Day3-4 เที่ยวชมย่านเมืองเก่า「HIGASHI-CHAYAGAI」พร้อมทานซอฟท์ครีมทองคำเปลวสุดอลังการ

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-4 เที่ยวชมย่านเมืองเก่า「HIGASHI-CHAYAGAI」พร้อมทานซอฟท์ครีมทองคำเปลวสุดอลังการ

NAGOYA-TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-KANAZAWA-KYOTO-OSAKA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินทางมายังเมืองหลวงเก่าติดทะเลอย่าง “คานาซาว่า” แล้ว ก็ได้เที่ยว “ตลาดโอมิโจ” “สวนเค็นโรคุเอ็น” ต่อด้วย KAGAYUZEN-KIMONO CENTER และตอนนี้ก็ได้เดินทางมาที่เมืองเก่า「HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街)」เรียบร้อยแล้ว

Day3-3 สวมชุดกิโมโนที่「KAGAYUZEN-KIMONO CENTER」และทานอาหารกลางวันที่ย่านโบราณ「HIGASHI-CHAYAGAI」ในคานาซาว่า

ที่ย่านเมืองเก่า HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街) นี้เราได้ทานข้าวหน้าปลาบุริดิบที่ร้าน「USHIOYA(うしおや)」ไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินเล่นภายในย่านเมืองเก่า HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街) กันแล้ว ซึ่งบริเวณนี้จะมีทั้งร้านจำหน่ายของฝาก ร้านคาเฟ่ หรือร้านเหล้าสาเกต่างๆ มากมาย

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในตอนที่ 11 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปเดินเที่ยวภายในย่านเมืองเก่า「HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街)」และเดินทางไปยัง “เกียวโต” ที่หมายสุดท้ายของทริปกันค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่เป็นตัวแทนของคานาซาว่าย่านเมืองเก่า「HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街)」ที่มีอาคารที่สร้างแบบ “คิมุสุโกะ” ริมสองข้างทางเดินที่ปูด้วยหิน เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมายทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายขนม ของฝาก หรือสินค้าทองคำเปลวต่างๆ เท่านั้นไม่พอยังมีคาเฟ่ หรือร้านจำหน่ายสินค้าเฉพาะของคานาซาว่าอีกด้วย ซึ่งร้าน「USHIOYA(うしおや)」ที่เราได้ทานอาหารกลางวันไปก็ตั้งอยู่ศูนย์กลางพื้นที่นี้เลยค่ะ

ทั้งสองข้างทางเดินปูหินนี้จะมีตึกในสมัยก่อนอยู่มากมายอีกทั้งยังมีรถลากแบบคนลากที่ยิ่งเพิ่มบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นสุดๆ ซึ่งบริการรถลากนี้หากเป็น “โอทาเมชิ”「OTAMESHI」(แบบทดลองสั้นๆ ราคาเริ่มต้น) ก็จะอยู่ที่คนละ 2000 เยน 2 คน 3000 เยน แค่ได้นั่งบนรถลากก็ได้เหมือนเป็นดาราคนดังที่มีแต่คนมองเลยค่ะ เพราะฉะนั้นไหนๆ ก็มาแล้ว ยังไงลองไปนั่งกันดูนะคะ

『บริการรถลากร้าน Romanya』

ย่านเมืองเก่า「HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街)」นี้จะมีร้านค้าต่างๆ ที่น่าสนใจอยู่หลากหลายร้าน โดยเฉพาะร้านขนมหรือคาเฟ่ ซึ่งคาเฟ่จะเป็นการสร้างจากตึกเก่าปรับปรุงให้ดูดีมากๆ สามารถเพลิดเพลินกับขนมของแต่ละร้านที่แตกต่างกันออกไป บางร้านก็มีคนต่อแถวยาวเหยียด

และสำหรับใครที่ชอบ “สาเกญี่ปุ่น” ก็มีร้านเหล้าสาเกเรียงกันอยู่มากมาย ซึ่งคานาซาว่าถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งผลิตสาเกขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งแบบขวดเล็กไซส์ของฝาก หรือ ถังเหล้าแบบที่พบเห็นได้ตามศาลเจ้าต่างๆ แบบไซส์มินิ จะซื้อไปตั้งโชว์ หรือซื้อไปดื่มก็ได้ทั้งนั้นเลยค่ะ

และนี้ก็คือร้านจำหน่าย「麩」อ่านว่า “ฟุ”(เป็นสิ่งที่ทำจากรำข้าวสาลี) ของขึ้นชื่อของคานาซาว่า โดยคนญี่ปุ่นมักจะนำสิ่งนี้ใส่ลงไปในซุป หรืออาหารต่างๆ ซึ่งที่ HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街) ก็มีร้านจำหน่าย “ฟุ” โดยเฉพาะ อยู่หลายร้าน บางคนถึงกับเดินทางมาจากโอซาก้า หรือโตเกียวเพื่อมาซื้อที่นี่โดยเฉพาะเลยทีเดียว

และร้านที่จะพบเห็นได้เป็นจำนวนมากในย่านเมืองเก่า HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街) ก็คือร้านสินค้า หรือของใช้ที่ทำจาก “ทองคำเปลว” ประจำท้องถิ่น ซึ่งทองคำเปลวในประเทศไทยส่วนใหญ่เราก็จะใช้ในทางศาสนา แต่ที่คานาซาว่านี้ได้นำทองคำเปลวมาเป็นส่วนประกอบของสินค้าต่างๆ มากมายทั้งเครื่องสำอาง เครื่องปั้นดินเผา ออกแบบเครื่องเขิน หรือใช้ใส่ในอาหาร ฯลฯ ที่น่าสนใจมากๆ

ซึ่งภายในย่านเมืองเก่า HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街) แห่งนี้ก็มี “ร้านน้ำชา(お茶屋)” เก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะเมื่อหลายร้อยปีก่อนกับ「SHIMA(志摩)」「KAIKAROU(懐華楼)」และ「OCHAYA BUNKAKAN(お茶屋文化館)」ซึ่งแต่ละที่สามารถเข้าชมด้านในได้ โดยจะต้องเสียค่าเข้าชม ซึ่งเอกลักษณ์ของตึกอาคารต่างๆ ภายใน ย่านเมืองเก่า HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街) ก็คือการสร้างแบบ「KIMUSUKO(木虫籠)」อ่านว่า “คิมุสุโกะ” เป็นการสร้างโครงที่ทำด้วยไม้เส้นบางๆ ขัดกันเป็นตารางในส่วนชั้นที่ 1 โดยเรียกส่วนนี้ว่า “คิมุสุโกะ” ซึ่งเอกลักษณ์ของการสร้างแบบนี้คือหากมองจากด้านนอกจะไม่สามารถมองเห็นด้านในได้ แต่หากมองจากด้านในก็สามารถมองออกไปข้างนอกได้อย่างชัดเจน โดยเดิมทีการสร้างแบบนี้มีไว้เพื่อให้เหล่าเกอิชาคอยเช็คว่าแขกของตนจะไปร้านอื่นหรือไม่นั่นเอง

สิ่งที่ไม่ควรพลาดหากเพื่อนๆ ได้ไปย่านเมืองเก่า HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街) ก็คือ「KINPAKU UKOKKEI SOFT CREAM(金箔付き烏骨鶏ソフトクリーム」) 」(700 เยน)ของร้าน『KANAZAWA UKEIAN(金澤烏鶏庵)』ที่อยู่บริเวณทางเข้าย่านโบราณนี้

UKOKKEI SOFT CREAM หรือ”ซอฟท์ครีมไก่ซิลค์กี้” เป็นซอฟท์ครีมที่ทำจากไข่ของไก่ที่มีชื่อว่า「TENRAI UKOKKEI(天来烏骨鶏)」หรือ “ไก่ซิลค์กี้เท็นไร” ที่ถูกเลี้ยงในคานาซาว่า ให้ความหอมหวาน ราวกับคัสตาร์ด พร้อมโรยทองคำเปลว เป็นหนึ่งเมนูที่หรูหรา อลังการและน่าทานมากๆ นอกจากนี้ยังมี「UKOKKEI SOFT CREAM」แบบธรรมดาที่ไม่มีทองคำเปลวราคา 500 เยนด้วย แต่ไหนๆ ก็ได้มาที่นี่แล้ว ก็น่าลองนะคะ จะได้ถ่ายรูปลงโซเชียลด้วย 555

หลังจากที่ได้ทานซอฟท์ครีมทองคำเปลว「KINPAKU UKOKKEI SOFT CREAM(金箔付き烏骨鶏ソフトクリーム」) 」แล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลามุ่งหน้าไปยัง “เกียวโต” กันแล้ว โดยเราจะนั่งรถไฟด่วนพิเศษ THUNDERBIRD จากสถานีคานาซาว่า ไปยัง เกียวโตกันเลย โดยก่อนอื่นจะต้องเดินไปยังป้าย Hashiba Cho Bus Stop(橋場町) ที่อยู่ใกล้ย่านโบราณ HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街)มากที่สุด ให้ออกจากบริเวณนี้ไปที่ถนนใหญ่ จากนั้นก็เดินไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอป้ายรถบัส Hashiba Cho Bus Stop(橋場町) อยู่บริเวณเชิงสะพานเลย ซึ่งการเดินทางจากย่านโบราณ HIGASHI-CHAYAGAI(ひがし茶屋街) ไปยัง สถานีคานาซาว่านั้นนั่งรถบัส「KANAZAWA LOOP BUS」ไปจะสะดวกที่สุด และรถบัสที่ออกจาก Hashiba Cho Bus Stop(橋場町) จะให้บริการตั้งแต่เวลา 8:56 ถึง 18:26 ทุกๆ 18:26 นาที และใช้เวลาในการเดินทาง 15 นาที

『BUS MAP & TIMETABLE』

ซึ่งรถบัสส่วนใหญ่ที่วิ่งอยู่ในเมืองคานาซาว่าจะเป็รถบัสที่ขึ้นจากประตูด้านหลัง และลงจากประตูด้านหน้า เมื่อขึ้นรถบัสจากประตูหลังมาแล้ว ก็จะต้องหยิบตั๋วรถบัสจากเครื่องสีส้มที่อยู่ข้างๆ ประตูทางเข้า และเมื่อต้องการลงจากรถบัส ก็สามารถเช็คราคาได้จากบอร์ดแสดงค่าเดินทางรถบัสที่อยู่ด้านหน้าข้างคนขับได้เลย ตามช่องตัวเลขที่อยู่ตามตั๋วรถบัสที่หยิบมาตอนขึ้นรถ และเตรียมเหรียญให้ครบถ้วนและนำไปชำระได้ที่เครื่องชำระเงินที่อยู่ข้างคนขับขณะลงรถบัสได้เลย ซึ่งหากเป็นเส้นทางภายในศูนย์กลางเมืองคานาซาว่าส่วนใหญ่ค่าเดินทางจะมีราคาเดียวอยู่ที่ 200 เยนค่ะ

ในกรณีที่ใช้「HOKUTETSU BUS ONE DAY PASS」สามารถแสดงบัตรนี้ให้พนักงานคนขับได้ตอนลงรถเท่านั้นเลยค่ะ

ออกจากป้ายบัส Hashiba Cho Bus Stop มา 15 นาที ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึงสถานีคานาซาว่าประตูตะวันออกเป็นที่เรียบร้อย เมื่อลงจากรถบัสแล้วก็เดินไปทางด้านหน้า ทางซ้ายมือ เพื่อเข้าไปในอาคารสถานีคานาซาว่าเลย

ซึ่งที่บริเวณหน้าสถานีคานาซาว่าประตูตะวันออก(ประตูเค็นโรคุเอ็น KENROKUEN GUSHI)จะมี “Tsuzumi-mon(鼓門)” ที่เป็นสัญลักษณ์ของคานาซาว่าอยู่ ซึ่งประตู Tsuzumi-mon นี้มีความสูงถึง 13.7 เมตร มีเสาขนาดใหญ่อยู่สองต้น ให้ลอดผ่านเสานี้ไปเลย ถือแม้ว่าเราจะได้เที่ยวภายในคานาซาว่าเป็นเวลา เกือบหนึ่งวันเต็มๆ เท่านั้น ตั้งแต่เดินทางมาจากชิราคาวาโกะ แต่ก็ได้เที่ยว และทานอาหารอร่อยๆ ของคานาซาว่าไปเต็มที่มากๆ

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」อยู่แล้วก็สามารถแสดงพาสและผ่านช่องตรวจตั๋วไปที่ชานชาลาได้เลย แต่หากต้องการนั่งแบบ Reserved Seat ก็จะต้องเดินไปในสถานีและไปที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่อยู่ด้านซ้ายบริเวณลานจุดนัดพบสถานีก่อน

พาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」นี้สามารถใช้นั่งรถไฟแบบ Reserved Seat ได้ทั้งหมด 4 ครั้ง ในช่วงระยะ 5 วันของอายุบัตรพาส(ยกเว้น รถไฟด่วนพิเศษฮารุกะ ระหว่างเกียวโต-สนามบินคันไซ)

เมื่อทำการจองที่นั่งแบบ Reserved Seat แล้วก็ผ่านเข้าไปในช่องตรวจตั๋วที่อยู่เลยเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเพื่อไปที่ชานชาลากันเลย ซึ่งบริเวณช่องตรวจตั๋วจะมีป้ายบอร์ดแสดงตารางเวลารถไฟอยู่ ตัวเลขบริเวณด้านขวาก็คือตัวเลขบอกชานชาลาของรถไฟนั้นๆ ค่ะ ซึ่งรถไฟด่วนพิเศษ THUNDERBIRD ที่เรากำลังจะนั่ง จะออกจากชานชาลาหมายเลข 2 ค่ะ เมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วมาแล้วก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ตรงหน้าไป ชานชาลาหมายเลข 2 จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

และรถไฟด่วนพิเศษ THUNDERBIRD สีขาวน้ำเงินก็เข้าสู่ชานชาลามาแล้ว ซึ่งรถไฟนี้จะวิ่งระหว่าง “โอซาก้า” และ “คานาซาว่า” เป็นเวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที ส่วนเส้นทางระหว่าง “เกียวโต” ไปยัง “คานาซาว่า” ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 20 นาที รถไฟด่วนพิเศษ THUNDERBIRD มีบางช่วงวิ่งด้วยความเร็วถึง 140km เลยทีเดียว เมื่อเทียบระยะทางเดียวกับรถบัสแล้ว ใช้เวลาน้อยกว่าไปประมาณครึ่งนึงก็สามารถเดินทางไปยัง โอซาก้า หรือ เกียวโต ได้ ซึ่งเส้นทางระหว่าง “คานาซาว่า” ไปยัง “โอซาก้า” ก็สามารถใช้พาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในการเดินทางได้ และหากอยู่ในช่วงระยะเวลาอายุของบัตรก็สามารถนั่งได้ไม่อั้นเลยอีกด้วย

ซึ่งที่นั่งภายในรถไฟจะเป็นที่นั่งแบบ Reclining Seat ถึงแม้ว่ารถไฟด่วนพิเศษ THUNDERBIRD นี้จะถูกใช้งานมายาวนานกว่า 25 ปีแล้ว แต่ก็ได้รับการดูแล ปรับปรุงอย่างดี ไม่ดูเก่าเลยค่ะ บรรยากาศสบายๆ อีกทั้งยังเป็นที่นั่งที่สามารถหนุนได้ โดยเหยียบแป้นเหล็กที่อยู่ข้างที่นั่ง แล้วจับพนักเก้าอี้หมุน เท่านี้ก็สามารถหันเก้าอี้ให้หันหน้าเข้าหากันได้เลย ยิ่งถ้ามากันเป็นกลุ่มยิ่งดีเลยนะคะ จะได้นั่งหันหน้าคุยกัน

รถไฟที่ออกตัวจากสถานีคานาซาว่าจะวิ่งผ่าน “คางะออนเซ็น” พื้นที่ออนเซ็นที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน, ผ่านจังหวัดฟุกุอิ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายทั้ง “หน้าผาโทจินโบ”, “วัดเอเฮจิ” หรือ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ จากนั้นก็ผ่าน “ซาบาเอะ” ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นแหล่งผลิตแว่นตาที่โด่งดั่งระดับโลก ไปยังเมืองอ่าวสึรุงะ ทางฝั่งทะเลญี่ปุ่น เพื่อเข้าสู่ “เกียวโต” กันค่ะ

หากเลือกที่นั่งได้แนะนำให้เลือกนั่งทางฝั่งซ้ายมือนะคะ เพราะว่าระหว่างทางเพื่อนๆ จะได้ชมวิวภูเขา และ “ทะเลสาบบิวะ(琵琶湖)” ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นได้แบบชัดแจ๋วเลย

เดินทางจากสถานีคานาซาว่ามา 2 ชั่วโมง 24 นาที รถไฟด่วนพิเศษ THUNDERBIRD ก็พาเรามาถึง “สถานีเกียวโต” แบบตรงเวลาเป๊ะ “เกียวโต” ที่เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น ยิ่งช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ยิ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหนาแน่นเป็นพิเศษเลยทีเดียว

ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ดินเนอร์อาหารญี่ปุ่น และเข้าพัก「HOTEL WBF GOJO OMIYA」ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในเมือง “เกียวโต” กันค่ะ

【ตารางการเดินทาง Day3-4 HIGASHI-CHAYAGAI/KANAZAWA STATION/KYOTO STATION】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass”

Sponsored by JR TOKAI

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶