Day3-4 ย้อนวัยไปกับร้านเกมบาร์「Video Game Bar Space Station」และพักโรงแรมแคปซูลแบบเครื่องบินเฟิร์สคลาสกับ「FIRSTCABIN MIDOUSUJI NAMBA」

Day3-4 ย้อนวัยไปกับร้านเกมบาร์「Video Game Bar Space Station」และพักโรงแรมแคปซูลแบบเครื่องบินเฟิร์สคลาสกับ「FIRSTCABIN MIDOUSUJI NAMBA」

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินเล่น ช้อปปิ้งของกินของฝากที่ย่านช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น「TENJINBASHISUJI SHOPPING STREET」ถึงเราจะทานข้าวเย็นแล้วแต่คืนนี้ยังไม่จบเพียงเท่านี้

Day3-3 ย่านร้านค้าในโอซาก้าที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น「TENJINBASHISUJI SHOPPING STREET」

ที่พักที่เราพักวันนี้คือ「FIRST CABIN MIDOUSUJI NAMBA」

ที่พักแนว「FIRST CABIN」ที่มีคอนเซ็ปเหมือนได้พักเครื่องบินชั้น FIRST CLASS

ช่วงนี้ที่ไทยเองก็เริ่มมีโรงแรมแบบแคปซูลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งญี่ปุ่นเองที่เป็นผู้ริเริ่มโรงแรมแบบแคปซูลก็ได้พัฒนาโรงแรมแบบแคปซูลไปสู่อีกขั้นหนึ่งแล้วด้วย

ทริปของเราในค่ำคืนนี้ของเราก็คือ「Video Game Bar」และเข้าพักที่「FIRST CABIN」

ย่านร้านค้าที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

ICHIGO-CHAN ได้เดินเที่ยวตั้งแต่ต้นจนสุดเป็นระยะทาง 2.6km เลย

ก็ได้เวลาไปที่พักกันแล้ว ที่พักของเราอยู่ที่「NAMBA นัมบะ」ชื่อว่า「FIRSTCABIN MIDOUSUJI NAMBA」

โดยมุ่งหน้าไป「NAMBA นัมบะ」จากที่ที่ ICHIGO-CHAN อยู่ตอนนี้ 「TENJINBASHI SUJI 6 CHOUME」ซึ่งอยู่สุดทางทิศเหนือของเท็นจินบาชิซุจิ เราจะต้องนั่งรถไฟใต้ดินจากสาย SAKAI SUJI LINE จาก「TENJINBASHI SUJI 6 CHOUME STATION」เพื่อไปที่ NIPPOMBASHI แล้วค่อยเดินไปน่าจะสะดวกที่สุด

จากสถานีนิปปอนบาชิเดินไปสถานีนัมบะเพียง 5 นาที

ก่อนอื่นก็ต้องออกจากย่านนี้ไปก่อน และลงประตู 8 ของรถไฟใต้ดินที่อยู่ข้างๆ แม็คโดนัล

ก่อนอื่นก็ต้องเช็คราคาจากแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่ด้านบนเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติก่อน

จากที่นี่ไปนิปปอนบาชิ ราคา 「230 เยน」

เมื่อเช็คแล้วก็กดปุ่ม「English」ที่หน้าจอ

รถไฟใต้ดินของโอซาก้าส่วนใหญ่ จะต้องใส่เงินเข้าไปก่อน ต่างจากรถไฟ JR หรืออื่นๆ

เมื่อใส่เงินแล้วจึงกดจำนวนเงิน จากนั้นตั๋วก็จะออกมา

เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็สามารถผ่านเข้าไปที่ช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ด้านซ้ายมือ และลงบันไดที่อยู่ตรงหน้าได้เลย

เมื่อลงไปแล้วก็คือ ชานชาลา SAKAI SUJI LINE

ให้ขึ้นรถไฟที่มีสถานีปลายทางไป「TENGACHAYA」ที่ชานชาลาเบอร์ 1 และลงที่สถานีที่ 5 「NIPPOMBASHI」

เมื่อถึง นิปปอนบาชิแล้วก็ผ่านทางเดินใต้ดินไปเรื่อยๆ จนถึงชานชาลาอีกฝั่งหนึ่ง แล้วค่อยออกจากช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ

เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติมาแล้วและตรงไปเรื่อยๆก็จะเป็นเส้นร้านค้าใต้ดิน「NAMBA WALK」

ระหว่างทางก็จะมีทั้งร้าน UNIQLO, DRUG STORE, ร้านซูชิสายพาน หรือร้าน 100 เยนด้วย

ถ้าไม่ได้แวะซื้ออะไรข้างทาง ก็จะใช้เวลาเดินไปเพียง 5 นาที ก็จะมาถึงทางสี่แยกตามรูปที่สาม และให้เดินตรงไปเลย

และเมื่อเจอทางเข้าช่องตรวจตั๋วรถไฟใต้ดินสาย MIDOSUJI ให้ผ่านไปเลยจะเจอประตูทางออกที่ 21 อยู่เยื้องด้านขวา

ให้ออกจากประตูทางออกที่ 21 ไปเลย

เมื่อออกจากประตูทางออกที่ 21มาแล้วก็เลี้ยวไปทางขวามือทันที ก็จะเจอ『FIRSTCABIN MIDOUSUJI NAMBA』อยู่ที่หัวมุมแยกแรกเลย

เมื่อเข้าตึกไปแล้วก็ขึ้นลิฟต์ไปที่ฟร้อนท์ชั้น 4F

ถ้าพูดถึงโรงแรมแบบแคปซูลทั่วไปแล้วปกติราคาจะถูก การบริการหรือที่พักก็จะเป็นไปตามราคาเลย เรียกได้ว่าเป็นที่ๆเอาไว้นอนพักเท่านั้นเลย

แต่ที่นี่ดูดีมาก ลืมภาพแบบเดิมของโรงแรมแบบแคปซูลไปได้เลย ดูดีตั้งแต่ทางเข้าเลยจริง ๆ

เหล่าสตาฟมารอเช็คอินที่ฟร้อนท์

ทั้งการบริการและการแต่งกายเหมือนกำลังพักที่โรงแรมหรูเลย ซึ่งราคาที่พักที่นี่จะอยู่ที่คืนละ 6900 เยน

ห้องจะถูกแยกออกเป็นหญิงและชาย และแต่ละห้องจำเป็นต้องมี IC CARD

ถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้หญิงมากๆเลย

ตรงทางเข้าห้องจะมีบริการทั้ง แปรงฟัน หวี และที่โกน นอกจากนั้นยังมีกรรไกรตัดเล็บกับที่อุดหูด้วย

เมื่อเข้าห้องไปแล้วก็จะมีห้องที่ถูกเรียกว่า「CABIN」เรียงกันเต็มไปหมด

เนื่องจากที่นี่เป็นโรงแรมแคปซูลเพราะฉะนั้นที่กั้นระหว่างห้องพักกับทางเดินจะไม่ใช่ประตูแต่เป็นผ้าม่านแทน

เอาล่ะมาถึงห้องเราแล้ว

ข้างในจะเป็นยังไงนะ・・・・?

ถึงจะบอกว่าเป็นโรงแรมแคปซูลแต่ที่นี่มีพื้นที่ให้เดินได้ และยังมีโต๊ะที่พอสำหรับวางโน้ตบุ๊คด้วย และยังมีพื้นที่ที่สามารถเปิดกระเป๋าเดินทางได้ด้วย

ที่ห้องจะมีชุดนอน ผ้าขนหนู แปรงฟัน และรองเท้าแตะเตรียมไว้ให้ด้วย สบายเหมือนอยู่บ้านเลย

ถึงแม้ว่าห้องพักจะให้ความรู้สึกเหมือนได้พักโรงแรมทั่วไป แต่ที่นี่ก็ยังคงเป็นโรงแรมแคปซูลอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำส่วนตัว

ถึงอย่างนั้นก็มีอ่างน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถแช่น้ำแบบสบายๆ อยู่  คนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบการแช่น้ำเป็นที่สุด ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงชอบแช่น้ำแบบอ่างกว้างๆใหญ่ๆ มากกว่าอ่างน้ำเล็กที่อยู่ในห้องแบบส่วนตัว

ข้าง ๆ ห้องอาบน้ำก็มี Lounge ด้วย

มีทั้งหนังสือการ์ตูน นิตยสาร ที่สามารถเลือกอ่านได้เลย ถึงแม้ว่าจะไม่มีภาษาไทย แต่การ์ตูนภาษาอังกฤษมีให้เลือกอ่านเพียบ

ถ้าเบื่อๆก็มานั่งเล่นที่นี่ได้เลย

ตอนแรกก็ว่าจะแค่เช็คอิน และก็เอาของไปเก็บเท่านั้น แต่ก็ไปอาบน้ำและนั่งเล่นที่ Lounge ด้วยเวลาก็ผ่านไปเยอะเลย

แต่ ICHIGO-CHAN ก็ไม่ปล่อยให้คืนนี้ผ่านไปแบบสูญเปล่าแน่นอน

ลองหาข้อมูลดูแล้วก็เจอร้าน「Video Game Bar Space Station」พอดี เลยกะจะลองไปดู

ร้าน「Video Game Bar Space Station」อยู่ไม่ไกลเลยเดินไปแค่ 5 นาทีเอง

ก่อนอื่นก็ต้องออกจากโรงแรมไปทางซ้ายมือ และข้ามถนนใหญ่(SENNICHIMAE DORI) และเดินตรงไป ข้ามสะพานไปก็เลี้ยวซ้ายที่ซอยที่ 2(มีบริษัททัวร์เป็นเครื่องหมาย)

เมื่อเข้าซอยไปแล้ว ก็เลี้ยวขวาที่ซอยที่ 2

เมื่อเลี้ยวมาก็จะเจอร้านไก่ย่างทันที ที่ชั้น 2F บนร้านไก่ย่างก็คือ ร้าน 「VIDEO GAME BAR SPACE STATION」นั่นเอง

แวปแรกอาจทำให้ลังเลว่าจะเข้าดีหรือไม่เข้าดี แต่ก็มีรีวิวอยู่เยอะ เลยตัดสินใจลองเข้าไปดู

บันไดร้านมีไฟ LED ด้วยดูน่ารักดี

เมื่อเข้าไปในร้านก็ดูเหมือนบาร์ทั่วไป แต่มีมอร์นิเตอร์เกมเรียงกันอยู่เต็มไปหมด

แขกในร้านส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติทั้ง ฝรั่งและเอเชีย

เจ้าของร้านเป็นคนอเมริกา

เจ้าของร้านพูดภาษาญี่ปุ่นได้ แถมยังพูดภาษาไทยได้นิดหน่อยด้วย

ภายในร้านก็จะมีทั้งเครื่องเล่นเกมสมัยก่อน อย่าง แฟมิคอม(Family Computer) ซูเปอร์แฟมิคอม(Super Family Computer) หรือ SEGA SATURN นอกจากนี้ก็มีเครื่องเล่นเกมหายากอย่าง NES หรือ GENESIS ด้วย

เรียกได้ว่าสาวกเกมทั้งหลายห้ามพลาดร้านนี้เลย

แขกก็จะนั่งเล่นเกมกันเหมือนอยู่บ้านเลย

ได้เล่นเกมมาริโอ้คาร์ทกับเพื่อนออสเตรเลียที่เพิ่งเจอกันที่ร้านด้วย

ได้เล่นเกมที่สมัยก่อนนิยมมากๆ อย่างเกม DrMARIO จาก「Famicom」เครื่องเล่นเกมในตำนานแบบนี้ด้วย

เมนูเครื่องดื่มในร้านมีทั้งค็อกเทล เหล้า เบีย Soft Drink ให้เลือกมากมาย ซึ่งราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 600 เยน(ส่วนหนึ่ง 700 เยน)

และที่สำคัญเลยคือไม่มีเซอร์วิสชาร์ทและค่าเล่นเกมด้วย

แค่ซื้อค็อกเทลซักแก้ว 600 เยน ก็สามารถเล่นเกมได้ไม่อั้นเลย

กำแพงร้านตกแต่งด้วยเครื่องด้านในของเกม ที่โต๊ะก็มีเกมแบบเก่าๆ ตกแต่งเอาไว้ด้วย

ถึงแม้ว่า ICHIGO-CHAN จะไม่ค่อยรู้เรื่องเกมมากเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกสนุกไปกับบรรกาศภายในร้านเลย พูดคุยเรื่องทริปกันเวลาสนุกๆ ก็ผ่านไปเร็วมากๆ

อยู่ร้านแค่ 2 ชั่วโมงก็ได้เพื่อนเพิ่มใน Facebook ตั้ง 10 กว่าคนเลยนะ

ICHIGO-CHAN ได้เที่ยวคืนสุดท้ายของทริปนี้แบบเต็มที่แล้ว ความจริงก็ยังไม่อยากนอนเลยแต่พรุ่งนี้เราต้องรีบตื่นไปงานที่เราอยากไปมากที่สุดกับงาน「NIPPONBASHI STREET FESTA」

เดินกลับไปทางเดิมที่เรามาเพื่อกลับไปที่ที่พักกัน

ปกติแล้ว ICHIGO-CHAN ก็จะนั่งเครื่องบินแต่แบบชั้นธรรมดา Economy เท่านั้น

แม้แต่ชั้นธุรกิจก็ยังไม่เคยนั่งเลย แต่วันนี้เราจะได้พักที่พักที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้นั่ง First Class บนเครื่องบินเลย ขอตัวไปนอนก่อนน้า ฝันดีนะคะ

ครั้งต่อไปเราจะไปกันที่「KUROMON ICHIBA」หรือตลาดคุโระมง อิจิบะ และงานที่รวมนักคอสเพลย์จากญี่ปุ่นและต่างชาติ อย่างงาน「NIPPOMBASHI STREET FESTA」

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶