ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day3-3 ทานโซบะ “อุซุชิโซบะ”「IZUSHI SOBA」ที่ร้านอาหารจุดชมวิวสวนคาซามาสึ「AMA TERRACE」และเยี่ยมชม “วัดนาริไอ”「NARIAIJI」
OSAKA-KYOTO-OSAKA-AMANOHASHIDATE-OSAKA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ชมวิว “อามาโนะฮาชิดาเตะ” ที่เป็นหนึ่งใน「NIHONSANKEI」สามทัศนียภาพที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น จาก “สวนคาซามาสึ KASAMATSU PARK” แล้ว
ต่อไปเราจะไปทานข้าวกลางวันที่「AMA TERRACE」ร้านอาหารจุดชมวิวสวนคาซามาสึ เพื่อทานอาหารขึ้นชื่อของเขตทังโกะที่ตั้งของอามาโนะฮาชิดาเตะกับ “อิซุชิโซบะ”「IZUSHI SOBA」และหากทานเสร็จเราก็จะนั่งบัสจากสวนคาซามาสึไป 10 นาทีเพื่อมุ่งหน้าไปที่วัดเก่าแก่ “วัดนาริไอ”「NARIAIJI」กันค่ะ
วัดนาริไอนี้เราสามารถชม「ซากุระ」และ「ดอกชากุนาเกะ」ได้ในฤดูใบไม้ผลิ และชม「ใบเปลี่ยนสี」ได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และที่อาคารหลักของวัดจะมี「BIJIN KANNON(เทพเจ้าแห่งความสวยงาม)」ให้ได้กราบไหว้ให้กายและใจงดงามไปพร้อมๆ กัน
วันนี้เราจะมารีวิว「AMA TERRACE」และ “วัดนาริไอ”「NARIAIJI」ค่ะ
ที่สวนคาซามาสึนี้มีร้านอาหารที่เป็นจุดชมวิว ซึ่งภายในมีร้านขายของฝากมากมายอยู่ในอาคาร「AMA TERRACE(อามะเทราสุ)」
ที่ชั้นหนึ่ง เป็นส่วนที่มีร้านขนมและอาหารทานเล่น อย่างเช่น ไส้กรอก ยากิโซบะ หรือดังโงะจำหน่ายอยู่ ส่วนใครที่ต้องการทานอาหารแบบร้านอาหารก็ไปที่ชั้น 2 ได้เลย
ภายในร้านจะมีส่วนที่เป็นที่นั่งเคาน์เตอร์ หันหน้าออกนอกหน้าต่างเพื่อชมวิว และส่วนอื่นๆ จะเป็นที่นั่งแบบ 4 คนและ 6 คน ที่นั่งที่นี่มีเยอะพอสมควรเลย สามารถรองรับแขกที่มากันเป็นกลุ่มได้สบายเลย
ที่ร้านอาหารนี้ มีเมนูต่างๆ มากมาย ทั้งอาหารที่ใช้ปลาจากทะเลญี่ปุ่นฝั่งอามาโนะฮาชิดาเตะอย่าง「HONJITSU NO OMAKASE KAISENDON」( เมนูข้าวหน้าปลาดิบรวม)(1280 เยน)หรือ อาหารขึ้นชื่อของเขตทังโกะที่ตั้งของอามาโนะฮาชิดาเตะ “อุซุชิโซบะ”「IZUSHI SOBA」(1100 เยน)และเมนูปลา「ปลาซาร์ดีน」ในเมนูพาสต้า「OIL SARDINE PASTA」(1100 เยน)เป็นต้น
ส่วน ICHIGO-CHAN สั่ง “อิซุชิโซบะ”「IZUSHI SOBA」(1100 เยน)มาค่ะ
“อุซุชิโซบะ” เป็นโซบะที่เริ่มเข้ามาเมื่อ 300 กว่าปีก่อนสมัยเอโดะ โดยซามูไรได้พาคนทำโซบะจาก ชินาโนะ(นางาโนะ) มาในพื้นที่นี้ที่ทังโกะ จนแพร่หลายมายาวนานจนเป็นอาหารประจำพื้นที่นี้ ซึ่งถ้าเป็นโซบะทั่วไปอย่างที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีที่ไทย「โอโตยะ」「ฟูจิ」หรือ「โออิชิ」ก็จะเสิร์ฟโซบะมาในจานเดียว แต่โซบะของที่นี่จะแบ่งโซบะออกเป็นหลายๆ จานเล็กๆ ซึ่งในแต่ละจานเล็กๆ ก็จะมีปริมาณโซบะแค่หนึ่งถึงสองคำเท่านั้น ทำให้ปกติจะถูกเสิร์ฟมาทีละ 5-7 จานเลยค่ะ แต่เราสามารถสั่งเป็นแบบจานเดียวเลยก็ได้นะคะ
วิธีทานอิซุชิโซบะ คือ ก่อนอื่นจานที่ 1、2 เราจะทานเส้นโซบะกับซอสแบบเพียวๆ โดยไม่ใส่ผักหรืออะไรเลย หลังจากนั้นก็ค่อยใส่ต้นหอมหรือซาหร่ายลงไปค่ะ แล้วที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การใส่วาซาบิ และสุดท้ายก็ใส่มันเทศญี่ปุ่นขูด และไข่ลงไปเลยค่ะ ลองหลายๆ แบบ เพื่อเพลิดเพลินกับรสชาติโซบะได้ถึง 3 แบบเลย
ถ้าใครติดใจ อิซุชิโซบะ ก็สามารถไปซื้อเส้นโซบะพร้อมซอส「เซ็ตอิซุชิโซบะ」(สำหรับ 2 คน 650 เยน)ได้ที่ชั้น 1F เลยค่ะ วิธีทำก็ไม่ยากเลยค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องต้มเส้นประมาณ 2 นาที (สำหรับเส้นสด) จากนั้นก็เทน้ำออกนำเส้นไปล้างน้ำให้เส้นเย็น เท่านี้เราก็สามารถเพลิดเพลินกับ “อิซุชิโซบะ” 「IZUSHI SOBA」ได้ที่ไทยแบบง่ายๆ เลยค่ะ
เมื่อทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เราจะนั่งบัสออกจากสวนคาซามาสึ ไป 200m เพื่อขึ้นเขาไปชมวัดเก่าแก่ “วัดนาริไอ”「NARIAIJI」กันค่ะ หรือเราสามารถเดินขึ้นไปที่วัดนาริไอก็ได้ค่ะ ใช้เวลา 40 นาที ส่วนที่ขึ้นรถบัสก็อยู่ข้างๆ ด้านขวา「AMA TERRACE」เลยค่ะ (ไปกลับ 1100 เยน)
เราไปเที่ยววัดนาริไอ และบริเวณรอบๆ อามาโนะฮาชิดาเตะกันเลยค่ะ
เราไป “วัดนาริไอ”「NARIAIJI」กันเลยค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องออกจาก「AMA TERRACE」ของสวนคาซามาสึไปทางขวา ก็จะเจอจุดขึ้นรถบัสที่อยู่หน้าจุดขึ้นเคเบิลคาร์และลิฟต์เก้าอี้เลยค่ะ เราสามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์ข้างป้ายรถบัสเลย ตั๋วจากสวนคาซามาสึ ไป วัดนาริไอ ไปกลับราคา 1100 เยน ราคานี้จะรวมค่าเข้าชมวัดนาริไอ(400 เยน)ด้วยค่ะ
ซึ่งถ้ามี「AMANOHASHIDATE MARUGOTO FREE PASS」ก็จ่ายแค่ค่าเข้าชมเท่านั้นค่ะ(400 เยน)แสดงบัตรพร้อมๆ กับโบชัวร์ที่ได้แล้วขึ้นบัสได้เลยค่ะ
บัสจะวิ่งทุกๆ 20 นาที ในนาทีที่ 00・20・40 ของแต่ละชั่วโมง(อาจมีการเปลี่ยนแปลงในวันหยุดและช่วงไฮซีซั่น)
จากสวนคาซามาสึ ไป วัดนาริไอจะใช้เวลาเดินทาง 10 นาที เนื่องจากทางที่ไปวัดนาริไอจะเป็นถนนแคบๆ ดังนั้นบัสที่เรานั่งขึ้นไปจะเป็นบัสขนาดเล็ก แนะนำว่าให้นั่งทางฝั่งขวานะคะ เพราะว่าเราจะได้เห็นวิวอ่าวสวยๆ และดอกไม้นานาชนิดทั้ง ดอกวีสเตียเรีย ซากุระ หรือใบไม้เปลี่ยนสีได้ในช่วงต่างๆ
นั่งไปประมาณ 10 นาทีเราก็มาถึงทางเข้า『NARIAIJI(วัดนาริไอ)』แล้วค่ะ
และมองขึ้นไปข้างบนบันไดชันก็จะเห็นต้นไม้นานาชนิดที่มีอายุมากกว่า 100 ปี เรียงกันอยู่สองข้างทาง ระหว่างทางก็จะมีดอก「SHAKUNAGE」กำลังบานสวยอยู่เลย ถึงบันไดจะชันแต่ถ้าได้เดินท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ก็คงไม่เหนื่อยขนาดนั้นนะคะ
ที่วัดนาริไอนี้เราจะสามารถชมดอกไม้ได้ในช่วงต่างๆ เริ่มจากช่วงต้นเดือนเมษายนไปจนถึงช่วงสงกรานต์นั้นจะเป็นช่วงของดอกซากุระ ส่วนช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมจะเป็นดอกชากุนาเกะ SHAKUNAGE ตามภาพ และในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฏาคมเป็นดอกอาจิไซ หรือดอกไฮเดรนเยีย และในช่วงท้ายปีอย่างต้นเดือนพฤษจิกายนไปจนถึงกลางเดือนจะสามารถเพลิดเพลินไปกับใบไม้เปลี่ยนสี เป็นต้น
แต่ปีนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคมญี่ปุ่นจะมีสภาพอากาศที่อบอุ่นติดต่อกัน ทำให้ดอกไม้ส่วนใหญ่ที่สวนคาซามาสึ เริ่มจะหมดลงแล้ว แต่เรายังสามารถชมดอกชากุนาเกะ SHAKUNAGE สีม่วงหรือชมพูสวยๆ ได้ที่นี่เนื่องจากวัดนาริไอนี้จะอยู่ในพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ดอกนี้ไม่มีที่ไทยด้วยนะคะ
และเมื่อเราขึ้นบันไดไปซักพักก็จะเห็น「HITOKOTONOJIZOU」อยู่ทางซ้ายมือ เป็น โอะจิโซซัง (พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ เทพเจ้าปกป้องเด็กและการคลอดลูก) ที่ประดิษฐาน ณ ที่แห่งนี้มายาวนานกว่า 620 ปี หน้าท่านเรียบเนียนเลย คงเป็นเพราะลมฝน และนักท่องเที่ยวที่มาลูบหน้าท่านแน่ๆ เลยค่ะ ที่「HITOKOTONOJIZOU」เชื่อกันว่า ถ้าขออะไรแล้วก็จะสมหวัง ทำให้มีผู้คนมากราบไหว้สักการะมากมายจากทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ
บริเวณรอบๆ「HITOKOTONOJIZOU」นี้ก็จะมีดอกชิบาซากุระกำลังบานสวยอยู่เลย ที่นี่เราสามารถชมดอกชิบะซากุระได้ช้ากว่าโตเกียวหรือโอซาก้าไป 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือนเลย
และเมื่อขึ้นจาก「HITOKOTONOJIZOU」มาอีกเล็กน้อยเราก็จะมาถึงอาคารหลักของวัด ก่อนอื่นก็ต้องไปชำระล้างร่างกาย ด้วยการล้างมือล้างปากกันก่อนค่ะ ที่ล้างมือของที่นี่น้ำจะออกมาจากปาก「มังกร」ด้วยค่ะ ซึ่งที่ล้างมือของวัดนี้ถูกเรียกว่า「TETSU UBUNE」(อ่างเหล็กแช่น้ำร้อนขนาดใหญ่) ที่เดิมทีเคยถูกใช้เป็นที่อาบน้ำของวัดด้วยนั่นเอง
และเมื่อเดินผ่าน TETSU UBUNE (อ่างเหล็กแช่น้ำร้อนขนาดใหญ่) มาก็จะมี จิโซเก่าๆ และสุสานอยู่เต็มไปหมด บริเวณรอบๆ จะเป็นป่าทึบล้อมรอบๆ สุสาน เหมือนอยู่ในแดนพิศวงเลย
และข้างๆ สุสานก็จะมีที่แขวนไม้เอมะเพื่อเขียนขอพร ที่มีเอมะลายอนิเมะแขวนอยู่ด้วย ให้ความรู้สึกต่างกับสุสานเมื่อกี้เลย
เมื่อชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปสักการะส่วนอาคารหลักของวัดกันเลย ด้านหน้าอาคารหลักของวัดจะมีกงล้ออธิษฐานตั้งอยู่ ซึ่งมีความเชื่อว่าการหมุนหนึ่งรอบจะเท่ากับการอ่านพระสูตรหนึ่งรอบเลย
ต่อไปเราเข้าไปที่อาคารวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถูกสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2317
เมื่อเข้ามาที่ตัววัดแล้วก็จะเห็นธูปและเทียนไขวางอยู่ด้านหน้า เราสามารถนำมาไหว้พระได้เพียง 50 เยน เมื่อจุดธูปแล้วก็สามารถนำไปปักไว้ที่กระถางธูปได้เลย และภายในวัดหลักจะมี身代わり観音MIGAWARI KANNON หรือ美人観音BIJINKANNON ที่เป็น「SHOUKANZE ONBOSATSU」ประดิษฐานอยู่ กราบไหว้ให้สวยทั้งร่างกายและจิตใจเลยค่ะ เราสามารถเข้าไปด้านในวัดได้ค่ะ แต่ห้ามถ่ายรูปนะคะ
ตัวอาคารหลักของวัดนาริไอถูกสร้างขึ้นมาแล้วเกือบ 250 ปี ภายในอาคารแห่งนี้จะมีโคมไฟห้อยลงมาจากเพดานจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อส่องแสงไฟสลัวๆ ภายในวัด ดูขลังและศักดิ์สิทธิ์มากๆ ซึ่งด้านในอาคารวัดจะเป็นส่วนที่ห้ามถ่ายรูป เราสามารถถ่ายได้เฉพาะบริเวณกระถางธูปและบริเวณด้านหน้าเท่านั้นค่ะ
ที่วัดนาริไอนี้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศโดยรอบได้ทุกฤดูเลยตั้งแต่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ความจริงแล้วก็ยังอยากเดินดูรอบๆ อยู่แต่ได้เวลาไปที่ต่อไปที่ “ศาลเจ้าโมโตอิเสะโคโนะ”「MOTOISEKONO JINJA」 กันแล้วค่ะ เราจะลงจากวัดนาริไอที่อยู่บนภูเขานี้ไปที่ตีนเขาด้วยบัสและลิฟต์เก้าอี้เหมือนตอนขามาค่ะ
ครั้งต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ลงลิฟต์เก้าอี้เพื่อชมวิวที่งดงามของอามาโนะฮาชิดาเตะ และไปที่ “ศาลเจ้าโมโตอิเสะโคโนะ” กันค่ะ
【ตารางการเดินทาง Day3-3 NARIAJI TENPLE】