Day2-3 เที่ยว『GOLDEN STREET』แหล่งสถานบันเทิงย่านชินจูกุ


Day2-3 เที่ยว『GOLDEN STREET』แหล่งสถานบันเทิงย่านชินจูกุ

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ท่องเที่ยวที่โอวาคุดานิ ทะเลสาบอาชิโนะโค สัมผัสกับประสบการณ์นั่งรถไฟขึ้นเขา

เคเบิ้ลคาร์ โรปเวย์ และร่องเรือโจรสลัดอย่างสนุกสนานแล้ว

ICHIGO-CHAN ก็ต้องอำลาฮาโกเนะ เพื่อเดินทางต่อไปที่โตเกียว 

ครั้งนี้อยากจะขอแนะนำถนนมีชื่อในโตเกียว  และ 『SHINJUKU GOLDEN STREET』ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมเป็น

อย่างมาก สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

จากฮาโกเนะยุโมโตะไปโตเกียว มีวิธีเดินทางหลายทาง เช่น

  •          นั่งโอดะคิว โรมานซ์คาร์ ไปชินจุกุ
  •          นั่งรถไฟขึ้นเขาฮาโกเนะ (Hakone Tozan Railway) ไปที่โอดะวาระและนั่งรถไฟชินคันเซ็นหรือ

รถไฟสายโทไคโด (Tokaido Line) ไปที่โตเกียว

  •          นั่งรถบัสเข้าไปในเมือง

ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN จะเดินทางไปชินจูกุ เลยใช้บริการโอดะคิว โรมานซ์คาร์

ถ้ามีตั๋ว 「Hakone Free Pass」สามารถต่อไปโอดะวาระได้เลย  ปกติราคา 310 เยน

ถ้ามี Hakone Free Pass เวลาซื้อตั๋วไปชินจูกุให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกตั๋วจากโอดะวาระ

ไปชินจูกุ แต่ถ้าไม่มี Hakone Free Pass ให้ซื้อตั๋วที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ

ก่อนอื่นให้เช็คราคาค่าโดยสารบนแผนที่ของเครื่องขายตั๋ว หลังจากนั้นใส่เงิน และกดปุ่มตามราคาค่าโดยสาร

ที่กำหนดไว้ ค่าโดยสารไปสถานีชินจูกุ ราคา  1190 เยน

รถโรมานซ์คาร์แบบด่วนพิเศษ  ต้องซื้อต่างหาก ราคา 890 เยน  

จากฮาโกเนะยุโมโตะไปชินจูกุ ใช้เวลาประมาณ 85 นาที

รถไฟสาย「Hakonego」ที่หัวขบวนมองเห็นด้านนอก จะช่วยพา ICHIGO-CHAN ไปส่งที่ชินจูกุ

ถ้าอยากประหยัดเงินค่าโดยสาร อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้รถด่วนพิเศษ สามารถนั่งรถด่วนทั่วไป

「Express」หรือ「Rapid Express」ได้

ถ้านั่งรถโรมานซ์คาร์ แนะนำให้นั่งติดหน้าต่างฝั่งซ้ายมือ

จะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิด้วย

ใช้เวลาประมาณ 85 นาที ถึงสถานีชินจูกุ ที่สถานีจะมีรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวของฮาโกเนะแนะนำอยู่ เห็นแล้วก็ยัง

อยากจะกลับไปเที่ยวอีก ถึงสถานีชินจูกุเรียบร้อยแล้ว ให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปทางประตูทางออกทิศใต้

ของสถานีชินจูกุเพื่อไปที่สถานีโอดะคิวชินจูกุ

ใกล้ๆกับประตูทางออกทิศใต้ของสถานีชินจูกุจะมีห้างขายของแฟชั่นชั้นนำหลายแห่ง เช่น LUMINE และ

MYROAD

ถ้ามองจากสะพานลอยทางด้านหน้าของสถานีชินจูกุ ประตูทิศใต้ จะเห็นฝูงคนจำนวนมาก

ที่เมืองไทยที่แยกสถานีชิบุยะอาจจะเป็นย่านที่ทุกคนคุ้นตาเป็นย่านดี แต่ที่ชินจูกุประตูทิศใต้ก็มีคนไม่น้อยไปกว่า

กันเลย

พอออกจากสถานีชินจูกุ ประตูทิศใต้แล้ว ให้เดินไปทางซ้ายมือตามถนนใหญ่  (Koshukaido) มุ่งหนาไปที่

Golden Street

เดินตรงไปประมาณ 3 นาที ทางซ้ายจะมีบันไดเลื่อนลงไปด้านล่าง

หลังจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายและเดินตรงไปอีกประมาณ 5 นาที จะเห็นสี่แยก บริเวณนั้นจะมีร้านผลไม้ 

ชื่อ「Hyakkaen」เว็บ Pantip เองก็มักจะเอามาแนะนำบ่อยๆ  พอถึงร้านนั้น ให้เดินเข้าไปในซอยข้างๆร้าน

ร้าน「Hyakkaen」ขายสตรอเบอรี่เสียบไม้(200 เยน) และพายเสียบไม้(100 เยน)

ซื้อรับประทานที่ร้านได้เลย

เลย

เดินผ่านร้าน「Hyakkaen」 จะเห็นสี่แยกใหญ่ ให้ข้ามทางม้าลายไปฝั่งตรงข้าม ก็จะถึงร้าน「Don Quixote」

ร้านที่คนไทยคุ้นเคยมากอีกร้านหนึ่ง ปีนี้ได้ข่าวว่าจะไปเปิดสาขาที่เอกมัยด้วย

ร้านที่คาบุกิโจเป็นร้านใหญ่ มีตั้งแต่ชั้น 1-6  พร้อมสินค้าให้เลือกสรรมากมาย หลากหลายชนิด

เดินไปเรื่อยๆ ทางซ้ายมือจะเห็นร้านมิสเตอร์โดนัทที่หัวมุมถนน ให้เลี้ยวไปทางซ้าย

เดินตรงไปอีกเล็กน้อย ทางขวามือจะเห็นตึกที่มีรูปแมว 「Manekineko」จากนั้นให้เลี้ยวไปทางขวา

「Shinjuku Golden City」เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาว

ต่างชาติ เป็นตึกเล็กๆเรียงรายกันเป็นจำนวนมาก รายล้อมไปด้วยตึกสูงของโตเกียว

ในย่านนี้มีร้านอาหารกว่า 200 แห่ง อาจกล่าวได้ว่าเป็นอีกย่านหนึ่งที่เปรียบเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมของญี่ปุ่น

เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นศูนย์รวมของคนในวงการบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักประพันธ์ นักแสดง หรือนัก

สื่อสารมวลชน

มีร้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลายร้าน วันนี้ ICHIGO-CHAN ลองเลือกร้านนี้

บว่า 「เชิญค่ะ」

เจ้าของร้านเป็น แมว!?

・・・ไม่ใช่แมวหรอก แต่เป็นเจ้าของร้านที่ชื่นชอบแมว 「Pussy Foot」และชอบการ์ตูนเป็นอย่างมาก

ภายในร้านเปิดเพลงการ์ตูนให้ฟังด้วย  บรรยากาศดี  สำหรับโอตาคุ หรือแฟนคลับตัวจริงคงจะชื่นชอบมาก

เจ้าของร้านชอบแมวมาก ออกทุนทำนิตยสารเองถึง 4 เล่ม

ราคากำลังดี ไม่แพงเกินไป

ค่าเข้า 1000 เยน(Charge) บียร์สดหรือเหล้าโซจู 1 แก้ว ราคา  500 เยน  ค็อกเทล 1 แก้ว ราคา 600 เยน

ไม่จำกัดเวลา สามารถนั่งดื่มได้สบายๆ กับแมวน่ารักๆ

สำหรับท่านที่ชอบดื่ม ทางร้านมี ตากีล่า (500 เยน)และวอลก้า (500 เยน)ไว้บริการด้วย

สำหรับค่าเข้าที่ชาร์ตไว้ (charge)มีของว่างเมนูต่างๆ ไว้บริการด้วย

เมนูสำหรับวันนี้คือโอเด้ง ซุปกำลังได้ที่ อร่อยมาก !!

เจ้าของร้านนี้เป็นคน แต่ผู้ดูแลร้านเป็นแมว 555

ชื่อหนุ่มน้อย 「ริว」(อายุ 4 ขวบ)เป็นผู้ดูแลร้านรุ่นที่ 2

นอกจากนี้ ยังมีมีเจ้าเคอิจิ แมวสีขาว (อายุ 2 ขวบ)

แมวทั้งสองตัวออกมาต้อนรับ ICHIGO-CHAN

จริงๆแล้ว ICHIGO-CHAN ชอบแมวมาก

พูดภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยเก่าง แต่คงเพราะด้วยความที่ชื่นชอบแมวเหมือนกัน เลยคุยกันถูกคอมากกับเจ้าของร้าน

คุยจนลืมเวลาไปเลยทีเดียว

เริ่มหิวอีกแล้ว ต้องหาอะไรลองท้อง

ร้านต่อไปขอแนะนำร้าน「ยะกิโทริ และร้านไวน์」

เป็นร้านเล็กๆ มีเคาร์เตอร์ 7 ที่นั่ง ที่นั่งระหว่างคนขายกับลูกค้า หรือที่นั่งระหว่างลูกค้ากับลูกค้าติดกัน

ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง

ICHIGO-CHAN เพิ่งเคยไปเป็นครั้งแรก แต่เจ้าของร้านก็ให้การต้อนรับเหมือนเป็นเพื่อนกันมานาน

เวลาไปกินอาหารที่อื่น อาจจะไม่รู้สึกสนิทสนมขนาดนี้ แต่ที่นี่สามารถพูดคุยกับคนขายหรือเจ้าของร้านได้

อย่างเป็นกันเอง สนุกสนานมาก

ไก่ย่างของทางร้านอร่อยมากๆ

ชุดละ 5 ไม้ ราคา 1000 เยน ได้ลองกินยะกิโทริ ไก่ย่างสไตน์ของญี่ปุ่นแท้ๆ รู้สึกประทับใจมาก

สำหรับโรงแรมที่จะไปพักครั้งนี้คือโรงแรม『Comfort Hotel Higashi Kanda』เดินไปเพียง 10 นาทีจาก

สถานนีคันดะ หรือสถานีอาคิฮาบาระ แหล่งของโอตากุนั่นเอง

ก่อนอื่นก็คงต้องกลับไปที่สถานีชินจูกุ เพื่อนั่งรถไฟไปที่สถานีคันดะ ค่าโดยสารราคา (170 เยน) วิธีซื้อตั๋วรถไฟก็

เหมือนที่ผ่านๆมา ตรวจเช็คราคาและสถานีปลายทางก่อน หลังจากนั้นก็หยอดเหรียญ กดเลือกตามราคาค่า

โดยสารที่กำหนดไว้ 「170」

จากสถานีชินจูกุ ไปสถานีคันดะ นั่งรถไฟด่วน Chuo line Rapid (To Tokyo)  นั่งไปเพียง 3 สถานี

ก่อนอื่นให้ไปที่ทางขึ้นรถไฟหมายเลข 8

รถไฟสาย Chuo line กับ MRT สายสีม่วง อาจจะดูต่างกัน แต่จริงๆแล้ว ด้านในตัวรถคล้ายๆกัน เหมือนกับเป็นพี่น้องกันเลยทีเดียว ・・・・

จากสถานีชินจูกุนั่งไปถึงสถานีคันดะ 3 สถานี ใช้เวลา 12 นาที

พอถึงสถานีคันดะ ให้ลงบันไดทางด้านหน้า ออกจากสถานีฝั่ง「ประตูทิศใต้」หลังจากนั้นออกทางประตูฝั่ง

ซ้ายมือ เดินตรงไปทางขวา จะเห็นถนนใหญ่ให้เลี้ยวซ้าย เดินตรงไปอีกประมาณ 7 นาที ก็จะถึงโรงแรม『COMFORT HOTEL HIGASHIKANDA』

『COMFORT HOTEL HIGASHIKANDA』ตัวโรงแรมใหม่มาก เปิดได้ไม่ถึง 1 ปี

ปกติแล้ว Business hotel ที่ญี่ปุ่นขนาดไม่ใหญ่นัก แต่การตกแต่งสวยงามมีสไตน์ สะดวกสบาย

ถ้าเทียบกับโรงแรมที่เมืองไทย ห้องอาจจะเล็กไปหน่อย แต่ถ้าเทียบกับโรงแรม Business ทั่วไปของญี่ปุ่นค่อนข้างกว้าง โรงแรมทั่วไปขนาด 11-15 ㎡ ส่วนโรงแรมนี้ขนาด 15-19㎡

มีที่เสียบปลั๊กไฟ 2 ที่ ชาร์ตแบตได้สะดวกเวลานอก

มีเว็บไซต์เป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ใช้อ้างอิงดูตัวอย่างห้องได้ถึง 360 องศาRESERVE COMFORT HOTEL HIGASHIKANDA』

วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่  ICHIGO-CHAN สนุกมาก ๆ

ต้องเตรียมพักผ่อนเพื่อชาร์ตพลังไปเที่ยวต่อ

ราตรีสวัสดิ์นะคะ 

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶