Day2-4 เที่ยว『ปราสาท MATSUMOTO』เดินทางไปต่อคิโซะฟุกุชิมะ
ICHIGO-CHAN เพลิดเพลินไปกับข้าวกล่องแสนสวยและหนึ่งในวิวจากหน้าต่างรถไฟที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น『NIHON SANDAI SYASOU』(หมายถึง วิวจากหน้าต่างรถไฟที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น 3 แห่ง)ที่สถานีรถไฟโอบะสุเตะ ระหว่างเดินทางไปปราสาทมาซึโมโต้
Day2-3 กินข้าวกล่องบนรถไฟแสนอร่อย มาถึง『ปราสาท MATSUMOTO』
แค่เดินเข้าไปในร้านขายของฝากก่อนถึงข้างในปราสาท ก็ได้ถ่ายรูปคู่กับเด็กน้อยน่ารัก ที่น่ารักเหมือนหลุดมาจากวง AKB ด้วย แค่นี้ก็รู้สึกพอใจมากๆเลย แต่แน่นอนว่าไม่ได้ลืมที่มาท่องเที่ยวหรอกนะ
และในที่สุดวันนี้ก็จะได้พาทุกคนไปดูปราสาทมาซึโมโต้กัน
ช่วงนี้ ปราสาทมาซึโมโต้ ได้รับความนิยมมากในหมู่คนไทย
จุดเด่นก็คือตัวปราสาทเอง ตัวปราสาทนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมาซึโมโต้มากว่า 400 ปีมาแล้ว
และแล้วก็มาถึงทางเข้าตัวปราสาท
แขกจะน้อยในวันธรรมดาที่มีหิมะแบบนี้ แต่ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ล่ะก็ต้องรอต่อแถว 30 นาทีกันเลย
เลยอยากจะให้เผื่อเวลากันด้วยนะ
ก่อนที่จะเข้าไปในตัวปราสาท รู้รึเปล่าว่าสิ่งที่อยู่บนกำแพงหินนี้คืออะไรเอ่ย ?
เดี๋ยวเราจะมาเฉลยทีหลังนะว่ามันคืออะไร ♪
ภายในบริเวณอาคารก็จะห้ามสวมรองเท้าเข้าไปเหมือนวัดที่ไทยเลย
ถึงแม้ว่าพื้นของตัวปราสาทจะเป็นไม้ แต่หน้าหนาวพื้นก็จะเย็นมากเหมือนกัน แนะนำว่าให้ยืม(ฟรี)รองเท้าแตะใส่น่าจะดีว่านะ
ในส่วนที่เป็นชั้นที่ 1-3 จะเป็นส่วนที่แสงไม่ค่อยส่องถึงเลยจะมืดๆหน่อย
ที่เป็นแบบนี้ก็เพื่อป้องกันเวลาข้าศึกบุก ยิงปืนโจมตี หรือขว้างไฟใส่นั่นเอง
ตรงปลายทางเดินจะมีช่องว่างอยู่ด้านล่าง ขนานไปกับพื้นดิน
ช่องนี้คือส่วนที่ได้พูดถึงไปในตอนต้น ส่วนที่อยู่บนกำแพงหิน
เรียกว่า「ISHI OTOSHI」มีไว้เพื่อยิงธนูหรือปืนไปที่ศัตรูที่กำลังจะบุกเข้ามาจากข้างล่างนั่นเอง
ประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ปราสาทมาซึโมโต้ถูกตั้งขึ้น(มากกว่า400ปี)นั้น ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศสหพันธรัฐที่มีหลายๆประเทศเล็กๆ (หรือแคว้นการปกครองในสมัยเอโดะ มีไดเมียวเป็นเจ้าของนคร)ต่างๆมารวมกัน
เมื่อแคว้นเล็กๆต่างๆมารวมกันทำให้ในยุคนั้นเป็นช่วงที่แต่ละแคว้นจะสู้รบกันเพื่อแย่งชิงอำนาจ ทำให้ปราสาทในยุคนี้มีโครงสร้างที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันศัตรูที่จะบุกเข้ามานั่นเอง
บันได้ก็จะมีความชันกว่าบันไดทั่วไป หรือบางที หนึ่งขั้นก็สูงถึง 40 เซนติเมตร(ปกติประมาณ 20 เซนติเมตร )เลย
ในขณะที่ถ้ามองจากข้างนอกจะเห็นว่าปราสาทจะมีอยู่ 5 ชั้น ด้านในหลังคาขนาดใหญ่(ชั้น3・รูปด้านซ้ายส่วนที่อยู่ในวงกลมสีเหลือง)ถูกสร้างเป็นที่หลบซ่อนของซามุไรหรือที่ซ่อนอาวุธ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับศัตรูที่จะบุกเข้ามา
ถือได้ว่าเป็นยุคของนินจา ซามุไรที่แท้จริง
ภายในตัวปราสาทมีการจัดแสดงปืนที่ถูกใช้จริงและวิธีการทำลูกปืนของคนในสมัยนั้นอยู่ด้วย
มีการจัดแสดงชุดเกราะและหมวกคาบูโตะที่ถูกใช้จริงพร้อมมีภาพประกอบทำให้เข้าใจง่ายมากขึ้น น่าสนใจทุกอย่างเลย
ในขณะที่ดูไปเรื่อยๆและก็เดินขึ้นไปข้างบนเรื่อยๆ
ก็มาถึงชั้นบนสุดของตัวปราสาท
คนมักเข้าใจผิดกันว่ษงฅ”เจ้าของปราสาทก็ต้องอาศัยอยู่ชั้นบนสุดของปราสาท”ซึ่งที่จริงแล้วตัวปราสาทนั้นถึงได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของปราสาทและมีหน้าที่หลักเป็นที่คอยสังเกตุการเป็นหลัก
โดยส่วนใหญ่เจ้าของปราสาทจะอาศัยอยู่ในตึกพระราชสำนักโดยเฉพาะซึ่งเป็นคนละส่วนกับตัวปราสาทจะอยู่ในบริเวณเขตของปราสาทอยู่แล้วนั่นเอง
ที่ปราสาทมาซึโมโต้เองก็มีตึกพระราชสำนักอยู่เหมือนกัน แต่ว่าโดยไฟไหม้จนถูกทำลายไปหมดแล้ว
เอาล่ะ ไปดูวิวข้างนอกกันเลย
อาจจะไม่ใช่เมืองที่ใหญ่มาก แต่จะเห็นมองเห็นเมืองมาซึโมโต้ที่เงียบสงบ
และก็จะเห็นนกสีขาวที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำลอยอยู่ในคูน้ำรอบปราสาทด้วย จากมุมของเจ้านกจะเห็นปราสาทมาซึโมโต้เป็นยังไงกันนะ ?
พอ ICHIGO-CHANออกมาข้างนอกหิมะก็ตกทันที่เลย เมื่อกี้ยังตกเบาๆอยู่เลยอยู่ดีๆก็ตกหนักขึ้นมาเลย หรือว่า ICHIGO-CHANจะเป็นผู้หญิงหิมะรึเปล่านะ ??
วันนี้จะมาบอกจุดถ่ายรูปสวยๆของปราสาทมาซึโมโต้กัน มีอยู่ 2 ที่นะ
ที่แรกก็คือ มุมจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นจุดที่จะได้รูปเหมือนตัวประสาทกำลังลอยอยู่บนคูน้ำ
สถานที่คือที่นี่เลย เข้าจากประตู ไทโกะ เดินไปทางที่ขายบัตรเข้าชม แล้วตรงผ่านทางเข้าไปและเดินตรงไปประมาณ 3 นาทีก็ถึงเลย
และที่สุดของมุมถ่ายรูปก็คือนี่เลย
จากบริเวณใกล้ๆ「WAKAMIYA HACHIMAN-ATO」ที่อยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของปราสาท เป็นจุดถ่ายรูปที่สามารถถ่ายรูปตัวปราสาทของปราสาทมาซึโมโต้ได้สวยที่สุดเลย
สะพานสีแดงที่ตัดกันกันตัวปราสามทำให้ภาพออกมาสวยงามมาก
สำหรับคนที่ชอบมังงะ อาจจะนึกออกก็ได้
ซึ่งภาพนี้จะคล้ายกับหน้าปกการ์ตูนเรื่อง「orange」ตอนที่ 4 ของคุณอิจิโกะ ทาคาโนะ ถ้าใครชอบอ่านการ์ตูนมังงะคงพอจะนึกออก
เอาล่ะ ได้เวลาเดินทางไปยังที่พักในคนนี้ที่ คิโซะฟุกุชิมะกัน
จะไปคิโซะฟุกุชิมะ จากสถานีมาซึโมโตะต้องนั่งรถไฟด่วนพิเศษ 『WIDE VIEW SHINANO』
ก่อนอื่นเลยก็ต้องย้อนกลับไปทางที่มาจากปราสาทมาซึโมโต้
Day2-3 กินข้าวกล่องบนรถไฟแสนอร่อย มาถึง『ปราสาท MATSUMOTO』
ย้อนกลับไปที่สถานีมาซึโมโต้
และซื้อตั๋วจากสถานี MATSUMOTO ไปสถานี KISO-FUKUSHIMA
จะซื้อตั๋วจากช่องจำหน่ายตั๋วหรือตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติก็ได้
ตู้อัตโนมัติที่เป็นสีเขียวจะเป็นตู้ที่ซื้อได้ทั้งตั๋วรถไฟด่วนพิเศษหรือว่าตั๋วแบบอื่นอีกมากมาย เลือก「English」ตรงมุมขวาด้านบน
จากนั้นเลือกตั๋วแบบที่ต้องการจะซื้อ จะมีตัวเลือก 3 ตัวให้เลือกคือ「แบบจองที่นั่ง」「แบบไม่จองที่นั่ง」「เลือกที่นั่งของตั๋วที่ซื้อแล้ว」กดปุ่มแบบที่ต้องการได้เลย
และก็เลือก「ทิศทางสิ้นสุด」และ「สถานีปลายทาง」ในครั้งนี้ให้เลือก「ทิศทางนาโกย่า」เพื่อไป「คิโซะฟุกุชิมะ」
และต้องเลือกว่าจะซื้อตั๋วขาเดียว หรือ ตั๋วไปกลับ ในครั้งนี้ให้เลือกเป็นตั๋วขาเดียว
จากนั้นให้ใส่เงินตามราคาที่แสดงอยู่บนหน้าจอ(2150เยน)
ตั๋วก็จะออกมาจากช่องล่างด้านซ้ายมือ
เช็คเวลาและชานชาลาก่อนขึ้นรถไฟได้ที่หน้าจอมอนิเตอร์ที่มีอยู่ตามที่ต่างๆภายในสถานีได้เลย
รถไฟที่ ICHIGO-CHAN ขึ้น 「WIDE VIEW SHINANO」
จะออกจากชานชาลาที่ 1พอผ่านเครื่องตรวจตั๋วแล้วก็ไปที่ชานชาลาที่1กันเลย
ไม่นานรถไฟ「WIDE VIEW SHINANO」
ของรถไฟไปนาโกย่าก็มาถึง แถบสีส้มของรถไฟเหมือน ICHIGO-CHANเลย
ไปถึงสถานี KISOFUKUSHIMA ใช้เวลาแค่ 37 นาทีเอง
มองวิวหิมะของนากาโนะไปพลางๆก็ถึงที่หมาย
「WIDE VIEW SHINANO」มาถึงสถานีคิโซะฟุกุชิมะตรงตามเวลา
ยินดีต้อนรับสู่สถานี KISOJI
ที่สถานีคิโซะฟุกุชิมมี 「โทโมเอะจัง」กับ「โยชินากะคุง」มารอต้อนรับ ICHIGO-CHANด้วย
รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาเลย
ตรงที่ตรวจตั๋วเจอป้ายของ「ARUKUMA」ที่เจอกันที่「ZENKOUJI」ด้วย เพราะว่าเป็นคาแรคเตอร์ของจังหวัดนางาโนะ ก็จะเจอเค้าได้ตามที่ต่างๆในนางาโนะเลย
ยังไงถ้าใครได้เจออย่าลืมถ่ายรูปกับอารุคุมะด้วยน๊า
ที่สถานีมีเคาเตอร์สอบถามข้อมูลด้วย สามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณใกล้ๆหรือข้อมูลวิธีเดินทางไปโรงแรมต่างๆได้ด้วย(แน่นอนว่าฟรี)
ที่พักของคืนนี้คือ 「MURACHIYA」เดินจากสถานีแค่ 3 นาทีก็ถึงเลย
เดินไปทางขวาจากสถานีเลย
ระหว่างทางก็บังเอิญเจอกับนักเรียนกำลังปั้นหิมะกันอยู่
ICHIGO-CHANก็สนใจมองๆอยู่เด็กผู้หญิงก็เข้ามาเล่นด้วย
ที่ญี่ปุ่นมีคนที่ใจดีอยู่เยอะอยู่แล้ว แต่พอออกมานอกเมือง ICHIGO-CHAN ก็ยิ่งเจอคนใจดีเยอะขึ้นไปอีก
ซักพักก็ถึงที่พักของคืนนี้ 「MURACHIYA」(รูปนี้ถ่ายตอนเช้าของอีกวัน)
ที่พักของทริปนี้เป็นครั้งแรกของ ICHIGO JAPAN ตั้งแต่ก่อตั้งที่จะได้พักแบบที่พักส่วนบุคคล
ในครั้งต่อไปจะมาแนะนำที่พัก「MURACHIYA」กัน