ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-4เยี่ยมชมวัดเก่าแก่ผสมผสานความสวยงามที่หลากหลายกับ “วัดซันเซ็น” 「SANZENIN」เมืองโอฮาระ เกียวโต (OHARA KYOTO)
OSAKA-KYOTO-OSAKA-AMANOHASHIDATE-OSAKA
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/1%28120%29.jpg)
ICHIGO-CHAN ได้ไปชมรอบ ๆ อาราชิยามะแล้ว ต่อไปเราจะไปสถานที่ท่องเที่ยวของเกียวโต เมืองโอฮาระ OHARA ที่คนไทยอาจยังไม่ค่อยคุ้นเคยกันค่ะ
โอฮาระนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเกียวโตออกไป และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ที่ยังคงความเป็นเมืองโบราณของเกียวโตในสมัยก่อนเอาไว้ โดยเฉพาะวัดเก่าแก่ “วัดซันเซ็น”「SANZENIN」ซึ่งบริเวณรอบๆ พื้นที่นี้ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองที่ใหญ่แต่ก็ยังคงความเก่าแก่ทางวิถีชีวิตของคนที่นี่ ให้ความรู้สึกแตกต่างจากในเมืองเกียวโตไปอีกแบบเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/2%28105%29.jpg)
จากครั้งก่อนหน้านี้ที่ ICHIGO-CHAN เดินทางจากอาราชิยามะมาที่สถานีเคฮันซันโจ KEIHAN SANJO STATION แล้วซึ่งที่สถานีนี้จะมีจุดขึ้นรถอยู่ 5 อันตั้งแต่ A ไปจนถึง E ซึ่งโอฮาระที่เรากำลังไป จะออกจากจุด E รถบัสไปโอฮาระจะวิ่งทุกๆ 30 นาที ด้วยรถบัสเบอร์ 16 หรือ 17 ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที ตรางเวลารถบัส
ราคาจะอยู่ที่ 500 เยน วิธีขึ้นรถบัสนี้ก็เหมือนกันตอนที่เรานั่งจากอาราชิยามะมาลงที่ซันโจเลย คือ「แบบดึงตั๋วรถบัส」เมื่อขึ้นรถบัสแล้วให้ดึงตั๋วรถบัสที่มีตัวเลขกำกับจากตู้สีแดงที่อยู่ข้างประตู และดูราคารถบัสจากหน้าจอแสดงราคาที่อยู่ข้างคนขับ ราคาจะแสดงอยู่ใต้ตัวเลขตามตั๋วบัตรที่เราได้เลยค่ะ ก่อนลงก็เช็คราคาและเตรียมเงินเอาไว้ให้เรียบร้อย และนำเงินกับตั๋วที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในตู้ใส่เงินที่อยู่ข้างคนขับ เงินที่ใส่ลงไปแล้วจะไม่มีระบบทอนเงินให้นะคะเพราะฉะนั้นต้องใส่เงินให้พอดี หรือสามารถแลกเงินได้จากตู้ที่ติดอยู่กับช่องใส่เงินแล้วใส่เงินลงไปให้พอดีค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%2890%29.jpg)
ที่โอฮาระก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมายทั้งวัดซันเซ็น SANZENIN หรือ วัดจักโกะอิน JAKKOIN แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดในครั้งนี้เราจึงขอไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของโอฮาระกับ “วัดซันเซ็น SANZENIN” ที่เดียวเลย จากป้ายรถบัสโอฮาระไปวัดซันเซ็นจะใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 10 นาที เมื่อเขียนเอาไว้แบบนี้แล้วหลายคนก็คงจะเริ่มลังเลกันใช่ไหมคะ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ ระหว่างทางมีวิวสวยๆ ให้ชมด้วยค่ะ เดินชมวิวไปถ่ายรูปไปแปปเดียวก็ถึงแล้ว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%2887%29.jpg)
เมื่อลงจากบัสแล้วก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ และเลี้ยวขวาที่ไฟแดงแรกเลยค่ะ เมื่อเลี้ยวมาแล้วก็เป็นทางชัน และเลี้ยวซ้ายที่แยกแรกเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%2892%29.jpg)
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ก็เป็นทางเดินเส้นเดียวไปสู่ วัดซันเซ็น SANZENIN เลย เดินขึ้นไปตามทางชันเรื่อยๆ ก็จะเห็นแม่น้ำเล็กๆ ไหลผ่าน และริมทางก็จะมีดอกไม้ที่ชาวบ้านปลูกอยู่บานสวยเลย ไม่น่าเชื่อว่าออกจากในเมืองเกียวโตมาแค่ 40 นาทีก็จะได้อยู่ในบรรยากาศธรรมชาติแบบนี้ เดินไปเรื่อยๆ ทางขึ้นเขา 10 นาทีก็แปปเดียวเท่านั้น ระหว่างทางเราจะเจอกับร้านน้ำชาอิปปุกุ「IPPUKU CHAYA」ที่มีชากับดังโงะ(230 เยน)จำหน่ายอยู่ด้วย จะพักจิบชาทานขนมกันหน่อยก็ไม่เลวเลยนะคะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/6%2893%29.jpg)
เมื่อเดินมาตามทางเส้นเดียวแล้ว ก็จะเจอกับกำแพงหินอยู่ทางขวามือ และที่อยู่อีกด้านของกำแพงหินนี้ก็คือที่หมายของเรากับ “วัดซันเซ็น”『SANZENIN』
ซึ่งวัดซันเซ็นนี้เป็นวัดที่มีกำแพงหินเหมือนกับปราสาทโบราณ ซึ่งภายในจะมีสวนที่งดงามอยู่ 2 ที่ ภายในวัดเราสามารถเพลิดเพลินไปกับดอกไม้ในแต่ละฤดูและใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงด้วย เรียกได้ว่าสามารถดื่มด่ำไปกับสิ่งรอบตัวได้แบบเต็มอิ่มเลยล่ะค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%2896%29.jpg)
และประตูใหญ่ที่เหมือนประตูปราสาทนี้ก็คือ「GOTENMON GATE」เมื่อผ่านเข้าประตูนี้ไปก็จะเจอกับจุดจำหน่ายบัตรเข้าชมทันที ค่าเข้าชมที่นี่ราคา 700 เยน ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มากับเป็นกลุ่ม 30 คนขึ้นไปจะลดเหลือคนละ 600 เยนค่ะ เมื่อซื้อบัตรเรียบร้อยแล้วก็เข้าทางเข้าที่อยู่ด้านขวาไปเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/8%2895%29.jpg)
ซึ่งตึกที่มีทางเข้าและจุดจำหน่ายบัตรนั้นเป็นตึกเคียะคุเด็น「KYAKUDEN」หรือ GUEST HALL ของวัดซันเซ็น ตึกนี้เป็นตึกที่มีประวัติยาวนานถึง 450 ปีมาแล้ว
เอาล่ะค่ะถอดรองเท้านำมาใส่ถุงพลาสติกแล้วเดินเข้าไปข้างในกันเลย(ข้อควรระวังคือ ทางออกจะอยู่อีกฝั่งเพราะฉะนั้นกรุณาอย่านำรองเท้าวางไว้ตรงทางเข้านะคะ)
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%2891%29.jpg)
เมื่อผ่าน ตึกเคียะคุเด็นมากแล้วก็จะเข้ามาสู่จุดที่เป็นจุดเด่นของวัดซันเซ็นกับสวนชูเฮกิ「SHUHEKIEN GARDEN」ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถชมดอกซากุระได้แล้วในช่วงนี้เพราะว่าอากาศที่ญี่ปุ่นปีนี้จะอุ่นกว่าปีก่อนๆ แต่เราก็ยังได้ชมดอกกุหลาบพันปี (Rhododendron) ที่กำลังบานสวยอยู่ในช่วงนี้ได้ ดอกจะมีทั้งสีขาวและสีชมพู หรือสีม่วงเข้ม ประกอบกับสีเขียวชอุ่มที่อยู่ในสวนทำให้ดอกดูเด่นและสวยมากๆ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%2899%29.jpg)
ที่สวนชูเฮกินี้เราสามารถจิบน้ำชาทานขนม(500 เยน)ไปพร้อมๆ กับชมความสวยงามของสวนได้ สามารถนั่งบนพื้นที่ปูด้วยพรมสีแดง ดื่มด่ำกับวิวรอบๆ สวนที่สวยงาม ไปพร้อมกับการจิบชาและทานขนมญี่ปุ่นโยคัน(เมนูอาจแตกต่างกันตามฤดูกาล)เป็นช่วงเวลาที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้มาญี่ปุ่นแท้ๆ เลยล่ะค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%28106%29.jpg)
หลังจากที่ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของสวนชูเฮกิและจิบชาทานขนมเรียบร้อยแล้วก็มุ่งไปที่ตึกชินเด็น「SHINDEN(MAIN HOUSE)」กันเลย ตึกชินเด็นนี้ก็ถือว่าเป็นจุดที่เป็นไฮไลท์ที่หนึ่งของวัดซันเซ็นเลย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวสวนที่ถูกปลกคลุมด้วยมอสทั้งผืนในสวนยูเซ YUSEIEN GARDEN ภายในสวนก็จะมีทั้งต้นสนที่เรียงอยู่ริมทาง ยามะซากุระ และดอกกุหลาบพันปีขนาดใหญ่ เราสามารถชมวิวสวนยูเซได้จากตึกชินเด็น หรือเดินไปตามทางเดินภายในสวนยูเซก็ได้เช่นกัน
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%28108%29.jpg)
ตึกโอโจโกคุราคุ OJOGOKURAKU-IN(AMIDA HALL) นี้จะถูกเรียกว่าเป็น「KANSO NA MIDO」 เป็นตึกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและถูกสร้างขึ้นมากว่า 1000 ปีมาแล้ว
เดิมทีว่ากันว่าส่วนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของวัดโอฮาระซันเซ็น ซึ่งภายในตึกโอโจโกคุราคุนี้จะมีวัดเล็กๆ ที่มีพระพุทธรูปที่เรียกว่า AMIDASANZONZOU ประดิษฐานอยู่ภายในนี้ และมีพระเทศนาภายในนี้ด้วย
(ICHIGO-CHAN พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ก็เลยไม่รู้เรื่อง)เนื้อหาเทศนาของพระต้องสนุกๆ แน่ๆ นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นหัวเราะกันใหญ่เลยค่ะ ถ้าใครฟังออกลองไปฟังดูแล้วมาบอกหน่อยนะคะว่าพระท่านพูดว่าอะไรบ้าง
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%28102%29.jpg)
เมื่อเข้าช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่วัดซันเซ็นนี้จะมีชื่อเสียงเกี่ยวกับ “ดอกกุหลาบพันปีและดอกยามะซากุระ” แต่นอกจากดอกเหล่านี้แล้วภายในวัดก็ยังมีดอกไม้ต่างๆ อีกมากมาย ตั้งแต่ดอกกุหลาบสวยๆ ดอกไม้ป่า หรือดอกซุยเซ็น(Narcissus) และดอกต่างๆ ที่ไม่สามารถหาดูได้ในไทย เรียกได้ว่าที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์ของคนรักดอกไม้เลยก็ว่าได้ค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%28107%29.jpg)
นอกจากฤดูใบไม้ผลิแล้ว เราสามารถชมดอกไม้นานาชนิดได้เช่นกัน ถ้าพูดถึงฤดูใบไม้ผลิก็สามารถชมดอกซากุระหรือดอกกุหลาบพันปี ฤดูร้อนกับดอกไฮเดรนเยียและว่านน้ำ ฤดูใบไม่ร่วงกับใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนฤดูหนาวก็สามารถเพลิดเพลินกับหิมะขาวโพลน เป็นความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูของวัดซันเซ็น ไม่ว่าจะไปตอนไหนก็สามารถชมความสวยงามในแบบใหม่ๆ ได้เลย
ในสถานที่ที่อยู่ห่างจากในตัวเมือง 40 นาทีในบรรยากาศแบบภูเขาทำให้ดอกไม้ที่บานที่นี้จะแตกต่างออกไปจากในเมือง โดยปกติแล้วเราจะสามารถชมดอกซากุระได้ช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายนเท่านั้น แต่ที่โอฮาระนี้เราจะสามารถชมซากุระได้ในช่วงวันหยุดสงกรานต์คือช่วงกลางเดือนพอดี นอกจากนี้เมื่อเข้าช่วงฤดูหนาวเราก็สามารถชมหิมะที่ปกคลุมอยู่ในสวนอย่างสวยงามได้ด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%28100%29.jpg)
หลังจากที่เราได้เที่ยวชมวัดซันเซ็นไปแบบเต็มอิ่ม ตอนนี้ก็เย็นแล้วค่ะ เริ่มเที่ยวจาก OEI KYOTO STUDIO PARK ต่อด้วย อาราชิยามะ และตอนนี้ที่วัดโอฮาระซันเซ็น เป็นหนึ่งวันที่เราได้เที่ยวเกียวโตแบบเต็มที่มากๆ แต่ทริปในวันนี้ของเราจะยังไม่จบเพียงเท่านี้ค่ะ
เดี๋ยวเราจะนั่งรถบัสกลับไปในเมืองเกียโตวกันค่ะ จากนั้นก็นั่งบัสต่อไปที่ เคฮันซันโจ KYOHAN SANJO กันค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%28100%29.jpg)
ป้ายรถบัสของโอฮาระจะแยกออกจากกันตามสถานที่ที่ไป ซึ่งแต่ละป้ายจะมีป้ายแขวนบอกสถานที่ปลายทางอยู่บนเพดาน เพราะฉะนั้นให้เลือกต่อแถวที่ป้ายที่เขียนว่า「KYOTO STATION」ค่ะ
และรถบัสไปเคฮันซันโจจะออกตัวจากป้ายรสบัสเบอร์ 16 หรือ 17 โดยวิ่งชั่วโมงละ 3 เที่ยว ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ราคา 500 เยนค่ะ เมื่อถึงเคฮันซันโจเรียบร้อยแล้วก็เดินไปตามทาง และข้ามสี่แยกไฟแดงเพื่อไปทางที่มีแม่น้ำคาโมะ(KAMO RIVER)
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%28105%29.jpg)
เมื่อข้ามทางม้าลายมาแล้วก็จะเจอกับสะพานขึ้นชื่อ สะพานซันโจโอฮาชิ「SANJO OHASHI」ซึ่งสะพานนี้เป็นสะพานที่เดิมทีเคยมีเส้นโทไคโด「TOKAIDO」ถนนเส้นหลักของญี่ปุ่นเชื่อมระหว่างโตเกียวและเกียวเอาไว้ ในปัจจุบันการเดินทางจากเกียวโตไปโตเกียวนั้นสามารถนั่งชินคันเซ็นไปได้โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น แต่ในสมัยก่อนการเดินทางจากเกียวโตไปโตเกียวนั้นจะต้องใช้เวลาถึง 15 วันในการเดินเท้าเลยทีเดียว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%2895%29.jpg)
สะพานซันโจโอฮาชิ SANJO OHASHI ที่พาดผ่านแม่น้ำคาโมะ ที่สองริมฝั่งแม่น้ำจะมีย่านร้านอาหารที่เรียกว่า “พนโตะโจ” PONTO-CHOU อยู่ เมื่อเข้าหน้าร้อนก็จะมีเฉลียงที่เรียกว่า “โนเรียวยูกะ”「NOURYOU YUKA」(ส่วนระเบียงที่ยื่นออกมาจากร้าน) อยู่ด้านบนลานริมแม่น้ำ ที่ทำให้เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนของเกียวโต รับลมเย็นๆ จากแม่น้ำคาโมะไปพร้อมกับทานอาหารและดื่มกินเลี้ยงสังสรรค์กัน และที่เชิงสะพานก็มี “โนเรียวยูกะ” ของ STARBUCKS อยู่ด้วย แต่ละร้านก็จะปู “โนเรียวยูกะ” แตกต่างกันออกไปตามแต่ละช่วงซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนนั่นเอง
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%2898%29.jpg)
ตอนนี้ ICHIGO-CHAN ก็เริ่มหิวแล้ว เราไปหาอะไรทานก่อนกลับโอซาก้ากันซะหน่อย โดยข้ามสะพานซันโจโอฮาชิไปและตรงไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเราก็จะเจอกับร้านผลไม้ชั้นดีของคันไซกับร้าน「ARROW TREE」เมื่อผ่าน ARROW TREE มาแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 นาที ก็มาถึงสี่แยกใหญ่ของ คาวาระมาจิ ซันโจ KAWARAMACHI SANJO ค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/20%2893%29.jpg)
และร้านที่อยู่หน้าสี่แยกคาวาระมาจิ ซันโจก็คือร้าน『RAMEN RAIRAITEI』
ร้าน「RAMEN RAIRAITEI」เป็นร้านที่มีจุดเริ่มต้นมาจากจังหวัดชิงะที่อยู่ข้างเกียวโต เป็นโชยุราเม็งแบบเกียวโตที่มีรสชาติพื้นฐานเป็นมันหมูและโชยุ คนนิยมกันมากๆ ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปทานอาหารเย็นที่ร้านราเม็ง「RAMEN RAIRAITEI」จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่โอซาก้าเพื่อไป Rooftop Bar「OO」กันค่ะ
【ตารางการเดินทาง Day2-4 OHARA SANZENIN TEMPLE】
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/21%2883%29.jpg)