Day3-4 เที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามกับเจ้ากวางใน “ภูเขาวะคะคุสะ” พร้อมเยี่ยมชม “ศาลเจ้าคะซุงะ” ของนารา

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-4 เที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามกับเจ้ากวางใน “ภูเขาวะคะคุสะ” พร้อมเยี่ยมชม “ศาลเจ้าคะซุงะ” ของนารา

HYOGO-KYOTO-OSAKA-NARA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เยี่ยมชม “นาราไดบุสึ” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นชื่อของนารา จากนั้นก็ได้ชมวิวเมืองนาราที่ “NIGATSU-DO(二月堂)” จากนั้นก็ได้ไปกราบไหว้สักการะที่ “ศาลเจ้า Tamukeyama Hachiman Shrine” ในวัดโทไดไปเต็มที่แล้ว

Day3-3 เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของนาราที่ “วัดโทได”

แล้งตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาที่ “ภูเขาวะคะคุสะ” หลังวัดโทได และตั้งอยู่ทางตะวันออกของสวนกวางนาราที่เป็บริเวณทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมในนาราที่มีการจัดงาน「YAMAYAKI(山焼き)」ในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือชมใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูใบไม้ร่วงชื่อดังของนารา ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมตลอดทั้งปี

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「KANSAI ONE PASS」เพื่อท่องเที่ยวแถบคันไซเป็นเวลา 5 วัน 3 คืนในตอนที่ 14 นี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “ภูเขาวะคะคุสะ”, “ศาลเจ้าคะซุงะ” และ เดินทางไปยัง「NARA HOTEL」เรือนรับรองแขกของประเทศประจำนารากันค่ะ

เดินจาก “NIGATSU-DO(二月堂)” มาเพียง 5 นาที และเมื่อเดินผ่านศาลเจ้าแห่งความรัก「ศาลเจ้า Tamukeyama Hachiman Shrine(手向山八幡宮)」 ไปก็จะเป็นพื้นที่เชิงดอย『ภูเขาวะคะคุสะ(若草山)』 ที่สามารถชมเมืองนาราทั้งเมืองท่ามกลางพื้นที่ที่เชียวชอุ่ม เป็นภูเขาที่มีความสูง 344 เมตรนั่นเอง

ซึ่งที่บริเวณทางเข้าภูเขาวะคะคุสะนี้ก็จะมีเหล่ากวางอยู่มากมาย กำลังทานหญ้าบริเวณภูเขาวะคะคุสะอย่างเอร็ดอร่อย โดยค่าเข้าภูเขาวะคะคุสะจะอยู่ที่ 150 เยน เมื่อขึ้นบันไดมาแล้วก็ชำระเงินที่เคาน์เตอร์เป็นเงินสด จากนั้นก็เดินไปบริเวณลานหญ้าที่เขียวชอุ่มกันเลย

โดยจาก “ภูเขาวะคะคุสะ” นี้นอกจากเพื่อนๆ จะได้ชมวิววัดโทได หรือ วัดโฮริว และเมืองนาราแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวดอกซากุระ สัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม อีกทั้งยังมีการจัดงาน “ยามะยากิ” ขึ้นปีละครั้งในเดือนมกราคม เรียกได้ว่าเพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินกับฤดูกาลต่างๆ ได้ทั้ง 4 ฤดูเลยทีเดียว

โดยงาน “ยามะยากิ” นี้จะถูกจัดขึ้นในทุกๆ ปี ในวันเสาร์ที่ 4 ของเดือนมกราคม ด้วยการจุดไฟขึ้นที่ภูเขาวะคะคุสะ ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของวัดโทได มีความสูง 342 เมตร เพื่อเป็นการเผาส่วนผิวลานหญ้านั่นเอง ซึ่งบรรยากาศเปลวไฟที่ลุกโชนในช่วงการจัดงานในเวลากลางคืนก็เป็นอะไรที่ดุเดือดเป็นอย่างยิ่ง และที่พิเศษสุดๆ ในงานนี่ก็คือ “งานดอกไม้ไฟฤดูหนาว” โดยมีการจุดดอกไม้ไฟกว่า 600 ลูก ทำให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่สุดอลังการและมีความดุเดือดเป็นอย่างยิ่ง

และเมื่อเดินเลย “ภูเขาวะคะคุสะ” ไปอีกก็จะเป็น หนึ่งใน “ศาลเจ้าคะซุงะ”「KASUGA TAISHA(春日大社)」ที่มีอยู่ 1000 กว่าแห่งในประเทศญี่ปุ่น และ สวนกวางนารา หรือ พิพิธภัณฑ์จังหวัดนารา เป็นต้น

โดยเพื่อนๆ สามารถเดินจากภูเขาวะคะคุสะไปยังศาลเจ้าคาซุงะเพียง 5 นาทีเท่านั้น โดยเดินเรียบร้านจำหน่ายของฝากไปเรื่อยๆ ตามทางเดินที่มีกวาง จากนั้นก็เดินเยื้องไปทางขวามือ

จากนั้นก็เดินตรงไปก็จะเจอต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปีอยู่ทางซ้ายมือ

และเมื่อเดินเลยไปอีกเรื่อยๆ ก็เดินไปทางขวามือตามทางเดินที่ปูด้วยทราย ไปก็จะเจอ “ศาลเจ้าคะซุงะ” เลย

เมื่อเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเดินบันไดโคมไฟหินอยู่ทางขวามือ ที่มีโคมไฟหินเรียงรายอยู่นับไม่ถ้วน

โดยภายในศาลเจ้าคะซุงะแห่งนี้จะมีโคมไฟหินจำนวนมากมายที่ดาราหรือบุคคลทั่วไปนำมาถวายรวมแล้วประมาณ 2000 อัน ซึ่งการถวายโคมไฟนี้ก็จะคล้ายๆ กับเสาแดงที่เรียงรายอยู่มากมายในศาลเจ้าฟิมินั่นเอง

และระหว่างเดินชมโคมไฟหินก็อาจได้เจอเจ้ากวางโผล่หน้าออกมาด้วย แค่เดินเล่นบริเวณนี้ก็รู้สึกเพลิดเพลินแล้ว

“ศาลเจ้าคะซุงะ”『KASUGA TAISHA(春日大社)』ของนารานี้ถือเป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าคะซุงะที่มีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นกว่า 1000 แห่ง

ซึ่งนอกจากอาคารศาลเจ้าหลักที่เป็น “สีแดง” สัญลักษณ์ของศาลเจ้าคาซุงะแล้ว บริเวณรอบๆ อาคารยังมี “โคมไฟแขวน” นับไม่ถ้วนแขวนอยู่บริเวณรอบๆ อาคารอย่างสวยงาม ดังนั้นนอกจากโคมไฟหินที่มีอยู่ประมาณ 2000 อันแล้ว ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีโคมไฟแขวนอยู่อีกมากถึง 1000 เลยทีเดียว หนึ่งในนั้นก็มีโคมไฟแขวนสีทองอยู่ด้วย

เราจะไปเดินเที่ยวชมศาลเจ้าคะซุงะที่เต็มไปด้วยโคมไฟสวยงามกันให้เต็มที่เลย

โดยประตูหลักของอาคารหลักศาลเจ้าก็คือ “มินามิมง”「MINAMIMON(南門)」ประตูซากุระมงที่มีความสูงประมาณ 12  เมตร สีแดงสวยงามตั้งอยู่ศูนย์กลางศาลเจ้าคาซุงะนี้ก็คือทางเข้าไปสู่อาคารศาลเจ้าหลักเลยค่ะ

และที่อยู่ข้างๆ ประตูมินามิมงก็คือจุดจำหน่ายตั๋วเข้าชม ตั๋วจะอยู่ที่ราคา 500 เยน เมื่อซื้อแล้วก็เข้าไปในอาคารกันเลย

และจุดที่เป็นไฮไลท์ของศาลเจ้าคะซุงะเลยก็คือส่วน “ประตูจูมง”「CHUUMON(中門)」และที่อยู่เลยประตูก็คืออาคาร 4 ตึกที่ปกป้องอาคารศาลเจ้าหลัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนักท่องเที่ยวจะสามารถสักการะได้จนถึงที่นี่ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเข้าไปสักการะได้ถึงด้านในอาคารศาลเจ้าหลักแต่แค่ได้อยู่บริเวณประตูจูมงนี้ก็สัมผัสได้ถึงความเก่าแก่และประวัติความเป็นมาอันยาวนานของอาคารแห่งนี้ที่มีอายุประมาณ 1300 ปี

และที่อยู่บริเวณด้านหน้าประตูจูมงก็คือ สำนักงานศาลเจ้าที่จำหน่ายเครื่องรางของขลังต่างๆ ของศาลเจ้าคาซุงะ เท่านั้นไม่พอยังมีแผ่นไม้เอมะ แผ่นไม้เขียนขอพรลายกวางจำหน่ายอยู่อีกด้วย(500 เยน)

จะเขียนขอพรที่แผ่นไม้เอมะ หรือวาดหน้าเพื่อถวายศาลเจ้าก็ได้เช่นกัน เมื่อกราบไหว้เยี่ยมชมศาลเจ้าคะซุงะแล้ว เราจะเดินทางไปสถานที่ต่อไปที่「NARA HOTEL」กันเลย

โดยเพื่อนๆ สามารถเดินจากศาลเจ้าคะซุงะไปยัง NARA HOTEL ไปประมาณ 15 นาที เดินเล่นกับเจ้ากวางไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกไม่นานเลยค่ะ

โดยเดินลงบันไดที่เรียงรายไปด้วยโคมไฟหินไปทางเดินหน้าศาลเจ้า เมื่อออกมาสู่ทางเดินหน้าศาลเจ้าแล้วก็เดินไปทางขวามือ ระหว่างทางเดินบันไดโคมไฟหินก็มีเจ้ากวางโผล่หน้าออกมาด้วย น่ารักมากๆ สมกับเป็นนาราเลยจริงๆ ค่ะ

และเมื่อเดินไปซักพักก็จะเจอ “FUSESHIKA NO TEMIZUSHO(伏鹿手水所)” เป็นจุดชำระล้างร่างกายที่มีรูปปั้นกวางหมอบตั้งอยู่สมกับเป็นเมืองนารามากๆ ซึ่งน้ำที่จุดนี้จะไหลออกมาจากกระบอกที่กวางคาบอยู่ที่ปากอีกด้วย

และเมื่อเดินเลยจุดชำระล้างร่างกายไปก็จะเจอ「NINOTORII(二の鳥居)」ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโคมไฟที่มีมากถึง 2000 อัน จากจุดนี้ไปยังโทริอิอีกแห่งจะเป็นระยะทาง 1km ทั้งสองข้างทางเดินหน้าศาลเจ้าจะเป็นสวนกวางนาราที่เพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติสวยงามในแต่ละฤดูได้อย่างเต็มที่

ซึ่งจุดเด่นของสวนนาราก็คงหนีไม่พ้น “กวาง” ระหว่าทางเราจะเจอร้านจำหน่าย “เซมเบ้กวาง” (150 เยน) ของโปรดของเจ้ากวาง โดยปกติแล้วเจ้ากวางที่อยู่บริเวณนี้ก็จะมีความเรียบร้อย นิ่งๆ น่ารักๆ แต่พอเห็นเซมเบ้กวางก็เปลี่ยนไปทันทีเลย แม้แต่ลุงขายเซมเบ้กวางที่ดูจะคุ้นเคยกับที่นี่ที่สุดก็ยังโดนเจ้ากวางบุกเลยทีเดียว

เมื่อเดินจาก “นิโนะโทริอิ” ไปประมาณ 1km ก็จะมาถึงโทริอิอันแรกที่เป็นทางเข้าศาลเจ้าคะซุงะ เมื่อมาถึงโทริอินี้แล้ว NARA HOTEL ก็อยู่ใกล้เพียงปลายจมูกเท่านั้นแล้ว โดยเลี้ยวซ้ายที่โทริอิแรกก็จะเป็นบริเวณ “บ่อน้ำอาระ”「ARAIKE(荒池)」เป็นบริเวณชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังเลยทีเดียว

และเมื่อเดินลึกเข้าไปในบ่อน้ำอาระแล้วก็จะเจอ「Ukimi-do Pavilion(浮見堂)」ที่ลอยอยู่บนบ่อน้ำซากิ ชื่อดังของนารา บริเวณรอบๆ จะมีทั้งต้นซากุระ และต้นเมเปิ้ลอยู่มากมาย โดยจุดนี้จะเป็นจุดที่เพื่อนๆ จะได้ชมทั้งศาลาทรงหกเหลี่ยมที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน วิวธรรมชาติที่สวยงามทั้งสี่ฤดู และเหล่ากวางที่อาศัยอยู่บริเวณรอบๆ เป็นภาพที่น่ารักและสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อเดินออกจากโทริอิแรกของศาลเจ้าคะซุงะแล้วก็เดินไปทางด้านซ้ายมือ และเดินไปทางบ่อน้ำอาระก็จะเจอทางเข้า「NARA HOTEL」ที่เป็นเรือนรับรองแขกของประเทศประจำนาราอยู่ทางขวามือเลย

โดย「NARA HOTEL」นี้สามารถเดินจากสถานีนารามาได้ 10 นาที และเดินจากโทริอิแรกของศาลเจ้าคะซุงะมาได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น โดย NARA HOTEL แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในสวนนาราที่สวยงามและถูกสร้างขึ้นมามากกว่า 100 ปี เป็นโรงแรมที่เปิดให้บริการตั้งแต่ยุคสมัยที่โรงแรมยังเป็นของแปลกสำหรับคนญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นเรือนรับรองแขกของประเทศประจำนารา ที่มีแขกระดับ VIP จากทั่วโลก จักรพรรดิ หรือรัชกาลที่ 9 ของไทยมาเข้าพักอีกด้วย

แน่นอนว่านอกจากการเข้าพักแล้ว ยังมีส่วนร้านอาหาร หรือคาเฟ่ให้ได้เพลิดเพลินอีกด้วย

ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมภายใน「NARA HOTEL」และเดินทางจาก NARA HOTEL ไปยังตัวเมืองโอซาก้ากันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day3-4 Mt.WAKAKUSA/KASUGA TAISHA SHRINE】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “KANSAI ONE PASS”

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶