ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-4 ชมงานดอกไม้ไฟและกิจกรรมต่างๆ ของงานเทศกาลญี่ปุ่นมากมายในงาน “เทศกาลอน มิโนกาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」
INUYAMA-NAGOYA-MINOKAMO-NAGOYA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้กราบไหว้ศาลเจ้าที่มีทั้งแบบแผน และประวัติความเป็นมายาวนานที่ “ศาลเจ้าอัตสึตะ”「ATSUTA JINJA」พร้อมทานอาหารบริเวณศาลเจ้าแล้ว
ซึ่งสถานที่ต่อไปก็คือ สถานที่จัดงาน “เทศกาลอน มิโนกาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」ที่มีชื่อเสียงจาก “เทศกาลดอกไม้ไฟของมิโนกาโมะ” โดยเราจะเดินทางไปที่ “สวนคิโซะกาวะเรียวกุจิไลน์ปาร์ค”「Kisogawaryokuchi Line Park(木曽川緑地ライン公園)」ที่อยู่ใน มิโนโอตะ Mino-Ota กันค่ะ ซึ่ง “เทศกาลอน มิโนคาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」เป็นเทศกาลใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อ 21 ปีที่ผ่านมา โดยจะแบ่งออกเป็นสองส่วนก็คือ ช่วงหน้าร้อน “นัตสึโนะจิน Natsunojin” จะเป็น “งานดอกไม้ไฟ” ส่วนฤดูใบไม้ร่วง “อากิโนะจิน Akinojin” จะเป็น “เทศกาลนากะเซ็นโด”「NAKASENDO MATSURI」ซึ่งในช่วงฤดูร้อน จะมีการแสดงกลองญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กับการจุดดอกไม้ไฟขึ้นสู่ท้องฟ้ากว่า 3500 ลูก จุดที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือช่วงฟินาเล่ดอกไม้ไฟในช่วงสุดท้าย ผู้คนจากทั้งคนในท้องถิ่นมิโนกาโมะ และคนจากพื้นที่อื่นๆ ต่างเดินทางมาชมงานนี้กันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งการเดินทางจากศาลเจ้าอัตสึตะ ไปยังสถานีมิโนโอตะ Mino-Ota Station ที่ใกล้สถานที่จัดงานมากที่สุดนั้น สามารถเดินทางด้วย รถไฟ JR สายโทไคโด Tokaido Line และต่อด้วย รถไฟ JR สายทาคายาม่า Takayama Line เพราะฉะนั้นเราจะไปที่สถานีอัตสึตะ ที่ใกล้ศาลเจ้าอัตสึตะกันก่อนเลย
ซึ่งก่อนขึ้นรถไฟเราจะต้องไปซื้อตรวจกันก่อน โดยเช็คราคาค่าโดยสารได้จากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ เพื่อเช็คราคาตั๋วไป “สถานีมิโนโอตะ Mino-Ota Station”(1140 เยน)จากนั้นก็กดปุ่ม「English」ที่อยู่บนขวาหน้าจอเพื่อเปลี่ยนภาษา แล้วจึงกดปุ่ม「1140」จากนั้นก็ใส่เงินเข้าไปในเครื่อง เท่านี้ก็เรียบร้อย สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ต้องการซื้อตั๋วทีละหลายๆ ใบก็สามารถกดปุ่มรูปคนที่อยู่ด้านซ้ายหน้าจอได้ สามารถซื้อได้สูงสุดครั้งละ 4 คนค่ะ
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วเพื่อไปที่ชานชาลากันเลย โดยเราจะขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ “นาโกย่า Nagoya・กิฟุ Gifu” จากชานชาลาหมายเลข 2 ซึ่งรถไฟจะวิ่งชั่วโมงละ 4 เที่ยว คือวิ่งทุกๆ 15 นาทีนั่นเอง
เราจะนั่งรถไฟธรรมดา ที่มุ่งหน้าไปสู่กิฟุ จากสถานีอัตสึตะ เพื่อไปลงที่สถานีนาโกย่ากันก่อนเลย
ถึงแม้ว่าเราสามารถนั่งรถไฟแบบธรรมดานี้ได้ไปจนถึงสถานีกิฟุที่มีสายทาคายาม่าเลย แต่ถ้าเราลงที่สถานีนาโกย่า เพื่อเปลี่ยนเป็นรถไฟด่วน New-Rapid จะสามารถประหยัดเวลาการเดินทางได้เยอะกว่ามากๆ เลยค่ะ
โดยรถไฟธรรมดาที่เรานั่งมา จะมาถึงที่ชานชาลาหมายเลข 5 ที่สถานีนาโกย่า ซึ่งรถไฟด่วน New-Rapid จะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 6 ที่อยู่ตรงข้ามกันเลย สามารถเปลี่ยนรถไฟได้ไม่ยากไม่หลงแน่นอนค่ะ และเราจะนั่งรถไฟด่วน New-Rapid จากสถานีนาโกย่าไปประมาณ 18 นาทีเพื่อไปลงที่สถานีกิฟุกันค่ะ เมื่อถึงสถานีกิฟุแล้วก็เดินลงบันไดภายในชานชาลาเพื่อไปขึ้นรถไฟสายทาคายาม่า ที่ชานชาลาหมายเลข 3 กันเลย
โดยเราจะนั่งจากสถานีกิฟุ เพื่อไปที่ “สถานีมิโน โอตะ” ที่ใกล้ “สวนคิโซะกาวะเรียวกุจิไลน์ปาร์ค”「Kisogawaryokuchi Line Park」สถานที่จัดงาน “เทศกาลอน มิโนคาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」ด้วยรถไฟสายทาคายาม่า Takayama Line กันค่ะ ในระยะทางนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นรถไฟแบบธรรมดา แต่ที่นั่งภายในรถไฟก็เป็นที่นั่งแบบ Cross Seat ที่สามารถปรับพนักที่นั่งให้หันไปตามด้านที่ต้องการได้ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางจากสถานีกิฟุ ไปสถานีมิโน โอตะ เป็นเวลา 30 นาที เพราะฉะนั้นถ้ายิ่งไปกันเป็นกลุ่ม แล้วได้นั่งหันหน้าคุยกันระหว่างทางได้ แปปเดียวเท่านั้นก็มาถึงสถานีมิโน โอตะเลยค่ะ
หากถึงสถานีมิโน โอตะ แล้วเราจะขึ้นบันไดที่อยู่ภายในชานชาลาเพื่อขึ้นไปที่ชั้นช่องตรวจตั๋วกันเลย
เมื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วมาแล้ว ก็เดินไปทางขวามือ เพื่อไปทาง “ประตูทางออกใต้(南口)” จากนั้นก็ลงบันไดไปและเลี้ยวไปทางขวามือ ข้ามทางม้าลายเพื่อเดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาที ก็จะออกมาสู่คันดินแม่น้ำคิโซะเลย และเมื่อเดินเลยคันดินไป ก็จะเจอลานริมแม่น้ำ “สวนคิโซะกาวะเรียวกุจิไลน์ปาร์ค”「Kisogawaryokuchi Line Park」ของงาน “เทศกาลอน มิโนคาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」เลย
ถึงแม้ว่าเราจะมาถึงที่งานเร็วไปหน่อย แต่บริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจองที่นั่งดีๆ เพื่อชมดอกไม้ไฟกันแล้ว โดยเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ก็จะใส่ชุดยูกาตะสีสนสดใสสวยงาม เพื่อมาเที่ยวชมงานนี้ ถือได้ว่าช่วงงานดอกไม้ไฟที่จะจัดขึ้นปีละครั้งนี้ จะเป็นช่วงที่ “มิโน โอตะ” ครึกครื้นมากที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้
เมื่อใกล้เวลาเริ่มงานขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ผู้คนก็จะหนาแน่นมากขึ้นจนเป็นบรรยากาศงานเทศกาลอย่างเต็มตัว เราได้ถ่ายรูปกับเด็กมัธยมปลายในพื้นที่นี้ด้วย แต่ละคนพอใส่ชุดนี้แล้วน่ารักเหมาะกับชุดมากๆ เห็นแบบนี้ก็อยากใส่บ้างเลย
ซึ่งภายในงานเทศกาลนี้ นอกจากอีเว้นท์ต่างๆ แล้ว สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยก็คือ “ร้านแผงลอย” ที่เรียงรายอยู่ภายในงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะงาน “เทศกาลอน มิโนคาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」ที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 3 หมื่นคนนี้ ร้านค้าแผงลอยที่มาออกร้านภายในงานก็เยอะไม่แพ้กันเลยค่ะ กลิ่นหอมๆ โชยไปทั่วงานเลย ซึ่งร้านที่ได้รับความนิยม แถวยาวเหยีดดูเหมือนว่าจะเป็น ร้าน「ไก่ทอดคาราเกะเสียบไม้」(400 เยน)เราเลยไปซื้อมาทานดูบ้าง อร่อยมากๆ ยิ่งได้ทานในงานเทศกาลแบบนี้ยิ่งได้บรรยากาศมากๆ เลย
ซึ่งร้านแผงลอยต่างๆ ที่มาออกร้านอยู่ภายในงานนี้ก็ไม่ได้มีแค่ “อาหาร” เท่านั้นค่ะ แต่ยังมี “เกมช้อนปลาทอง” ที่ภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า “คินเกียวซุกุย金魚すくい” อยู่อีกด้วย เมื่อจ่ายเงิน 100 เยนและได้รับที่ช้อนที่ทำจากกระดาษแล้ว แต่ละคนก็งัดเทคนิคการตักเพื่อไม่ให้กระดาษขาดกันใหญ่เลยค่ะ
ซึ่งไฮไลท์ของงานในส่วนฤดูร้อน “นัตสึโนะจิน Natsunojin” นั้นก็ไม่ได้มีเพียง “งานดอกไม้ไฟ” เท่านั้นนะคะ เพราะว่าในงานจะมีการแสดงกลองญี่ปุ่นให้ทุกคนได้ชมอีกด้วย กับ กลอง “มากิโนะไทโกะ”「MAKINO TAIKO」
ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว ผู้คนในเมืองที่สนใจ ได้เริ่มตี “มากิโนะไทโกะ” เพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ครึกครื้นให้กับการเต้น บงโอโดริ(การเต้นรำพื้นเมืองของญี่ปุ่น) โดยในสมัยนั้นสมาชิกแต่ละคนยังคงเป็นมือใหม่หัดเล่น จึงได้มีการฝึกตีด้วยยางเก่าๆ หรือ ถังมิโซะ ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่นี้ ซึ่งในปัจจุบัน “มากิโนะไทโกะ” ได้โด่งดังจนมีการเชิญให้ไปแสดงตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศหรือในต่างประเทศอีกด้วย “เทศกาลอน มิโนคาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」เป็นงานที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการแสดงที่หึกเหิมของเด็กนักเรียนมัธยมปลายของพื้นที่ได้อย่างเต็มที่เลย
ซึ่ง “มากิโนะไทโกะ” นี้จะมีทั้งผู้ใหญ่ และมีเด็กๆ มาร่วมแสดงด้วย ทั้งเด็กประถม หรือเด็กอนุบาล บรรยากาศดูน่ารัก และอบอุ่นมากๆ เลยค่ะ
และเมื่อการแสดง “มากิโนะไทโกะ” สิ้นสุดลงก็จะเป็นคิวของ การแสดง “โอโรจิ โนะ มัย”「OROCHI NO MAI(大蛇の舞)」ซึ่ง “โอโรจิ โนะ มัย”「OROCHI NO MAI」จะเป็นการแสดงโดยมีที่มาจาก「OROCHI HIME DENSETSU(大蛇姫伝説)」หรือ “นิทานโอโรจิฮิเมะ”(นิทานเจ้าหญิงโอโรจิ) ที่เป็นเรื่องเล่าที่ถูกเล่าขานกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ด้วยการอัดดินปืนเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ และคนจะถือเอาไว้ ระหว่างจุดดอกไม้ไฟ ในแบบ “ดอกไม้ไฟกระบอกไม้ไผ่” นั่นเอง เมื่อเริ่มจุดดอกไม้ไฟกระบอกไม้ไผ่ ไปพร้อมๆ กับการตีกลองแล้ว ก็ได้เวลาที่ “โอโรจิไท OROCHITAI” ออกโรง โอโรจิก็จะทำการเต้นรำไปพร้อมๆ กับจังหวะกลองและดอกไม้ไฟ (*โอโรจิ OROCHI大蛇 = งูตัวใหญ่)
หลังจากที่การแสดงกลอง “มากิโนะไทโกะ” และ การแสดง “โอโรจิ โนะ มัย OROCHI NO MAI” สิ้นสุดลง บริเวณงานก็จะมีคนหนาแน่นมากๆ จนแทบขยับไปไหนไม่ได้เลยค่ะ บรรยากาศโดยรอบก็จะเต็มไปด้วยร้านแผงลอยที่ส่งกลิ่นโชยมาแต่ไกล พร้อมเด็กสาวที่ใส่ชุดยูกาตะมารวมกันอยู่มากมาย ได้สัมผัสบรรยากาศงานเทศกาลของญี่นปุ่นอย่างแท้จริงเลยค่ะ เดินเล่นเพลินๆ ไปเรื่อยๆ ก็…
งานดอกไม้ไฟก็เริ่มขึ้นแล้วค่ะ ดอกไม้ไฟของงาน “เทศกาลอน มิโนกาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」จะถูกจุดขึ้นไปสู่ท้องฟ้ากว่า 3500 ลูก เนื่องจากที่นี่จะถูกจัดขึ้นที่บริเวณลานกว้างริมแม่น้ำดังนั้นจึงสามารถชมดอกไม้ไฟอย่างเต็มที่ ชัดเจนไม่มีตึกหรือต้นไม้มาบังเหมือนการชมดอกไม้ไฟในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว หรือโอซาก้าเลยค่ะ นอกจากนี้ที่ มิโนกาโมะนี้ยังเป็นพื้นที่ๆ ล้อมรอบไปด้วยภูเขา เพราะฉะนั้นท้องฟ้าก็จะมืดสนิทไม่มีแสงไฟมารบกวนเลยค่ะ เมื่อดอกไม้ไฟลูกใหญ่สีสันสดใสมากมายทั้งสีแดง เหลือง ชมพู ถูกจุดขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดสนิท เป็นภาพที่งดงามและประทับใจมากๆ เลยค่ะ
ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วง「STARMINE」ที่เป็นการจุดดอกไม้ไฟหลายๆ แบบพร้อมๆ กันต่อเนื่องกันช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทีเดียวกว่าหลายสิบ ถึงหลายร้อยลูก
และเราได้นำบรรยากาศดอกไม้ไฟช่วงฟินาเล่ของงานกับ STARMINE ที่สวยงามมาฝากเพื่อนๆ ด้วยค่ะ ดอกไม้ไฟลูกใหญ่สีสันสดใสมากมาย ถูกจุดขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดสนิทเป็นช่วงที่ท้องฟ้าเบ่งบานมากที่สุดในงานเลยค่ะ เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมากเลย
โดยปกติแล้ว งานเทศกาลต่างๆ ของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จะมีจุดไคล์แม็กซ์อยู่ที่งานดอกไม้ไฟ แต่งาน “เทศกาลอน มิโนกาโมะ”「ON-MATSUI MINOKAMO」นี้หลังสิ้นสุดงานดอกไม้ไฟก็จะมีงาน “เต้นบงโอโอริ” ต่อเลย เป็นงานเฉพาะในฤดูร้อน ที่ทุกคนจะเต้นเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ ล้อมจุดศูนย์กลางอย่างครึกครื้น ซึ่งงานบงโอโดริของที่นี่จะเริ่มตอนกลางดึกเพราะฉะนั้นก็จะเต้นกันจนข้ามวันเลยค่ะ ICHIGO-CHAN ก็อยากจะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกันนะคะ แต่ข้าวเย็นก็สำคัญเหมือนกัน 555 ICHIGO-CHAN จะไม่ยอมพลาดมื้อค่ำที่ญี่ปุ่นไปซักมื้อโดยเด็ดขาดเลย
ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปทานอาหารค่ำกันที่ร้านกินดื่มแบบญี่ปุ่น “อิซากายะ” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ
【ตารางการเดินทาง Day2-4 ON-MATSURI MINOKAMO NATSUNOJIN 2018】