เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day4-1 ออกเดินทางไปยังอาราชิยามะ เพื่อเที่ยวชมสวนญี่ปุ่นใน “วัดเท็นริว” TENRYU-JI TEMPLE ในเกียวโต
NAGOYA-TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-KANAZAWA-KYOTO-OSAKA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินมาจากกรุงเทพด้วยสายการบิน AirAsiaX มายังนาโกย่า จากนั้นก็เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ “ทาคายาม่า” “ชิราคาวาโกะ” และ “คานาซาว่า” ได้สัมผัสทั้งธรรมชาติบ้านเมืองที่สวยงาม วัฒนธรรม และอาหารที่แสนอร่อย และตอนนี้ก็ได้นั่งรถไฟด่วนพิเศษ THUNDERBIRD เป็นเวลา 2 ชั่วโมง 24 นาที เดินทางมายังสถานที่สุดท้zายของทริปที่ “เกียวโต” เป็นที่เรียบร้อย
Day3-5 ทานอาหารค่ำที่ร้าน「TOKUBEI」ในสถานีโตเกียว และเข้าพัก HOTEL WBF GOJO OMIYA
ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเป็นช่วงที่นอกจากจะได้ชมต้นไม้ใบหญ้าที่เปลี่ยนเป็นที่แดง ส้ม เหลืองสวยงามแล้ว ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตนั้น ยังเป็นช่วงที่สามารถชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีไปได้พร้อมๆ กับ ตึกอาคารบ้านเรือนญี่ปุ่น วิวธรรมชาติ หรือสวนต่างๆ ได้อย่างสวยงามมากที่สุด ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวกันอย่างคับคั่งมากที่สุดเลยก็ว่าได้
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในตอนที่ 13 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว “อาราชิยามะ” ในเมืองเกียวโต เพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสี สวนญี่ปุ่น และป่าไผ่ที่สวยงามกันค่ะ
ICHIGO-CHAN ได้เข้าพักที่「HOTEL WBF GOJO OMIYA」โรงแรมเปิดใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ.2561 ที่ผ่านมา ห้องก็ยังใหม่มากๆ นอนหลับได้สบายสุดๆ ไปเลยค่ะ และเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างในยามเช้า ก็จะเห็นเส้นทางโกะโจโดริที่เชื่อมระหว่างตะวันออกและตะวันตกของเกียวโต และเมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็จะเห็นท้องฟ้าที่แจ่มใสมากๆ คงได้เที่ยวแบบเต็มที่อีกวันแน่ๆ
ซึ่งอาหารเช้าที่เราได้ทานไปในทริปนี้ก็มี อาหารทาคายาม่า และข้าวหน้าปลาดิบที่ตลาดโอมิโจ ในคานาซาว่าไปแล้ว มื้อนี้จะเป็นบุฟเฟต์มื้อแรกเลยค่ะ ห้องอาหารเช้าของโรงแรมจะอยู่ที่ชั้น 1F นำคูปองที่ได้ตอนเช็คอินแล้วไปที่ห้องอาหารกันเลย
ภายในห้องอาหารที่กว้างขวางแห่งนี้จะมีโต๊ะขนาดใหญ่ที่นั่งได้ 12 คนอยู่ศูนย์กลาง รายล้อมไปด้วยโต๊ะที่นั่งแบบโซฟา หรือโต๊ะที่นั่งธรรมดา รวมแล้วมากกว่า 50 ที่นั่ง และบริเวณเรียบกำแพงก็จะมีอาหารเรียงรายอยู่มากมาย
มีทั้งแซลมอน ไข่คน หรือไส้กรอก นอกจากนี้ยังมีปลาย่างหรือเมนูผักตามสไตล์อาหารญี่ปุ่นอีกด้วย
และที่ดีสุดๆ ไปเลยก็คือ ผลไม้ ที่มีให้เลือกทั้ง สับปะรด ส้ม และ สาลี่ ที่หวานอร่อยสุดๆ
นอกจากนี้ยังมี ไข่ดาว เบค่อน หรือขนมปัง ที่สามารถทานได้จนเต็มอิ่มตั้งแต่เช้าเลยที่「HOTEL WBF GOJO OMIYA」
วันนี้ ICHIGO-CHAN เดินไปเดินมาระหว่างโต๊ะกับอาหารตั้ง 3 รอบเลย 555
หลังจากที่ทานอาหารเช้าแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไปยัง “อาราชิยามะ”「ARASHIYAMA(嵐山)」ที่เพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินไปกับ วิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม สวนญี่ปุ่นของวัด หรือป่าไม้ ฯลฯ อีกมากมาย
โดยวิธีการเดินทางไปยัง “อาราชิยามะ” จะมีอยู่หลายวิธีดังนี้
1.นั่งรถบัส
2.นั่งรถบัสและรถไฟฮังคิว
3.นั่งรถบัสและรถไฟอาราชิยามะ
4.นั่งรถบัสไปที่สถานีเกียวโต จากนั้นนั่งรถไฟ JR สายซากาโนะ ไป
ซึ่งวันนี้เราจะเลือกเดินทางด้วยวิธีที่ 4 คือนั่งซิตี้บัส ไปสถานีเกียวโต เพื่อนั่งรถไฟ JR สายซากาโนะไปค่ะ
สามารถเช็คเอ้าท์ได้โดยการยื่นคีย์การ์ดห้องพักให้พนักงานที่ฟร้อนท์เท่านั้นก็เรียบร้อย ออกจากโรงแรมไปก็จะเจอป้ายรถบัสเลย ให้ขึ้นรถบัสหมายเลข “73系統” ที่วิ่งชั่วโมงละ 3 เที่ยวเพื่อไปที่สถานีเกียวโตกันเลย
รถบัสประจำทางในเมืองเกียวโต จะเป็นแบบขึ้นรถจากประตูหลัง และลงรถจากประตูหน้า ซึ่งรถบัสประจำทางภายในตัวเมืองเกียวโตจะมีค่าโดยสารต่อครั้ง ครั้งละ 230 เยน และสามารถชำระเงินโดยใส่เหรียญตามจำนวนลงในกล่องชำระเงินที่อยู่ข้างคนขับได้ขณะลงรถเลย
เราจะออกเดินทางจากป้าย Omiya Gojo ด้วยรถบัสหมายเลข “73系統” ไปยังสถานีเกียวโตโดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 นาที เมื่อลงจากรถบัสแล้ว ก็จะเห็นเกียวโตทาวเวอร์สัญลักษณ์ของเกียวโตอยู่ตรงหน้าเลย
เมื่อลงจากรถบัสแล้ว ก็เดินเข้าไปในอาคารสถานีเลย โดยเดินไปทางด้านหลัง และเดินเรียบลานกว้างไปทางขวามือ จากนั้นก็ตรงไป จะเจอประตูคาราสุมะ KARASUMA GUCHI(烏丸口) สถานีเกียวโตเลย เป็นประตูขนาดใหญ่สูงกว่า 50 เมตร เปรียบเสมือนประตูหน้าบ้านของเกียวโตเลยค่ะ
ซึ่งเส้นทางระหว่างสถานีเกียวโต ไปยังสถานี「SAGA ARASHIYAMA(嵯峨嵐山)」ที่ใกล้อาราชิยามะมากที่สุดจะไม่อยู่ในขอบเขตของพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」เพราะฉะนั้นเราจะต้องไปซื้อตั๋วแยกค่ะ โดยเมื่อเข้ามาจากประตูคาราสุมะแล้วก็ไปซื้อตั๋วรถไฟจากเครื่องจำหน่ายตั๋วที่อยู่ตรงหน้าเลย วิธีซื้อตั๋วก็ไม่ยาก ก่อนอื่นจะต้องเช็คราคาตั๋วจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติตามจุดหมายปลายทางที่ต้องการไป ซึ่งค่าโดยสารจากสถานีเกียวโต ไปยัง สถานีซากะอาราชิยามะ จะอยู่ที่ 240 เยน จากนั้นให้แตะไปที่ปุ่มรูปตั๋วบนหน้าจอ และกดปุ่มตามจำนวนเงินค่าโดยสาร「￥240」ตามด้วยชำระเงินในขั้นตอนสุดท้ายเท่านี้ก็เรียบร้อย
หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วขนาดใหญ่ที่อยู่ขวามือเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเลย(ช่องตรวจตั๋วคาราสุมะ) เมื่อผ่านมาแล้วก็เดินไปทางด้านขวา จากนั้นก็ตรงไปซักพักก็จะเจอชานชาลาหมายเลข 32-33 ของรถไฟสายซากาโนะ Sagano Line ซึ่งรถไฟระหว่างสถานีเกียวโต และซากะ อาราชิยามะจะวิ่งชั่วโมงละ 4-6 เที่ยว เพราะฉะนั้นไม่ต้องรอนานมากก็สามารถขึ้นรถไฟได้เลย หากเป็นรถไฟด่วน Rapid จะวิ่งชั่วโมงละ 1 เที่ยว ใช้เวลาในการเดินทาง 11-12 นาที ส่วนรถไฟแบบธรรมดาที่จอดทุกสถานีจะใช้เวลาในการเดินทาง 15-17 นาที ไม่ว่าจะนั่งแบบด่วน หรือรถไฟธรรมดาจอดทุกสถานีก็ใช้เวลาในการเดินทางต่างกันไม่มาก เพราะฉะนั้นสามารถขึ้นรถไฟที่ออกตัวก่อนได้เลย
เมื่อถึงสถานีซากา อาราชิยามะแล้ว ก็เดินลงบันไดที่อยู่ภายในชานชาลาไปที่ชั้นช่องตรวจตั๋วเลย ซึ่งการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในอาราชิยามะอย่าง “สะพานโทเก็ตสึเคียว” “สวนป่าไผ่” หรือ วัดเท็นริวจิ นั้นจะต้องออกจากช่องตรวจตั๋วและเดินไปทางซ้ายมือ และเดินตรงไป จากนั้นก็ลงบันไดอีกรอบ และเดินตรงไป
เดินไปซักพักก็จะเจอสามแยก ให้เดินไปทางขวามือ จากนั้นก็เดินไปจนสุดทางและเลี้ยวไปทางซ้ายมือ เดินไปซักพักก็จะเจอวัดเท็นริวจิอยู่ด้านขวามือเลย
และบริเวณด้านข้างประตูวัดเท็นริวจิ ก็จะมีต้นไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีสวยงามมากๆ เป็นการผสมผสานกันระหว่างใบไม้เปลี่ยนสี และประตูวัดแบบญี่ปุ่น ICHIGO-CHAN ชอบมากๆ เลย เราจะลอดผ่านประตูนี้ไปเพื่อไปทางเดินวัดกันเลย
เมื่อเดินเข้ามาในวัดแล้วก็จะมี “วัดโคเก็นจิ Kogenji Temple” และ “วัดโฮกนอิน Hogonin Temple” ที่เป็นวัดย่อย ซึ่งแต่ละที่จะมีสวนที่สวยงาม หากมีเวลาก็ลองแวะไปดูสวนใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดย่อยเหล่านี้ดูนะคะ และเมื่อตรงไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะมาถึงจุดจำหน่ายตั๋วของ “วัดเท็นริวจิ”『TENRYU-JI TEMPLE(天龍寺)』เลย
ค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 500 เยน และหากต้องการเข้าชมส่วนด้านในหอประชุมด้วย ราคาจะอยู่ที่ 800 เยน ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN จะเลือกชมสวนเท่านั้นค่ะ
“วัดเท็นริวจิ” หนึ่งในวัดที่โด่งดังของเกียวโต ภายในนี้ยังมีสวนชื่อดัง “สวนโซเก็นจิ”「SOGENCHI GARDEN(曹源池庭園)」ที่สวยงามตระการตาเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าไม่ว่าฤดูไหนๆ ก็สามารถชมสวนได้อย่างสวยงามทั้ง ซากุระและกุหลาบพันปี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่มในช่วงฤดูร้อน หรือ หิมะในฤดูหนาว แต่ฤดูที่โดดเด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั่นเอง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่โด่งดังในเกียวโตเลยทีเดียว
และสวนที่ไม่ควรพลาดมากที่สุดก็คือ “สวนโซเก็นจิ Sogenchi Garden” ในวัดเท็นริวจิ ซึ่งสวนแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 700 ปี อีกทั้งยังคงสภาพแทบจะเหมือนเดิมมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีของ “วัดเท็นริวจิ” จะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ทั้งเมเปิ้ลที่เปลี่ยนเป็นสีสันต่างๆ สวยงาม เดินชมได้เพลิน ไม่มีเบื่อเลยค่ะ
หลังจากที่ได้ชม “สวนโซเก็นจิ” ที่งดงามตระการตาแล้ว ก็ได้เวลาไปยัง “ป่าไผ่”「CHIKURIN NO KOMICHI(竹林の小径)」สถานที่ไฮไลท์ของอาราชิยามะกันแล้ว ซึ่ง “สวนป่าไผ่” จะอยู่ด้านหลังวัดเท็นริวจิ เพราะฉะนั้นสามารถเดินผ่านออกไปได้โดยตรงเลย โดยเดินขึ้นเนินด้านหลัง “สวนโซเก็นจิ” ไป ก็จะมาถึงตึก TAHOUDEN(多宝殿) เมื่อทำการกราบไหว้สักการะแล้วก็เดินไปที่ประตู KITAMON(北門) ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เลี้ยวไปทางซ้าย และเดินไปซักพัก…
ก็จะเข้าสู่ “สวนป่าไผ่”「 CHIKURIN NO KOMICHI(竹林の小径)」สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของอาราชิยามะเลย เป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากทั้งคนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติจำนวนมาก โดยบริเวณเส้นทางนี้จะมีรถลากผ่านไปผ่านมาท่ามกลางบรรยากาศป่าไผ่ที่สวยงาม และที่บริเวณศูนย์กลางสวนป่าไผ่ รอบๆ ศาลเจ้าโนโนะมิยะ ก็คือจุดที่เป็นไฮไลท์ของสวนป่าไผ่ เลย ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปเดินเที่ยวภายในสวนป่าไผ่ และเดินเที่ยวบริเวณรอบๆ “สะพานโทเก็ตสึเคียว” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day4-1 TENRYUJI TEMPLE/ARASHIYAMA】
PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass”
Sponsored by JR TOKAI