วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของทริปเกียวโตและโอซาก้า 5 วัน 2 คืน ในราคา 14990 บาทแล้วนะคะ
ICHIGO-CHAN ที่เพลิดเพลินกับช่วงเวลา 2 วันในเกียวโตอย่างเต็มที่ ก็กำลังจะไปที่โอซาก้าซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของทริปนี้ค่ะ
ด้วยงบ 14990 บาท หักค่าตั๋วเครื่องบินไปแล้วเหลือ 8990 บาท และหักลบเงินที่ใช้ในวันแรกและวันที่ 2 อีก 6295 บาท ตอนนี้เหลืออยู่ 2695 บาท = 9430 เยนค่ะ
ด้วยเงินที่เหลืออยู่ 2695 บาทนี้ ICHIGO-CHAN จะสามารถเพลิดเพลินได้ขนาดไหนกันน้า…?
หลังจากเช็คเอาท์จากโรงแรม『KYOTO TOWER HOTEL ANNEX』ซึ่งอยู่ด้วยกันมา 2 วัน ICHIGO-CHAN ก็กำลังจะไปที่สถานีเกียวโตค่ะ
ขอขอบคุณเหล่าพนักงานที่แสนใจดีมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
หันไปมองเกียวโตทาวเวอร์ที่ได้ไปขึ้นมาแล้วเมื่อ 3 วันก่อนเป็นครั้งสุดท้ายของทริปนี้ค่ะ。
พอจะต้องจากเมืองเกียวโตแล้วก็รู้สึกแอบเศร้าอยู่นะคะ ขอให้สัญญาใจเอาไว้ว่าจะแวะมาเยี่ยมใหม่น้า
ในวันนี้ ก่อนอื่นเราจะมุ่งหน้าไปที่โอซาก้ากันก่อนนะคะ จากเกียวโตไปโอซาก้านั้น มีเส้นทางรถไฟวิ่งอยู่ 4 เส้น คือ「เส้นทางรถไฟเดิม」「KEIHAN」「HANKYU」และ「SHINKANSEN」ค่ะ
เส้นทางรถไฟเดิมเริ่มต้นจากสถานีเกียวโตไปยังสถานีโอซาก้า (UMEDA) ค่ะ
เส้น KEIHAN เริ่มต้นจาก DEMACHIYANAGI ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเกียวโต ผ่าน GION-SHIJO, KIYOMIZU-GOJO, SHICHIJO ไปยัง YODOYABASHI ค่ะ
เส้น HANKYU เริ่มต้นจาก SHIJO KAWARAMACHI ไปยัง UMEDA ค่ะ
แล้วเส้น SHINKANSEN เริ่มต้นจากสถานีเกียวโตไปยังสถานีชินโอซาก้า
แต่ละเส้นนั้นเชื่อมโยงระหว่างเกียวโตและโอซาก้าเหมือนกันค่ะ เพียงแค่วิ่งผ่านคนละพื้นที่กันเท่านั้น ในครั้งนี้เราจะใช้「เส้นทางรถไฟเดิม」กันค่ะ
มาลองทบทวนวิธีการซื้อตั๋วกันหน่อยนะคะ เริ่มจากค้นหาสถานีปลายทางบนแผนที่เส้นทางรถไฟซึ่งอยู่เหนือเครื่องจำหน่ายตั๋วและตรวจดูราคาค่าตั๋วก่อนค่ะ ถัดไปก็ใส่เงินที่เครื่องจำหน่ายตั๋วและเลือก「ซื้อตั๋วรถไฟ」จากนั้นก็กดปุ่มราคาค่าตั๋วและรับตั๋วได้เลยค่ะ
เข้าไปที่ประตู「KARASUMAGUCHI」ตรงหน้าของสถานีเกียวโต จากนั้นขึ้นบันไดทางด้านขวาค่ะ
เลี้ยวซ้ายและลงบันไดเลื่อนที่เขียนว่าไปที่ชานชาลาหมายเลข 4 และ 5 เราก็จะไปถึงชานชาลาที่จะมุ่งหน้าไปยังโอซาก้าค่ะ รถไฟธรรมดาจะออกจากชานชาลาหมายเลข 4 ส่วนรถไฟด่วนและรถไฟด่วนแบบใหม่จะออกจากชานชาลาหมายเลข 5 นะคะ
ไม่ว่าจะขึ้นรถไฟธรรมดา, รถไฟด่วน หรือรถไฟด่วนแบบใหม่ เราก็ไปถึงโอซาก้าได้เหมือนกันค่ะ แต่ขอแนะนำให้ขึ้นรถไฟด่วนแบบใหม่นะคะ เพราะว่าใช้เวลาเดินทางระหว่างเกียวโตและโอซาก้าแค่ 28 นาทีเองค่ะ
เส้น HANKYU จาก KAWARAMACHI ของเกียวโตไปยัง UMEDA ของโอซาก้าใช้เวลา 43 นาที ส่วนเส้น KEIHAN จาก DEMACHIYANAGI ของเกียวโตไปยัง YODOYABASHI ของโอซาก้าใช้เวลา 50 นาทีค่ะ (ทั้ง 2 อันเป็นเวลาเดินทางทั่วไปของรถไฟด่วนพิเศษนะคะ)
ถ้ามีงบเยอะหน่อย ก็ขึ้นเส้น SHINKANSEN เดินทางจากเกียวโตไปชินโอซาก้าได้ในเวลา 13 นาทีค่ะ เร็วสุด ๆ เลยเน๊อะ ในบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็มีจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่ขอเพลิดเพลินกับ “การนั่ง SHINKANSEN” จากชินโอซาก้าไปยังเกียวโตค่ะ
จากเกียวโตแป๊บเดียวก็มาถึงที่โอซาก้าแล้วค่ะ
เพราะใช้เวลาเดินทางแค่ 28 นาทีเท่านั้น ก็ถือว่าใช้เวลาเดินทางสั้นกว่าการนั่ง BTS จากหมอชิตไปอ่อนนุชอีกนะคะ
ในช่วงบ่ายของวันนี้ เราจะไปที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ「KAIYUKAN」ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในโอซาก้ากันค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วขอแนะนำให้ซื้อ「OSAKA KAIYU TICKET」เป็นตั๋วเข้าชม KAIYUKAN ที่มาเป็นเซ็ตสุดคุ้มพร้อมกับตั๋วสำหรับขึ้นรถไฟใต้ดินและรถบัสได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งใน 1 วันค่ะ โดยเราสามารถไปซื้อตั๋วนี้ที่ห้องนายสถานีของสถานีรถไฟใต้ดินเมืองโอซาก้าได้ทุกแห่งค่ะ
พอถึงที่สถานีโอซาก้า เราก็ลงรถและเดินไปด้านหลังค่ะ จากนั้นลงบันไดเลื่อนที่อยู่หลังสุดก็จะเจอกับช่องตรวจตั๋วของประตู「MIDOSUJIGUCHI」แล้วก็เดินผ่านประตูนี้ได้เลยค่ะ
พอเราออกจากช่องตรวจตั๋วแล้ว ก็จะเห็นป้ายแขวนที่เขียนว่า「MIDOSUJI LINE」อยู่ทางขวามือค่ะ ให้เราเดินตามป้ายนี้ไปและลงบันไดเลื่อนได้เลยค่ะ
พอลงบันไดเลื่อนมาแล้ว เราก็เลี้ยวซ้ายและเดินไปอีกนิดก็จะเห็น「สถานีรถไฟใต้ดิน UMEDA ช่องตรวจตั๋ว NAKA-KITA-HIGASHI」ซึ่งจะมีนายสถานีอยู่ที่ตรงนั้นค่ะ
มาลองพูดว่า「OSAKA KAIYUU KIPPU WO KUDASAI」(ขอซื้อ OSAKA KAIYU TICKET) กันค่ะ
นายสถานีจะบอกให้เราเข้าไปที่ห้องนายสถานีด้านในและเปิดทางตรวจตั๋วให้เราผ่านค่ะ พอเราผ่านช่องตรวจตั๋วแล้วก็เข้าไปในห้องนายสถานีซึ่งอยู่ทางขวามือได้เลยค่ะ
แล้วเราก็พูดว่า「OSAKA KAIYUU KIPPU WO KUDASAI」อีก 1 ครั้งนะคะ
ในที่สุด ICHIGO-CHAN ก็ได้「OSAKA KAIYU TICKET」(2550 เยน) มาครอบครองเรียบร้อยแล้ว
สำหรับตั๋วใบนี้ นอกจากจะใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งใน 1 วันแล้ว ยังสามารถใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ「KAIYUKAN」ได้ด้วย เพราะงั้นห้ามทำหายเด็ดขาดนะจ๊ะ
พอได้ตั๋วมาเรียบร้อยแล้วก็สบายใจขึ้นค่ะ
ในวันนี้ เป้าหมายแรกของเราก็คือ『DOTONBORI』และ『SHINSAIBASHI』ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 1 ในโอซาก้าของคนไทยค่ะ มาใช้「OSAKA KAIYU TICKET」แล้วก็ไปกันเลยค่ะ
นั่งรถไฟใต้ดินจาก UMEDA ไป NAMBA ใช้เวลาเดินทาง 7 นาที แป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
วิธีเดินทางจากสถานี NAMBA ของสาย MIDOSUJI ไปยัง DOTONBORI ก็คือไปขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ด้านหลังของขบวนรถค่ะ
หลังจากออกจากช่องตรวจตั๋วแล้ว เราก็เดินตรงไปเรื่อย ๆ จนสุดทางแล้วขึ้นบันไดหมายเลข 14 ที่อยู่ทางขวามือได้เลยค่ะ
พอเราขึ้นบันไดมาแล้วให้เดินเลี้ยวกลับ จากนั้นให้เดินตรงไปเรื่อย ๆ และเลี้ยวขวาที่สี่แยกขนาดใหญ่อันแรก ตรงนี้ก็จะเป็น『DOTONBORI』แล้วค่ะ ทางด้านในก็จะมีป้ายปู『KANIDOURAKU』ชื่อดังนั่นเอง!!
สี่แยกอันแรกเป็นใจกลางของแหล่งท่องเที่ยวซึ่ง DOTONBORI ตัดกับ SHINSAIBASHI ค่ะ
อย่างแรกที่ต้องทำก็คือ ถ่ายรูปป้าย「GLICO (กูลิโกะ)」 1 ใบค่ะ
จากป้ายกูลิโกะ เราก็มุ่งหน้าไปทาง SHINSAIBASHI ค่ะ สิ่งแรกที่มองเห็นเด่นเป็นสง่าเลยก็คือร้าน「MATSUMOTOKIYOSHI」ที่เราคุ้นเคยกันนั่นเองค่ะ
มีจำหน่ายพวกเครื่องสำอาง, ยา และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่าง ๆ ในราคาที่ถูกสุด ๆ ด้วยนะคะ
สาขานี้ถือเป็นสาขาขนาดใหญ่มากในบรรดาร้านสาขาของ MATSUMOTOKIYOSHI ทั้งหมด และก็ยังมีเคาน์เตอร์ยกเว้นภาษีด้วยค่ะ ก็เลยมีแต่ลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติเต็มไปหมด
ICHIGO-CHAN ก็ซื้อของฝากด้วยเช่นกันค่ะ!!
เจอร้าน「PABLO」ซึ่งเป็นร้านขายชีสเค้กยอดนิยมของคนไทยด้วย!
เพราะชีสทาร์ต (850 เยน) ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ล่าสุด PABLO ก็มีไปเปิดสาขาที่ไทยด้วยนะคะ
มีเมนูซึ่งมีเฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น รวมไปถึงเมนูซึ่งมีเฉพาะฤดูกาลด้วย เพราะงั้นก็ถือว่าคุ้มค่าที่แวะมาที่ร้านในญี่ปุ่นค่ะ
สำหรับเดือนมกราคมก็มีจัดจำหน่าย「ชีสทาร์ตไดฟุกุสตรอเบอร์รี่」(2000 เยน) ถึงจะดูน่ากินแค่ไหนก็ตาม งบในตอนนี้มีเหลืออยู่แค่เพียงน้อยนิด….
ทุกคน รู้จัก「GU」กันบ้างไหมคะ?
เป็นแบรนด์พี่น้องกับ「UNIQLO」ที่คนไทยชื่นชอบนั่นเอง โดยจะเน้นขายเสื้อผ้าแบบที่สวมใส่สบาย ๆ ค่ะ และเพราะว่ามีราคาที่ถูกยิ่งกว่า UNIQLO อีก จึงได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมากค่ะ
ล่าสุดมีไปเปิดสาขาที่ฮ่องกงและไต้หวันด้วยนะคะ อีกไม่นานก็อาจจะมาเปิดสาขาที่ไทยด้วยก็ได้นะ…?
หนึ่งในสาขาของ GU ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นก็อยู่ที่ SHINSAIBASHI ค่ะ
ร้านรองเท้าที่คนไทยชื่นชอบก็มีด้วย….
ร้านที่ดูแลพวกแบรนด์มือสองก็มี….
อาจจะพูดได้ว่า SHINSAIBASHI มีสินค้าที่คนไทยต้องการทุกสิ่งอย่างเลยก็ว่าได้นะคะ
คือแบบว่าจะเดินเล่นนานแค่ไหนก็ไม่มีเบื่อเลยค่ะ
เพราะว่าในครั้งนี้เป็นทริป 14990 บาทค่ะ ก็เลยแอบเสียใจว่าน่าจะแยกงบเพื่อการช้อปปิ้งเอาไว้ต่างหากดีกว่าน้า แถมเกือบอดใจไม่ไหว จะแหกกฎทริปนี้แล้ววิ่งไปกดเงินที่ ATM อยู่แล้วด้วย แต่สุดท้ายก็สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ แหะ ๆ ๆ
การเอาชนะกิเลสอย่าง「ความโลภ」และ「ความอยากกิน」นี่มันยากจังเลยนะคะ
ถ้าขืนยังเดินเล่นอยู่ใน SHINSAIBASHI นานกว่านี้อีกหน่อย สุดท้ายก็คงจะแพ้ใจตัวเองแน่นอนค่ะ
ด้วยเหตุนี้ เราควรจะมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายถัดไปซึ่งก็คือ TEMPOZAN เพื่อไปขึ้นเรือ『SANTA MARIA DAY CRUISE』กันดีกว่านะคะ