ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day3-2 ชมปราสาทเก่าแก่ดั้งเดิม 400 ปีกับ “ปราสาทฮิโคเนะ”「HIKONE CASTLE」และพบกับความน่ารักของ “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」มาสคอตประจำฮิโคเนะ
FUKUI-SHIGA-KYOTO-OSAKA
จากความเดิมตอนที่แล้ว ที่ ICHIGO-CHAN นั่งรถไฟด่วนพิเศษ「SHIRASAGI」และรถไฟแบบด่วนจากสถานีฟุกุอิมาประมาณ 1 ชั่วโมง 17 นาที เดินทางมาถึง “ฮิโคเนะ”「HIKONE」เมืองแห่งปราสาทเก่าแก่ริมทะเลสาบบิวะ และตอนนี้เราก็อยู่กันที่ “ปราสาทฮิโคเนะ”「HIKONE CASTLE」
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมภายในปราสาทฮิโคเนะ และหอคอยปราสาทฮิโคเนะ ชมวิวที่สวยงามของฮิโกเนะ และทะเลสาบบิวาโกะ นอกจากนี้เราจะได้พบกับความน่ารักของ “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」กันด้วย ไปดูกันเลย
เราสามารถเดินทางไปยัง “ปราสาทฮิโคเนะ” ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิโคเนะ โดยนั่งรถไฟจากโอซาก้า 1 ชั่วโมง 20 นาที เกียวโตอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และนาโกย่าอย่างมาก 1 ชั่วโมง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ถึงแม้ว่า “ปราสาทฮิโคเนะ” จะมีขนาดเล็กกว่า ปราสาทโอซาก้า หรือ ปราสาทนาโกย่า แต่ลักษณะเด่นของปราสาทแห่งนี้คือ เราจะได้ชมปราสาทที่คงเหลือมาตั้งแต่ 400 ปี และที่สำคัญคือการได้พบกับ ยูรุเคียระน่ารักๆ อย่าง “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับ「คุมะมง」เลยทีเดียว
ในปราสาทที่สวยงามและมีความเก่าแก่แห่งนี้ ยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม ทั้งใบไม้เปลี่ยนสีหน้าหอคอยปราสาท หรือจะเป็นใบไม้เปลี่ยนสีที่ “สวนเก็นคิวเอ็น”『GENKYUEN GARDEN』 ข้างปราสาท นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาชมความสวยงามของบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วงกับอย่างคับคั่งทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ สามารถชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงช่วงปลายเดือน(ขึ้นอยู่กับแต่ละปี)และมีการฉายไฟสวยงามยามค่ำคืนอีกด้วย
เราเข้าไปข้างในหอคอยปราสาทกันเลย เดินชิดขวาไปตามป้ายที่เขียนว่า「天守入口」แปลว่า ทางเข้าหอคอย ค่าเข้าหอคอยปราสาทจะถูกรวมอยู่ในค่าเข้าปราสาทแล้วเพราะฉะนั้นไม่ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ ก่อนเข้าไปในหอคอยจะต้องถอดรองเท้าใส่ถุงพลาสติกเพื่อถือติดตัวไปในหอคอยปราสาทด้วย
บรรยากาศข้างในก็จะเป็นกำแพงปูนสีขาว ปิดด้วยกำแพงไม้สีดำ หลังคาที่เมื่อดูภายนอกแล้วจะถูกออกแบบมาให้มีรูปร่างที่แปลกตา แต่เมื่อเข้ามาด้านในอาคารจะดูมืดและสงบ เมื่อมองไปด้านบนก็จะเห็นคานไม้ขนาดใหญ่ที่ค้ำตัวปราสาทมีความสูง 25m นอกจากนี้ในแต่ละจุดภายในหอคอยปราสาทยังมีช่องไว้แอบยิงธนูป้องกันข้าศึกบุกอีกด้วยเรียกว่า “ยาซามะ”「YAZAMA」หรือ ช่องยิงปืน ที่เรียกว่า “เท็ปโปซามะ”「TEPPOUZAMA」มีอยู่ทั้งหมด 82 จุดในปราสาทแห่งนี้เลยทีเดียว
ตามจุดต่างๆ ภายในหอคอยปราสาทจะมีสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของปราสาทแห่งนี้ คือเกี่ยวกับ “ตระกูลอีอิ”「II FAMILY」จัดแสดงอยู่ และมุมหนึ่งก็มีภาพแสดง「หอคอยปราสาท」ที่เป็นสัญลักษณ์ของปราสาทที่ยังคงเหลืออยู่ในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด 12 แห่ง โดยเฉพาะ 4 ปราสาทที่ไม่ควรพลาดดังนี้「ปราสาทฮิเมจิ」(เฮียวโงะ) 「ปราสาทฮิโคเนะ」(ชิงะ)「ปราสาทอินุยามะ」(ไอจิ)และ「ปราสาทมาสึโมโตะ」(นางาโนะ)ที่ได้เคยนำเสนอไปในคอนเทนท์ของ ICHIGO-JAPAN ค่ะ Day2-4 เที่ยว『ปราสาท MATSUMOTO』เดินทางไปต่อคิโซะฟุกุชิมะ
และจุดเด่นของหอคอยปราสาทแห่งนี้ก็คือบันไดที่ชันเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูบุกขึ้นมาอย่างง่ายดายนั่นเอง ซึ่งความชันของบันไดคือ 45 องศา เวลาเดินขึ้นบันไดจะเหมือนคลานขึ้นไปเลยค่ะ
ขึ้นบันไดชันมาสองครั้ง ก็จะขึ้นมาสู่ยอดหอคอยปราสาท บริเวณรอบๆ ยอดปราสาทจะมีระเบียงเล็กๆ เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเห็นวิวเมืองฮิโคเนะ ทะเลสาบบิวาโกะ และถ้าอากาศดีก็จะเห็นไปถึงทิวเขาฮิระของ เกียวโต และชิงะเลย
ส่วนทางด้านทิศตะวันออก และทิศเหนือจะเป็นวิวเมืองฮิโคเนะ ซึ่งบริเวณโดยรอบนี้จะมีกฏห้ามสร้างตึกสูงเพื่อรักษาทัศนียภาพที่สวยงาม เมื่ออยู่บนนี้แล้วให้ความรู้สึกเหมือนได้เป็น「เจ้าเมือง」ที่กำลังชมวิวโดยรอบไปจนสุดเส้นขอบฟ้าเลย
และทางด้านตะวันตกของหอคอยจะเป็นวิวทะเลสาบ “บิวะโกะ”「BIWAKO」ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่มีพื้นที่กว้างกว่า 670㎢ เมื่อลองเทียบกับจังหวัดสมุทรสาครที่มีพื้นที่ 870㎢ แล้วก็ถือได้ว่าทะเลสาบนี้มีความกว้างเกือบเท่าหนึ่งจังหวัดของประเทศไทยเลยค่ะ ภายในทะเลสาบแห่งนี้ก็จะอุดมไปด้วยปลาน้ำจืดอย่างปลา “อายุ” และ ปลา “เทราต์” (มาสุ) จนกลายมาเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของจังหวัดชิงะนั่นเอง
หลังจากที่เราได้ชมรอบๆ ปราสาทและหอคอยปราสาทแล้ว ต่อไปเราจะไปพบกับไอดอลแสนน่ารักของฮิโคเนะกับ “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」เพื่อชมโชว์น่ารักๆ ที่บริเวณ “พิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโคเนะ”「 HIKONE CASTLE MUSEUM」กันค่ะ โดยเดินกลับไปตามทางเดิมจากหน้าหอคอยปราสาท เดินลงไปเรื่อยๆ ผ่านหอระฆังที่เหมือนวัด ชื่อว่า「JIHOUSHOU」อ่านว่า “จิโฮโช” ซึ่งระฆังนี้จะดังวันละ 5 รอบ คือ 6 โมง・9 โมง・12 โมง・15 โมง・18 โมงเย็น เพื่อส่งสัญญาณบอกเวลาให้กับคนด้านล่าง และที่สำคัญคือหอระฆังนี้มีอายุมากกว่า 400 ปีและยังคงถูกใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
และที่ด้านข้างหอระฆังจิโฮโจ 「CHOSYUAN」จะมีร้านน้ำชา ที่สามารถนั่งดื่มชามัทฉะและขนมแบบญี่ปุ่น เซตละ 500 เยน ยิ่งถ้าได้นั่งจิบชาทานขนม เพื่อรอฟังเสียงระฆังในเวลา 12 โมง หรือ 15 โมงก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะคะ
หลังจากที่ได้ทานชามัทฉะดั้งเดิมญี่ปุ่นแล้ว ก็เดินผ่านสะพานโลกะ และเดินลงบันไดไปตามทางเรื่อยๆ ซักพัก ลงบันไดจากความสูง 50m ไปเรื่อยๆ จนมาถึงส่วนด้านล่างสะพานโลกะ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่ได้มุมสวยๆ เลย ระหว่างทางก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าไป「พิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโคเนะ HIKONE CASTLE MUSEUM」เพื่อรอชม “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」สุดน่ารักกันค่ะ
เราจะได้เจอ ไอดอลแสนน่ารักของฮิโกเนะ “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」วันละ 3 ครั้ง คือ 10:30・13:30・15:00(ข้อมูลปัจจุบัน เดือนมิถุนายน 2561)ที่ พิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโคเนะ 『HIKONE CASTLE MUSEUM』
โดยจุดพบ “ฮิโคะเนียน” จะอยู่หน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรเข้าชม ข้างๆ ทางเข้า「พิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโคเนะ HIKONE CASTLE MUSEUM」ในสวนลานกว้าง ถึงแม้ว่าจะมีค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโคเนะ HIKONE CASTLE MUSEUM ที่ต้องจ่ายแยก 500 เยน(ตั๋วเซต 1200 เยน)แต่หากแค่ต้องการเจอ “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」เท่านั้นก็สามารถเข้าไปชมโชว์น่ารักๆ ได้ฟรีเลย
เมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้วก็จะมีนักท่องเที่ยวยืนรอดู “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」เต็มเลย ถึง ICHIGO-CHAN จะมีวันธรรมดาแถมยังเป็นช่วงเช้า แต่คนที่มารอดูโชว์ก็เยอะมากๆ ยิ่งถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์คนยิ่งล้นออกมาด้านนอกเลยค่ะ ยังไงแนะนำให้ไปก่อนเวลาไว้เลยนะคะ จะได้เห็น “ฮิโคะเนียน” ชัดๆ ไปเลย
16
เมื่อถึงเวลาแล้ว “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」ก็จะเดินออกมาทำการแสดงเพื่อโชว์ความน่ารักๆ ให้เหล่านักท่องเที่ยว ถึงจะพูดว่าการแสดงแต่ก็เป็นการแสดงจาก「ยูรุเคียระ」(ย่อมาจาก ยูรุ่ยคาแรคเตอร์ ซึ่งแปลว่า คาแรคเตอร์สบายๆ ชิวๆ) ดังนั้น เราก็จะได้เห็น “ฮิโคะเนียน” ออกมาเดินๆ ส่ายก้น ถือพร็อพไปมาเท่านั้น แต่แค่ออกมาแสดงแค่นั้นก็น่ารักมากๆ ดูไปละลายไปเลยค่ะ ด้วยท่าทางรูปร่าง ทั้งหมดดูน่ารัก อุ้ยอ้าย การเคลื่อนไปที่ต่างๆ จะช้าๆ เนิบๆ กว่า「คุมะมง」หรือ「ฟุนัชชี่」เป็นเสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของ “ฮิโคะเนียน” เลยค่ะ
เราได้ถ่ายวิดีโอน่ารักๆ ของ “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」มาให้เพื่อนๆ ดูสั้นๆ ด้วยค่ะ ด้วยความนิยมของ “ฮิโคะเนียน” ทำให้「ยูรุเคียระ」(ย่อมาจาก ยูรุ่ยคาแรคเตอร์ ซึ่งแปลว่า คาแรคเตอร์สบายๆ ชิวๆ) กำลังเป็นที่นิยมในทั่วประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันมีการออกแบบที่ล้ำสมัย หรือ คาแรคเตอร์ที่สามารถพูดคุยผ่าน iPad ฯลฯ ได้เพิ่มมากขึ้น แต่ต้นแบบของยูรุเคียระตั้งแต่เริ่มต้นส่วนหนึ่งก็มาจากความเนิบๆ ช้าๆ ง่ายๆ ของ “ฮิโคะเนียน” นั่นเอง
หลังจากที่ได้ชมการแสดงน่ารักๆ ของ “ฮิโคะเนียน”「HIKONYAN」แล้วเราจะเดินกลับไปตามทางเดิมเพื่อกลับไปที่สถานีฮิโคเนะกันค่ะ ซึ่งระหว่างทางจากปราสาทไปสถานีจะมีร้านของฝากอยู่หลายร้าน แต่จะมีร้านที่เด่นมากๆ อยู่ร้านหนึ่งก็คือ『HIKONE OMIYAGE HONJIN』 ที่เดินออกมาจากคูน้ำด้านนอกปราสาทมาซักพักก็จะเจอร้านนี้อยู่ขวามือเลย
ถึงร้านนี้จะชื่อว่า「HIKONE OMIYAGE HONJIN」แต่ภายในร้านมีแต่ของ “ฮิโคะเนียน” เกือบทั้งร้าน มีทั้งตุ๊กตาที่ตัวใหญ่กว่า ICHIGO-CHAN ถึง 3 เท่า(5400 เยน)หมอน “ฮิโคะเนียน” ใบใหญ่(5400 เยน)แก้วน้ำ(1200 เยน)คุ๊กกี้กล่องเหล็กลาย “ฮิโคะเนียน” (12 ชิ้น 1080 เยน)หรือขนมถั่วแดงหวานอัด “คินสึบะ”(143 เยน)เป็นต้น ทั้งคุ๊กกี้หรือขนมถั่วแดงคินสึบะและโดรายากิจะมีรูป “ฮิโคะเนียน” ปั้มเอาไว้อยู่ด้วย
ภายในร้านจะมีโซนอาหารทานเล่น ทั้ง “เซมเบ้หัวใจ”(250 เยน) “โดรายากิซอฟต์ครีม” กับแป้งโดรายากิและซอฟต์ครีมทูโทนวานิลาและมัชฉะ(450 เยน)มันบดทอดเนื้อชั้นดีเนื้อโอมิ(200 เยน)หรือ เนื้อโอมิบดชุดแป้งทอดกรอบ “OMIGYU MENCHI KATSU(280 เยน)เป็นต้น ให้ได้เลือกซื้อถือเดินกินของขึ้นชื่อของฮิโกเนะได้ระหว่างเดินกลับไปที่สถานีเลย
ด้านหน้าร้านมีตุ๊กตา “ฮิโคเนียน” ตัวใหญ่ต้อนรับแขกอยู่ด้วย ไปถ่ายรูปคู่กันซักหน่อย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เจอ “ฮิโคเนียน” ทุกทีจนตอนนี้หลงรักฮิโคเนียนไปแล้วว
เดินจากปราสาทฮิโคเนะมาไม่ถึง 10 นาที ตอนนี้ ICHIGO-CHAN ก็มาถึงหน้าสถานีฮิโคเนะแล้วค่ะ และที่หมายต่อไปของเราก็คือ หมู่บ้านริมน้ำ “โอมิฮาจิมัง OMIHACHIMAN” โดยนั่งรถไฟแบบด่วน จากสถานีนี้ไป 2 สถานี
“โอมิฮาจิมัง OMIHACHIMAN” ที่เป็นเมืองค้าขายตั้งแต่อดีต จะมีเส้นทางน้ำไหลผ่านไปสู่ทะเลสาบบิวะโกะอยู่ทุกหนทุกแห่ง โดยคนในเมืองจะให้เส้นทางน้ำนี้เพื่อคมนาคมและการขนส่งสินค้านั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันเส้นทางน้ำนี้ได้เปิดบริการนั่งเรือชมรอบๆ บ้านริมน้ำสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติและดอกไม้โดยรอบ
ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ นั่งเรือชมบรรยากาศรอบเมืองริมน้ำ “โอมิฮาจิมัง OMIHACHIMAN” และทานอาหารกลางวันสุดหรูกับเมนูเนื้อ “เนื้อโอมิ OMIGYU” กันค่ะ
【ตารางการเดินทาง Day3-2 HIKONE CASTLE】