เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day3-2 เที่ยวชมสวนญี่ปุ่นชื่อดัง “สวนเค็นโรคุเอ็น”「KENROKUEN」ในคานาซาว่า
NAGOYA-TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-KANAZAWA-KYOTO-OSAKA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินทางมายังเมืองหลวงเก่า “คานาซาว่า” ติดทะเลญี่ปุ่น เพลิดเพลินกับ “ตลาดโอมิโจ”「OMICHO ICHIBA(近江町市場)」ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานเกือบ 300 ปี ได้ทั้งเดินชมบรรยากาศและทานอาหารทานเล่น พร้อมทานอาหารเช้าเป็นข้าวหน้าปลาดิบสุดอลังการไปแล้ว ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาที่สถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของคานาซาว่าที่ “สวนเค็นโรคุเอ็น”「KENROKUEN(兼六園)」เรียบร้อยแล้วค่ะ
Day3-1 ทานข้าวหน้าปลาดิบโรยทองคำเปลวที่ “ตลาดโอมิโจ”「OMICHO ICHIBA(近江町市場)」ในคานาซาว่า
โดย “สวนเค็นโรคุเอ็น”「KENROKUEN(兼六園)」นี้เป็นสวนที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ.2219 ที่ถือเป็นหนึ่งในสามสุดยอดสวนในญี่ปุ่น มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมสวนเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่สามารถเพลิดเพลินกับสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลืองสวยงาม
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass」ในตอนที่ 9 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมความสวยงามของ “สวนเค็นโรคุเอ็น”「KENROKUEN(兼六園)」ที่โด่งดังกันค่ะ
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เพลิดเพลินกับอาหารทะเลที่สดใหม่ และทานข้าวหน้าปลาดิบเป็นอาหารเช้าแล้ว สถานที่ต่อไปของวันนี้ก็คือ หนึ่งในสามสุดยอดสวนในญี่ปุ่น “สวนเค็นโรคุเอ็น”「KENROKUEN(兼六園)」ถึงแม้ว่าเพื่อนๆ สามารถเดินเท้าจากตลาดโอมิโจ ไป “สวนเค็นโรคุเอ็น” ได้แต่ก็ต้องใช้เวลานานถึง 15-20 นาที ซึ่งหากเป็นการเดินทางด้วยรถบัสประจำทางภายในเมืองจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีเท่านั้น
ซึ่งครั้งนี้เรามี『HOKUTETSU BUS ONE DAY PASS』ที่สามารถนั่งรถบัสท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในคานาซาว่าได้ไม่อั้น ราคา 500 เยน เราจะใช้พาสนี้ในการเดินทางกันค่ะ
ซึ่งรถบัสส่วนมใหญ่ที่วิ่งอยู่ในเมืองคานาซาว่าจะเป็รถบัสที่ขึ้นจากประตูด้านหลัง และลงจากประตูด้านหน้า เมื่อขึ้นรถบัสจากประตูหลังมาแล้ว ก็จะต้องหยิบตั๋วรถบัสจากเครื่องสีส้มที่อยู่ข้างๆ ประตูทางเข้า และเมื่อต้องการลงจากรถบัส ก็สามารถเช็คราคาได้จากบอร์ดแสดงค่าเดินทางรถบัสที่อยู่ด้านหน้า ข้างคนขับได้เลย ตามช่องตัวเลขที่อยู่ตามตั๋วรถบัสที่หยิบมาตอนขึ้นรถ และเตรียมเหรียญให้ครบถ้วนและนำไปชำระได้ที่เครื่องชำระเงินที่อยู่ข้างคนขับขณะลงรถบัสได้เลย ซึ่งหากเป็นเส้นทางภายในศูนย์กลางเมืองคานาซาว่าส่วนใหญ่ค่าเดินทางจะมีราคาเดียวอยู่ที่ 200 เยนค่ะ
ในกรณีที่ใช้「HOKUTETSU BUS ONE DAY PASS」สามารถแสดงบัตรนี้ให้พนักงานคนขับได้ตอนลงรถเท่านั้นเลยค่ะ
นั่งรถบัสไปแปปเดียวเท่านั้นก็เดินทางมาถึง「Kenrokuenshita Bus Stop」จากตรงนี้สามารถเดินไป “สวนเค็นโรคุเอ็น” ได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น เมื่อลงจากรถบัสแล้วก็เดินไปทางด้านหลัง เพื่อเดินไปทางสี่แยกไฟแดงที่อยู่ด้านล่างเนิน
เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงแล้วก็เดินข้ามถนนไปสองรอบ เพื่อทะแยงไปทางเนินทางเดินหิน「KATSURAZAKA(桂坂)」เพื่อไปทาง “สวนเค็นโรคุเอ็น” กันค่ะ
ทั้งสองข้างทางเดิน KATSURAZAKA(桂坂) นี้จะมีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมายทั้ง ร้านจำหน่ายของฝาก ร้านเช่าชุดกิโมโน หรือร้านคาเฟ่ เป็นต้น จำหน่ายของฝากน่ารักต่างๆ มากมายทั้ง “เสื้อยืดคิตตี้”(2500 เยน)หรือ “ตุ๊กตาแมวเหมือนจริง”(650 เยน)และ “ร่มญี่ปุ่น”(ราคาตั้งแต่ 3000 เยน แล้วแต่ชนิด) ที่เหมาะซื้อไปเป็นของฝากมากๆ เท่านั้นไม่พอยังมีขนมต่างๆ จำหน่ายอยู่อีกด้วย
เมื่อเดินขึ้นเนินมาจนสุดแล้วก็จะเจอหนึ่งในทางเข้า “สวนเค็นโรคุเอ็น”「KENROKUEN(兼六園)」กับประตู KATSURAZAKA GUCHI(桂坂口) ซึ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของสวนเค็นโรคุเอ็น ในคานาซาว่าเมืองหลวงเก่าติดทะเลญี่ปุ่น ช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นมีอุณภูมิต่ำนี้ เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว โอซาก้า หรือ นาโกย่าแล้ว จะสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้เร็วกว่าประมาณ 2 อาทิตย์ ที่สามารถชมได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม ไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน แน่นอนว่าถ้าพูดถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ก็ต้องเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหนาแน่นเป็นพิเศษทั้งช่วงวันธรรมดา โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เลยค่ะ
ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันธรรมดา(วันพุธ) แต่นักท่องเที่ยวก็ต่อแถวรอเข้าชมอยู่บริเวณทางเข้าเล็กน้อย ในบรรดานักท่องเที่ยวเราจะเห็นนักท่องเที่ยวสาวๆ ใส่ชุดญี่ปุ่นกันน่ารักเชียว เหมาะกับเมืองหลวงเก่าอย่างคานาซาว่าที่ยังคงมีกลิ่นอายของความเป็นเมืองเก่านี้มากๆ ซึ่งบริเวณรอบๆ “สวนเค็นโรคุเอ็น” จะมีร้านเช่าชุดญี่ปุ่นอยู่หลายร้านเลย เพราะฉะนั้นหากเพื่อนๆ คนไหนอยากใส่ชุดญี่ปุ่นถ่ายรูปสวยๆ ก็ลองไปเช่าชุดกันดูได้เลย
เมื่อซื้อบัตรเข้าชม(310 เยน・รับเฉพาะเงินสด)แล้วก็เข้าไปในสวนกันเลย
เมื่อเข้ามาในสวนแล้ว ก็จะได้เห็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ตกพื้นอยู่ทั่วทั้งบริเวณสวยงามมากๆ ทั้งสีแดง ส้ม เหลือง ซึ่งบรรยากาศแบบนี้แม้แต่ในญี่ปุ่นก็ไม่สามารถหาดูได้ง่ายๆ เลย
เดิมทีสวนแห่งนี้เริ่มจากการที่ “Maeda Tsunanori” ผู้ปกครองบริเวณนี้ในขณะนั้น ได้สร้างสถานที่นี้เป็นบ้านพักตากอากาศในปีพ.ศ.2219 จนกลายเป็น “สวนเค็นโรคุเอ็น” แห่งนี้นั่นเอง ซึ่งในสมัยนั้นสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ เป็นสถานที่พักผ่อนของเจ้านายในสมัยนั้น ได้รับการดูแลมารุ่นสู่รุ่น ได้มีการเปลี่ยนแปรงไปเรื่อยๆ จนมีสภาพเหมือนในปัจจุบันตั้งแต่เมื่อ 150 ปีก่อนเป็นต้นมา เป็นสวนที่เดิมทีสามารถเข้าชมได้เฉพาะเจ้าขุนมูลนายเท่านั้น แต่ในปัจจุบันได้เปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชม ได้รับนิยมจากชาวต่างชาติไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าสวนแห่งนี้สามารถเพลิดเพลินได้ทั้ง 4 ฤดูของญี่ปุ่นเลย แต่ช่วงที่สวยเป็นพิเศษก็น่าจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีช่วงนี้ ที่สามารถชมต้นสนที่เขียวชอุ่มไปพร้อมๆ กับต้นเมเปิ้ล หรือต้นไม้นานาชนิดที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลืองงดงามมากๆ
ในช่วงฤดูหนาว สวนแห่งนี้ก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสวยงาม ซึ่งสิ่งที่อยู่ด้านซ้ายมือของภาพก็คือ “ยูกิซึริ”「YUKITSURI(雪吊り)」ที่เป็นการคลึงเชือกเป็นทรงสามเหลี่ยม เพื่อป้องกันการทับถมของหิมะที่หนักเกินจนทำให้กิ่งต้นสนหักนั่นเอง
บรรยากาศเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่สามารถสัมผัสได้เฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของญี่ปุ่นเท่านั้นเลยค่ะ
ซึ่งเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของ “สวนเค็นโรคุเอ็น” ก็คือ「KAIYUUSHIKI TEIEN(回遊式庭園)」
โดย KAIYUUSHIKI TEIEN(回遊式庭園) ในที่นี้คือการเที่ยวชมสวนได้ตามเส้นทางที่ตนเองต้องการ จะไม่มีการปูเส้นทางที่กำหนดไว้ให้ เรียกได้ว่าสามารถเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ตามจุดต่างๆ ภายในสวนได้ตามต้องการเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ จะได้ถ่ายรูปในมุมที่ตัวเองชอบได้ไม่ซ้ำใครแบบเต็มที่เลยค่ะ
ระหว่างที่เดินเที่ยวชม “สวนเค็นโรคุเอ็น” อยู่เราก็จะเห็นนักท่องเที่ยวใส่ชุดญี่ปุ่นกันอยู่ประปราย เนื่องจากรอบๆ สวนแห่งนี้จะมีร้านเช่าชุดกิโมโนอยู่มากมาย แม้แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถเช่ายืมได้ไม่ยาก แต่หากเพื่อนๆ ไม่มีเวลา หรือไม่มีงบมากพอในการเช่าชุดญี่ปุ่น ก็สามารถขอนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมาถ่ายรูปด้วยได้เช่นกันนะคะ
โดยสามารถลองพูดขอได้ว่า
「SUIMASEN ISSHONI SHASHIN NI UTSUTTE MORATTE IIDESUKA??」
「ซุยมาเซ็น อิชโชนิ ชะชิน นิ อุสึตเตะ โมรัตเตะ อี้เดสก้ะ??」
(ขอโทษนะคะ รบกวนถ่ายรูปด้วยกันหน่อยได้ไหม ครับ/ค่ะ)
บางคนอาจปฏิเสธเพราะเขินอาย แต่ก็ลองขอดูหลายๆ คนนะคะ เผื่อเจอคนที่ให้ถ่ายรูปได้พอดี
ซึ่งภายใน “สวนเค็นโรคุเอ็น” แห่งนี้จะมีร้านน้ำชาอยู่มากมาย ที่สามารถจิบชา และทานขนมญี่ปุ่น ไปได้พร้อมๆ กับวิวสวนเค็นโรคุเอ็นที่สวยงาม ซึ่งบริเวณใกล้ๆ ประตู KATSURAZAKA GUCHI(桂坂口) จะมีเส้นทาง『CHAMISE DORI(茶店通り)』ที่เต็มไปด้วยร้านน้ำชาโบราณเรียงรายกันอยู่หลายร้าน บรรยากาศเหมือนได้ย้อนเวลาไปญี่ปุ่นสมัยโบราณเลยค่ะ
ถึงแม้ว่า ICHIGO-CHAN จะทานข้าวหน้าปลาดิบที่ “ตลาดโอมิโจ” ไปแล้วเมื่อเช้า แต่กลิ่นหอมๆ ของขนมโชยมาน่าทานมากๆ โดยเฉพาะร้าน「KIKANTEI(寄観亭)」หนึ่งในเส้นทาง CHAMISE DORI(茶店通り) กับชุดน้ำชาขนม “KAGA ANKORO MOCHI加賀あんころ餅”(400 เยน)ถึงแม้ว่าขนมนี้จะหน้าตาเหมือนขนม “อากาฟูกุ” ของอิเสะ แต่ “KAGA ANKORO MOCHI加賀あんころ餅” จะหวานน้อยกว่า สำหรับใครที่ไม่ชอบทานหวานน่าจะชอบมากๆ เลย แค่ขนมกับน้ำชาก็อร่อยมากๆ แล้ว ยิ่งได้ชมวิวสวยๆ ไปด้วยแล้วก็ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ เลยค่ะ
ซึ่งที่ร้านนี้นอกจาก “KAGA ANKORO MOCHI加賀あんころ餅” แล้วก็ยังมีเมนูข้าวอย่างเช่น “ข้าวหน้าไข่(ทามาโกะดง), “ข้าวหน้าไก่ไข่(โอยาโกะดง)” หรือมัทฉะให้ได้ทานอีกด้วย ยังไงก็ลองมาแวะพักที่ร้านได้ระหว่างเดินเล่นภายในสวนเค็นโรคุเอ็นเลย
หลังจากที่ได้เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีใน “สวนเค็นโรคุเอ็น” ไปเต็มที่ และได้ทานโมจิห่อถั่วแดงกวนหวานๆ แล้ว ต่อไปเราจะไปกันที่ศูนย์จัดแสดงกิโมโน「KAGAYUZEN(加賀友禅)」ที่เป็นสินค้าขึ้นชื่อของคานาซาว่า และสามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้มากมายที่「KAGAYUZEN-KIMONO CENTER(加賀友禅会館)」ซึ่งสามารถเดินจาก “สวนเค็นโรคุเอ็น” ไป KAGAYUZEN-KIMONO CENTER(加賀友禅会館) ได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น
ก่อนอื่นต้องเดินออกจาก ประตู KATSURAZAKA GUCHI(桂坂口) และเดินลงเนินกลับไปตามทางเนิน KATSURAZAKA (桂坂) เลยค่ะ จากนั้นเมื่อลงเนินมาแล้ว ก็เลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดง จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกแรกเลย
เมื่อเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไฟแดงแล้ว ก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 1 นาที ซักพักก็จะเจอ「KAGAYUZEN-KIMONO CENTER(加賀友禅会館)」อยู่ขวามือ ซึ่งสถานที่นี้เป็นสถานที่ที่สามารถเที่ยวชมกิโมโนราคาแพงชุดละหลายสิบล้านเยนที่ไม่สามารถหาดูได้ทั่วไป หรือสามารถลองสวมชุดกิโมโนได้อีกด้วย
ในตอนหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม「KAGAYUZEN-KIMONO CENTER(加賀友禅会館)」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day3-2 KENROKUEN GARDEN】
PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass”
Sponsored by JR TOKAI