Day2-3 เดินเล่นตลาด OHMICHO-ICHIBA และจุใจอาหารทะเลแสนสด เช็คอินโรงแรม『KANAZAWA TOKYU HOTEL』
ICHIGO-CHAN เพลิดเพลินจนเต็มอิ่มไปกับ『GASSHOUZUKURI MINKAEN』ที่ชิราคาวะโกะเมืองแห่งหิมะที่ใฝ่ฝัน
ในครั้งนี้เราจะมุ่งหน้าทางไปยังคานาซาวะ เมืองโบราณฝั่งทะเลญี่ปุ่นด้วยรถบัสกันค่ะ
ในครั้งนี้เราจะไปทานอาหารเย็นกันที่『OHMICHO-ICHIBA』(โอมิโจ อิจิบะ – ตลาด Omicho) ซึ่งมีปลาสดใหม่รวบรวมไว้อย่างอุดมสมบูรณ์จนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว และจะจอแนะนำที่พักในค่ำคืนนี้『KANAZAWA TOKYU HOTEL』(คานาซาวะ โตคิว โฮเทล)
ท่ามกลางหิมะที่ร่วงโปรยปราย เราก็ขึ้นมาบนรถบัสสีแดงที่มุ่งหน้าไปคานาซาวะ
ระหว่างชิราคาวะโกะ-คานาซาวะก็ใช้『TAKAYAMA-HOKURIKU AREA TOURIST PASS』(ทาคายามะ โฮคุริคุเอเรีย ทัวริสพาส)
ที่สามารถใช้ได้เช่นกัน
ถ้าไม่มีพาสก็เสียค่าโดยสารที่ 1850 เยนค่ะ
เส้นทางนี้มีรถให้บริการตั้งแต่ 8:50 ถึงตอนเย็น 17:30 วันละ 10 เที่ยว แต่ไม่ว่าจะเที่ยวไหนก็ต้องจองก่อนนะคะ
ท่านที่จะใช้พาสก็ทำการจองที่นั่งของเส้นทางนี้ตั้งแต่ตอนที่ออกจากทาคายามะหรือโทรศัพท์มาจองที่ไว้ก่อนจะดีกว่าค่ะ
รถบัสใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมง 20 นาทีก็มาถึงท่ารถบัสที่ประตูทิศตะวันออกของสถานีคานาซาวะ
คานาซาวะนั้นเมื่อเทียบกับโอซาก้าหรือนาโกยะแล้วถือว่าเป็นเมืองศูนย์กลางที่มีขนาดเล็กค่ะ แต่สำหรับ ICHIGO-CHAN ที่มาจากชิราคาวะโกะแล้ว รู้สึกเหมือนมาเมืองใหญ่เลยล่ะค่ะ
การเดินทางไปยังพื้นที่「KORINBO」(โครินโบ) ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของคานาซาวะหรือตลาด OMICHO(โอมิโจ) ที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวก็สามารถไปได้อย่างสะดวกสบายและราคาถูกด้วยรถบัสที่เรียกว่า「FURATTO」(ฟุรัตโตะ) ค่ะ ช่วงเวลากลางวันจะมีรถวิ่งทุก 15 นาที ค่าโดยสารก็ราคาเพียง 100 เยนเท่านั้นเองค่ะ
กล่องค่าโดยสารแบบทั่วไปที่มีติดตั้งในรถบัสของญี่ปุ่น
จะต่างจากที่ไทยตรงที่ไม่มีพนักงานเก็บค่าโดยสารค่ะ การจ่ายค่าโดยสารจะต้องจ่ายเองตอนขึ้นหรือตอนลง(แตกต่างกันไปตามบริษัทของรถ)
โดยที่เราจะต้องหยอดค่าโดยสารให้พอดีลงในช่องตรงลูกศร ⇒ ด้านบนขวาของรูปถ่ายค่ะ ถ้าเงินไม่พอดีกับค่าโดยสารก็สามารถแลกเงินได้โดยใส่เงินเข้าไปในช่องใส่ธนบัตรสีเขียวที่อยู่ด้านหน้าทางขวามือแล้วจึงนำไปจ่ายค่าโดยสาร
แล้วก็ลงจากรถที่ตลาด OHMICHO-ICHIBA พอข้ามถนนไปก็จะเจอเลยค่ะ
อยู่ตรงหน้าแบบนี้ไม่มีทางหลงแน่นอน
ร้านค้าส่วนใหญ่ในตลาดจะเปิดทำการถึง 5 โมงเย็น ตอนที่ ICHIGO-CHAN ซึ่งไปทาคายามะ – ชิราคาวะโกะมาถึงตลาด OHMICHO-ICHIBA ร้านค้าส่วนใหญ่ก็เริ่มดึงประตูลงมาปิดแล้วค่ะ….น่าเสียดายจัง
ตลาด OHMICHO-ICHIBA ที่ถ้าคนไทยมาในช่วงกลางวันจะต้องไม่ผิดหวังแน่นอน
ทั้งปูสดต่าง ๆ เช่น「ปู Echizen」「ปู Taraba」ที่จับได้ในทะเลญี่ปุ่น หรือจะเป็นผลไม้ที่คนไทยชื่นชอบก็มีวางเรียงรายเต็มไปหมด จนเป็นจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลยล่ะค่ะ
น่าเสียดายที่ร้านขายอาหารสดปิดร้านแล้ว แต่ร้านขายของที่ระลึกหรือร้านชา, Matsumoto Kiyoshi และร้านอาหารจำนวนหนึ่งยังเปิดให้บริการแม้จะเลย 6 โมงเย็นไปแล้ว
เริ่มรู้สึกหิวแล้วล่ะค่ะ ก็เลยตัดสินใจจะเข้าไปในร้าน『INOYA』ที่มีชื่อเสียงเรื่อง Kaisen Chirashi Sushi(ไคเซ็น จิราชิซูชิ – ข้าวหน้าปลาดิบรวมมิตร)
ภายในร้านมีทั้งที่นั่งแบบญี่ปุ่นและเคาน์เตอร์ ดูเหมือนว่าร้านมักจะคับคั่งไปด้วยผู้คนมากมายอยู่เสมอ แต่วันนี้น่าจะโชคดีที่ช่วงเวลาที่มายังเร็วไปสำหรับอาหารค่ำ ก็เลยสามารถเข้าร้านได้โดยไม่ต้องรอเลยค่ะ
ที่จริงแล้วอยากจะแนะนำเมนูอาหารด้วยรูปถ่ายให้ได้ชมกันนะคะ แต่เมนูมีมากมายจนน่าจะไม่สามารถลงได้หมดแน่ ๆ….
ลองเช็ครายละเอียดจากเว็บไซต์ของทางร้านดูนะคะ
ถ้ามากันหลายคน『JYO CHIRASHI OMICHO』(2950 เยน) แบบในรูปน่าจะเหมาะกับ Instagram แต่ครั้งนี้มาเที่ยวคนเดียวก็เลยสั่ง 「Zuwai Ama-ebi Don」(ข้าวหน้าปูซูไวกานิกับกุ้งหวานอามะเอบิ) (1850 เยน) ค่ะ
จากที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์จะสามารถมองดู Itamae ซัง (อิตะมาเอะ – เชฟที่ทำอาหารหน้าเคาน์เตอร์) ที่กำลังเตรียมปลาสดใหม่อย่างชำนาญได้อย่างชัดเจน
มาแล้วค่า——- ข้าวด้งที่ถูกโปะหน้ามาด้วยปูซุไวกานิมาแล้ว
ก้ามปูที่ยื่นออกมาจากชามแบบนี้คนไทยเห็นแล้วอดใจไม่ไหวแน่ ๆ
น่าอร่อยจนไม่อยากจะเสียเวลามาถ่ายรูปเลยล่ะค่ะ
พอเอามาเทียบกับหน้าของ ICHIGO-CHAN ดูแล้ว เข้าใจเลยใช่มั้ยคะว่าก้ามปูนี้ใหญ่แค่ไหน
น้ำลายแทบจะหกแล้วก็เลยขอถ่ายรูปแค่นี้แล้วทานก่อนนะคะ
Itamae ซังที่ตอนเตรียมอาหารดูน่ากลัวแต่ก็เท่
ยิ้มแย้มแจ่มใสตอนถ่ายรูปกับ ICHIGO-CHAN ด้วยนะ ขอขอบคุณสำหรับอาหารแสนอร่อยนะคะ
Chirashi Sushi อันแสนหรูหราขนาดนั้นราคาแค่ 1850 เยน (≒ 550 บาท) เอง ราวกับโกหกเลยล่ะ
จากตลาด OHMICHO-ICHIBA จนถึง『KANAZAWA TOKYU HOTEL』(โรงแรมคานาซาวะ โตคิว) ที่พักในคืนนี้นั้นก็แค่เดินตรงไปตามถนนใหญ่ข้างหน้าเท่านั้นเองค่ะ
ICHIGO-CHAN ที่ทานมาจนเต็มพุงก็เลยต้องเดินเพื่อลดอาหารในท้องลงบ้าง แต่ท่านที่มีสัมภาระหนัก ๆ การใช้บริการรถแท็กซี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีนะคะ แท็กซี่ที่ญี่ปุ่นอาจจะมีอิมเมจว่าราคาแพง แต่ที่คานาซาวะนี้ ระยะทางภายใน 1.6 กิโลเมตร ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 690 – 700 เยน ถ้านั่งกัน 4 คนก็ตกคนละไม่ถึง 200 เยนเองค่ะ
ที่ไทยเวลาจะโบกรถแท็กซี่เราจะยื่นมือออกไปด้านข้าง แต่ที่ญี่ปุ่นจะยกมือขึ้นหรือยื่นออกไปด้านข้างก็ได้ค่ะ เมื่อขึ้นแท็กซี่แล้วให้บอกว่า
「“จุดหมายปลายทาง”MADE ONEGAI SHIMASU」(“จุดหมายปลายทาง” มาเดะ โอเนะไงชิมัส – รบกวนไปที่ “จุดหมายปลายทาง”)
แท็กซี่ที่ญี่ปุ่นจะไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร จึงไม่จำเป็นต้องถามว่าไปได้หรือไม่ค่ะ! ยอดเยี่ยมไปเลย
และแล้วก็มาถึง『KANAZAWA TOKYU HOTEL』ที่มีบรรยากาศเงียบสงบและเคร่งขรึม
สมกับที่เป็นเมืองโบราณคานาซาวะ ทางเข้าที่มีดีไซน์ของโครงไม้ขัดกันเป็นตารางออกมาต้อนรับช่างวิเศษมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
รูปภาพที่จัดแสดงอยู่บริเวณทางเข้า ทองคำเปลวกับซากุระของคานาซาวะที่มีชื่อเสียงออกมาต้อนรับอย่างทรงพลัง
ถ้าพูดถึงราคาแล้วจะเท่าไหร่กันนะ…. ICHIGO-CHAN จินตนาการไม่ออกเลย
เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนที่มีลมพัดผ่านก็จะไปยังแผนกต้อนรับที่อยู่ชั้น 2
ก่อนที่จะทำการเช็คอินก็เป็นแฟนคลับของโรงแรมนี้ไปอย่างรวดเร็วแล้วล่ะค่ะ
เพราะว่าสต๊าฟของโรงแรมมาช่วยเช็ดกระเป๋าของ ICHIGO-CHAN ที่เปียกหิมะให้ แม้จะเป็นวันที่หนาวเพราะหิมะแต่หัวใจก็อบอุ่นไปเลยค่ะ
ตอนทำการเช็คอินก็มีผ้าเช็ดมืออุ่น ๆ เตรียมไว้ให้บริการ
เป็นเหล่าสต๊าฟที่อบอุ่นและใจดีกันจังเลย….
ลิฟต์เป็นดีไซน์ของใบไม้เปลี่ยนสี
ใบไม้เปลี่ยนสีที่คานาซะวะคงจะสวยมาก ๆ แน่ ๆ เลยเนอะ
ห้องพักจะอยู่ระหว่างชั้น 6 ถึงชั้น 15 ทีสามารถชมเมืองคานาซาวะที่มีตึกสูงน้อยได้ด้วยการกวาดตามองเพียงครั้งเดียว
ในที่สุดก็มาถึงห้องพักแล้วค่ะ
คืนนี้จะเป็นห้องแบบไหนกันน๊า….?
เป็นห้องพักที่ยังมีความน่ารักในบรรยากาศแบบเก๋ไก๋สไตล์ผู้ดีนั่นเองค่ะ
ที่ญี่ปุ่น ถ้าเป็นห้องพักเดี่ยวสำหรับ 1 คนตามปกติมักจะมีความกว้างน้อยกว่า 15 ตารางเมตร แต่ที่ KANAZAWA TOKYU HOTEL แล้ว ส่วนใหญ่จะมีความกว้างประมาณ 20 ตารางเมตรหรือมากกว่านั้นอีกค่ะ
เตียงนอนก็กว้างขนาดดับเบิ้ลด้วยล่ะ
ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของคานาซาวะจากชั้น 14
แม้จะเป็นใจกลางเมือง แต่บ้านเดี่ยวที่ไม่ค่อยสูงหลายหลังก็ร้อยเรียงกันเป็นทิวแถว
บ้านเรือนส่วนใหญ่ในคานาซาวะจะมีหลังคาลาดเอียงเพื่อไม่ให้หิมะทับถม บ้านที่มีหลังคาสามเหลี่ยมซึ่งถูกคลุมไปด้วยหิมะเรียงรายต่อกันไปแบบนี้เป็นวิวที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะตัวมาก ๆ เลยเนอะ
ตึกสูง ๆ ที่เห็นด้านขวาไกล ๆ นั่นคือบริเวณรอบ ๆ สถานีคานาซาวะค่ะ
ห้องน้ำก็เต็มไปด้วยบรรยากาศแสนเก๋ไก๋มีสไตล์
อ่างอาบน้ำก็กว้างและลึก เป็นแบบที่สามารถแช่น้ำได้อย่างสบาย ๆ เลยค่ะ
ถ้าพาเพื่อนอย่าง「เป็ดเหลือง」จังมาด้วยก็น่าจะดี….
นี่คืออะไรกันนะ??
ถ้าเป็นห้องน้ำที่ไทยก็มีมีสายชำระข้าง ๆ โถสุขภัณฑ์ แต่ที่ญี่ปุ่นจะเป็นว็อชเล็ทที่ชำระล้างให้อัตโนมัติเป็นเรื่องปกติค่ะ
เป็นประเทศที่อะไร ๆ ก็อัตโนมัติไปหมดเลยล่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกก็ใช้แต่ของคุณภาพดี
แชมพูเป็นของ「LAURA ASHLEY」ที่มีชื่อเสียง
ในเหล่าสิ่งอำนวยความสะดวกนี้มีผ้าโพกหัวด้วย แปลกดีเหมือนกันนะ!?
และแน่นอนว่าในห้องพักก็มี Wifi ฟรีให้ใช้ด้วยค่ะ
(พาสเวิร์ดจะถูกซ่อนไว้ในบัตรรับประทานอาหารเช้า)
เมื่อลองวัดความเร็วดู Download สูงถึง 32Mbps เลยล่ะค่ะ! ถ้าเร็วขนาดนี้ก็สามารถเปิดเช็ค ICHIGO JAPAN ได้สบาย ๆ เลยนะเนี่ย 555
ท่านที่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์กระทันหันก็สามารถขอยืมจากแผนกต้อนรับได้นะคะ (มีค่าบริการ 1000 เยน-)
Mmmmmm…..
เมนูอาหารญี่ปุ่นอันแสนน่าอร่อย
อาหารแบบข้าวกล่องเบนโตะที่น่ารักมาก ๆ นี้ดูเหมือนว่าจะหาซื้อได้จากร้านที่ชื่อว่า『KINCHAROU』(คินจาโร) ซึ่งอยู่ที่ชั้น 3 ค่ะ
Fuyuzen(ฟุยุเซ็น) อยู่ที่ 2800 เยน Kani zukushi Bento ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยปูก็ราคาแค่ 6000 เยน เหมาะสมทั้งราคาและปริมาณเลยล่ะค่ะ
ในตู้เย็นมีทั้งน้ำชาและเบียร์เตรียมไว้ให้ แต่เสียเงินนะคะ
ไปเดินเล่นในอาคารดูกันดีกว่า
ที่ชั้น 2 นอกจากจะมีร้านอาหาร, 「MARAIS D’OR」(มาเลดอล) ที่เป็นเลานจ์บาร์แล้ว เดือนมีนาคมนี้ยังมีแผนจะเปิดคลับเลาจน์ด้วยค่ะ
และร้าน「KINCHAROU」ที่แนะนำไปนิดหน่อยเมื่อสักครู่นี้ก็เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ชั้น 3 ค่ะ
เมื่อนั่งบนเก้าอี้ที่ท่าทางจะนั่งสบายของล็อบบี้ ICHIGO-CHAN ก็เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาเลย
ขอตัวกลับไปยังห้องพักอันแสนสุขและนอนก่อนนะคะ
วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ได้เที่ยวอย่างเต็มอิ่ม ราตรีสวัสดิ์ค่า zzz
ในครั้งหน้าเราจะมาแนะนำอาหารเช้าแบบเต็มอิ่มของ『KANAZAWA TOKYU HOTEL』, และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในคานาซาวะซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมมาก ๆ คือ『NAGAMACHI-BUKEYASHIKI』(นากามะจิ-บุเคะยะชิกิ) ให้ได้ชมกัน อดใจรอสักนิดนะคะ
Sponsored by KANAZAWA TOKYU HOTEL