ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day3-2 ที่สุดของวิวภูเขาไฟฟูจิที่ สวนสาธารณะอาราคุระยามะ เซนเก็น 「ARAKURAYAMA SENGEN PARK」
ทริป นาโกย่า-ชิสึโอกะ-ฟูจิ (คาวากุจิโกะ)-โตเกียว
เมื่อวาน ICHIGO-CHAN ได้ไปชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากทางใต้ของภูเขาไฟฟูจิที่จังหวัดชิซุโอกะมาแล้ว
วันนี้เราจะไปชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากทางทิศเหนือกันบ้างที่ยามานาชิ YAMANASHI คาวากุจิโกะ KAWAGUCHIKO
ซึ่งเราจะใช้รถบัส「Mt.Fuji World Heritage Loop Bus」ในการเดินทางท่องเที่ยวรอบ ๆ คาวากุจิโกะในครั้งนี้
ก่อนอื่นเราจะไปกันที่ สวนสาธารณะอาราคุระยามะ เซนเก็น 「ARAKURAYAMA SENGEN PARK」เพื่อชมวิวที่สวยงามของภูเขาไฟฟูจิกัน
เอาล่ะค่ะวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูวิวภูเขาไฟฟูจิที่เรียกได้ว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่นกันค่ะ
ภายในศาลเจ้าอาราคุระฟูจิเซนเก็น มีบันไดเพื่อขึ้นไปสวนสาธารณะอาราคุระยามะ เซนเก็น ซึ่งข้างๆ บันไดนี้มีศาลเจ้าเล็กชื่อศาลเจ้าชิโอกามะ「SHIOGAMA JINJA」ซึ่งเป็นศาลเจ้าของเทพเจ้าแห่งการเดินเรือ ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ให้โชคเกี่ยวกับการเดินทาง「เทพเจ้าแห่งการท่องเที่ยว」นั่นเอง
เดี๋ยวเราจะต้องขึ้นบันไดไปตั้ง 398 ขั้นแล้ว มาขอพรให้เราสามารถขึ้นไปได้อย่างปลอดภัยกัน แล้วก็ออกเดินทางเลย
นอกจากบันได「SAKUYAHIME KAIDAN」398 ขั้นที่สามารถขึ้นไปสู่สวนสาธารณะอาราคุระยามะ เซนเก็นแล้ว ยังมีวิธีที่เดินขึ้นจากเนินอยู่ด้วย ซึ่งทางนี้เคยเปิดให้รถผ่านได้ถึงเมื่อ 1 ปีที่แล้วด้วยแต่・・・・
ก็ถูกปิดกั้นรถเอาไว้ ซึ่งสามารถผ่านได้แค่รถพยาบาล หรือรถก่อสร้างเท่านั้น ดังนั้นเราต้องเดินเท่านั้น ถึงจะขึ้นไปข้างบนได้
บันได「SAKUYAHIME KAIDAN」เป็นบันได 398 ขั้นที่สามารถขึ้นตรงไปได้เลยแบบไม่มีโค้ง
ถึงบันไดนี้จะมีชื่อว่า「ฮิเมะ」ที่แปลว่าเจ้าหญิง แต่พอขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็ไม่เจ้าหญิงเลยนะ ICHIGO-CHAN ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เลยรู้สึกว่าโหดเอาเรื่อง ตอนที่เราไปมีเด็ก ๆ ในท้องถิ่นวิ่งขึ้นไปกันด้วย แรงเยอะกันจริงๆ
ถึงบันไดจะโหดไปหน่อยแต่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับซากุระที่บานในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีใบฤดูใบไม้ร่วงได้ด้วย และยิ่งไปกว่านั้น・・・・
เมื่อมองไปด้านหลังเราก็จะเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย สวยมาก ๆ จริง ๆ ถ้าเริ่มรู้สึกเหนื่อย ก็นั่งพักชมวิวภูเขาไฟฟูจิก่อน
ตอนขึ้นบันไดเจอนักท่องเที่ยวคนไทยเต็มเลย ที่ไทยก็ไม่ค่อยได้เดินเยอะเท่าไหร่อยู่แล้วยิ่งมาเจอบันได 398 ขั้นแบบนี้ก็ลำบากไม่น้อยเลย 555เกาะราวกันขึ้นไป เดี๋ยวก็ถึงแล้ว
เมื่อขึ้นบันไดมา 398 ขั้น ก็จะเป็นทางสโลป ถ้ามาถึงตรงนี้ก็แสดงว่าใกล้ถึงที่หมายของเราแล้ว เมื่อเดินขึ้นสโลปไปก็จะเจอกับเจดีย์ห้าชั้น โกะจูโนะโท ที่เรียกว่า「จูเรโต」ทำให้นึกถึงวัดโท TOJI ของเกียวโตเลย
และแล้วเราก็มาถึง「ชูเรโต」หรือเจดีย์ห้าชั้น วิวที่สวยงามที่สุดจะอยู่ด้านหลังสวนสาธารณะอาราคุระยามะ เซนเก็น 「ARAKURAYAMA SENGEN PARK」แค่เจดีย์ห้าชั้นนี้ก็สวยอยู่แล้วนะแต่・・・・
ถ้าเป็นช่วงซากุระบานบรรยากาศก็จะประมาณนี้เลย สวยมากๆ ต้นซากุระที่นี่เป็นพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ บริเวณใกล้ๆ ชูเรโต มีร้านขายของกินด้วย บริเวณนี้ก็จะเต็มไปด้วยคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมากมาย
จุดชมวิวที่สวยที่สุดของสวนสาธารณะอาราคุระยามะ เซนเก็น นั้นต้องเดินขึ้นไปตามทางด้านหลังฝั่งขวาของชูเรโตตามภาพเลย วิวต้องสวยมาก ๆ แน่ ๆ ไม่รอช้ารีบขึ้นไปกันเลย
ว้าวววว ! เรามาถึงชูเรโต หรือ เจดีย์ห้าชั้น แล้ว เป็นวิวที่สวยมาก ๆ ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย ได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิแบบชัดมาก ๆ มันสวยจนพูดไม่ออกเลย
วิวที่นี่เราได้เห็นทั้ง ภูเขาไฟฟูจิที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น กับเจดีย์ห้าชั้นที่เห็นแล้วก็ต้องนึกถึงญี่ปุ่นแบบนี้ โชคดีจริง ๆ ที่ได้มา
เมื่อเข้าช่วงซากุระบานบริเวณรอบจูเรโตก็จะเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูสวยงาม เป็นการรวมตัวระหว่าง สีขาวกับฟ้าของภูเขาไฟฟูจิ สีชมพูของดอกซากุระ และสีแดงของจูเรโต ทำให้ภาพที่ได้ออกมาเป็นอะไรที่สวยและลงตัวสุด ๆ เลย อีกทั้งช่วงซากุระยังเป็นช่วงที่อากาศกำลังพอดีด้วย
และเรามีข้อมูลดี ๆ มาบอกต่อ ก็คือ สำหรับใครที่จะไปสวนสาธารณะอาราคุระยามะ เซนเก็น แนะนำว่าให้ไปก่อน 10 โมงเช้า หรือช้าสุดก็ประมาณเที่ยงวัน เหตุผลก็เพราะว่ารูปที่ได้จะแตกต่างกันมากๆ ลองเปรียบเทียบจากทั้ง 2 ภาพที่เราถ่ายจากมุมเดียวกัน และกล้อง iPhone7Plus เหมือนกัน แต่ภาพแตกต่างกันมากด้วยทิศทางของแสงที่ส่องลงมานั่นเอง ซึ่งภาพซ้ายเป็นภาพที่ถ่ายตอน 9 โมงเช้า ส่วนภาพขวาเป็นภาพที่ถ่ายตอนบ่ายสองโมง เราเลยอยากแนะนำว่าให้ไปเช้า ๆ นะ ไหนก็มาเที่ยวแล้วจะได้มีรูปสวยๆ เอาไว้ลงโซเชียลเนาะ
ชมวิวสวยๆ ของภูเขาไฟฟูจิไปเพลิน ๆ ลืมดูเวลาเลย ยังไม่อยากไปเลย แต่ก็ไม่อยากรอบัสนาน ถ้าพลาดรอบนี้ไปก็ต้องรออีก 90 นาทีแหนะ เอาล่ะลงบันได 398 ขั้นเพื่อไปที่ป้ายรถบัสกัน
ออกจากศาลเจ้ามาแล้ว ก็เดินกลับไปทางเดิมเลย เมื่อออกมาแล้ว ก็ข้ามสะพานเล็กๆ และเลี้ยวไปทางขวา และเดินไปตามทางที่อยู่ระหว่างแม่น้ำเล็ก ๆ และทางเดินใต้ทางด่วนไปเล็กน้อย ก็เลี้ยวซ้ายที่แยกแรก จะเจอป้ายรถบัสเลย ก็จะเจอกับเก้าอี้เล็กๆ แบบเอาลังเบียมาปูด้วยไม้กระดานแบบง่าย ๆ นั่นแหละป้ายรถบัสของเรา
และที่ที่เราจะไปต่อจากสวนสาธารณะอาราคุระยามะ เซนเก็นก็คือ「OSHINO HAKKAI」โอชิโนะ ฮักไก หรือบ้านน้ำใส เป็นน้ำพุ 8 อันที่มาจากน้ำที่เกิดจากหิมะบนภูเขาไฟฟูจิที่ใช้เวลากว่าหลายสิบปี ไหลผ่านลาวา จนเกิดมาเป็นน้ำพุที่นี่นั่นเอง 「OSHINO HAKKAI」เป็นน้ำพุที่ใสมาก ๆ โปร่งจนเห็นก้นบ่อเลยด้วย รอบๆน้ำพุก็มีร้านค้าต่างๆขายทั้งของฝากและของกินกันอย่างคึกคัก
จากป้ายรถบัสศาลเจ้าอาราคุระสามารถนั่งบัสที่ตรงไปโอชิโนะ ฮักไกได้เลยแบบนอนสต๊อบ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที บัสจะวิ่งทุก ๆ 90 นาที
ซึ่งบัตรที่เราใช้เป็น Free Pass(ใช้งานได้ 2 วัน 1030 เยน)สามารถซื้อได้ที่ช่องติดต่อสอบถามที่สถานีคาวากุจิโกะหรือซื้อภายในรถบัสได้เลย เราสามารถใช้บัตรนี้ได้ไม่อั้น ๆ เต็ม ๆ 2 วันเลย รอบ ๆ ป้ายรถบัสมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและรถบัสเต็มไปหมดเลย
จากป้ายรถบัสโอชิโนะ ฮักไกไป「OSHINO HAKKAI」โอชิโนะ ฮักไก ใช้เวลาเดินไปประมาณ 6 นาที ระหว่างทางมีร้านต่างๆ อยู่ข้างทาง สามารถแวะซื้อของกินซื้อของฝากได้เลย
เมื่อลงจากบัสมาแล้วก็เลี้ยวซ้ายที่สามแยกเลย แล้วเดินไปตามทางย่านหมู่บ้านไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางก็จะเจอกับร้านขายสตอเบอรี่หรือผลไม้ต่างๆ และร้านขายของฝาก และตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวโอชิโนะ「OSHINO VILLAGE TOURIST INFORMATION CENTER」ตามภาพที่ 4
ที่ ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวโอชิโนะ มีเจ้าหน้าที่ใจดี คอยให้ข้อมูลวิธีเดินทางไปโอชิโนะ ฮักไก หรือประวัติความเป็นมาของโอชิโนะ ฮักไก ด้วย
เมื่อเลี้ยวซ้ายจาก ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวโอชิโนะ ก็จะเจอกับร้านค้าต่างๆมากมาย ทั้งร้านของฝากและของกินต่างๆ เช่น ข้าวโพด(500 เยน)ภาพที่ 2 ปลาอายุย่างเกลือ(350 เยน)ภาพที่ 3 ดังโงะไส้ถั่วแดงกวน(1 ไม้ 400 เยน)และภาพที่ 4 คุสะดังโดะ(250 เยน)
เมื่อผ่านร้านค้าต่างๆ มาเรื่อยๆ และแล้วเราก็มาถึง『OSHINO HAKKAI』 น้ำใสมากๆ ผิวน้ำเหมือนกระจกเลยด้วย บรรยากาศรอบๆ ก็มีทั้งของกินและของฝาก อดใจไม่ไหวแล้ว
เราจะพาทุกคนไปเที่ยว「OSHINO HAKKAI」กันในตอนต่อไปน้า
【ตารางเดินทางวันนี้】