 1:โยโดยาบาชิ ⇒ ฟุชิมิ อินาริ:400 เยน / ฟุชิมิ อินาริ ⇒ กิออนชิโจ : 210 เยน

ราคารวมวันที่ 1 Total: 610 เยน

วันที่ 2:ทัมบะบาชิ ⇒ เดมาจิยานางิ:330 เยน / เดมาจิยานางิ ⇒ อุจิ:390 เยน /  อุจิ ⇒ โยโดยาบาชิ:410 เยน

ราคารวมวันที่ 2 Total:1130 เยน

รวมทั้ง 2 วันเป็น:1740 เยน นอกจากจะสามารถประหยัดค่าเดินทางไปได้ 540 เยนแล้ว ด้วยการใช้ตั๋วนี้เพื่อนๆ จะไม่ต้องเสียเวลาในการซื้อตั๋วก่อนเดินทางในแต่ละครั้งอีกด้วย

ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นจะมีพาสท่องเที่ยวสุดคุ้มสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่มากมาย เพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็คพาสสุดคุ้มต่างๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวที่เพื่อนๆ จะไปเที่ยวกันก่อนเดินทางด้วยนะคะ

ออกจากนัมบะมาประมาณ 47 นาที ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยยานนานาชาติคันไซเป็นที่เรียบร้อย และข้อดีของการเดินทางด้วยรถไฟในประเทศญี่ปุ่นก็คือ “ความตรงต่อเวลา” ซึ่งดีมากๆ สำหรับการท่องเที่ยวที่ต้องใช้รถไฟในการเดินทางแทบจะทุกวันและทุกครั้ง ถึงแม้ว่าเราจะเจอรถไฟสายไป 1 ครั้ง แต่ก็แค่ 3 นาทีเท่านั้น อุ่นใจจริงๆ เลยนะคะ

เมื่อถึงสถานีท่าอากาศยานนานาชาติคันไซแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนหรือลิฟต์ไปที่ชั้นช่องตรวจตั๋วเลย เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วมาแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ และตรงไปเรื่อยๆ จากนั้นเมื่อเข้าสู่อาคารสนามบินแล้วก็ขึ้นลิฟต์ที่อยู่ทางซ้ายหรือขวามือขึ้นไปที่ชั้นเคาน์เตอร์ผู้โดยสารขาออกที่ชั้น 4F เลย ซึ่งเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน “นกสกู้ด” จะอยู่ที่ช่อง D ซึ่งจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ (ข้อมูลปัจจุบัน เดือนธันวาคม ปีพ.ศ.2561)

ซึ่งผู้โดยสารที่ต่อแถวอยู่กว่า 80% คือ คนไทย ทุกคนถือกระเป๋าเดินทางต่อแถวกันยาวเลยค่ะ แต่สำหรับเพื่อๆ ที่ทำการเช็คอินผ่านทางเว็บไซต์แล้ว ก็สามารถต่อแถวที่สั้นกว่าได้เลย

『WEB CHECK-IN』

โดยสามารถเช็คอินผ่านทางเว็บไซต์ได้ก่อนออกเดินทาง 72 ชั่วโมง ไปจนถึง 1 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง ที่สามารถต่อแถวที่สั้นกว่าเพื่อความราบรื่นได้เลย

เมื่อเช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถช้อปปิ้งกันต่อได้จนถึงก่อนออกเดินทางเลย ซึ่งที่ท่าอากศยานนานาชาติคันไซแห่งนี้ เมื่อผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ มาแล้ว ในส่วนอาคารผู้โดยภายในจะมีร้านค้าต่างๆ อย่างเช่นร้านค้าปลอดภาษีให้ได้เลือกช้อปอย่างเต็มที่ หรือเพื่อนๆ สามารถช้อปได้ก่อนผ่านเข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายใน ซึ่งสามารถช้อปปิ้งที่ส่วนด้านนอกที่ชั้น 3F (ชั้นล่างเคาน์เตอร์เช็คอิน 1 ชั้น) ที่มีทั้งร้าน 100 เยน “ไดโซ”, ร้าน “3COINS” ร้าน 300 เยน หรือมี UNIQLO ให้ได้เลือกช้อปปิ้งมากมาย

เมื่อผ่านส่วนต่างๆ ผ่านขั้นตอนการเช็คกระเป๋า และผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว ก็จะเจอร้านค้าต่างๆ มากมายอีกเช่นกัน อย่างเช่นร้านปลอดภาษีที่มีทั้งเครื่องสำอาง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จากนั้นเมื่อช้อปปิ้งจนหนำใจแล้ว ก็ได้เวลานั่งรถไฟฟ้าไปยังอาคารผู้โดยสารขึ้นเครื่องกันเลย ซึ่งที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขึ้นเครื่องก็เป็นจุดที่มีร้านค้าต่างๆ มากมายเช่นกัน ทั้งร้านกาแฟ「Tully’s Coffee」หรือร้านซูชิชื่อดังของโอซาก้ากับร้าน「GANKO SUSHI(がんこ寿司)」หรือ “ร้านโมเดลกันพลา” เป็นต้น เรียกได้ว่าสามารถช้อปปิ้งได้จนวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว

และสายการบินนกสกู้ดเที่ยวบิน XM111 ก็เดินทางออกจากสนามบินคันไซแบบตรงเวลา เราจะใช้เวลาเดินทางจากคันไซไปยังกรุงเทพเป็นเวลา 6 ชั่วโมง ICHIGO-CHAN ออกจากโรงแรมมาตั้งแต่เช้าตรู่ สงสัยจะได้หลับบนเครื่องยาวเลยค่ะ

ซึ่งเที่ยวบินระหว่างคันไซและกรุงเทพในตอนนี้กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนกสกู้ดที่เพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้ว ก็ยังมีสายการบินอื่นๆ อย่างเช่น ไทยไลอ้อนแอร์ที่เปิดเส้นทางใหม่ หรือ สายการบินแอร์เอเชียที่เพิ่มรอบบินเป็นวันละ 2 รอบ ทำให้สามารถเดินทางมายังคันไซได้สะดวกมากขึ้น

ในครั้งนี้เราได้พาเพื่อนๆ ท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」เพื่อท่องเที่ยว “โอซาก้า” และ “เกียวโต” เป็นเวลา 5 วัน 3 คืน ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองนำการท่องเที่ยวของ ICHIGO-CHAN ไปเป็นตัวช่วยในการวางแผนท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นของเพื่อนๆ ในครั้งต่อๆ ไปได้เลย และเราจะมาแนะนำการท่องเที่ยวด้วยพาสสุดคุ้มอื่นๆ กันอยู่เรื่อยๆ ยังไงฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางกับเรามาจนถึงตอนสุดท้าย แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้านะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day4-1 HOTEL ART INN NAMBA/KANSAI AIRPORT】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS”

        Go to the top Page        

  ◀ BACK