เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day3-1 นั่งรถไฟอิซุฮาโกเนะ Izuhakone Railway เดินทางไปยังเมืองแห่งออนเซ็น “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น Shuzenji Onsen”
TOKYO-FUJI-MISHIMA-SHUZENJI-SHIMIZU-MIHONOMATSUBARA-HAMAMATSU-NAGOYA
พาสที่จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง Central Japan Railway Company หรือ JR TOKAI กับพาสสุดคุ้ม『Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini』
พาสที่สามารถใช้นั่งเส้นทางระหว่าง อาตามิ~โทโยฮาชิ(Tokaido Main Line), นุมะซุ~มัตสึดะ(Gotemba Line)หรือ ฟูจิ~ชิโมเบะออนเซ็น(Minobu Line)รวมการนั่งรถไฟแบบด่วนพิเศษได้ไม่อั้น(ยกเว้นรถไฟแบบนอน)นอกจากนี้ยังสามารถใช้นั่งยานพาหนะอื่นๆ เช่น รถไฟ Izuhakone Railway(ทุกสายของสายซุนซึ Sunzu Line), รถบัสเพื่อใช้ท่องเที่ยว โกเทมบะ พรีเมียม เอ้าท์เล็ตส์ขนาดใหญ่ และ ทะเลสาบคาวากุจิ หรือ เรือเฟอร์รี่「The Suruga Bay Ferry」เพื่อนั่งเรือชมภูเขาไฟฟูจิจากทะเลได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นพาสสุดคุ้มที่ให้เพื่อนๆ ได้ท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่
「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」มีอายุ 3 วัน ราคาเพียง 4500 เยนเท่านั้น แค่เพียงราคาตั๋วรถบัสไปกลับระหว่างโกเท็มบะ และ คาวากุจิโกะแบบปกติอยู่ที่ 3020 เยนและเรือเฟอร์รี่ The Suruga Bay Ferry(ราคาปกติ 2100 เยน)รวม 2 อย่าง อยู่ที่ 5300 เยน จะเห็นได้ว่าไม่จำเป็นต้องใช้นั่งรถไฟใดๆ ก็คุ้มเกินทุน โดยครั้งนี้เราจะใช้พาสนี้ท่องเที่ยวแบบสุดคุ้ม เพื่อนั่งรถไฟอิซุฮาโกเนะ Izuhakone Railway เดินทางไปยัง “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น Shuzenji Onsen”
ออกจากโตเกียวมาแต่เช้า เพื่อนั่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นมาที่ “มิชิมะ” และจาก “มิชิมะ” นี้ ICHIGO-CHAN ก็ได้ใช้พาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」เพื่อท่องเที่ยวบริเวณ “ทะเลสาบคาวากุจิ・ฟูจิโยชิดะ” แล้ว
Day2-4 เดินทางเข้าสู่ “มิชิมะ” เพื่อทานอาหารค่ำและเข้าพักที่「Fugoku-no-yu Dormy inn Mishima」
หลังจากที่กลับมายัง “มิชิมะ” เราก็ได้ทานซูชิปลาสดใหม่จากอ่าวนุมะซุที่อยู่ใกล้เคียง และได้แช่ออนเซ็นธรรมชาติ ผ่อนคลายสบายตัวมากๆ
วันนี้ก็เป็นวันที่ 3 ของการใช้「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」แล้ว วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจาก “มิชิมะ” ไปยัง “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น Shuzenji Onsen” ที่เรียกได้ว่าเป็น「IZU NO SHOUKYOTO(伊豆の小京都)」ที่แปลว่า “เมืองคล้ายเกียวโตที่อิซุ” กันค่ะ
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยการแช่ออนเซ็นธรรมชาติ และได้นอนพักไปเต็มอิ่ม ตื่นเช้ามาพร้อมกับวิวรถไฟที่แล่นไปมาในสถานีมิชิมะ พร้อมภูเขาไฟฟูจิจางๆ ที่ถูกเมฆปกคลุมแบบเบาบาง จากหน้าต่างห้อง ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิตั้งแต่เช้าแบบนี้ วันนี้จะต้องเป็นวันที่ดีมากๆ แน่นอนเลยค่ะ เราจะไปเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้ากันเลย ซึ่งห้องอาหารเช้าของ「Fugoku-no-yu Dormy inn Mishima」จะอยู่ที่ชั้น 1F นำคูปองอาหารเช้าไปที่ห้องอาหารกันเลย
ภายในห้องอาหารจะเป็นหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ พร้อมที่นั่งแบบโต๊ะ 2 คน และที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ รวมแล้วกว่า 50 ที่นั่ง ซึ่งโต๊ะสามารถเคลื่อนย้ายเพื่อรองรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มได้สบายค่ะ
เมนูอาหารเช้าก็มีให้เลือกหลากหลายเมนู ทั้งออมเล็ต ไข่ดาว เบค่อน สลัดบาร์ หรือขนมปังนานาชนิดทั้ง ครัวซองค์ วาฟเฟิล ฯลฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีอาหารญี่ปุ่นอีกด้วย ทั้งเมนูปลาสดใหม่ต่างๆ จากอ่าวชื่อดังของญี่ปุ่น “อ่าวนุมะซุ”「Numazu Port(沼津港)」ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เมนูปลาตากแห้ง หรือเมนูคล้ายลูกชิ้น รสชาติ “กุ้งซากุระเอบิ”「SAKURA EBI(桜エビ)」ที่เป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของชิซุโอกะ เท่านั้นไม่พอ…..
นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่ กับ ข้าวหน้า “กุ้งซากุระเอบิ”「SAKURA EBI(桜エビ)」และ “ปลาชิราสุ”「SHIRASU(シラス)」ที่เป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของพื้นที่ เรียกว่า “NISHOKUDON” แปลว่า ข้าวหน้าสองสี สามารถราดกุ้งซากุระเอบิ หรือปลาชิราสุ ลงบนข้าวได้ตามต้องการ และโรยด้วยต้นหอม สาหร่าย และวาซาบิ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรสชาติได้ตามความชอบ หรืออาจราดโชยุไปซักเล็กน้อย ทั้งรสสัมผัส และรสชาติเป็นอะไรที่เข้ากัน ลงตัวอร่อยมากๆ เลยทีเดียว
เมนูที่ ICHIGO-CHAN เลือกมาในวันนี้มีทั้ง ปลาย่างสองชนิด ข้าวหน้ากุ้งซากุระเอบิกับปลาชิราสุ ไข่ออมเล็ต นัตโตะ ฯลฯ อีกมากมาย…… ปริมาณอัดแน่น ทานได้เต็มที่เลยค่ะ
หลังจากที่ทานอาหารเช้าไปจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไป “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น”「Shuzenji Onsen」กันเลย ซึ่งเราจะเดินทางไป “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น” โดยนั่งรถไฟอิซุฮาโกเนะ Izuhakone Railway จาก “สถานีมิชิมะ Mishima Station” ใกล้โรงแรม ไปยัง “สถานีชูเซ็นจิ Shuzenji Station” และนั่งบัสจากสถานีชูเซ็นจิไปจะสะดวกที่สุด
เดินจากโรงแรมไป สถานีมิชิมะ 5 นาที โดยออกจากโรงแรมไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็เลี้ยวขวาที่สี่แยกขนาดใหญ่ จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ เดินผ่านสถานี JR มิชิมะ ที่ใช้บริการเมื่อวาน จากนั้นก็จะเจอสถานีรถไฟด่วนอิซุฮาโกเนะ Izuhakone Railway ของสถานีมิชิมะ ที่อยู่ลึกเข้าไปทางขวามือ (ภาพขวาล่าง)
ซึ่งช่วงเส้นทางรถไฟอิซุฮาโกเนะ Izuhakone Railway จาก สถานีมิชิมะ ถึง สถานีชูเซ็นจิจะสามารถใช้「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ได้ไม่อั้น เพราะฉะนั้นสามารถแสดงพาสสุดคุ้มนี้ที่ช่องริมขวาสุดที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ สามารถผ่านเข้าไปได้โดยไม่ต้องเสียเวลาซื้อตั๋วรถไฟเพิ่ม
『รถไฟอิซุฮาโกเนะ Izuhakone Railway』
ก่อนอื่นก็ผ่านช่องตรวจตั๋วออกไปเพื่อไปที่ชานชาลากันเลย
รถไฟจากสถานีมิชิมะ ไปยังสถานีชูเซ็นจิ จะวิ่งชั่วโมงละ 3-5 เที่ยว โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 ถึง 40 นาที
『ตารางเวลารถไฟอิซุฮาโกเนะ Izuhakone Railway จาก “สถานีมิชิมะ”』
เป็นรถไฟยาวสามโบกี้เล็กๆ กระทัดรัด เมื่อออกจากสถานีมิชิมะไปแล้ววิวนอกหน้าต่างก็จะกลายเป็นวิวธรรมชาติทุ่งนา เพื่อมุ่งหน้าไปสู่สถานีชูเซ็นจิ
นั่งรถไฟไป 35 นาที ก็มาถึงที่ “สถานีชูเซ็นจิ” เป็นที่เรียบร้อย เมื่อถึงที่หมายแล้วก็เดินไปทางด้านหน้าเพื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋ว และไปที่ป้ายรถบัสที่มุ่งหน้าไปสู่ “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น Shuzenji Onsen” กันเลย
แสดงพาส「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ผ่านออกจากช่องตรวจตั๋ว และเดินไปทางซ้ายมือ เพื่อมุ่งหน้าไปทางประตูใต้ South Exit เลย เมื่อผ่านออกจากประตูใต้แล้ว ก็จะเจอป้ายรถบัสที่มุ่งหน้าไปสู่ “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น Shuzenji Onsen” เลย โดยบัสที่มุ่งหน้าไป “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น Shuzenji Onsen” จะออกจากป้ายบัสหมายเลข 1 วิ่งชั่วโมงละ 2-4 เที่ยว
ซึ่งช่วงเส้นทางรถบัสระหว่าง “สถานีชูเซ็นจิ” ไปจนถึง “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น” สามาถใช้พาส「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ได้เช่นกัน โดยรถบัสนี้จะเป็นแบบขึ้นประตูด้านหน้า และลงประตูด้านหน้า สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่มีพาส เวลาขึ้นรถจะต้องหยิบตั๋วรถบัสจากเครื่องออกตั๋วที่อยู่ข้างประตู และจะต้องเช็คราคาค่าโดยสารจากป้ายไฟแสดงราคาที่อยู่ด้านหน้าตามตัวเลขที่อยู่ในตั๋วรถ และทำการชำระเงินตามจำนวนขณะลงรถ ค่าโดยสารจาก “สถานีชูเซ็นจิ” ไป “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น” จะอยู่ที่ 220 เยน
ซึ่งครั้งนี้ ICHIGO-CHAN จะใช้พาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ในการขึ้นรถบัส เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนยุ่งยากใดๆ เลยค่ะ เพียงแค่แสดงพาส「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ให้กับเจ้าหน้าที่ขณะลงรถเท่านั้น ง่ายนิดเดียว
นั่งรถบัสจากสถานีชูเซ็นจิมาเพียง 8 นาที ตอนนี้ก็ได้เดินทางมาถึง “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น” ในบรรยากาศเมืองออนเซ็นสุดๆ เลยค่ะ เมื่อถึงป้ายรถบัสแล้ว ก็เดินไปตามเส้นทางสีเหลือง ไปทางขวามือ และตรงไปเรื่อยๆ เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ย่านในเมืองชูเซ็นจิ ออนเซ็นกันเลย
เดินจากป้ายรถบัสมา 1 นาที ก็จะเห็น “ศาลเจ้าฮิเอะ”「HIE JINJA(日枝神社)」อยู่ด้านขวามือ ถึงแม้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะดูเป็นศาลเจ้าเล็กๆ แต่ก็เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงไม่น้อยเลยทีเดียว
เราเข้าไปในศาลเจ้ากันเลย บริเวณริมสองฝั่งข้างทางบันไดขึ้นไปสู่ศาลเจ้าจะมีกระถางดอกไม้อยู่ตลอดทาง น่ารักมากๆ เลยค่ะ
และเมื่อขึ้นบันไดมาแล้วก็จะเจอที่ชำระล้างร่างกาย และอาคารศาลเจ้าหลักขนาดเล็ก เมื่อทำการชำระล้างร่างกายแล้วก็ไปเคารพอาคารศาลเจ้าหลักกันเลย
หลังจากชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้ว ก็มาที่บริเวณศาลเจ้าหลัก(ที่มีระฆังและกล่องทำบุญอยู่หน้าอาคาร) โค้งคำนับ 1 ครั้งก่อนลั่นกระดิ่งที่ห้อยลงมา
จากนั้นโยนเหรียญใส่กล่องทำบุญ(ตามจิตศรัทธา โดยปกติประมาณ 5-50 เยน)และทำการ
โค้งคำนับ 2:โค้งคำนับไปทางศาลเจ้า 2 ครั้ง
ปรบมือ 2:ปรบมือ 2 ครั้ง
โค้งคำนับ 1:อธิษฐานในใจ และโค้งคำนับอีก 1 รอบ
ซึ่งหลักการกราบไหว้แบบ โค้งคำนับ 2 ปรบมือ 2 โค้งคำนับ 1 นั้นจะเป็นการสักการะที่ศาลเจ้าเท่านั้น ในกรณีการสักการะที่วัดจะไม่มีการปรบมือ สามารถสักการะโดย พนมมือธิษฐาน และโค้งคำนับ 1 ครั้งเท่านั้น
ซึ่งเสน่ห์ของศาลเจ้าฮิเอะแห่งนี้ก็คือ「KODAKARA NO SUGI(子宝の杉)」อ่านว่า “โคดาคาระ โนะ ซุกิ” เป็น “ต้นสนซุกิที่ให้โชคเรื่องการมีบุตร” ขนาดใหญ่จำนวน 2 ต้นที่มีอายุกว่า 800 ปี โดยส่วนรากด้านล่างจะเชื่อมต่อกัน และมีความเชื่อว่า หากได้เดินผ่านระหว่างทั้งสองต้นนี้จะช่วยให้สมหวังเรื่องการมีบุตร แน่นอนว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้รับความเลื่อมใสทั้งจากคนในพื้นที่ และคู่สามีที่ต้องการมีบุตรจากทั่วทุกพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
เมื่อออกจากโทริอิศาลเจ้าฮิเอะแล้ว ก็จะเจอ “วัดชูเซ็นจิ” ถึงแม้ว่าวัดนี้จะเป็นวัดเล็กๆ แต่ก็มีประวัติยาวนานกว่า 1200 ปี เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาท่องเที่ยวบริเวณ “ชูเซ็นจิ” นี้ และที่สำคัญคือสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ศูนย์กลางบริเวณ “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น Shuzenji Onsen” ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อเดินผ่านประตูซันมงไปก็จะเจอที่ชำระล้างร่างกายอยู่ด้านขวามือ ซึ่งเป็นที่ชำระล้างร่างกายที่ทำจากหิน ซึ่งน้ำที่ไหลออกมาจากปากมังกรก็คือน้ำออนเซ็นธรรมชาติ สมกับเป็นเมืองแห่งออนเซ็นเลยทีเดียว โดยมีวิธีการชำระล้างร่างกายดังนี้
1. ก่อนอื่นจะต้อง ถือกระบวยด้วยมือขวา และตักน้ำให้เต็ม จากนั้นน้ำมาล้างมือซ้าย
2. จากนั้น เปลี่ยนมือที่ถือกระบวยเป็นข้างซ้าย และล้างมือขวา
3. ขั้นตอนต่อไปก็ เปลี่ยนมาถือกระบวยมือขวาอีกรอบ เทน้ำใส่มือซ้ายพอประมาณ และทำการบ้วนปาก *ในขั้นตอนนี้ห้ามนำกระบวยมาโดนปากโดยตรง
4. ล้างมือซ้ายอีกรอบ
5. ในขั้นตอนสุดท้าย ตั้งกระบวยขึ้น โดยหันหน้ากระบวยเข้าตัว เพื่อให้น้ำไหลลงไปล้างที่จับกระบวย วางกระบวยไว้ที่เดิม เท่านี้ก็เรียบร้อย
บรรยากาศวัดเหมือนท่องเที่ยวอยู่ในเมืองเกียวโต ซึ่งที่บริเวณ “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น Shuzenji Onsen” นี้จะมีทั้ง「แม่น้ำคัตสึระ Katsuragawa」「สะพานโทเก็ตสึเคียว Togetsu-kyō」หรือ「เส้นทางป่าไผ่ Bamboo Grove」ที่ให้บรรยากาศเหมือน อาราชิยามะ ที่เกียวโต จนถูกขนานนามว่าเป็น “เมืองคล้ายเกียว ณ อิซุ” เลยทีเดียว
ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมเมืองแห่งออนเซ็น “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น” ที่เป็นเมืองคล้ายเกียวโต ณ อิซุ และ นั่งเรือเฟอร์รี่ที่เชื่อมระหว่าง “นิชิอิซุ” และ “ชิมิสึ” เพื่อเดินทางไปยัง “อ่าวโทอิ” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day3-1 FUGOKU-NO-YU-DORMY INN MISHIMA/SHUZENJI-ONSEN】
PASS ที่ใช้ TRIP นี้ “Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini”