Day3-4 ชมวิวภูเขาฟูจิจากหนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นที่ “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ”「MIHO NO MATSUBARA」

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-4 ชมวิวภูเขาฟูจิจากหนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นที่ “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ”「MIHO NO MATSUBARA」

TOKYO-FUJI-MISHIMA-SHUZENJI-SHIMIZU-MIHONOMATSUBARA-HAMAMATSU-NAGOYA

พาสที่จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง Central Japan Railway Company หรือ JR TOKAI กับพาสสุดคุ้ม『Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini』

พาสที่สามารถใช้นั่งเส้นทางระหว่าง อาตามิ~โทโยฮาชิ(Tokaido Main Line), นุมะซุ~มัตสึดะ(Gotemba Line)หรือ ฟูจิ~ชิโมเบะออนเซ็น(Minobu Line)รวมการนั่งรถไฟแบบด่วนพิเศษได้ไม่อั้น(ยกเว้นรถไฟแบบนอน)นอกจากนี้ยังสามารถใช้นั่งยานพาหนะอื่นๆ เช่น รถไฟ Izuhakone Railway(ทุกสายของสายซุนซึ Sunzu Line), รถบัสเพื่อใช้ท่องเที่ยว โกเทมบะ พรีเมียม เอ้าท์เล็ตส์ขนาดใหญ่ และ ทะเลสาบคาวากุจิ หรือ เรือเฟอร์รี่「The Suruga Bay Ferry」เพื่อนั่งเรือชมภูเขาไฟฟูจิจากทะเลได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นพาสสุดคุ้มที่ให้เพื่อนๆ ได้ท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่

「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」มีอายุ 3 วัน ราคาเพียง 4500 เยนเท่านั้น แค่เพียงราคาตั๋วรถบัสไปกลับระหว่างโกเท็มบะ และ คาวากุจิโกะแบบปกติอยู่ที่ 3020 เยนและเรือเฟอร์รี่ The Suruga Bay Ferry(ราคาปกติ 2100 เยน)รวม 2 อย่าง อยู่ที่ 5300 เยน จะเห็นได้ว่าไม่จำเป็นต้องใช้นั่งรถไฟใดๆ ก็คุ้มเกินทุน โดยครั้งนี้เราจะใช้พาสนี้ท่องเที่ยวแบบสุดคุ้ม เพื่อเดินทางไปยัง “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” และ “ฮะมะมัตสึ”

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้นั่งเรือเฟอร์รี่「 The Suruga Bay Ferry」และรถบัสต่อมายัง “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ”「MIHO NO MATSUBARA」ที่เป็นหนึ่งใน NIHON SANKEI(日本三景) หรือ หนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว

ซึ่ง “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ”「MIHO NO MATSUBARA」คือป่าสนเรียบชายฝั่งที่มีต้นสนมากกว่า 3 หมื่นต้น ยาวกว่า 7km อีกทั้งยังสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิ และอิซุ ได้โดยมีอ่าวซุรุงะกั้นอยู่

ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมเสน่ห์ของ “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ”「MIHO NO MATSUBARA」และเดินทางจาก ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ ไปยังที่พักใน “ฮะมะมัตสึ” ในพื้นที่ที่มี「อุนางิพาย」ที่โด่งดังกันค่ะ

ก่อนอื่นก็ลงรถบัสที่ป้าย MIHONO MATSUBARA IRIGUCHI และเดินไปอีกประมาณ 5 นาที เราจะไปสักการะ “ศาลเจ้ามิโฮะ”「MIHO SHRINE」บริเวณทางเข้า「KAMI NO MICHI(神の道)」ที่เป็นทางเดินไปสู่ “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” กัน ถึงแม้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นศาลเจ้าที่มีบริเวณกว้างขวาง แต่ก็สามารถเดินจากโทริอิไปยังอาคารหลักศาลเจ้าเพียงแปปเดียวเท่านั้น ผ่านโทริอิมาแล้วก็เดินไปชำระล้างร่างกายที่อยู่บริเวณด้านขวาอาคารหลักศาลเจ้าเลย

โดยมีวิธีการชำระล้างร่างกายดังนี้

1. ก่อนอื่นจะต้อง ถือกระบวยด้วยมือขวา และตักน้ำให้เต็ม จากนั้นนำมาล้างมือซ้าย

2. จากนั้น เปลี่ยนมือที่ถือกระบวยเป็นข้างซ้าย และล้างมือขวา

3. ขั้นตอนต่อไปก็ เปลี่ยนมาถือกระบวยมือขวาอีกรอบ เทน้ำใส่มือซ้ายพอประมาณ และทำการบ้วนปาก *ในขั้นตอนนี้ห้ามนำกระบวยมาโดนปากโดยตรง

4. ล้างมือซ้ายอีกรอบ

5. ในขั้นตอนสุดท้าย ตั้งกระบวยขึ้น โดยหันหน้ากระบวยเข้าตัว เพื่อให้น้ำไหลลงไปล้างที่จับกระบวย วางกระบวยไว้ที่เดิม เท่านี้ก็เรียบร้อย

เมื่อชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้วก็ไปที่อาคารหลักศาลเจ้ากันเลย

ถึงแม้ว่าจะเป็นอาคารศาลเจ้าขนาดเล็ก แต่ก็เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 1150 ปี และแม้ว่าจะถูกเพลิงไหม้อยู่หลายครั้ง และอาคารปัจจุบันก็เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นใหม่เมื่อ 300 ปีที่แล้ว แต่สถานที่แห่งนี้ก็เป็นศาลเจ้าที่ให้โชคเรื่องเกี่ยวกับการเกษตร หรือ เรื่องความรัก ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองขอพรเรื่องความรักและเกี่ยวกับการเกษตรไร่นาดูนะคะ

หลังจากชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้ว ก็มาที่บริเวณศาลเจ้าหลัก(ที่มีระฆังและกล่องทำบุญอยู่หน้าอาคาร) โค้งคำนับ 1 ครั้งก่อนลั่นกระดิ่งที่ห้อยลงมา

จากนั้นโยนเหรียญใส่กล่องทำบุญ(ตามจิตศรัทธา โดยปกติประมาณ 5-50 เยน)และทำการ

โค้งคำนับ 2:โค้งคำนับไปทางศาลเจ้า 2 ครั้ง

ปรบมือ 2:ปรบมือ 2 ครั้ง

โค้งคำนับ 1:อธิษฐานในใจ และโค้งคำนับอีก 1 รอบ

ซึ่งหลักการกราบไหว้แบบ โค้งคำนับ 2 ปรบมือ 2 โค้งคำนับ 1 นั้นจะเป็นการสักการะที่ศาลเจ้าเท่านั้น ในกรณีการสักการะที่วัดจะไม่มีการปรบมือ สามารถสักการะโดย พนมมือธิษฐาน และโค้งคำนับ 1 ครั้งเท่านั้น

จาก “ศาลเจ้ามิโฮะ” ไปยัง “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” นั้นจะเป็นทาง「KAMI NO MICHI(神の道)」ยาว 520 เมตรที่มีต้นสนอายุกว่า 300-400 ปี เรียงรายอยู่ตลอดทาง ซึ่งระหว่างต้นสนสองข้างทาง จะเป็นทางเดินไม้ท่ามกลางอุโมงค์ต้นสนที่สวยงามมากๆ ในบรรยากาศสบายๆ

ระหว่างทางจะมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของฝาก หรือ บริเวณที่จอดรถอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งในส่วนศูนย์สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวจะมีแผ่นพับแนะนำการท่องเที่ยว หรือแผนที่ของ “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” หรือ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในชิซุโอกะ แจกฟรีอยู่ด้วย ถึงแม้ว่าเอกสารส่วนใหญ่จะเป็นภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ หรือจีน แต่ก็มีภาษาไทยด้วยเช่นกันค่ะ และถึงเราจะไปภูเขาไฟฟูจิมาแล้ว แต่ก็หยิบมาดูเป็นความรู้ซักหน่อย

และที่ร้านจำหน่ายของฝาก「ICHIMARU SUISAN(いちまる水産)」นี้มี “ชิซุโอกะโอเด้ง”「SHIZUOKA ODEN(静岡おでん)」ที่มีทั้ง หัวไชเท้า เอ็นเนื้อวัว เต้าหู้ทอด หรือไข่ ฯลฯ ซึ่งทุกชิ้นอยู่ที่ราคา 150 เยน โดยเอกลักษณ์ของ “ชิซุโอกะโอเด้ง” ก็คือน้ำซุปดำกับซอสมิโซะ ที่รสชาติกำลังพอดี ให้ความหวานเล็กน้อย รสชาติถูกปากคนไทย สามารถทานที่ “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” ที่มีลมพัดแรง ได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิเลยทีเดียว

หลังจากที่ทาน “ชิซุโอกะโอเด้ง” ร้อนๆ เพื่ออบอุ่นร่างกายไปแล้ว เราจะกลับมาที่เส้นทาง「KAMI NO MICHI(神の道)」เพื่อมุ่งหน้าไปที่ “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” กันเลย เดินไปประมาณ 1 นาที เราก็จะได้เจอกับต้นสนต้นใหญ่ “ต้นสนฮาโกโรโมะ”「HAGOROMO NO MATSU」ซึ่งต้นสนต้นนี้ถือว่าเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า “ศาลเจ้ามิโฮะ”「MIHO SHRINE」เป็นจุดสิ้นสุดเส้นทาง KAMI NO MICHI นั่นเอง และถัดจากบริเวณนี้ไปก็คือ “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” ที่แผ่กว้างออกไปกว่า 7km เรียบชายหาดที่มีต้นสนมากกว่า 3 ต้น ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบริมทะเล

และบริเวณด้านข้าง “ต้นสนฮาโกโรโมะ” ก็จะมีศาลเจ้าที่แยกออกมาจากศาลเจ้ามิโฮะกับ “ศาลเจ้าฮากุรุมะ Haguruma Shrine” โดยมีความเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่เทพเจ้านั่งแคร่หามลงมาจากสวรรค์ และลงมายังที่แห่งนี้จนเกิดเป็นศาลเจ้าแห่งนี้ก่อน ไหนๆ ก็ได้มาแล้วก็อย่าลืมสักการะที่นี้ด้วยนะคะ ซึ่งบริเวณมุมหนึ่งของศาลเจ้าจะมีกองหินอยู่มากมาย หากมองผ่านๆ ก็อาจจะเห็นว่าเป็นหินธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าลองสังเกตุดีๆ จะพบว่าจะมีเส้นสีขาวอยู่เป็นเส้น โดยหินนี้ถูกเรียกว่า「HACHIMAKI ISHI(はちまき石)」มีความเชื่อว่าหากพกติดตัวจะช่วยให้พรสมหวัง สามารถนำกลับไป และหากพรสมหวังแล้วก็นำหินกลับมาไว้ที่เดิมที่ศาลเจ้าฮากุรุมะแห่งนี้นั่นเอง ICHIGO-CHAN ก็ขอพรแล้วได้นำหินกลับมาเหมือนกันค่ะ ถ้าพรเป็นจริงเราคงต้องมาที่นี่กันอีกเพื่อมาคืนหินนะคะ

เมื่อผ่านป่าสนไป ก็จะออกมาสู่ชายหาด ก็จะได้ชมวิวคลื่นทะเลสีขาวในอ่าวซุรุงะ พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม แต่……น่าเสียดายที่วันนี้อากาศไม่ดีมีเมฆมาก ทำให้มองไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิเลยซักนิดเดียวเลยค่ะ

หากเป็นวันที่อากาศดีท้องฟ้าแจ่มใสก็สามารถชมวิวที่สวยงามแบบนี้ได้จากเส้นทางเรียบชายฝั่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือนมิถุนายน จะเป็นช่วงที่มีหิมะปกคลุมอยู่บนยอดภูเขาพอดี

ซึ่งสถานที่นี้เป็นฉากที่ผูกพันกับคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ กับวิว “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” และ ภูเขาไฟฟูจิ ที่อยู่ในภาพวาดชุดภาพวาด UKIYOE หรือ อุกิโยเอะ ที่ชื่อว่า「TOKAIDO 53 TSUGI」ชื่อดังตั้งแต่เมื่อ 180 ปีที่แล้วด้วย พอได้อยู่บริเวณ “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” แล้ว ถึงจะไม่ใช่คนที่ชอบการถ่ายรูป ก็ไม่อยากพลาดวิวสวยๆ แบบนี้ไปได้เลยแน่นอนค่ะ

เมื่อเพลิดเพลินไปกับวิวภูเขาไฟฟูจิจากป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ แล้ว เราจะมุ่งหน้าไปที่ “ฮะมะมัตสึ” เพื่อเดินทางไปยังที่พักของเราในคืนนี้กันเลย โดยเราจะเดินทางจาก ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ ไป “ฮะมะมัตสึ” ที่มีของขึ้นชื่ออย่าง「อุนางิพาย」ได้โดยรถบัสไปยังสถานีชิมิสึ และนั่งรถไฟสายโทไคโด TOKAIDO LINE ไปจะสะดวกที่สุด

ก่อนอื่นเราจะเดินกลับไปทาง「KAMI NO MICHI」เพื่อไปที่โทริอิของศาลเจ้ามิโฮะ จากนั้นก็เลี้ยวไปทางซ้ายมือ และเลี้ยวโค้งไปทางขวามือ จากนั้นก็เดินกลับไปจนถึงแยกไฟแดง「MIHONO MATSUBARA IRIGUCHI」ที่ผ่านเมื่อตอนขามา และเลี้ยวไปทางซ้ายมือโดยไม่ต้องข้ามทางม้าลาย ก็จะเจอป้ายบัส「MIHONO MATSUBARA IRIGUCHI」เลย

รถบัสจาก “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” ไปยัง “ชิมิสึ” จะออกทุกๆ 10 นาที และสามารถนั่งไปเพียง 15 นาที ซึ่งรถบัสนี้จะต้องขึ้นรถบัสจากประตูกลาง และลงรถบัสจากประตูหน้า ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อขึ้นรถบัสจะต้องหยิบตั๋วรถบัสจากเครื่องออกตั๋วที่อยู่ข้างประตูทางเข้า เพื่อเช็คราคาค่าโดยสารจากบอร์ดค่าโดยสารที่อยู่ด้านหน้าข้างคนขับ ตามตัวเลขที่อยู่บนตั๋วรถบัส จากนั้นก็นำเงินใส่ไปในเครื่องชำระเงิน(360 เยน)ที่อยู่ข้างคนขับได้ขณะลงรถ แต่ช่วงระยะทางจากป้ายบัส “ป่าสนมิโฮะ โนะ มัตสึบาระ” ไปยัง “ชิมิสึ” นั้นสามารถใช้พาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ในการเดินทางได้ เพราะฉะนั้นสามารถนั่งรสบัสได้เลย และแสดงพาสนี้ให้พนักงานขับรถได้ขณะลงรถเลย

รถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีในการเดินทางมายัง สถานีชิมิสึ ประตูตะวันตก SHIMIZU STATION WEST SIDE ต่อไปเราจะนั่งรถไฟสายโทไคโด TOKAIDO LINE จากสถานีชิมิสึ ไปสถานีฮะมะมัตสึ โดยขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อเข้าไปในอาคารสถานีกันเลย ซึ่งที่สถานีนี้นอกจากจะมีรถไฟสายธรรมดาแล่นอยู่แล้ว ยังมีรถไฟที่ใช้รถไฟด่วนพิเศษวิ่งรอบดึกที่จะจอดเฉพาะสถานีหลักๆ และรถไฟที่สามารถนั่งได้แน่นอนอย่าง「HOME LINER HAMAMATSU」อยู่อีกด้วย

โดยวิ่งวันธรรมดา ออกจากชิมิสึ วิ่ง 2 รอบ คือ 19:01 และ 19:55 ส่วนวันเสาร์ และวันหยุดจะวิ่งออกจากชิมิสึ 1 รอบ ในเวลา 19:01

สำหรับเพื่อนๆ ที่มีพาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วขึ้นรถไฟสำหรับรถไฟสายโทไคโด TOKAIDO LINE ในเส้นทางจากสถานีชิมิสึ ไปสถานีฮะมะมัตสึ แต่สำหรับการนั่งรถไฟ HOME LINER HAMAMATSU นั้นจะเป็นจะต้องซื้อตั๋วขึ้นรถไฟ「JOUSHASEIRIKEN(乗車整理券)」เพิ่ม(320 เยน)ซึ่ง「JOUSHASEIRIKEN(乗車整理券)」นี้สามารถซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ หรือเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว วิธีการซื้อก็ไม่ยาก เพียงกดปุ่ม「LINER KEN(ライナー券)」ที่อยู่ล่างซ้ายหน้าจอ จากนั้นหน้าจอก็จะแสดงตารางเวลารถไฟ(รอบ 19:01「HOME LINER HAMAMATSU #3」หรือ รอบ 19:55「HOME LINER HAMAMATSU #5」)เมื่อเลือกแล้วก็ชำระเงิน(320 เยน)เท่านี้ก็เรียบร้อย สำหรับการซื้อตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋วสามารถชำระได้เฉพาะเงินสดเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากต้องการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตจะต้องซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วโดยตรง

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็เพียงแสดงพาส「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ที่ช่องตรวจตั๋วริมสุดที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่แล้วผ่านไปได้เลย จากนั้นก็ลงบันไดที่อยู่ซ้ายมือไปที่ชานชาลากันเลย เราจะนั่งรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ “ฮะมะมัตสึ” ที่ออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 2 กันค่ะ

ที่นั่งภายในรถไฟ「HOME LINER HAMAMATSU #3」จะเป็นแบบ Reclining Seat เพียงจ่ายเงินเพิ่ม 320 เยนเท่านั้น ก็สามารถนั่งที่นั่งสบายเหมือนได้นั่งรถไฟแบบด่วนพิเศษ นอกจากนี้ยังใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 9 นาที ซึ่งหากเมื่อเทียบกับรถไฟแบบธรรมดาที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 1 ชั่วโมง 25 นาทีแล้วก็ถือว่าสามารถประหยัดเวลาไปด้วยเลยค่ะ ซึ่งบริเวณริมสุดขบวนจะมีที่นั่งแบบมีโต๊ะขนาดใหญ่กั้นกลางที่นั่งได้เป็นกลุ่ม 4 คนอยู่อีกด้วย เหมาะกับการเดินทางเป็นกลุ่มมากๆ

ออกจาก “ชิมิสึ” มา 1 ชั่วโมง 9 นาที ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง “สถานีฮะมะมัตสึ” เป็นที่เรียบร้อย จากนี้เราจะเดินออกจากประตูใต้สถานีฮะมะมัตสึไปเพียง 30 วินาที เพื่อไปที่พักของเราในคืนนี้ที่「HOTEL SORISSO」เพื่อเข้าเช็คอินและไปทานดินเนอร์เป็นอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่ “ข้าวหน้าปลาไหล อุนางิ”

ตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ทานดินเนอร์เมนู “ปลาไหลอุนางิ” และเข้าพักที่โรงแรม「HOTEL SORISSO」ใน “ฮะมะมัตสึ” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ



【ตารางการเดินทาง Day3-4 MIHONO MATSUBARA/HAMAMATSU STATION】

PASS ที่ใช้ TRIP นี้ “Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini”

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶