เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-4 เที่ยวชมสถานที่จัดงาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร” เพื่อดื่มด่ำกับเมืองเกียวโตยามค่ำคืนอย่างเต็มที่
OSAKA-KYOTO-KURAMA-UJI-OSAKA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเกียวโตที่ “วัดคินคาคุจิ(วัดทอง)”「KINKAKU-JI(金閣寺)」หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปงานประดับไฟ “อาราชิยามะ ฮานะโทโร”「ARASHIYAMA HANATOURO(嵐山花灯路)」ที่ถูกจัดขึ้นในเดือนธันวาคมของทุกปี
งาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร”「ARASHIYAMA HANATOURO(嵐山花灯路)」ในปีที่ผ่านมานี้ ได้จัดงานขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคม เป็นเวลา 10 วัน ในช่วงต้นฤดูหนาว ภายในงานจะมีการประดับไฟตามจุดต่างๆ ด้วยโคมไฟสี่เหลี่ยมที่ป่าไผ่ หรือซากะ อาราชิยามะ เพื่อแสดงถึงเสน่ห์ของฤดูหนาวที่กำลังเริ่มต้นขึ้นนี้ อย่างเช่นภายในป่าไผ่「CHIKURINNO-KOMICHI(竹林の小径)」ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอาราชิยามะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนี้ เราก็จะได้เห็นการประดับไฟสวยงามได้เฉพาะในช่วงนี้เป็นเวลา 10 วันเท่านั้นอีกด้วย
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ในตอนที่ 6 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปชมเสน่ห์ของงานประดับไฟ “อาราชิยามะ ฮานะโทโร”「ARASHIYAMA HANATOURO(嵐山花灯路)」กันให้เต็มที่ไปเลยค่ะ
“อาราชิยามะ”「ARASHIYAMA」ที่ถูกสร้างขึ้นให้เป็นที่พักตากอากาศของเหล่าขุนนางชั้นสูงเมื่อ 1200 กว่าปีก่อน โดยภายในงาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร” 『ARASHIYAMA HANATOURO(嵐山花灯路)』นี้จะเป็นการฉายไฟสะพานโทเก็ตสึเคียวที่พาดผ่านแม่น้ำคัตสึระ และเชิงดอยคาเมยามะ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติที่ยามค่ำคืนของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกียวโต
และที่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอาราชิยาม่าอย่างเส้นทาง “ป่าไผ่” ก็ฉายไฟงดงาม นอกจากนี้ยังสามารถเดินเล่นยามค่ำคืนที่บริเวณตั้งแต่ศาลเจ้าโนโนมิยะ ไปจนถึง วิลล่าโอโคจิซันโซ ได้อีกด้วย (ปกติจะอยู่ในความมืด ไม่สามารถเดินเที่ยวชมได้)
และเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของงานอาราชิยามะ ฮานะโทโร ก็คือ「IKEBANA PROMENADE」ซึ่งเป็นการจัดดอกไม้อิเคบานะแบบญี่ปุ่นจาก “สมาคมเกียวโตอิเคบานะ” ที่จะประดับผลงานการจัดดอกไม้ต่างๆ ของสมาชิกมาประดับตามสถานที่จัดงานรวมไปถึงภายในป่าไผ่อีกด้วย
“อาราชิยามะ ฮานะโทโร”「ARASHIYAMA HANATOURO(嵐山花灯路)」จัดงานขึ้นที่
1.ป่าไผ่ CHIKURINNO-KOMICHI
2.สะพานโทเก็ตสึเคียว TOGETSU-KYO
3. สวนลิงอาราชิยามะARASHIYAMA MONKEY PARK
4. โจจิน โนะ โมริ CHOUJIN NO MORI
เหล่านี้จะเป็นสถานที่จัดงานหลักๆ แต่นอกจากนี้ก็ยังมีวัดหรือศาลเจ้าที่ประดับไฟสวยงามเป็นกรณีพิเศษอยู่อีกด้วยอย่างเช่น “วัดโจจัคโค”「JOJAKKO-JI(常寂光寺)」, “วัดระคุชิฉะ”「RAKUSHISHA(落柿舎)」, “ศาลเจ้าโนโนมิยะ”「NONOMIYA JINJA(野宮神社)」หรือ “วัดโฮรินจิ”「HOURINJI(法輪寺)」
โดยปกติแล้ว “ศาลเจ้าโนโนมิยะ”「NONOMIYA JINJA(野宮神社)」ที่อยู่ภายในป่าไผ่นี้จะเปิดให้เข้าสักการะได้ถึงช่วงเย็นจนถึงตะวันตกดิน แต่ในช่วงระยะเวลา “อาราชิยามะ ฮานะโทโร”「ARASHIYAMA HANATOURO(嵐山花灯路)」นี้จะเปิดให้เข้าสักการะได้พิเศษถึงเวลา 20:00 น. เลยทีเดียว โดยเป็นศาลเจ้าที่โดดเด่นในเรื่อง “การพบเจอที่ดี” และ “ความรัก” ดังนั้นยิ่งเข้าสู่ช่วงการจัดงานนี้ก็ยิ่งทำให้คู่รักมากราบไหว้สักการะกันเป็นจำนวนมาก
ในช่วงเวลาการจัดงาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร”「ARASHIYAMA HANATOURO(嵐山花灯路)」นี้จะมีรถไฟ『Sagano Romantic Train』ที่วิ่งอยู่ใช่วงเส้นทาง「Saga-Arashiyama Station」ข้างสถานีรถไฟ JR ซากะ-อาราชิยามะ ออกจาก「Torokko Arashiyama Station」ที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าไผ่ ไปจนถึง「Torokko Kameoka Station」
ระหว่างทางที่「Torokko Hodukyo Station」จะมีการประดับไฟอิลลูมิเนชั่นสวยงามก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส ให้ได้เพลิดเพลินระหว่างการเดินทาง โดยมีตารางเวลาคร่าวๆ ดังนี้
Saga-Arashiyama Station 17:09 ⇒ Torokko Arashiyama Station 17:12 ⇒ Torokko Kameoka Station 17:44
Torokko Kameoka Station 17:57 ⇒ Torokko Arashiyama Station 18:27 ⇒ Saga-Arashiyama Station 18:30
ค่าเดินทาง 620 เยน สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์สถานีรถไฟ JR ทั่วประเทศ หรือบริษัทท่องเที่ยว สามารถซื้อได้ก่อน 1 เดือน
หลังจากที่เพลิดเพลินไปกับการประดับไฟภายในป่าไผ่แล้ว ก็ได้เวลาไปที่ สถานีอาราชิยามะ ของรถไฟรันเด็น (RANDEN) กันเลย โดยภายในอาคารสถานีแห่งนี้จะมีเสาที่ทำจาก KYO-YUZEN(เป็นผ้าสำหรับทำกิโมโนในเกียวโต) กว่า 600 ต้นจนเป็น「KIMONO FOREST」ซึ่งจะประดับอยู่อย่างสวยงามตลอดทั้งปีรวมไปถึงช่วงงาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร”「ARASHIYAMA HANATOURO(嵐山花灯路)」นี้ด้วยค่ะ
เมื่อตกเย็นก็จะทำการฉายไฟ ไปจนถึงเวลา 21:00 น. เปิดไฟ LED ที่อยู่ภายในเสา สะท้อนลายผ้ากิโมโน KYO-YUZEN อย่างสวยงาม ผู้คนต่างมารวมตัวกันมากมาย เพื่อถ่ายรูปภาพสวยๆ ซึ่ง「KIMONO FOREST」นี้จะเปิดให้ชมตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะมาเที่ยวช่วงเวลาไหนก็สามารถชมความสวยงามนี้ได้ตลอดเลยค่ะ
โดยต้นโมมิจิที่บริเวณ “กิโมโนฟอเรสต์” นี้ เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ผสมผสานกับกิโมโนฟอเรสต์อย่างสวยงาม และภายในบริเวณนี้ยังมี「RYU NO ATOGOIKE(龍の愛宕池)」ให้ได้ถ่ายรูปอีกด้วย ซึ่ง YUZEN แต่ละเสาใน “กิโมโนฟอเรสต์” กว่า 600 ต้นนี้เป็นลายที่ถูกคัดสรรมาจากดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลก ทำให้บรรยากาศโดยรอบสวยงามลงตัว ถ่ายรูปสวยๆ ได้มากมาย
และเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของ “สถานีอาราชิยามะ”『ARASHIYAMA STATION』ก็คือ「ASHIYU(足湯)」หรือ ออนเซ็นเท้า ซึ่งที่สถานีนี้จะมีออนเซ็นเท้าที่เรียกว่า「EKI NO ASHIYU(駅の足湯)」สามารถแช่ออนเซ็นเท้าไปพร้อมๆ กับวิว「KIMONO FOREST」ได้เลย
เปิดให้บริการ 9:00 ถึง 20:00 น. ส่วนในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ จะเปิดให้บริการจนถึง 18:00 น. ค่าบริการ 200 เยน (พร้อมผ้าขนหนู) สามารถซื้อบัตรเข้าใช้บริการได้ที่เคาน์เตอร์สถานีอาราชิยามะเลย
หลังจากที่เพลิดเพลินไปกับมุมถ่ายรูปสวยๆ อย่าง「KIMONO FOREST」และออนเซ็นเท้า「ASHIYU(足湯)」ที่สถานีอาราชิยามะไปแล้ว ต่อไปเราจะไปกันที่ “สะพานโทเก็ตสึเคียว” 「Togetsu-kyō」ที่พาดผ่านแม่น้ำคัตสึระ โดยในช่วงเวลาการจัดงาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร”「ARASHIYAMA HANATOURO(嵐山花灯路)」นี้บริเวณสะพานโทเก็ตสึเคียว และภูเขาที่อยู่ด้านหลังจะถูกฉายไฟสวยงาม เป็นช่วงเวลาพิเศษที่ไม่สามารถสัมผัสได้ในฤดูกาลอื่นๆ เลยค่ะ
และเมื่อเลี้ยวขวาที่บริเวณก่อนถึงสะพานโทเก็ตสึเคียวก็จะเจอเรือที่มีหลังคาลอยอยู่บนแม่น้ำคัตสึระ ภาพไฟประดับของอาราชิยามะ และเรือที่เป็นสีทองสะท้อนอยู่บนผิวแม่น้ำงดงามเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่เมื่อเทียบกับป่าไผ่ หรือสะพานโทเก็ตสึเคียวแล้ว คนจะน้อยกว่ามากๆ เป็นจุดที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งจุดเลยค่ะ
ภาพที่อยู่ตรงหน้างดงามเกินบรรยายเลยทีเดียว
และเมื่อเดินข้ามผ่านสะพานโทเก็ตสึเคียวไป ก็จะเจอลานกว้างริมฝั่งแม่น้ำคัตสึระ และสถานีรถไฟฮังคิว สถานีอาราชิยามะอยู่ และที่บริเวณหนึ่งจะมีร้านอาหารแผงลอยต่างๆ มากมายทั้ง “ร้านยากิโทริ” “ทาโกยากิ” “ปลา(อายุ)ย่าง” หรือ ขนมรูปปลา “ไทยากิ” เป็นต้น กลิ่มหอมๆ โชยมาแต่ไกลเลยค่ะ
ไม่ว่าร้านไหนๆ ก็หอมน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ ส่วน ICHIGO-CHAN ได้เลือกทาน “อาบุริดังโงะ”「ABURI DANGO(炙り団子)」（1 ไม้ 150 เยน・เซต 2 ไม้ 280 เยน）ขนมขึ้นชื่อของเกียวโต
ตั้งแต่เช้าเราได้เดินทางไปยัง “ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ” ต่อด้วย “ย่านกิออน” “วัดคินคาคุจิ(วัดทอง) และเที่ยวชมงาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร” ซึ่งเป็นหนึ่งวันที่ท่องเที่ยวแบบเต็มที่ ได้ขนมหวานๆ มาเติมพลังซักหน่อยก็ไม่เลวเลยค่ะ
เราได้สั่ง อาบุริดังโงะ「ISOBEYAKI（สาหร่ายย่างโชยุ）AJI」(อ่านว่า อิโซเบะยากิ)ที่ย่างด้วยซอสหวานเค็มโชยุ และ อาบุริดังโงะ รสมัทฉะ ไม่ว่ารสชาติไหนก็หวานและมีผงถั่วคินาโกะโรยหน้า รสชาติกำลังพอดีเลยค่ะ
ดังโงะไม้ละ 4 อัน จำนวน 2 ไม้ ทานทั้งหมด 8 ลูก แปปเดียวหมดเกลี้ยงเลย
และที่ทางฝั่งทิศตะวันตกของสะพานโทเก็ตสึเคียว ตรงไปด้านซ้ายมือของย่านร้านอาหารแผงลอยไป จากนั้นก็ขึ้นบันได ก็จะเจอหนึ่งในสถานที่จัดงาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร” ที่ “วัดโฮรินจิ”『HOURINJI(法輪寺)』
โดยที่ “วัดโฮรินจิ” นี้จะมีงานอีเวนท์ที่จัดขึ้นในทุกๆ ปีกับงาน「D-K Live」เป็นการฉายภาพเสมือนจริง “Projection Mapping” ลงบนตัวอาคาร ให้มีมิติสวยงาม โดยที่ D-K Live เป็นคำย่อมาจาก「Digital Kakejiku Live」นั่นเอง เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่ทันสมัย และโบราณสถานที่เก่าแก่ ท่ามกลางความสวยงามของเกียวโตยามค่ำคืน โดย D-K Live จะจัดขึ้นระหว่างงาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร” ในช่วงเวลา 17:00－20:30 น. ค่ะ
หลังจากชมงาน “อาราชิยามะ ฮานะโทโร” ตามสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่ การฉายไฟที่ป่าไผ่, สถานีอาราชิยามะ ที่มีกิโมโนฟอเรสต์และออนเซ็นเท้า พร้อมชมการฉายไฟสะพานโทเก็ตสึเคียวที่อาราชิยามะ จากนั้นก็ได้ชมความสวยงามของ D-K Live ที่วัดโฮรินจิไปเต็มที่แล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลามุ่งหน้าไปสถานีรถไฟ JR สถานีเกียวโต ที่ตั้งของโรงแรม「HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO」ในคืนนี้ โดยการเดินทางจากอาราชิยามะ ไปยังสถานีรถไฟ JR สถานีเกียวโตสามารถเดินทางจาก สถานีรถไฟ JR สถานีซากะ-อาราชิยามะ ด้วยรถไฟ JR สายซากาโนะ(Sagano Line) จะสะดวกที่สุด
โดยเดินออกจากสะพานโทเก็ตสึเคียวไปทางสถานีรถไฟรันเด็น สถานีอาราชิยามะกันเลย จากนั้นเมื่อเดินเลยสถานีรถไฟรันเด็น สถานีอาราชิยามะแล้วก็เลี้ยวขวาที่สามแยกแรก จากนั้นก็เดินเลี้ยวซ้ายที่สามแยก และเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอสถานีรถไฟ JR สถานีซากะ-อาราชิยามะ เลย
เมื่อถึงสถานีแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้นช่องตรวจตั๋ว และไปซื้อตั๋วรถไฟกันเลย โดยก่อนอื่นจะต้องเช็คค่าเดินทางจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติไป “สถานีเกียวโต” (240 เยน) จากนั้นก็สัมผัสไปที่ Language ด้านบนขวามือหน้าจอ ต่อด้วย English ⇒ Ticket หลังจากนั้นก็กด「240」และใส่เงินเข้าไป เท่านี้ก็เรียบร้อย
เมื่ออ่านดูขั้นตอนแล้วอาจจะดูงงๆ แต่เมื่อลองทำดูแล้วง่ายมากๆ เลยค่ะ
หลังจากซื้อตั๋วแล้ว ก็ผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วไป และเดินลงบันไดที่อยู่เยื้องไปทางด้านซ้ายมือ เพื่อไปที่ชานชาลาหมายเลข 1・2 โดยรถไฟที่มุ่งหน้าจากสถานีซากะ-อาราชิยามะ ไปยัง สถานีเกียวโต ส่วนใหญ่จะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 1 เลย หากเป็นรถไฟแบบด่วนก็จะใช้เวลาในการเดินทาง 12-13 นาที ส่วนรถไฟแบบธรรมดา 15-19 นาที เพื่อเดินทางไปยังสถานีเกียวโต
ตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารญี่ปุ่น「ICHIFUJI(いち藤)」ในย่านร้านอาหาร「KINTETSU MEITENGAI MIYAKOMICHI」ข้างสถานีเกียวโต และเข้าพักที่โรงแรม「HOTEL KEIHAN KYOTO HACHIJO」ที่เพิ่งเปิดให้บริการใหม่ในเดือนธันวาคมปีพ.ศ.2561 ที่ผ่านมา ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day2-4 ARASHIYAMA-HANATOURO】
