Day3-3 ชมศาลเจ้าคุมาโนะ ฮอนงู「KUMANO HONGU TAISHA」และเดินทางไปยังโทบะ TOBA

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-3 ชมศาลเจ้าคุมาโนะ ฮอนงู「KUMANO HONGU TAISHA」และเดินทางไปยังโทบะ TOBA

Wakayama-Shirahama-NachiKatsuura-Shingu-Toba-Ise-Nagoya

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ชมบรรยากาศการประมูลปลามากุโระที่ท่าเรือประมงคาสึอุระแล้ว เราได้นั่งรถไฟและรถบัสจากคาสึอุระ มาที่ศาลเจ้าคุมาโนะ ฮอนงู「KUMANO HONGU TAISHA」แล้วค่ะ

ศาลเจ้าคุมาโนะ ฮอนงู เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 2050 ปี  เป็นหนึ่งใน KUMANO SANSHA เทียบเคียงกับ “ศาลเจ้าคุมาโนะนะชิ”「KUMANO NACHI TAISHA」และ “ศาลเจ้าคุมาโนะ ฮายาทามะ”「KUMANO HAYATAMA TAISHA」

ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมศาลเจ้าคุมาโนะ ฮอนงู และเดินทางไปยังโทบะ TOBA เพื่อไปที่พักคืนนี้ที่ 「Sun Urashima Yuki no Sato」กันค่ะ

เมื่อลงรถบัสที่ป้ายศาลเจ้าฮอนงูแล้ว ก็เดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเดินไปตามทางเดินเข้าศาลเจ้าที่มีต้นไม้หนาแน่น ระหว่างทางเดินจะมีธงจำนวนมากปักเรียงกันอยู่เพื่อต้อนรับผู้ที่มาเยือนศาลเจ้า『KUMANO HONGU TAISHA』

ซึ่งโทริอิของศาลเจ้าคุมาโนะฮอนงูนี้ถือว่าเป็นประตูที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และโลกแห่งเทพเจ้า เพราะฉะนั้นก่อนเดินผ่านเข้าโทริอิ ให้ก้มหัวเล็กน้อยก่อนเข้านะคะ

เดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ ก็จะเป็นทางขึ้นบันไดกว่า 158 ขั้น การจะเดินขึ้นบันไดกว่า 158 ขั้นในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ก็คงเป็นเรื่องที่ลำบากพอสมควรเลย แต่พอได้ยินเสียงลมที่กระทบกับธงและกระดิ่งแล้ว ก็ให้ความรู้สึกสบายลืมความร้อนและความเหนื่อยไปได้เลยค่ะ และเมื่อขึ้นบันไดไปจนสุดแล้ว ก็จะเจอกับที่ล้างมือ เพื่อล้างมือล้างปากให้บริสุทธิ์ โดยวิธีการชำระล้างร่างกายคือ ก่อนอื่นจะต้องถือกระบวยด้วยมือขวา ตักน้ำเพื่อล้างมือซ้าย จากนั้นเปลี่ยนมือถือกระบวยเป็นมือซ้าย เพื่อล้างมือขวา หลังจากนั้นเปลี่ยนกระบวยไปถือมือขวา และเทน้ำลงบนมือซ้าย เมื่อบ้วนปาก ขณะบ้วนปากห้ามนำกระบวยมาโดนปากโดยตรงนะคะ เมื่อล้างปากเรียบร้อยแล้วก็ตั้งกระบวยขึ้นเพื่อล้างกระบวยและที่จับด้วยน้ำที่เหลือ เท่านี้ก็เรียบร้อย

บริเวณใกล้เคียงที่ชำระล้างร่างกายจะมีสำนักงานจำหน่ายเครื่องรางของขลัง และเซียมซีอยู่ แต่เราจะไปกราบไหว้ที่ศาลเจ้ากันก่อนเลย โดยผ่านประตูใหญ่เข้าไปและตรงไปที่อาคารศาลเจ้าหลักเลย ซึ่งที่ประตูใหญ่นี้จะมีป้ายรูปสุนัขขนาดใหญ่ประดับเอาไว้อยู่ เป็นป้ายเอมะขนาดใหญ่ “โอเอมะ”「OEMA」ซึ่งป้ายเอมะยักษ์นี้จะเป็นการแสดงปีนักษัตรของปีนั้นๆ ซึ่งปีนี้เป็นปีจอเพราะฉะนั้นจึงเป็นรูปสุนัขค่ะ และจะมีการเปลี่ยนป้ายในช่วงต้นเดือนธันวาคมเพื่อบอกปีนักษัตรของปีต่อไปค่ะ

เมื่อผ่านประตูใหญ่มาแล้ว ก็จะเข้ามาสู่อาคารศาลเจ้าหลัก ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ตึกคือ วาคามิยะ  WAKAMIYA 若宮・โชโจเด็น SHOUJOUDEN 証誠殿・มูซูบิโนะมิยะ MUSUBINOMIYA 結宮 ส่วน วาคามิยะ  WAKAMIYA・โชโจเด็น SHOUJOUDEN จะมีอย่างละตึก แต่ มูซูบิโนะมิยะ MUSUBINOMIYA จะมี 2 ส่วน วิธีการสักการะก็คือ โชโจเด็น SHOUJOUDEN(อาคารหลัก)⇒ มูซูบิโนะมิยะ MUSUBINOMIYA(NAKAGOZE)⇒ มูซูบิโนะมิยะ MUSUBINOMIYA (NISHIGOZE)⇒ วาคามิยะ  WAKAMIYA ตามลำดับเลยค่ะ

เมื่อกราบไหว้สักการะศาลเจ้าหลักแล้ว ต่อไปก็ลองหาตู้ไปรษณีย์ยาตะ ที่มีรูปปั้นนกยาตาคาราสุดูนะคะ โดยหันหน้าออกจากประตูใหญ่เพื่อเข้าไปที่อาคารศาลเจ้าหลัก และไปทางด้านขวามือ หากส่งจดหมายจากตู้นี้ก็จะได้รับตราประทับเฉพาะของที่นี่จากสำนักงานที่จำหน่ายเครื่องรางของขลังเลยค่ะ แน่นอนว่าสามารถส่งไปที่ประเทศไทยได้ด้วย ยังไงก็ลองส่งจดหมายไปที่บ้าน หรือส่งไปให้เพื่อนๆ เป็นที่ระลึกดูนะคะ

และที่ด้านข้างตู้ไปรษณีย์ยาตะนี้จะมีสำนักงานที่จำหน่ายเครื่องรางของขลังอยู่ มีทั้งเครื่องรางรูปนกยาตะคาราสุที่เป็นนกแห่งการแข่งขัน หรือเครื่องรางชนิดต่างๆ ทั้งเครื่องรางการเรียน เครื่องรางสุขภาพ หรือเครื่องรางค้าขาย ต่างๆ มากมาย(500 เยน-2000 เยน)และเครื่องรางแปลกๆ อย่าง “เครื่องรางหอย”(500 เยน)เป็นเครื่องรางความรักที่ถือว่าหอยสามารถเป็นหนึ่งเดียวกับหอยเท่านั้นนั่นเอง ICHIGO-CHAN ก็ไม่พลาด นำกลับบ้านไปเหมือนกันค่ะ

นอกจากนี้ยังมีเครื่องราง “การแข่งขัน” ที่มีลายนกยาตะคาราสุอยู่กับเครื่องราง「HONGU KACHIMAMORI」(800 เยน)และเครื่องรางปีนักษัตร(500 เยน)นอกจากนี้ยังมีเซียมซีนกยาตะคาราสุน่ารักๆ อีกด้วย(500 เยน)

เมื่อกราบไหว้อาคารศาลเจ้าหลักเรียบร้อยแล้ว ต่แไปเราจะไปที่ “ศาลเจ้าอุบุตะ”「UBUTASHA」และ “โอยุโนะฮาระ”「OYUNOHARA」กันค่ะ โดยเราจะเดินไปกลับไปตามทางเดิมมาศาลเจ้าเพื่อเดินไปทางเดินป้ายรถบัส เมื่อออกมาสู่ถนนแล้วก็เลี้ยวเยื้องไปทางขวา ข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อเข้าตรอกซอยเล็กๆ จนเจอทางแยกเป็นซ้ายและขวา ให้เลี้ยวไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอ “ศาลเจ้าอุบุตะ”ค่ะ

และนี่ก็คือ “ศาลเจ้าอุบุตะ” เป็นศาลเจ้าที่บูชามารดาของเทพเจ้า SUSANOO NOMIKOTO(スサノオノミコト)หนึ่งในเทพเจ้าผู้สร้างญี่ปุ่น และบูชาวิญญาณของ IZANAMI NOMIKOTO(イザナミノミコト) ด้วยความที่ศาลเจ้านี้เป็นศาลเจ้าที่บูชามารดาของเทพเจ้า เพราะฉะนั้นที่นี่จึงมีพลังเรื่องการมีบุตร หรือการคลอดบุตร และยังมีพลังในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เมื่อได้มาเยือนที่ “ศาลเจ้าอุบุตะ” แล้วก็สามารถบูชา “อุบุมาโมริ”「UBUMAMORI」(1000 เยน)ที่สำนักงานศาลเจ้าฮอนงูได้ มีพลังเรื่องการมีบุตรและการคลอดลูกนั่นเองค่ะ

เมื่อหันหลังออกจาก “ศาลเจ้าอุบุตะ” และก็จะเจอกับ “โอยุโนะฮาระ”「OYUNOHARA」ที่เคยเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าคุมาโนะฮอนงู ซึ่งก่อนมีภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่เมื่อ 130 ปีที่แล้ว ศาลเจ้าคุมาโนะฮอนงูเคยตั้งอยู่ที่ “โอยุโนะฮาระ” แห่งนี้มาก่อน

ออกจาก “ศาลเจ้าอุบุตะ” ไปทางขวามือ ไปจนสุดทางและเลี้ยวซ้าย เดินไปตามทางที่รายล้อมด้วยทุ่งนาสีเขียวชอุ่มทั้งสองข้างทางก็จะเจอกับ “โอยุโนะฮาระ” เลย

เมื่อผ่านโทริอิมาแล้ว ก็จะเจอกับที่ชำระล้างร่างกาย และทางเดินต้นสน ที่มีที่บูชาศาลหินเล็กๆ ตั้งอยู่ ที่นี่ก็คือจุดที่เคยเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าคุมาโนะฮอนงูนั่นเอง บรรยากาศรอบๆ ดูเงียบสงบและดูศักดิ์สิทธิ์มากๆ เลยค่ะ และเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิในช่วงกลางเดือนเมษายน ที่พอดีกับช่วงสงกรานต์ดอกซากุระก็จะบานเต็มบริเวณนี้สวยงามมากๆ เลยค่ะ

หลังจากที่ได้เยี่ยมชมศาลเจ้าคุมาโนะฮอนงูแล้ว เราจะนั่งบัสกลับไปที่สถานีชินกุกันค่ะ จากนั้นเราก็จะนั่งรถไฟเพื่อมุ่งหน้าไป “โทบะ” และเข้าที่พัก「Sun Urashima Yuki no Sato」เลยค่ะ ซึ่งบัสจะวิ่ง 1-2 ชั่วโมงต่อ 1 รอบ เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลารอรถบัสเหลือเฟือก็สามารถนั่งรอได้ที่ร้านกาแฟบริเวณใกล้เคียงได้ ซึ่งร้านที่ ICHIGO-CHAN แวะวันนี้เป็นร้านที่ชื่อว่า「KITCHEN OSHOKUJI」

บรรยากาศภายในร้านดูสบายตา มีทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ และที่นั่งแบบโต๊ะแบบ 4 ที่นั่ง อาจไม่ใช่ร้านที่ใหญ่มากนัก แต่ก็สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 20 คนแบบสบายๆ เลยค่ะ

เมนูภายในร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งข้าวหน้าแกงกะหรี่เนื้อ กุ้งพิลาฟ ข้าวผัด ยากิโซบะ หรือ อุดง(แต่ละอย่างราคา 650 เยน)ซึ่งครั้งนี้เราได้สั่งหนึ่งเมนูที่สะดุดตาก็คือ “เมฮาริซูชิ”「MEHARIZUSHI」(650 เยน)เป็นอาหารท้องถิ่นบนดอยของพื้นที่คุมาโนะ วาคายาม่า และนารา ที่นำข้าวปั้นโอนิกิริมาห่อผักใบเขียวดอง ตอนแรก ICHIGO-CHAN ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า  “เมฮาริซูชิ”「MEHARIZUSHI」นี้คืออะไร แต่พอได้ลองทานแล้วก็รู้สึกว่าเลือกถูกมากๆ รสชาติจะเผ็ดเล็กน้อย โดยรวมแล้วรสชาติเข้ากันและอร่อยมากๆ เลยค่ะ

เราจะเดินทางกลับสถานีชินกุ จากศาลเจ้าฮอนงูด้วยรถบัสกันค่ะ

ซึ่งขากลับเราก็สามารถใช้「ISE・KUMANO・WAKAYAMA AREA TOURIST PASS」ขึ้นบัสได้เช่นกัน(※ใช้ได้เฉพาะบริษัทรถบัสคุมาโนะ KUMANO KOTSU เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับรถบัสบริษัทอื่น)

ขึ้นรถบัสจากประตูด้านหลัง และรับตั๋วรถบัสจากเครื่องด้านข้างทางเข้า

สำหรับคนที่มี「ISE・KUMANO・WAKAYAMA AREA TOURIST PASS」สามารถขึ้นไปได้เลย

และแสดงบัตรให้เจ้าหน้าที่ดูก่อนลงรถเท่านั้น

ในกรณีที่ไม่มีสามารถเช็คราคาตั๋วรถบัสได้จากจอมอนิเตอร์ที่อยู่ข้างคนขับ

ดูราคาตามตัวเลขที่แสดงอยู่บนตัวเลย

และทำการชำระเงินขณะลงรถที่ช่องชำระเงินข้างคนขับตามจำนวน ซึ่งเครื่องนี้จะไม่มีระบบทอนเงิน

เพราะฉะนั้นหากใครไม่มีเหรียญก็สามารถแลกได้ที่เครื่องแลกเหรียญข้างคนขับเลย

ค่าเดินทางจาก หน้าศาลเจ้าฮอนงู ไป สถานีชินกุ จะอยู่ที่ 1540 เยน

รถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณ​ 1 ชั่วโมง ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงสถานีชินกุเรียบร้อยแล้วค่ะ ภายในสถานีจะมีจุดจำหน่ายตั๋ว และร้านขายของเล็กๆ อยู่

「ISE・KUMANO・WAKAYAMA AREA TOURIST PASS」สามารถใช้นั่งรถไฟแบบที่นั่ง Reserved Seat ได้จำนวน 4 ครั้งในช่วงเวลาที่กำหนด และสามารถจองแบบ Reserved Seat ได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วที่อยู่ภายในสถานี ซึ่งหลังจากนี้เราจะนั่งรถไฟ「WIDE VIEW NANKI」เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ถ้าได้นั่งที่นั่งแบบ Reserved Seat ก็จะได้นั่งแบบสบายใจหายห่วงเลย

ส่วนใครที่ไม่มี「ISE・KUMANO・WAKAYAMA AREA TOURIST PASS」ก็สามารถซื้อตั๋วได้ตามปกติที่จุดจำหน่ายตั๋วเลยค่ะ

เมื่อใกล้ถึงเวลารถไฟออกตัว ช่องตรวจตั๋วก็จะเปิดค่ะ เมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วเข้าไปแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ จากนั้นเดินลงไปใต้ดินจากทางซ้ายมือ เพื่อไปที่ชานชาลาหมายเลข 3 ที่อยู่อีกฝั่ง

ซักพักรถไฟด่วนพิเศษ WIDE VIEW NANKI ที่มีสถานีปลายทางไปนาโกย่าก็เข้ามาจอดภายในชานชาลา เราจะนั่งรถไฟ WIDE VIEW NANKI นี้ไปที่สถานีทากิ TAKI เพื่อเปลี่ยนรถไฟและมุ่งหน้าไปสู่สถานีโทบะ โดยจากสถานีทากิ เราจะนั่งJR SANGUU LINE เพื่อไปที่สถานีโทบะค่ะ

รถไฟ WIDE VIEW NANKI จะวิ่งวันละ 4 เที่ยว รถไฟที่ออกจากสถานีชินกุนั้นเมื่อผ่านรอบ 12:44 ไปแล้วก็จะไม่มีรอบรถไฟไปจนถึงเวลา 17:30 เลย และหากพลาดรอบ 17:30 หลังจากนี้ก็จะไม่มีรอบรถไฟแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นต้องเช็คเวลาให้ดีพลาดไม่ได้เลยนะคะ

หากได้นั่งรถไฟด่วนพิเศษ WIDE VIEW NANKI แนะนำให้นั่งโบกี้ที่ 1 ค่ะ เพราะว่าเพื่อนๆ จะได้ชมวิวระหว่างนั่งรถไฟไม่เฉพาะด้านซ้ายและขวาเท่านั้น แต่จะได้ชมวิวจากด้านหน้าอีกด้วย ได้บรรยากาศสุดๆ ไปเลยค่ะ

และยิ่งไปกว่านั้นที่นั่งของรถไฟ WIDE VIEW NANKI ยังเป็นที่นั่งที่สามารถหมุนฝั่งที่นั่งได้ โดยการเหยียบแป้นที่อยู่ใต้พนักที่นั่งทางฝั่งทางเดิน และหมุนพนักที่นั่งเท่านั้น ยิ่งเมื่อมากันเป็นกลุ่มแล้วถ้าได้นั่งหันหน้าคุยกันระหว่างทางก็เป็นเรื่องที่ดีเลยใช่ไหมคะ

หากเราได้ท่องเที่ยวรอบคาบสมุทรคิอิแบบทวนเข้มนาฬิกาแบบนี้แนะนำให้นั่งรถไฟทางฝั่งด้านขวาค่ะ เพราะว่าเพื่อนๆ จะได้เห็นวิวทะเลคุมาโนะที่สวยงามมากๆ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยระหว่างการเดินทางก็คือ อาหารว่าง แนะนำว่าให้ซื้อาหารว่างและเครื่องดื่มเอาไว้ก่อนขึ้นรถไฟเลย จะได้ทานของว่างอร่อยๆ ไปพร้อมๆ กับการชมวิวสวยๆ ระหว่างการเดินทาง เช่นมีแซนวิสและกาแฟซักนิด ก็ยิ่งเพิ่มความสนุกเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทริปได้เลยค่ะ

ออกจากสถานีชินกุมาประมาณ 2 ชั่วโมง(มุ่งหน้าไปสู่โทบะ)ตอนนี้เราก็มาถึงสถานีที่เชื่อมต่อกับสายซันกุ ที่สถานีทากิ แล้วค่ะ และรถไฟ WIDE VIEW NANKI ที่เรานั่งมาก็จะมาจอดที่ชานชาลาหมายเลข 2 โดยเราจะต้องเดินไปตามทางภายในชานชาลาเพื่อขึ้นบันไดไป ข้ามสะพานเชื่อมชานชาลา และไปชานชาลาอีกฝั่งเพื่อไปที่ชานชาลารถไฟสายซันกุ

ซึ่งเราจะมีเวลาเปลี่ยนรถไฟจาก WIDE VIEW NANKI เป็นรถไฟด่วนมิเอะ ที่มุ่งหน้าไปสู่โทบะ เป็นเวลา 12 นาที เพราะฉะนั้นมีเวลาเปลี่ยนรถไฟได้สบายเลยค่ะ

รถไฟด่วนมิเอะ ที่จะมุ่งหน้าไปสถานีโทบะ จะวิ่งผ่านสถานีอิเสะชิ ที่อยู่ใกล้ศาลเจ้าอิเสะ เป็นเวลาประมาณ 30 นาที เพื่อเดินทางมาสู่ “โทบะ” ระหว่างทางเราสามารถชมวิวอ่าวที่สวยงามได้จากฝั่งซ้ายมือ แปปเดียวเท่านั้นก็ถึงที่หมายเลยค่ะ

เราจะมุ่งหน้าไปที่พักในคืนนี้ที่「Sun Urashima Yuki no Sato」กันด้วยรถบัส โดยสามารถไปที่จุดขึ้นรถบัสได้ดังนี้

  • เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วสถานีแล้ว ขึ้นบันไดที่อยู่ขวามือ เพื่อไปที่ JR MEITENGAI(名店街)
  • เมื่อเข้ามาสู่ JR MEITENGAI(名店街) แล้วก็ไปทางขวามือ เดินไปจนสุดทางและเลี้ยวซ้าย
  • จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ
  • ไปจนสุดทางและขึ้นบันไดที่อยู่ขวามือ เพื่อลงไปทางประตูทางออกหมายเลข 1

เมื่อลงบันไดมาแล้วก็จะเป็นที่ขึ้นรถบัสเลย เป็นจุดจอดรถบัสของโรงแรมบริเวณโทบะหลายๆ โรงแรม ซึ่งโรงแรม「Sun Urashima Yuki no Sato」สามารถนั่งจากจุดนี้ไป 20 นาที เป็นโรงแรมที่สามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารแสนอร่อย ออนเซ็นธรรมชาติ และวิวอ่าวที่สวยงาม แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วค่ะ

ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปพักที่โรงแรม「Sun Urashima Yuki no Sato」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day3-3 KUMANO-HONGU-TAISHA SHRINE】

Sponsored by Central Japan Railway Company

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶