Day3-2 เดินลงภูเขาฟูจิ ไปจนถึงสถานีที่ 5 และเดินทางไปยังคาวากุจิโกะ

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day3-2 เดินลงภูเขาฟูจิ ไปจนถึงสถานีที่ 5 และเดินทางไปยังคาวากุจิโกะ

TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO

จากความเดิมตอนที่แล้วที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินเส้นทางเดินรอบปากปล่องภูเขาไฟฟูจิ “โอะฮาจิเมกุริ (OHACHI-MEGURI)” แล้ว

ตอนนี้ก็ได้เวลาออกจากบริเวณยอดภูเขาฟูจิ เพื่อเดินลงเขากันเลย ซึ่งขาลงจะแตกต่างจากขาขึ้นที่เป็นทางเดินปีนเขาขึ้นมา แต่ทางลงจะเป็นทางลาดชันลงไปเรียกว่า “สุนาบาชิระ”「SUNABASHIRI」ซึ่งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือประสบอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นขณะลงเขา แล้ว ICHIGO-CHAN จะสามารถเดินลงเขาได้อย่างปลอดภัยไหมนะ?

ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินลงภูเขาฟูจิ ไปจนถึงสถานีที่ 5 และเดินทางไปยังคาวากุจิโกะกันค่ะ ไปดูกันเลย

ICHIGO-CHAN จะต้องลงเขาจริงๆ แล้ว ไม่อยากไปจากตรงนี้เลย

ซึ่งทางขาลงจะเป็นเส้นทางลาดชันที่ลื่น เราจะลงไปเรื่อยๆ ไปจนถึงสถานีที่ 5 ที่เป็นจุดขึ้นรถบัสกันเลย ทางเดินขาลงที่มักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง จะมีเทคนิคในการลงอยู่ก็คือ

  1. เวลาย่ำเท้าให้ลงจาก “ส้นเท้า” ลงเท้าเหมือนเป็นการขุดเพื่อยึดเท้าเอาไว้ และสามารถก้าวเท้าได้อย่างมั่นคงขึ้น แม้จะล้มก็สามารถยึดเท้าเอาไว้ได้ ถ้าลงเท้าด้วยนิ้วเท้าก็จะทำให้เจ็บนิ้วได้ อีกทั้งยังทำให้ก้าวเท้าได้ไม่มั่นคงอีกด้วย
  2. เดินงอเข่า เหมือนแมวเดิน
  3. ใช้ ไม้เท้าหรือไม้ค้ำปีนเขาช่วยในการลง หากเป็นนักปีนเขามืออาชีพก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้ ไม้เท้า หรือไม้ค้ำปีนเขา แต่สำหรับมือใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เหมือนได้เดิน 4 ขาสบายใจกว่าเยอะเลยค่ะ

หากนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ก็จะช่วยให้เราสามารถเดินลงเขาได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยมากขึ้น ขาลงก็จะตรงข้ามกับขาขึ้นเลยคือ ปริมาณออกซิเจนก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับอากาศที่อบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ

เราเดินลงเขามาประมาณ 45 นาที เมื่อเห็นโทริอิเก่าๆ อยู่ด้านซ้ายมือก็แสดงว่าเรามาถึงสถานีหลักที่ 8 แล้วค่ะ สำหรับใครที่พัก “โทโมเอะคัง สถานีหลักที่ 8”「Original 8th Stn. Tomoekan」เมื่อคืนและได้ฝากสัมภาระเอาไว้ก็อย่าลืมมาเอาของที่ฝากไว้ด้วยนะคะ โดยเดินผ่านโทริอิไปที่พักจะอยู่ด้านบนเลย ถ้าลืมขึ้นมาก็ต้องปีนขึ้นมาเอาถึงบนเขาอีกรอบเลยนะคะ เมื่อรับของเรียบร้อยแล้วก็ลอดผ่านโทริอิมาอีกรอบ เพื่อเดินลงเขาจากทางเดินลงเขา ระวังไปผิดทางนะคะ ถ้าไปผิดทางอาจจะเจอทางลงเขาที่ลำบากและชันมากๆ และอันตรายมากๆ ด้วย

เมื่อผ่านโทริอิมาซักพักก็จะเจอกับที่พักหนึ่งหลังคือ “เอโดะยะ”『EDOYA』(ชิตะ เอโดะยะ)

เป็นที่พักที่ได้รับการปรับปรุงใหม่สวยงาม ซึ่งเป็นที่พักมกุฏราชกุมารแห่งญี่ปุ่นที่ทรงชื่นชอบการปีนเขาได้เข้าพักเมื่อ 10 ปีก่อนในเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2551

จากจุดนี้ไปจนถึงสถานีที่ 5(ประมาณ 4-5 ชั่วโมง)ระหว่างทางจะไม่มีจุดพักที่สามารถทานอาหารหรือเครื่องดื่มได้เลย สำหรับใครที่ไม่มีอาหารหรือเครื่องดื่มเตรียมเอาไว้เลยก็ควรซื้อจากที่นี่ไปเลยนะคะ ที่นี่จำหน่ายทั้ง กล้วย(150 เยน)เครื่องดื่มแต่ละชนิด(500 เยน)แคลอรี่เมทรสต่างๆ หรือช็อกโกแลต นอกจากนี้ยังมีจุดพักผ่อนอีกด้วย ลองสัมผัสบรรยากาศเดียวกับที่พักที่มกุฏราชกุมารแห่งญี่ปุ่นเคยประทับดูนะคะ

เมื่อเดินเลยที่พักเอโดะยะมาซักพักก็จะเจอกับทางแยก หากตรงไปก็จะเป็นจุดเดิมเหมือนตอนขาขึ้นที่ “ฟูจิเส้นทางซุบารุสถานีที่ 5”「FUJI SUBARU LINE 5th STATION」หรือ “โยชิดะ กุจิสถานีที่ 5”「YOSHIDA GUCHI 5th STATION」ซึ่งถ้าไปทางขวามือจะเป็น “ซุบาชิริ กุจิ สถานีที่ 5”「SUBASHIRI GUCHI 5th STATION」อย่าไปผิดทางนะคะ ถ้าไปผิดอาจต้องเสียค่าแท็กซี่มากถึง 25000 เยน เพื่อกลับไปเอาของที่ฝากเอาไว้ที่ล็อคเกอร์หรือคืนอุปกรณ์ที่ยืมมาเลย

ระหว่างเดินลงเขาก็จะพบกับรถขนของแบบนี้ เป็นรถที่เอาไว้ขนสัมภาระหรือวัสดุต่างๆ จากตีนเขาไปยังที่พักต่างๆ บนเขา ซึ่งรถนี้จะทำให้ทรายฟุ้ง และทำให้พื้นลื่น เพราะฉะนั้นไม่ควรเข้าไปใกล้ๆ นะคะ ถ้ารถมาก็ควรหลีกทางเอาไว้ให้กว้างๆ เลยค่ะ

เดินทางออกจากที่พัก “เอโดะยะ” มาประมาณ 80 นาที และเราก็เดินทางมาถึงห้องน้ำสาธารณะสถานีที่ 7 ในเส้นทางขาลงที่ไม่มีที่พักให้พักผ่อน ถือว่าจุดนี้เป็นจุดพักที่ดีเลยค่ะ นักเดินทางส่วนใหญ่จะนั่งพักกันที่จุดนี้ ซึ่งที่นี่จะมีป้ายเขียนเอาไว้ว่า “หากห้องน้ำเต็มสามารถใช้บริการห้องน้ำสถานีที่ 6 ถัดไปได้โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที” ถึงแม้ว่าจะเขียนเอาไว้แบบนี้แต่สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการปีนเขาคงไม่สามาราถเดินทางไปได้ด้วยเวลา 20 นาที เพราะฉะนั้นถึงจะต้องรอคิวหน่อยก็ควรเข้าห้องน้ำเอาไว้เลยนะคะ

ห้องน้ำสาธารณะสถานีที่ 7 จะอยู่บนความสูง 2800m ก็จะเข้าสู่ทะเลเมฆที่เราเห็นจากยอดเขาค่ะ ถือเป็นประสบการณ์พิเศษที่หาโอกาสแบบนี้ได้ยาก ปกติเราสามารถผ่านเมฆได้บนเครื่องบิน แต่นี่จะได้สัมผัสโดยตรงเลย ตอนกำลังเดินผ่านเมฆก็จะรู้สึกเย็นๆ เล็กน้อยๆ ประกอบกับลมที่พัดแรง เพราะแบบนี้นี่เองที่ทำให้เครื่องบินไหวๆ ตอนบินผ่านเมฆ

เมื่อออกจากห้องน้ำสาธารณะสถานีที่ 7 มาประมาณ 15 นาทีก็จะเจอกับทางเดินอุโมงค์ป้องกันหินกลิ้งหล่นจากบนเขาอยู่หลายจุด เนื่องจากบริเวณนี้เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุหินกลิ้งหล่นมาจากภูเขา และเคยมีผู้เสียชีวิตจากหินกระแทกศรีษะด้วย เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้เดินในอุโมงค์จะปลอดภัยที่สุด

และเมื่อผ่านอุงโมงค์มาซักพักก็จะเจอกับทางเดินที่เริ่มมีต้นไม้สีเขียว เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว สถานีที่ 6 ก็อยู่ไม่ไกลแล้วค่ะ และด้านซ้ายมือจะมีจุดพักม้าอยู่ ซึ่งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่สามารถเดินต่อไปได้ ก็สามารถนั่งม้าจากจุดนี้ไปยังสถานีที่ 5 ได้เช่นกันค่ะ(1 คน 15,000 เยน)

เมื่อออกจากห้องน้ำสาธารณะสถานีที่ 7 มาประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็จะมาถึงสถานีที่ 6 แล้วค่ะ สำหรับใครที่ได้ยืมหมวกกันน็อคป้องกันภัยไว้ที่「ศูนย์ดูแลป้องกันภัยภูเขาไฟฟูจิ(富士山安全指導センター)」ที่อยู่สถานีที่  6 ก็อย่าลืมไปคืนหมวกด้วยนะคะ เราจะได้ค่าประกัน 2000 เยนคืนค่ะ หลังจากพักเหนื่อย และเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางต่อเลย เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วก็สามารถเดินไปสถานีที่ 5 ได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ

เดินไปตามทางป่าไม้ ท่ามกลางเสียงนก และบรรยากาศสบายๆ ประมารณ 20 นาทีเราก็จะเดินมาถึงทางแยก「อิซุมิกาตากิ IZUMIGATAKI」ให้เดินไปทางซ้าย ก็จะเป็นทางเดินเรียบชันไปประมาณ 1.4km ก็สามารถกลับมาที่ทางขึ้นเขา “เส้นทางฟูจิซุบารุสถานีที่ 5” เลย ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว เราใช้เวลาเดินทางจากยอดภูเขาฟูจิประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง ถ้านับเวลาตั้งแต่เริ่มปีนภูเขาฟูจิแล้วก็ครบ 24 ชั่วโมงพอดี ถ้าเป็นนักปีนเขามืออาชีพก็จะใช้เวลาไปกลับประมาณ 10 ชั่วโมง เมื่อเทียบกันแล้วเราอาจจะใช้เวลามากกว่ามาก แต่ก็ทำให้เราสามารถพิชิตยอดภูเขาฟูจิได้อย่างปลอดภัย นี่ก็อาจเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับความสำเร็จสำหรับนักปีนเขามือใหม่ก็ได้นะคะ คือ ค่อยๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ ตามกำลังของตัวเองโดยไม่ต้องรีบ

เมื่อถึงสถานีที่ 5 แล้วเราจะไปเอาของที่ฝากเอาไว้เมื่อวานในล็อคเกอร์ภายใน “ฟูจิซังมิฮาราชิ”「FUJISAN MIHARASHI」กันเลยค่ะ เข้าอาคาร “ฟูจิซังมิฮาราชิ” ไปทางซ้ายมือก็จะเจอล็อคเกอร์เลย เมื่อได้ของมาแล้วก็เดินหันหลังออกจากตึก “ฟูจิซังมิฮาราชิ” เพื่อไปที่「GOGOEN RESTHOUSE」ที่อยู่ซ้ายมือ เมื่อเข้าไปแล้วก็ไปที่ฟร้อนท์ที่อยู่ตรงหน้าเลย

ซึ่งที่「GOGOEN RESTHOUSE」นี้จะมีบริการห้องอาบน้ำด้วย 1 ครั้ง 1000 เยน(รวมแชมพู・สบู่อาบน้ำ)

สามารถบอกที่ฟร้อน์ว่า「Shower Onegai Shimasu」อ่านว่า “Shower โอเนกาอิ ชิมัส” แปลว่า “อยากใช้บริการห้องอาบน้ำค่ะ” และพนักงานก็จะพาไปที่ห้องอาบน้ำด้านหลังเลยค่ะ

ถึงแม้ว่าห้องน้ำจะอยู่ในที่ที่เหมือนโกดังเก็บของ แต่บนภูเขาฟูจิที่ไม่มีน้ำไหลผ่านอยู่นั้น ถือว่าน้ำเป็นอะไรที่สำคัญมาก แค่ได้อาบน้ำก็ดีมากๆ แล้วค่ะ โดยเมื่อเข้าไปในห้องแล้วก็ล็อคประตูให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำเหรียญที่ได้จากที่ฟร้อนท์หยอดเข้าไปในช่องด้านซ้าย วิธีเปิดน้ำคือ กดปุ่มสีชมพู ตามภาพ เท่านั้นน้ำก็จะออกมาเลยค่ะ สามารถใช้น้ำได้เป็นเวลา 4 นาที ช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้น้ำจะไม่นับเวลา หากต้องการปิดน้ำก็เพียงแค่กดไปที่ปุ่มสีชมพูอีกรอบเท่านั้น

เมื่ออาบน้ำจนสดชื่นแล้ว ก็กลับไปที่ “ฟูจิซัง มิฮาราชิ”「FUJISAN MIHARASHI」กันเลย เราจะไปคืนอุปกรณ์ปีนเขาที่ยืมมากันค่ะ

『Lamont』

ทั้งที่เราเพิ่งยืมอุปกรณ์ปีนเขาไปแค่วันเดียว แต่เหมือนยืมมาแล้วหลายวันเลยค่ะ เป็นวันเดียวที่เจออะไรมาเยอะๆ มากๆ เลยจริงๆ ค่ะ

เราจะเดินทางเข้าไปในเมืองกันเลย ซึ่งที่พักของเราในคืนนี้อยู่ไม่ไกลจากคาวากุจิโกะ และสามารถชมวิวภูเขาฟูจิได้อีกด้วยที่โรงแรม「HOTEL MYSTAYS FUJISAN」

ก่อนอื่นเราจะต้องเดินทางไปที่สถานีคาวากุจิโกะ KAWAGUCHIKO STATION กันเลย รสบัสที่วิ่งระหว่าง “ฟูจิเส้นทางซุบารุสถานีที่ 5” กับ “คาวากุจิโกะ” จะให้บริการเฉพาะช่วงเดือนกรกฏาคมไปจนถึงช่วงเดือนกันยายน โดยจะวิ่งชั่วโมงละ 1-2 เที่ยว ค่าเดินทาง 1540 เยน『Mt.Fuji Pass』

สามารถซื้อตั๋วได้ที่มุมหนึ่งของลานกว้างที่อยู่ระหว่าง「GOGOEN RESTHOUSE」และลานกว้าง ตรงข้ามจุดขึ้นรถบัส จะมีจุดจำหน่ายตั๋วรถบัสบัสอยู่ไปต่อแถวซื้อตั๋วได้เลย

เราจะใช้เวลา 45 นาที มาจนถึงสถานีคาวากุจิโกะ สถานีออกแบบได้น่ารักมากๆ ถึงสถานีคาวากุจิโกะจะเป็นสถานีเล็กๆ ที่มีนักท่องเที่ยวคึกคัก แต่สำหรับ ICHIGO-CHAN ที่เพิ่งขึ้นภูเขาฟูจิมา รู้สึกว่าเหมือนกำลังอยู่ในสถานีที่โตเกียวเลยค่ะ

เมื่อถึงสถานีคาวากุจิโกะแล้วก็ไปทานอาหารกลางวันกันเลย(เลยเวลาอาหารกลางวันไปเล็กน้อย)เข้าไปในร้านอาหารภายในสถานีกันเลย

ซึ่งภายในสถานีคาวากุจิโกะจะมีร้านอาหาร “ฟูจิยามะ คาเฟ่”「FUJIYAMA CAFÉ」ที่จำหน่ายอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่ต่างๆ และมีเมนูเฉพาะของภูเขาฟูจิอีกด้วย ภายในร้านมีแขกอยู่มากมายบรรยากาศคึกคักมากๆ ICHIGO-CHAN ก็ไม่รอช้ารีบไปต่อแถวเลย

เมนูภายในร้านก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารขึ้นชื่อของเมืองฟูจิโยชิดะที่อยู่ข้างคาวากุจิโกะอย่าง「โยชิดะอุดง YOSHIDA UDON」(650 เยน)หรือ อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดยามะงาตะที่ตั้งของภูเขาฟูจิอย่าง「โฮโต HOUTOU」(950 เยน)นอกจากนี้ยังมีราเม็ง(750 เยน)หรือแกงกะหรี่ฟูจิซัง(1000 เยน)อีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ「ฟูจิซังฮันเป็งFUJISAN HANPEN」(380円)หรือ「มันบดทอดโครกเกะฟูจิซัง」(250 เยน)ที่เป็นอาหารทานเล่นก็มีเช่นกันค่ะ สามารถสั่งอาหารได้ที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน จากนั้นก็จะได้รับคูปองอาหารที่มีตัวเลขกำกับอยู่ และไปรอที่โต๊ะ เมื่อได้อาหารแล้วก็นำคูปองไปรับอาหารที่ช่องข้างเคาน์เตอร์ชำระเงินได้เลย เป็นแบบบริการตนเองค่ะ

ภายในร้านกว้างขวางมีที่นั่งเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะมีลูกค้านั่งอยู่เต็มร้าน แต่ด้านในก็มีที่นั่งรองรับลูกค้าหลากหลายรูปแบบเลยค่ะ ด้านในร้านจะมีบันไดเล็กๆ อยู่แค่สองขั้นเท่านั้น แต่ ICHIGO-CHAN ก็เริ่มรู้สึกปวดขาแล้วค่ะ ผลจากการปีนเขาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว 555

 “โยชิดะอุดง” ที่มีผักแบบอัดแน่น ซึ่งเมื่อเทียบกับ “ซานุกิอุดง” หรือ “โอซาก้าอุดง” แล้วเส้นของ “โยชิดะอุดง” จะแน่นกว่ามาก ICHIGO-CHAN ที่เพิ่งกลับมาจากพื้นที่ที่มีความกดอากาศต่ำ และออกซิเจนเบาบางบนยอดภูเขาฟูจิ ถือว่า “โยชิดะอุดง” เป็นเมนูชั้นเลิศที่ช่วยเยียวยา ICHIGO-CHAN ได้เลยค่ะ จากนั้นก็มาต่อกันที่ของหวาน กับ「ซอฟต์ครีมฟูจิซัง (富士山ソフト)」เป็นซอฟต์ครีมสองชั้นที่ชั้นล่างเป็นรสชาติองุ่นสีฟ้าๆ ส่วนชั้นบนเป็นรสวนิลาสีขาวๆ เหมือนภูเขาฟูจิไหมคะ อาจจะไม่เหมือนมากแต่สีน่ารักน่าถ่ายรูปมากๆ

ทานทั้ง「โยชิดะอุดง(吉田うどん)」และ「ซอฟต์ครีมฟูจิซัง (富士山ソフト)」เป็นของหวานราคารวมแล้วก็ 1020 เยนเท่านั้น ได้ทานอาหารกลางวันในราคาที่คุ้มมากๆ

เมื่อทานอาหารเรียบร้อยแล้ว เราจะเดินทางไปยังที่พักในคืนนี้ที่「HOTEL MYSTAYS FUJISAN」เพื่อไปเช็คอินที่โรงแรมกันค่ะ ซึ่งสถานีที่ใกล้โรงแรมมากที่สุดก็คือสถานี「สถานีฟูจิคิวไฮแลนด์ FUJIKYU-HIGHLAND STATION」โดยนั่งรถไฟฟูจิคิว มาจากสถานีคาวากุจิโกะ มาเพียง 1 สถานี ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีเท่านั้น รถไฟจะวิ่งชั่วโมงละ 1-4 เที่ยว(ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา)

ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยัง「HOTEL MYSTAYS FUJISAN」และทาน “เนื้อย่าง” เป็นดินเนอร์ของวันนี้กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪

【ตารางการเดินทาง Day3-2 KAWAGUCHIKO STATION/FUJISAN CAFÉ】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶