Day3-5 “อามาโนะฮาชิดาเตะ”「AMANOHASHIDATE」วิวที่เป็นหนึ่งใน「NIHONSANKEI」สามทัศนียภาพที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ปิดท้ายก่อนเดินทางกลับโอซาก้าเพื่อเข้าโรงแรม「CANDEO HOTELS OSAKA NAMBA」ท่ามกลางศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวของโอซาก้า

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-5 “อามาโนะฮาชิดาเตะ”「AMANOHASHIDATEวิวที่เป็นหนึ่งใน「NIHONSANKEIสามทัศนียภาพที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ปิดท้ายก่อนเดินทางกลับโอซาก้าเพื่อเข้าโรงแรม「CANDEO HOTELS OSAKA NAMBA」ท่ามกลางศูนย์กลางแหล่งท่องเที่ยวของโอซาก้า

OSAKA-KYOTO-OSAKA-AMANOHASHIDATE-OSAKA

หลังจากที่ ICHIGO CHAN ชมวิวที่งดงามจากลิฟต์เก้าอี้ของสวนคาซามาสึ KASAMATSU PARK และได้ชมสะพานหมุนได้「KAISENKYO BRIDGE」แล้ว

Day3-4 ทานโซบะ “อุซุชิโซบะ”「IZUSHI SOBAที่ร้านอาหารจุดชมวิวสวนคาซามาสึAMA TERRACEและเยี่ยมชม “วัดนาริไอ”「NARIAIJI」

ต่อไปเราจะไปปิดท้ายสถานที่ท่องเที่ยวของ อามาโนะฮาชิดาเตะ ด้วยการเดินเล่นสวนสนที่มีความยาวกว่า 3.6km และมีความกว้าง 20m ท่ามกลางวิวทะเล และหาดทรายที่สวยงาม สถานที่ของอามาโนะฮาชิดาเตะนั้นนอกจากวิวที่ชมจากสวนคาซามาสึแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมายทั้ง ทะเลรอบๆ หรือศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่ โดยเฉพาะความใสของทะเลที่นี่นั้นก็สวยไม่แพ้ทะเลไทยเลยละค่ะ

ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวอามาโนะฮาชิดาเตะและการเดินทางไปยังโอซาก้าค่ะ

 “อามาโนะฮาชิดาเตะ”「AMANOHASHIDATE」วิวที่เป็นหนึ่งใน「NIHONSANKEI」สามทัศนียภาพที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ที่เป็นทางหาดทรายกลางทะเลยาวกว่า 3.6km และมีความกว้าง 20m ซึ่งตามหาดทรายกลางทะเลจะมีต้นสนสูงเด่นอยู่ตลอดทาง ด้วยความสวยงามของทางเดินสายต้นสนประกอบกับวิวทะเลที่สวยงามทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่กันเป็นจำนวนมาก

ระหว่างทางก็จะมีทั้งร้านน้ำชา ที่จำหน่ายทั้งชิกูวะ ซอฟต์ครีม หรือดังโงะ นอกจากนี้ก็มีร้านเช่าจักรยาน(2 ชั่วโมง 400 เยน)ด้วย ที่อามาโนะฮาชิดาเตะจะมีร้านเช่าจักรยานอยู่หลายร้านซึ่งส่วนใหญ่ราคาก็จะอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 400 เยน ลองเช่าจักรยานปั่นเที่ยวอามาโนะฮาชิดาเตะดูก็ไม่เลวเลยนะคะ ซึ่งบางร้านอาจสามารถคืนจักรยานที่เช่ามาได้ตามสถานที่ต่างๆ ที่กำหนดไว้เช่น สวนคาซามาสึด้วย ยังไงต้องลองถามที่ร้านดูนะคะ

ซึ่งวิวททะเลสีครามและสีเขียวมรกรตที่เห็นจากสวนสนเป็นอะไรที่สวยมากๆ น้ำใสมากๆ จนเห็นก้นบ่อที่ลึกๆ เลย และที่นี่ก็จะเปิดให้เล่นน้ำทะเลได้ในช่วงหน้าร้อนตั้งแต่กลางเดือนกรกฏาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคมเลย

ดูสิคะ วิวสวนสน ชายหาด ทะเลและภูเขา เหมือนอยู่รีสอร์ตที่เกาะสมุยเลย

เดินไปตามทางเดินต้นสนโดยให้เดินไปทางที่อยู่ตรงข้ามกับสะพานหมุนไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางแยกเป็นสองทาง จากตรงนี้ให้ไปทางด้านซ้ายเรื่อยๆ

เราก็จะเข้ามาสู่บริเวณศาลเจ้าเล็กๆ และเจอกับสิงโตหน้าศาลเจ้าของ “ศาลเจ้าอามาโนะฮาชิดาเตะ” 「AMANOHASHIDATE」ที่ศาลเจ้าเล็กๆ แห่งนี้จะให้โชคเรื่อง “สมหวังในความรัก” ดังนั้นจึงมีเหล่าวัยรุ่นหนุ่มสาวนิยมเดินทางมากราบไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งมีความเชื่อว่า ถ้าตั้งจิตขอพร(เกี่ยวกับความรัก)และโยนหินให้หินไปอยู่บนโทริอิ ตรงทางเข้าศาลเจ้าได้ พรที่ขอไปก็จะสมหวัง ทำให้บนโทริอิมีหินเล็กๆ เต็มเลย ICHIGO-CHAN ก็ไม่พลาดต้องขอลองทำบ้าง ได้ไม่ได้เพื่อนๆ ไปเดากันเอาเองนะคะ 555

และที่อยู่ข้าง “ศาลเจ้าอามาโนะฮาชิดาเตะ” 「AMANOHASHIDATE」เลยก็คือที่ล้างมือ “อิโซะชิมิซุ” ซึ่งถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะตั้งอยู่บนดอนหาดทรายแต่น้ำที่ออกมานั้นก็ไม่ได้มีรสเค็มแต่อย่างใด น่าแปลกมากๆ เหมือนกับว่าที่นี่「ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมใด ก็มีจิตใจที่หนักแน่น ไม่ผันแปรไปตามสิ่งต่างๆ รอบตัว」นั้นเอง ยังไงถ้าได้ไปที่นี่ก็อย่าลืมชำระล้างร่างกาย ด้วยการล้างมือล้างปากก่อนที่จะกราบไหว้สักการะศาลเจ้าด้วยนะคะ

เมื่อเดินไปตามทางอามาโนะฮาชิดาเตะเรื่อยๆ จนเต็มที่แล้วก็เดินกลับไปทางเดิมทางฝั่งสะพานหมุนเลย เมื่อเดินเลยสะพานหมุนไปก็จะเจอกับร้านค้าต่างๆ บริเวณสามแยก ซึ่งร้านเหล่านี้จะเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าขึ้นชื่อของอามาโนะฮาชิดาเตะ และพื้นที่บริเวณรอบๆ ทังโกะ ตัวอย่างเช่น “อิซุชิโซบะ” หรือ ลูกชิ้นปลาอิวาชิ หรือ ปลาซาร์ดีนที่ตกได้จากบริเวณพื้นที่นี้ ฯลฯ อีกมากมาย น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ

เมื่อซื้อของฝากเรียบร้อยแล้ว ก็ออกจากร้านไปทางขวาและเดินไปตามทางเรื่อยๆ จนเจอสามแยกให้เลี้ยวไปทางขวา จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ จนเจอสถานีอามาโนะฮาชิดาเตะอยู่ทางซ้ายมือ

ซึ่งจากสถานีอามาโนะฮาชิดาเตะ กลับไปโอซาก้า สามารถเดินทางได้ 3 วิธี(เหมือนตอนขามา)คือ

  1. นั่งรถบัสกลับโอซาก้า อุเมดะ
  2. นั่งรถไฟ KYOTO TANGO RAILWAY จากสถานีอามาโนะฮาชิดาเตะ เพื่อนั่งไปยัง ฟูกุจิยามะ จากนั้นก็เปลี่ยนรถไฟเป็นรถไฟ JR เพื่อนั่งไปโอซาก้า
  3. นั่งรถไฟที่มุ่งตรงไปยัง เกียวโต จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถไฟ JR เพื่อนั่งไปโอซาก้า

ซึ่งขามาเรานั่งแบบข้อ 2 มาแล้วเพราะฉะนั้นขากลับเราจะนั่งรถบัสเพื่อตรงไปที่ โอซาก้ากันเลย

สามารถซื้อตั๋วรถบัสได้ที่จุดติดต่อสอบถามภายในสถานีอามาโนะฮาชิดาเตะเลย รถบัสที่มุ่งหน้าไปโอซาก้าจะวิ่งวันละ 3 เที่ยว คือเวลา 6:45・12:45・16:45 โดยวันนี้เราจะเลือกเป็นรอบ 16:45 ราคาตั๋วจะอยู่ที่ 2650 เยน ที่นี่สามารถชำระเงินด้วย “เงินสด” เท่านั้นนะคะ

รถบัสจะออกตัวจากป้ายรถบัสที่อยู่ข้างโรงแรมอามาโนะฮาชิดาเตะ ที่อยู่หน้าสถานีอามาโนะฮาชิดาเตะ ใช้เวลาเดินทางไปโอซาก้าประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที

และรถบัสสีชมพูเข้มก็จะมาจอดอยู่ที่หน้าป้ายรถเมย์แบบตรงเวลาเป๊ะ เราจะขึ้นรถคันนี้เพื่อมุ่งไปที่โอซาก้ากันเลยค่ะ ซึ่งที่นั่งทั้งหมดจะเป็นแบบจองที่นั่งล่วงหน้า หรือ แบบ RESERVED SEAT ซึ่งวันที่ ICHIGO-CHAN นั่งเป็นวันที่คนแน่นมาก

ภายในรถบัสคันนี้ก็จะเป็นที่นั่งแบบ Reclining Seat ด้านล่างที่วางแขนจะมีปลั๊กไฟสามารถชาร์ตโทรศัทพ์มือถือได้ เราสามารถนั่งเล่นมือถือได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดระหว่างทางเลย ไปโอซาก้าได้แบบสบายๆ ♪เดี๋ยวก็ถึงเนาะ……..

พูดยังไม่ทันขาดคำ ดูเหมือนว่าข้างหน้าจะมีอุบัติเหตุใหญ่ ทำให้เราต้องมาเจอรถติดยาว 40km เลย ถึงที่กรุงเทพเราจะเจอแบบนี้บ่อย แต่ที่ญี่ปุ่นการที่รถติดบนถนนมอเตอร์เวย์นี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก แต่ก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยที่นั่งก็สบายๆ ถือว่าเป็นการพักผ่อนแล้วกันค่ะ ซึ่งปกติแล้วเราจะใช้เวลาเดินทางไปโอซาก้าประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาทีแต่………

วันนี้เราใช้เวลาเดินทางไป 4 ชั่วโมงเลย และในที่สุดเราก็มาถึงบัสเทอร์มินอลสถานีโอซาก้าอุเมดะแล้วค่ะ เป็นการเดินทางที่นานมากๆ แต่ระหว่างทางคนขับรถก็คอยแจ้งสถานการณ์และที่นั่งก็สบายๆ แถมมีห้องน้ำให้ใช้ด้วย ก็ยังถือว่าไม่ได้แย่เลยค่ะ

ตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มแล้วค่ะ ตอนนี้ร้านอาหารธรรมดาทั่วไปก็คงจะปิดหมดแล้ว คงเปิดแต่ร้านเหล้า แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ ด้านล่างสถานีรถไฟฮันคิวอุเมดะที่เดียวกับบัสเทอร์มินอลนี้เพิ่งมีโซน「UMEDA FOOD HALL」มาเปิดใหม่ และเปิดทำการถึงเวลา 5 ทุ่มเลย โดยลงจากรถบัสมาที่เทอร์มินอลบัส และเดินข้ามทางม้าลายไปถนนอีกฝั่ง เมื่อเดินข้ามมาแล้วก็ไปทางซ้ายเพื่อข้ามทางม้าลายเล็กๆ จากนั้นก็เลี้ยวขวา และก็จะเจอกับบันไดเลื่อนอยู่ด้านซ้ายมือ ให้ลงบันไดเลื่อนนี้ไปเลย

เมื่อลงบันไดเลื่อนมาแล้ว เราก็จะเจอกันลานกว้างๆ ที่เป็น 「UMEDA FOOD HALL」 ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ภายในนั้นจะเป็นแนวแคนทีนที่รวมร้านอาหารกว่า 18 ร้าน ไปเที่ยวที่ต่างๆ มาดึกๆ ก็ยังสามารถหาอะไรทานให้อิ่มท้องได้ สะดวกมากๆ เลย

『UMEDA FOOD HALL』แบบแคนทีน

ในส่วนกลางฮอลล์จะเป็นโซนที่นั่งกว่า 1000 ที่นั่ง และรอบ ๆ ก็จะมีทั้งร้าน ซูชิ พิซซ่า อาหารเกาหลี หรือบาร์ต่างๆ รวมกันกว่า 18 ร้านให้เลือกมากมาย ถึงจะเป็นฟู้ดฮอลล์แบบแคนทีน แต่ด้านในตกแต่งดูดีมาก ตอนนี้ก็ดึกแล้วแต่คนยังเยอะอยู่เลย

ที่นั่งจะมีทั้งแบบเคาน์เตอร์ โซฟา และที่นั่งแบบโต๊ะ หลากหลายแบบให้เลือกนั่งได้ตามความชอบ ถ้าที่นั่งว่างก็สามารถรองรับลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ได้แบบสบาย ซึ่งโต๊ะที่นี่สามารถเคลื่อนย้ายได้เพราะฉะนั้นย้ายนั่งกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ได้สบายเลย

ICHIGO-CHAN เลือกทานร้านข้าวหน้าปลาดิบชื่อร้าน「TOROYA」

ตอนสั่งก็เพียงแค่ชี้เมนูที่ต้องการให้พนักงานเลย

ราคาเมนูแต่ละอย่างก็ไม่แพง อีกทั้งยังมีเมนูให้เลือกหลากหลายทั้ง “ข้าวหน้าปลามากุโระ”「MAGURO ZUKUSHI DON」ที่ประกอบไปด้วยมากุโระเนื้อแดง・ชูโทโระ・โอโทโระ(1680 เยน)หรือ “แซลม่อนอาบุริดง”「SALMON ABURI DON」ที่ประกอบไปด้วยแซลม่อนดิบและแซลม่อลรนไฟ(1030 เยน)นอกจากนี้ก็มี “ข้าวหน้าปลามากุโระบดโรยด้วยต้นหอมซอย” 「NEGITORO TEKKA DON」(950 เยน)เป็นต้น

เมนูที่สั่งมาวันนี้ก็คือ “แซลม่อนอาบุริดง”「SALMON ABURI DON」(930 เยน)

ข้าวหน้าปลาแมลม่อนดิบและปลาแมลม่อนย่าง โดยการย่างนี้จะเป็นการเผาไฟเบาๆ ที่ผิวปลาแซลม่อนที่ติดมัน ทำให้ได้รสสัมผัสที่กรอบนอกและนุ่มใน อร่อยมากๆ

ซึ่งราคาเมนู「SALMON ABURI DON」นั้นไม่ถึง 1000 เยน ถ้ารวมเครื่องดื่ม 100 เยนแล้วราคารวมก็แค่ 1030 เยนเท่านั้น ไม่น่าเชื่อเลย

ซึ่งวิธีสั่งอาหารที่นี่ตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลย ก่อนอื่นก็ไปที่เคาน์เตอร์ จากนั้นก็สั่งเมนูที่ต้องการ และจ่ายเงิน และเราก็จะได้เครื่องส่งสัญญาณมา สามารถไปนั่งรอที่โต๊ะจนกว่าสัญญาณจะดัง เมื่อได้อาหารที่สั่งแล้วเครื่องนี้ก็จะดัง จากนั้นก็นำเครื่องนี้ไปที่จุดรับอาหารเพื่อแลกกับอาหารเลย

ตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มครึ่งแล้ว แต่ยังมีคนเดินไปเดินมาที่สถานีอุเมดะเยอะอยู่เลย ตอนนี้เราอิ่มมากๆ เดินทางไปโรงแรมกันเลยที่「CANDEO HOTELS OSAKA NAMBA」

การเดินทางไปโรงแรมก็สามารถนั่งรถไฟใต้ดินเส้นมิโดซุจิจากสถานีอุเมดะไปลงที่สถานีนัมบะจะสะดวกที่สุด ก่อนอื่นก็ต้องเดินออกจาก「UMEDA FOOD HALL」ตรงไปตามทางเดินโดยให้ฟู้ดฮอลล์อยู่ด้านหลัง และเดินตรงไปเรื่อยๆ จนเจอบันไดเลื่อน ให้ขึ้นบันไดเลื่อนไป และไปทางขวา

เมื่อเลี้ยวขวามาแล้ว ก็ตรงไปตามทางเรื่อยๆ จนเจอช่องตรวจตั๋วของรถไฟใต้ดินเส้นมิโดซุจิอยู่ทางซ้ายมือ และตรงข้ามช่องตรวจตั๋วจะมีเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติอยู่ ไปซื้อตั๋วกันเลย

ก่อนอื่นก็ต้องเช็คราคาจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วก่อน ซึ่งบริษัทรถไฟในโอซาก้าหรือรถไฟเอกชนของคันไซจะต้องใส่เงินเข้าไปก่อน จากนั้นก็กดคำว่า「Ticket」จากนั้นก็กดจำนวนเงินที่แสดงอยู่ด้านล่างหน้าจอตามจำนวนราคาตั๋วที่เช็คไว้ เท่านี้ก็เรียบร้อย ราคาตั๋วจากสถานีนัมบะไปสถานีอุเมดะราคา 230 เยน

นอกจากนี้ยังสามารถเช็คราคาตั๋วรถไฟได้ง่ายๆ จากเว็ปไซต์ก่อนล่วงหน้าค่ะ เพียงแค่กรอกสถานีต้นทางและสถานีปลายทางเท่านั้นไม่ยาก อ่านรายละเอียดคลิ๊กเลย การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณจะง่ายมากขึ้นเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว

ส่วนนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นกลุ่ม 10 คนขึ้นไปก็สามารถซื้อตั๋วแบบเหมาจ่าย “ตั๋วคูปอง” “回数券” “KAAISUUKEN” ได้ในราคที่ถูกกว่าปกติ อ่านรายละเอียดคลิ๊กเลย ตั๋วรถไฟญี่ปุ่นยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดเยอะ มันคืออะไรไปดูกันเลย

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วเพื่อเข้าไปในชานชาลากันเลย เมื่อผ่านเข้ามาแล้วก็ลงบันไดที่อยู่ตรงหน้า เพื่อไปรอรถไฟที่ชานชาลาหมายเลข 1 นั่งรถไฟไป 4 สถานี

ซึ่งรถไฟสายแดงมิโดซุจิจะวิ่งทุกๆ 3 นาทีถึง 4 นาทีเพราะฉะนั้นรอแปปเดียวรถไฟก็มาแล้วค่ะ

เมื่อถึงสถานีนัมบะแล้ว ก็ขึ้นบันไดที่อยู่ด้านท้ายๆ และผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วไป เมื่อผ่านออกมาแล้วก็เดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ ขึ้นบันไดที่อยู่สุดท้ายไปแล้วยูเทิร์น จากนั้นเราก็จะเจอย่านโดทงโบริที่เราเพิ่งมาเมื่อวานอยู่ด้านขวามือ

ที่ย่านโดทงโบรินี้ถึงจะเป็นเวลากลางคืนหรือกลางวันบรรยากาศก็จะครึกครื้นอยู่ตลอดเวลาเลย พอตกกลางคืนป้ายปูที่ร้าน「KANIDOURAKU」ก็จะเปิดไฟสว่าง บริเวณด้านหน้าป้ายปูนั้นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และเมื่อตรงไปทางโดทงโบริที่มีร้านค้าต่างๆ ทั้งร้านปลอดภาษี ร้านอาหาร หรือร้าน Drug Store มากมาย ไปเรื่อยๆ ก็จะออกมาสู่เส้นทางหลักอีกหนึ่งเส้นชื่อ「SAKAISUJI」ที่ทะลุไปสู่โอซาก้าทางฝั่งทิศใต้ และเมื่อออกมาสู่เส้นซาไกซุจิแล้วก็เลี้ยวไปทางซ้าย และเดินไปประมาณ 3 นาทีก็จะเจอกับโรงแรม「CANDEO HOTELS OSAKA NAMBA」อยู่ทางด้านซ้ายมือ

CANDEO HOTELS OSAKA NAMBA เป็นโรงแรมเปิดใหม่ ให้บริการเมื่อ เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2560 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากย่านโดทงโบริใช้เวลาเดินเท้าเพียง 3 นาที และห่างจากตลาดคุโรมงประมาณ 6 นาทีซึ่งถือว่าสะดวกมากๆ

ภายในล๊อบบี้ที่กว้างขวางนี้มีที่นั่งโซฟาให้ได้นั่งพักสบายๆ สามารถเช็คอินได้โดยเพียงแค่ยื่นหนังสือเดินทาง และบัตรเครดิตให้พนักงานเท่านั้น

ห้องแบบทวินรูมสไตล์ฮอลลีวูด และด้านในมีโซฟาวางอยู่ตรงมุมห้อง ความกว้างนั้นสามารถนอนได้หนึ่งคนเลย ห้องน้ำถึงจะเล็กแต่ก็กระทัดรัดใช้งานสะดวก บวกกับวิวของเมืองโอซาก้า บรรยากาศดีมากๆ

และที่ชั้น 17F จะมีห้องอาบน้ำรวมที่เป็นจุดชมวิวรอบเมืองโอซาก้าได้ และที่ด้านข้างห้องอาบน้ำก็จะมีโซนเลานจ์เป็นโซฟาขนาดใหญ่ สามารถนั่งเล่นพูดคุยหลังอาบน้ำ พร้อมจิบเบียร์ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ได้(จากตู้ขายน้ำอัตโนมัติ)

หลังจากได้ไปแช่น้ำพร้อมชมวิวของโอซาก้าแล้ว ตอนนี้ผ่อนคลายและสบายตัวมากๆ เลยค่ะ ตอนนี้ก็เลยเที่ยงคืนแล้ว พรุ่งนี้ก็ต้องออกเช้าซะด้วย วันนี้ ICHIGO-CHAN ได้ไปเที่ยวรอบๆ อามาโนะฮาชิดาเตะแบบหนำใจ และอิ่มท้องกับอาหารค่ำที่โอซาก้าแล้ว พรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้วค่ะ ต้องขอตัวไปนอนก่อนนะคะ zzz・・・・

【ตารางการเดินทาง Day3-5 KAISENKYO BRIDGE AMANO HASHIDATE/CANDEO HOTEL OSAKA NAMBA】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶