ROUND THE C･H･I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-5 ดื่มกินร้านอิซากายะสไตล์ญี่ปุ่นที่「ROBATAYAKIEIKICHI」พร้อมเข้าพักโรงแรม「HOTEL ROUTE INN KANI」
INUYAMA-NAGOYA-MINOKAMO-NAGOYA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ชมงานดอกไม้ไฟที่มีพลุกว่า 3500 ลูก พร้อมการแสดงกลอง ภายในงาน “เทศกาลอน มิโนคาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」ได้สัมผัสบรรยากาศงานเทศกาลของญี่ปุ่นไปแบบเต็มที่
ถึงแม้ว่าหลังจากงานดอกไม้ไฟจะมีการเต้น “บงโอโดริ” ของญี่ปุ่นอยู่ แต่ตอนนี้เราเริ่มหิวแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะไปทานอาหารค่ำกันที่ร้านแบบดื่มกินสไตล์ญี่ปุ่นในร้านอิซากายะที่ชื่อว่า「ROBATAYAKIEIKICHI(炉ばた栄吉)」
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทานมื้อค่ำที่ร้านอิซากายะ「ROBATAYAKIEIKICHI(炉ばた栄吉)」และเข้าพักที่โรงแรม「HOTEL ROUTE INN KANI」กันค่ะ ไปดูกันเลย
เดินทางด้วยการนั่งรถไฟจากนาโกย่ามาเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ที่เมืองมิโนกาโมะเมืองเรียบแม่น้ำคิโซะ จะมีงาน “เทศกาลอน มิโนกาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」
ในช่วงท้ายของงานดอกไม้ไฟจะเป็นช่วงฟินาเล่「STARMINE」ซึ่งเป็นการจุดดอกไม้ไฟรวมกันหลากหลายแบบ ไปเรื่อยๆ แบบรัวๆ เป็นเวลาประมาณ 30 วินาที มากเกือบ 100 ลูก เมื่อสิ้นสุดงานดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่อลังการแล้วก็จะปิดท้ายงานด้วย กิจกรรมการเต้นรำ “บงโอโดริ” ยาวๆ แบบข้ามวันเลย แต่ ICHIGO-CHAN จะอยู่จนถึงงานเทศกาลดอกไม้ไฟเท่านั้น
โดยเราสามารถเดินจากสถานที่จัดงานดอกไม้ไฟที่ “สวนคิโซะกาวะเรียวกุจิไลน์ปาร์ค”「Kisogawaryokuchi Line Park」ไปร้าน「ROBATAYAKIEIKICHI」เพียง 7 นาทีเท่านั้น
ก่อนอื่นเราจะต้องเดินกลับไปตามทางเดิม เพื่อไปทางสถานีมิโน โอตะ เดินลงคันดินไป เพื่อเดินตรงไปทางสถานี และเลี้ยวขวาที่ซอยถัดจากร้านตัดผมชายที่อยู่เลยซุปเปอร์มาร์เก็ตไปอีก เมื่อเลี้ยวมาแล้วก็เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไฟแดงที่ 2 ก็จะเจอร้าน「ROBATAYAKIEIKICHI」อยู่ทางซ้ายมือทันที
ท่ามกลางเมืองมิโนโอตะยามค่ำคืน ร้าน「ROBATAYAKIEIKICHI」จะเปิดให้บริการทุกวันถึงเวลา 5 ทุ่ม ร้านอิซากายะนี้นอกจากจะเปิดให้บริการถึงดึกแล้ว วัตถุดิบที่ใช้ก็สดใหม่อีกด้วย
ภายในร้านมีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์อยู่ประมาณ 10 ที่นั่ง กับที่นั่งแบบห้องส่วนตัวอีก 2 ห้อง เป็นร้านที่ได้รับความนิยมบางวันจะต้องจองก่อนล่วงหน้า แต่วันนี้เราโชคดีมากๆ ถึงจะเป็ช่วงระหว่างงานเทศกาลแต่ก็ได้เข้าไปในร้านเลย
ที่บริเวณหน้าที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ก็จะมีวัตถุดิบสดใหม่ต่างๆ ทั้งผักปลา ให้ลูกค้าได้เลือกวัตถุดิบที่อยู่ตรงหน้าได้ด้วยตนเองเลย ถึงแม้ว่าที่ร้านจะมีเมนูให้เลือกทานได้ แต่ก็สามารถสั่งวัตถุดิบต่างๆ เพื่อทำเป็นเท็มปุระ(ชุดแป้งทอด) หรือ ซาชิมิ(ของดิบ) ได้ตามความชอบของลูกค้า แบบอาหารตามสั่งเลย
ซึ่งร้านแบบ “อิซากายะ” โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่เสริฟ์เป็นอาหารแบบกับแกล้ม เพราะฉะนั้นจะไม่ค่อยมีเมนูแบบอาหารชุดอยู่มากนัก แต่ที่ร้านก็สามารถทำอาหารเสิร์ฟสำหรับลูกค้าที่ต้องการมาทานอาหารได้
โดยสามารถแจ้งที่ร้านว่า
「SUMIMASEN、OSAKANA NO TEISHOKU ONEGAI DEKIMASUKA」
「ซุมิมาเซ็น โอซาคานะ โนะ เทโชกุ โอเนกาอิ เดคิมัสก้ะ」
（แปลว่า สั่งเป็นอาหารชุดปลาได้ไหม ครับ/ค่ะ）
และเมื่อสั่งแบบนี้ไปแล้ว เมนูที่เราได้ก็คือ…
ปลาซาร์ดีนชุบเกร็ดทอด ซาชิมิมากุโระกับหมึกแดง และ ซุปอะคะดาชิหอยอาซาริ ไม่ว่าวัตถุดิบไหนก็สดใหม่ แถมยังเป็นวัตถุดิบประจำฤดูร้อนของญี่ปุ่นอีกด้วย อันที่จริงแล้วเราเลือกร้านนี้แค่เพราะว่าร้านเปิดถึง 5 ทุ่มเท่านั้น แต่พอได้ทานอาหารแล้วก็รู้สึกว่าอาหารแต่ละอย่างใช้วัตถุดิบที่สดใหม่อร่อยมากๆ
ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN ได้สั่งอาหารไปโดยไม่ได้เช็คราคาก่อนเลย ซึ่งราคารวมเบียร์อีกหนึ่งแก้ว เป็น 2200 เยน ซึ่งราคาก็สมเหตุสมผลอยู่ค่ะ หากเป็นร้านอาหารในเมืองใหญ่ๆ หรือตามสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ การไม่เช็คราคาก่อนสั่งเป็นอะไรที่เสี่ยงอยู่พอสมควรเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นร้านแบบท้องถิ่นก็ยังพอไว้ใจได้อยู่ ยังไงการได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากร้านอาหารใหญ่ๆ หรือร้านอาหารในห้างต่างๆ เป็นทานร้านอาหารในท้องถิ่นทั่วไปดู ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีระหว่างการท่องเที่ยวนะคะ เราจะได้สัมผัสบรรยากาศของคนในพื้นที่อย่างแท้จริงเลย ซึ่งคนในพื้นที่เองก็ให้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีเลย
หลังจากทานอาหารค่ำจนอิ่มแล้ว เราจะเดินทางไปที่ โรงแรม「HOTEL ROUTE INN KANI」กันเลย ซึ่งสถานีที่อยู่ใกล้โรงแรมมากที่สุดก็คือ “สถานีคานิ Kani Station” สามารถเดินทางจาก “สถานีมิโน โอตะ” ด้วยรถไฟสายไทตะ Taita Line ไป 2 สถานีเท่านั้น
ก่อนอื่นจะต้องเดินออกจากร้านเพื่อไปสถานีมิโน โอตะก่อน โดยเดินออกจากร้านไปทางขวามือ ไปจนเจอถนนใหญ่ ให้เลี้ยวขวา จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาทีก็จะเจอสถานีมิโน โอตะเลย ซึ่งช่องตรวจตั๋วของสถานีมิโน โอตะจะต้องขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2F
เมื่อถึงสถานีแล้ว ก็ไปซื้อตรวจตั๋วกันก่อนเลยโดย เช็คราคาค่าโดยสารได้จากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ เพื่อเช็คราคาตั๋วไป “สถานีคานิ Kani Station”（190 เยน）จากนั้นก็กดปุ่ม「English」ที่อยู่บนขวาหน้าจอเพื่อเปลี่ยนภาษา แล้วจึงกดปุ่ม「190」จากนั้นก็ใส่เงินเข้าไปในเครื่อง เท่านี้ก็เรียบร้อย สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ต้องการซื้อตั๋วทีละหลายๆ ใบก็สามารถกดปุ่มรูปคนที่อยู่ด้านซ้ายหน้าจอได้ สามารถซื้อได้สูงสุดครั้งละ 4 คนค่ะ
ซึ่งรถไฟจากสถานีมิโน โอตะ ไปสถานีคานิ นั้นแต่ละรอบจะออกจากชานชาลาที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นเมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วมาแล้ว ก็ต้องเช็คชานชาลาจากป้ายไฟแสดงตารางเวลารถไฟก่อน จากนั้นค่อยมุ่งหน้าไปรอที่ชานชาลานั้นๆ ได้เลยค่ะ หากเป็นสถานีรถไฟในเมืองใหญ่ หรือสถานีรถไฟใหญ่ๆ ก็จะมีการแสดงตารางเวลาเป็นภาษาอังกฤษด้วย แต่ในกรณีที่เป็นสถานีเล็กๆ ตามชานเมืองส่วนใหญ่จะมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
เพราะฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจก็สามารถสอบถามที่เจ้าหน้าที่สถานีได้เลย โดยถามว่า
「（สถานีที่ต้องการไป）NI IKU RESSHA WA NANBANSEN KARA SHUPPATSU SHIMASUKA？」
「（สถานีที่ต้องการไป）นิ อิคุ เร็ชชะ วะ นันบังเซ็น คาระ ชุบปะสึ ชิมัสก้ะ？」แปลว่า “รถไฟไป（สถานีที่ต้องการไป）จะออกจากชานชาลาหมายเลขอะไร ครับ/คะ”
ซึ่งรถไฟที่ ICHIGO-CHAN จะต้องขึ้นในวันนี้จะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 2
ซึ่งรถไฟจากสถานีมิโน โอตะ ไปสถานีคานิ จะวิ่งชั่วโมงละ 1-3 เที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 นาที
เมื่อถึงสถานีคานิแล้ว ก็ออกจากช่องตรวจตั๋วที่อยู่ซ้ายมือเลย เมื่อออกจากสถานีแล้วก็เดินออกจากสถานีไปตามถนนใหญ่เรื่อยๆ ประมาณ 7-8 นาที
เดินมาจากสถานีประมาณ 7-8 นาทีแล้ว ก็จะเจอโรงแรม「HOTEL ROUTE INN KANI」อยู่ทางซ้ายมือเลย
ซึ่งโรงแรมจะเป็นตึกที่สูงเด่นอยู่ท่ามกลางเมืองคานิที่ส่วนใหญ่จะมีแต่อาคารที่ไม่สูงมาก เพราะฉะนั้นไม่หลงแน่นอน
ไปเช็คอินกันเลย โดยยื่นพาสปอร์ตให้กับพนักงาน และกรอกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ลงไปในใบลงทะเบียน จากนั้นทำการชำระเงินให้เรียบร้อย ก็รับคีย์การ์ดมาได้เลย ซึ่งที่นี่จะรองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทั่วไป และ Union Pay ด้วยค่ะ
「HOTEL ROUTE INN KANI」นี้เป็นโรงแรมที่มีบริการพิเศษต่างๆ มากมายสำหรับผู้เข้าพัก ส่วนวันนี้ สำหรับแขกผู้หญิงจะได้รับเครื่องดื่มคอลลาเจน ส่วนผู้ชายจะได้รับBody Sheet ชีทเช็ดทำความสะอาดร่างกาย เพื่อเพิ่มความสดชื่น และนอกจากนี้ที่บริเวณล๊อบบี้จะมีบริการเครื่องชงกาแฟ ที่สามารถดื่มได้ตามความชอบตลอดการเข้าพักอีกด้วย
ห้องพักของ ICHIGO-CHAN คือห้องแบบทวินรูม ห้องพักขนาดกำลังพอดี ที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย สะอาดสะอ้าน มีเตียงขนาดเซมิดับเบิ้ลให้ได้นอนพักแบบสบายๆ
ห้องอาบน้ำก็เป็นแบบทั่วไป ที่มีทั้งส่วนอาบน้ำ และส่วนห้องน้ำอยู่รวมกันในห้องเดียว มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานให้อย่างครบครัน ทั้งแชมพู สบู่ แปรงสีฟัน ฯลฯ สามารถใช้ได้ตามสบายเลยค่ะ
ซึ่งนอกจากห้องอาบน้ำส่วนตัวในห้องพักแล้ว ที่ชั้น 8F ยังมีห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ให้บริการอีกด้วย เพื่อนๆ จะได้เพลิดเพลินกับการอาบน้ำเหมือนได้พักที่ออนเซ็นเรียวกังเลยทีเดียว (ห้องพักแบบญี่ปุ่นสำหรับการเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็น) ซึ่งออนเซ็นของที่นี่จะเป็นออนเซ็นที่ทำจากหินเรเดียม สามารถช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า และส่วนช่วยโรคปวดเส้นประสาท นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณอีกด้วย ถ้าได้มาก็ลองเข้ากันดูนะคะ
วันนี้ทั้งวัน ICHIGO-CHAN ได้เที่ยวตั้งแต่ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า” เพื่อชมโชว์โลมา และชมความน่ารักของวาฬเบลูกา จากนั้นก็เที่ยวชม “ศาลเจ้าอัตสึตะ” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีแบบแผนและประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ต่อด้วยงานดอกไม้ไฟแสนอลังการในงาน “เทศกาลอน มิโนกาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」แล้ว
พรุ่งนี้เราจะไปเข้าร่วมหนึ่งในงานอีเว้นท์ของ「World Cosplay Summit」ที่เป็นไฮไลท์ของทริปนี้ กับงาน Osu-Cosplay Parade กันค่ะ พรุ่งนี้จะเป็นยังไงห้ามพลาด ฝากติดตามด้วยนะคะ
【ตารางการเดินทาง Day2-5 ROBATAYAKI EIKICHI/HOTEL ROUTE INN KANI】
