Day2-3 นั่ง “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ”「SHINHOTAKA ROPEWAY」ชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีและหิมะบนเขา

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day2-3 นั่ง “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ”「SHINHOTAKA ROPEWAY」ชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีและหิมะบนเขา

NAGOYA-TAKAYAMA-SHINHODAKAROPEWAY-HIRAYU-MATSUMOTO-KOMAGATAKEROPEWAY-NAGOYA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินทางจากทาคายาม่า มายังสถานที่ไฮไลท์ของทริปนี้ กระเช้าลอยฟ้าที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสี หรือหิมะที่ขาวโพลนได้กับ “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ”「SHINHOTAKA ROPEWAY」โดยนั่งกระเช้าลอยฟ้าอันแรก No.1 ropeway มายัง Nabedairakogen Station ที่อยู่บนความสูง 1300 เมตร และเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีเล็กน้อยแล้ว

Day2-2 เดินทางออกจากทาคายาม่าไปยัง “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ”「SHINHOTAKA ROPEWAY」

และได้นั่ง “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ”อันที่สอง No.2 ropeway แบบ 2 ชั้น ที่สามารถจุคนได้มากถึง 120 คน ซึ่งระหว่างทางสามารถชมวิวภูเขา CHOU-ALPS(中央アルプス) และภูเขา OKUHIDA ที่ได้รับนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「บัตรพาสรถบัสด่วน โชริวโด -โปรแกรมมัทสึโมโตะ มาโกเมะ โคมากาเนะ-」ในตอนที่ 5 นี้เราจะพาเพื่อนๆ นั่ง “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ”「SHINHOTAKA ROPEWAY」เพื่อขึ้นไปยังจุดชมวิวสูงสุดกันค่ะ

ICHIGO-CHAN ได้ขึ้นกระเช้าลอยฟ้ามาจนถึง「Shirakabadaira Station」ที่อยู่บนยอดเขาแล้ว ต่อไปเราจะนั่งกระเช้าลอยฟ้าแบบสองชั้นเพื่อขึ้นไปยังสถานีปลายทางที่「Nishihotakaguchi Station」บนความสูง 2156 เมตรกันค่ะ ซึ่งไฮไลท์ของ “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ” ก็คือกระเช้า No.2 ropeway โดยจะใช้เวลาเดินทางเพียง 7 นาที เพื่อขึ้นไปสูง 848 เมตร ซึ่งตอนที่อยู่บนกระเช้าลอยฟ้าให้ความรู้สึกเหมือน “เดินอยู่บนอากาศ” เลยค่ะ และระหว่างทางทุกๆ ครั้งที่ข้ามผ่านเสาเหล็กกระเช้าก็จะไหวเล็กน้อย รู้สึกหวิวๆ ฮือฮากันใหญ่เลยค่ะ นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆ นอกหน้าต่างแล้ว ยังให้ความรู้สึกเหมือนได้นั่งเครื่องเล่นอยู่ด้วยสนุกมากๆ เลย

ซึ่งเสน่ห์ของที่นี่ก็คือ การได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่โดยปกติแล้วจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ่ายรูปได้ไม่มีหยุด ถึงแม้ว่าภายในกระเช้าลอยฟ้าจะไม่มีที่นั่ง แต่ถ้าได้ยืนบริเวณริมหน้าต่างจะดีมากๆ เลย เพราะว่าจะได้เห็นวิวข้างนอกแบบชัดๆ หากคิดว่าไม่สามารถได้ที่บริเวณริมหน้าต่างแน่ๆ ถึงจะต้องรอรอบถัดไปอีก 30 นาทีก็คุ้มค่าแก่การรอมากๆ นะคะ

ใช้เวลานั่งกระเช้าลอยฟ้ามา 7 นาที ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง Nishihotakaguchi Station เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งที่สถานีนี้จะมีจุดชมวิวอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า กับวิวทิวเขา CHOU-ALPS แต่ข้อควรระวังเล็กน้อยเมื่อมาเยือนสถานีนี้ก็คือ “การแต่งกาย” เนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง 2156 เมตร ดังนั้นบนดาดฟ้าจะมีอุณภูมิเพียง 5-10 องศาเท่านั้น โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวควรจะมีเสื้อกันหนาวด้วย ขาดไม่ได้เลยจริงๆ ค่ะ

และเมื่อขึ้นมาที่จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าก็จะได้ชมวิวทิวเขา CHOU-ALPS ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะบางๆ ได้แบบพาโนราม่า 360 องศาเลยทีเดียว ระหว่างที่เรากำลังเดินหามุมถ่ายรูปสวยๆ หลบเมฆที่ลอยไปมาอยู่ก็จะเห็นสตาฟที่ใส่เสื้อสีส้มยืนถือกล้องอยู่ที่มุมหนึ่งด้วย ซึ่งบุคคลเหล่านี้ก็คือกลุ่มอาสาสมัครจะช่วยถ่ายรูปสวยๆ ให้ ถึงแม้ว่าจะมีรูปจำหน่ายอยู่ด้วย(1 ใบ1,200 เยน)แต่ก็สามารถถ่ายมือถือให้แบบฟรีๆ อีกด้วย

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม แต่วิวทิวเขาที่ชมจากจุดชมวิวแห่งนี้ก็มีหิมะปกคลุมอยู่แล้ว ส่วนบริเวณยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ กลางเขาที่เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และบริเวณเชิงเขาเป็นพื้นที่เขียวชอุ่ม เป็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีแบบสามชั้นที่สวยงามมากๆ ซึ่งจากจุดชมวิวบนความสูง 2000 เมตรนี้ สามารถเพลิดเพลินกับ “วิวหิมะ” ได้มากกว่าครึ่งปีเลยทีเดียว ในช่วงเดือนตุลาคม ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม และหากพูดถึงช่วงนี้ก็เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยพอดี ยังไงหากได้ท่องเที่ยว “ทาคายาม่า” หรือ “ชิราคาวาโกะ” ก็อย่าลืมแวะมาชมวิวสวยๆ แบบนี้ได้ที่ “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ”「SHINHOTAKA ROPEWAY」นะคะ

และเมื่อเข้าสู่ขช่วงฤดูหนาวที่แท้จริงในช่วงเดือนธันวาคม ไปจนถึง เดือนมีนาคมหิมะก็จะปกคลุมไปทั่วบริเวณเหมือนในภาพเลยค่ะ เมื่อเทียบกับ “เส้นทางแอลป์ ทาเทยาม่า คุโรเบะ” ที่จะปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาวแล้ว นอกจากวันที่ 4 และ 5 ธันวาคม ที่ “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ” จะเปิดให้บริการทุกวัน เรียกได้ว่าสามารถชมวิวหิมะที่สวยงามได้ตลอดทั้งช่วงเลยค่ะ

ซึ่งที่สถานี Nishihotakaguchi Station นี้นอกจากจุดชมวิวแล้ว ยังมีร้านจำหน่ายของฝาก ร้านอาหาร และร้านกาแฟ「MOUNT VIEW」นอกจากนี้ยังมีไปรษณีย์ที่รับส่งพัสดุตลอดทั้งปีอย่าง「YAMABIKO POST(山びこポスト)」อยู่อีกด้วย จาก YAMABIKO POST นี้นอกจากจะสามารถจัดส่งภายในประเทศได้แล้ว ยังสามาถส่งจดหมาย หรือโปสการ์ดไปต่างประเทศอย่างประเทศไทยได้อีกด้วย และเราขอแนะนำเป็นจดหมายไม้「HAGAKI(はが木)」(370 เยน)แปลกๆ น่าสนใจ ที่สามารถจัดส่งได้เหมือนจดหมายจำหน่ายอยู่ด้วย สามารถซื้อได้ที่ร้านขายของชำเลย

หลังจากชมวิวที่จุดชมวิวสถานี「Nishihotakaguchi Station」ไปแล้วก็ได้เวลานั่งกระช้า No.2 ropeway กลับไปยัง「Shirakabadaira Station」กันเลย นั่งกระเช้าลงไป 848m เป็นเวลา 7 นาที เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างจะเป็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามเหมือนภาพวาดเลยค่ะ

ตอนนี้ก็เป็นเวลา 13:30 น. ถึงเราจะทานอาหารเช้ามาเยอะมากๆ แต่ ICHIGO-CHAN ก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้ว เมื่อลงกระเช้าลอยฟ้าที่สถานี Shirakabadaira Station แล้วข้างขวาจะมีร้านอาหาร「RESTAURANT ARUPUSU(レストランあるぷす)」ที่สามารถทานอาหารได้แบบจริงจังเลยค่ะ

「RESTAURANT ARUPUSU(レストランあるぷす)」เป็นร้านอาหารทั่วไปเหมือนในตัวเมือง อยู่ที่ชั้น 2F สถานี Shirakabadaira Station เราเข้าไปในร้านกันเลย

ที่นั่งภายในร้านจะมีที่นั่งแบบโต๊ะ 4 คนอยู่รวมเป็น 78 ที่นั่ง ซึ่งโต๊ะสามารถเคลื่อนย้ายได้เพราะฉะนั้นสามารถรองรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มได้ด้วยค่ะ

ที่นี่ก็จะมีอาหารฮิดะทาคายาม่าจำหน่ายอยู่มากมาย ทั้ง「ชุดอาหารสเต็กเนื้อฮิดะ พร้อมโฮบะมิโซะย่าง」(1700 เยน)「ทาคายาม่าราเม็ง」(850 เยน)「หมูทาคายาม่า มิโซะคัตสึดง」(1200 เยน)「แกงกะหรี่หมูฮิดะ」(1360 เยน)เป็นต้น ซึ่งเมนูที่ร้านจะมีภาษาอังกฤษ และเมนูส่วนใหญ่จะมีภาพประกอบอยู่ด้วย เพราะฉะนั้น สามารถสั่งอาหารได้ไม่ยากเลย นอกจากนี้ถ้าบวกเพิ่มจากราคาอาหารไปอีก +200 เยน ก็สามารถดื่มบุฟเฟต์เครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งค์ได้ไม่อั้นอีกด้วย

มื้อนี้ ICHIGO-CHAN เลือกสั่งเป็น “ข้าวหน้าเนื้อฮิดะย่าง”「Hida beef bowl(飛騨牛焼肉丼)」(1500 เยน)เป็นข้าวหน้าเนื้อฮิดะย่างราดด้วยซอสหวานเค็ม บนข้าวร้อนๆ ซึ่งเนื้อฮิดะเป็นเนื้อชั้นดีอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นที่อร่อย เป็นเมนูที่เข้ากันมากๆ ทั้งซอสและหัวหอมกับเนื้อฮิดะ ซึ่งบนโต๊ะจะมีพริกให้ได้ปรุงรสเพิ่มเติมสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการทานเผ็ดๆ

ราคาข้าวหน้าเนื้อฮิดะย่างราคา 1500 เยน รวมเครื่องดื่ม 200 เยนแล้วรวมเป็น 1700 เยน ถึงแม้ว่าจะอยู่บนความสูงมากกว่า 1300 เมตร ก็สามารถทานอาหารได้เต็มอิ่มและคุ้มขนาดนี้เลย การชำระเงินที่「ARUPUSU」จะรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น ยังไงเตรียมเงินสดไปไว้ด้วยนะคะ

หลังจากทานข้าวหน้าเนื้อย่างไปจนอิ่มท้องแล้ว ก็ได้เวลาเดินผ่านเส้นทางใบไม้เปลี่ยนสีกลับไปที่ Nabedairakogen Station เพื่อนั่ง No.1 ropeway ไปยังสถานีต้นทางที่ Shirakabadaira Station กันค่ะ สามารถเดินจากสถานี Shirakabadaira Station ไปยัง Nabedairakogen Station เพียง 1 นาทีเท่านั้น เดินลงบันไดสถานีไปทางขวามือ และตรงไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะมองเห็นสถานี Nabedairakogen Station เลย

ในช่วงฤดูหนาว ที่บริเวณรอบๆ สถานี Nabedairakogen Station จะปกคลุมไปด้วยหิมะรอบบริเวณ บริเวณช่วงเส้นทางสถานี Shirakabadaira Station ไปยัง Nabedairakogen Station บรรยากาศจะตามภาพเลยค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในกำแพงหิมะยูกิโนะโอทานิเลยนะคะ ถ้าได้มา “กระเช้าลอยฟ้าโฮตากะ” แล้วได้ชมวิวสวยๆ ติดต่อกันแบบนี้ก็คุ้มค่าแก่การมามากๆ เลยจริงๆ ค่ะ

และการเดินทางจากสถานี Nabedairakogen Station เป็นต้นไปจะเป็นการนั่งกระเช้าลอยฟ้ารอบสุดท้าย โดยเราได้นั่งทั้ง 2 ช่วงทั้งหมด 4 รอบ โดยเราจะนั่ง No.1 ropeway ไปยังสถานีเชิงเขา Shin-Hotaka Onsen Station ลงไป 291 เมตร เป็นเวลา 4 นาที และบริเวณด้านซ้ายมือจะสามารถชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามได้ระหว่างทางเหมือนตอนขามา แปปเดียวเท่านั้นก็เดินทางมาถึง Shin-Hotaka Onsen Station เลยค่ะ

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เพลิดเพลินกับวิวใบไม้เปลี่ยนสีจากบน “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ”「SHINHOTAKA ROPEWAY」และชมวิวทิวเขา CHOU-ALPS จากจุดชมวิวสูงสุดที่ Nishihotakaguchi Station แล้ว

สถานที่ต่อไปเราจะเดินทางจาก “กระเช้าลอยฟ้าชินโฮตากะ” ไปยังเมืองแห่งออนเซ็น “ฮิรายุ ออนเซ็น HIRAYU HOTSPRINGS” ระหว่างทางไปที่พักของเราในคืนนี้ที่ “มัทสึโมโตะ” กันค่ะ โดยบริเวณ “ฮิรายุออนเซ็น บัสเซ็นเตอร์” ที่เป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว สามารถเชื่อมต่อไปยัง “ทาคายาม่า” “มัทสึโมโตะ” “กระเช้าลอยฟ้าโฮตากะ” “คามิโคจิ” และ “โนริคุระ” ได้ ซึ่งที่ “ฮิรายุออนเซ็น บัสเซ็นเตอร์” นี้จะมีน้ำตกที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 น้ำตกในญี่ปุ่นกับน้ำตก “ฮิรายุโอทากิ”「HIYAYU WATERFALLS(平湯大滝)」ที่มีความสูง 64 เมตร และมีความสูง 6 เมตร หรือ「HIRAYU MINZOKUKAN(平湯民俗館)」ที่มีบ้านโบราณทรงกัชโชสึคุริหลังคาฟางให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ชิราคาวาโกะอยู่อีกด้วย

ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยว เมืองแห่งออนเซ็น “ฮิรายุ ออนเซ็น HIRAYU HOT SPRINGS” และเดินทางไปยัง “มัทสึโมโตะ” กันค่ะ

【ตารางการเดินทาง Day2-3 SHINHOTAKA ROPEWAY】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้ “บัตรพาสรถบัสด่วน โชริวโด -โปรแกรมมัทสึโมโตะ มาโกเมะ โคมากาเนะ“

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶