Day2-3 จากความเดิมตอนที่แล้วที่ ICHIGO-CHAN ได้สัมผัสวิถีแห่ง “เซน” 「ZEN」ที่วัดเอเฮจิ ที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติ และสัมผัสวิถีชีวิตของการธุดงค์สงค์ที่เป็นข้อปฏิบัติมายาวนานกว่า 770 ปีเรียกว่า “อุนซุย”「UNSUI」

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day2-3 จากความเดิมตอนที่แล้วที่ ICHIGO-CHAN ได้สัมผัสวิถีแห่ง “เซน” 「ZEN」ที่วัดเอเฮจิ ที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติ และสัมผัสวิถีชีวิตของการธุดงค์สงค์ที่เป็นข้อปฏิบัติมายาวนานกว่า 770 ปีเรียกว่า “อุนซุย”「UNSUI」

FUKUI-SHIGA-KYOTO-OSAKA

จากความเดิมตอนที่แล้วที่ ICHIGO-CHAN ได้สัมผัสวิถีแห่ง “เซน” 「ZEN」ที่วัดเอเฮจิ ที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติ และสัมผัสวิถีชีวิตของการธุดงค์สงค์ที่เป็นข้อปฏิบัติมายาวนานกว่า 770 ปีเรียกว่า “อุนซุย”「UNSUI」

Day2-2 เยี่ยมวัดสวยงามท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ “วัดเอเฮจิ”「HEIJI」ศูนย์กลางวิถีแห่ง “เซน”「ZEN」ในจังหวัดฟุกุอิ

และที่หมายต่อไปของเราก็คือ “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิ”「Fukui Prefectural Dinosaur Museum」เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากในจังหวัดฟุกุอิ พิพิธภัณฑ์จัดแสดงกระดูกไดโนเสาร์ที่เคยอาศัยอยู่บริเวณนี้ มีทั้งหุ่นจำลอง โครงกระดูก ต่างๆ ที่เกี่ยวกับไดโนเสาร์มากมาย ซึ่งความใหญ่ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสามพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เทียบเคียงกับ Royal Tyrrell Museum of Palaeontology ของแคนาดา และ Zigong Dinosaur Museum ที่จีน อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องกับ『พิพิธภัณฑ์สิรินธร』ที่จังหวัดกาฬสินธุ์อีกด้วย

ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ของ “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิ”「Fukui Prefectural Dinosaur Museum」กันค่ะ ไปดูกันเลย

โดยเราจะใช้เวลานั่งรถบัสจากวัดเอเฮจิประมาณ 15 นาที ตอนนี้เราก็มาถึงสถานี EIHEIJIGUCHI ของรถไฟ ECHIZEN RAILWAYS แล้ว การเดินทางไป “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิ” นั้นเราจะต้องนั่งรถไฟ ECHIZEN RAILWAYS ไปจนสุดสายเพื่อไปลงที่ สถานี KATSUYAMA จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นนั่งบัสเพื่อไปลงพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ซึ่งสถานี EIHEIJIGUCHI นี้เป็นสถานีที่สร้างแบบญี่ปุ่นผสมกับตะวันตกที่มีเอกลักษณ์ เป็นสถานีใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ.2557

ซึ่งอาคารสถานีรุ่นก่อนถูกสร้างขึ้นเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว หรือสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2457 เป็นสถานีที่มีความสง่างามจนกลายเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์หรือละครอยู่เรื่อยๆ ถูกใช้มากว่า 100 ปี หลังจากที่มีการสร้างตึกใหม่ก็ได้เปลี่ยนเป็น「ศูนย์แลกเปลี่ยนของพื้นที่」ที่ยังคงถูกใช้เป็นจุดพักผ่อนหรือพื้นที่จัดกิจกรรมของพื้นที่อยู่จนถึงปัจจุบัน

ตั๋วรถไฟสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วภายในอาคารสถานีแห่งใหม่เลย(เฉพาะเงินสดเท่านั้น)โดยพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า

「KATSUYAMA EKI MADENO TICKET WO (จำนวนคน)MAI KUDASAI」

「คาสึยามะ เอกิ มาเดะโนะ ทิกเก็ต โอะ(จำนวนคน)มัย คุดาซัย」

(ขอซื้อตั๋วไปสถานีคาสึยามะ (จำนวนคน)ใบ ค่ะ/ครับ)

ราคาตั๋วไป สถานีคาสึยามะ จะอยู่ที่ 570 เยน

『ECHIZEN TETUDO』รถไฟจากสถานี EIHEIJIGUCHI ไปสถานี KATSUYAMA นั้นจะวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยวในนาทีที่ 20 และ 50 นาที จะให้เวลาในการเดินทางประมาณ 29 นาที ที่นั่งภายในรถไฟก็จะเป็นที่นั่งสีฟ้าแบบ Cross Seat แบบหันหน้าเข้าหากัน 4 คน ถึงแม้ว่ารถไฟนี้จะเป็นรถไฟมือสองที่ใช้ต่อจากบริษัทรถไฟอื่น แต่ด้านในก็ได้รับการปรับปรุงจนดูดี และดูคลาสสิค อีกทั้งยังสามารถชมวิวสวยๆ ระหว่างการเดินทางได้ด้วย นอกจากมุมด้านข้างหน้าต่างแล้ว ที่ด้านหน้าฝั่งคนขับ เราจะได้เห็นวิวที่รถไฟกำลังวิ่งไปจากด้านหน้าด้วย เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ ที่ไทยเลยนะคะ ธรรมชาติโดยรอบก็สวยๆ มากๆ แม้แต่ในตัวเมืองญี่ปุ่นเองก็ไม่สามารถสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้เลยค่ะ

ใช้เวลาในการเดินทางจาก สถานี EIHEIJIGUCHI มา 29 นาที และแล้วตอนนี้เราก็มาถึงสถานี KATSUYAMA สถานีใกล้ “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิ” กันแล้ว ซึ่งรถไฟ ECHIZEN RAILWAYS ที่เชื่อมระหว่างสถานีฟุกุอิ กับ สถานีคาสึยามะ ที่เรานั่งมาเป็นรถไฟโบกี้เดียวเล็กๆ กระทัดรัด น่ารักมากๆ ซึ่งที่ญี่ปุ่นจะมีรถไฟแบบนี้ที่เรียกว่า「RAILBUS」อยู่และมักจะพบเห็นได้บริเวณพื้นที่รอบนอก

ลงจากรถไฟมาและเดินออกมาสู่ชานชาลา จากนั้นข้ามรางรถไฟเพื่อไปที่อาคารสถานี และออกจากช่องตรวจตั๋วที่อยู่ซ้ายมือ ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่และออกจากถสานีมาเลย

ภายในสถานีที่สร้างด้วยไม้ดูคลาสสิค ประกอบกับกำแพงสีขาวนี้ ที่ผนังมีไดโนเสาร์ประดับอยู่ด้วย

เมื่อออกจากสถานีมาแล้ว เราจะเห็นป้ายบัสหมายเลย ① ที่จะมุ่งไป “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิ” อยู่ด้านซ้ายมือ บัสจะวิ่ง 2 เที่ยวต่อชั่วโมง ซึ่งเวลารถไฟกับรถบัสจะไม่ชนกันเฉพาะฉะนั้นเมื่อถึงสถานีแล้วไปรอที่ป้ายไว้เลยก็สามารถขึ้นรถได้ทันแน่นอนค่ะไม่ต้องห่วงเลย ที่หน้าสถานีก็มีหุ่นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่เอาไว้ให้ถ่ายรูปกันด้วย

เราจะใช้เวลาเดินทางจากสถานีคาสึยามะ ไป “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิ”「Fukui Prefectural Dinosaur Museum」เป็นเวลา 12 นาที ราคาเที่ยวละ 300 เยน เป็นบัสขนาดเล็กๆ ซึ่งค่ารถบัสจะต้องจ่ายให้กับคนขับก่อนออกเดินทาง 300 เยนเลย (เด็ก 200 เยน)ระหว่างทางจะเป็นวิวทุ่งนา และสวนต้นโซบะ อยู่ทั้งสองฝั่งข้างทาง ขับไปเรื่อยๆ เราก็จะเข้าไปสู่เขตพิพิธภัณฑ์ และเมื่อเห็นรูปปั้นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่เท่าตึกหลายชั้น ก็แสดงว่าเราถึงที่หมายของเราเรียบร้อยแล้วค่ะ

และนี่ก็คือ “พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิ”『Fukui Prefectural Dinosaur Museum』

ที่นี่ใหญ่มากจนไม่สามารถถ่ายทั้งหมดให้อยู่ในรูปเดียวได้เลยค่ะ ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะถูกแบ่งออกเป็นหลายๆ ตึกเหมือนอยู่ในมหาวิทยาลัยเลย ใหญ่ขนาดนี้จะมีไดโนเสาร์อะไรอยู่ด้านในบ้างนะ

ก่อนเข้าไปด้านในอาคาร ICHIGO-CHAN เจอด็อกเตอร์ไดโนเสาร์อยู่ด้านหน้าด้วย ถ่ายรูปคู่กับท่านซักหน่อย

ด้านนอกอาคารมีโซนให้ถ่ายรูปเต็มไปหมดเลย อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเล่นนะคะ เราเข้าไปข้างในกันเลยดีกว่า ตั๋วเข้าชมจะต้องซื้อจากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ตรงส่วนทางเข้าค่ะ

ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วนี้นอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้ว ก็มีภาษาต่างประเทศอื่นๆ อีกคือ ภาษาอังกฤษ จีน และภาษาเกาหลี

ก่อนอื่นก็กดไปที่「English」เพื่อเปลี่ยนภาษา จากนั้นก็เลือกชนิดบัตร ผู้ใหญ่(720 เยน)・มัธยมปลาย/นักศึกษา(410 เยน)หรือ เด็กอายุ 6 ปี-15 ปี(260 เยน)จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงิน ด้วยเงินสด หรือ บัตรเครดิต บัตรเครดิตสามารถใช้บัตรทั่วไปอย่าง VISA, Master, JCB หรือ AMEX เป็นต้น

13-1  13-2

เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็เดินผ่านเข้าไปทางเคาน์เตอร์ตรวจตั๋ว โดยยื่นตั๋วให้กับเจ้าหน้าที่ได้เลย จากนั้นก็ลงบันไดเลื่อนยาว เพื่อลงไปข้างล่าง 4 ชั้น และเมื่อลงบันไดเลื่อนมาแล้วก็จะเข้าสู่ทางเดินที่เรียกว่า「DINO STREET」บริเวณนี้จะเป็นการจัดแสดงฟอสซิลจำลองที่สวยเหมือนภาพจัดแสดงศิลปะอยู่ และสิ่งที่อยู่ถัดจากบริเวณนี้ไปก็คือ …..

“ไทแรนโนซอรัส” หุ่นยนต์ขนาดใหญ่สูงกว่า 7m อยู่ภายในโดมกลมขนาดใหญ่ ในส่วนห้องจัดแสดงกลางของพิพิธภัณฑ์ กำลังขยับตัวและร้องคำรามแสดงความยิ่งใหญ่ของไดโนเสาร์อยู่ สุดยอดมากๆ ซึ่งห้องจัดแสดงนี้เรียกว่า 「โลกแห่งไดโนเสาร์ DINOSAUR WORLD」ที่นอกจากหุ่นยนต์ไทแรนโนซอรัสแล้วยังมีหุ่นจำลองไดโนเสาร์ขนาดจริงอีกกว่า 44 ตัว เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกไดโนเสาร์จริงๆ เลยค่ะ

หุ่นยนต์ไทแรนโนซอรัสนี้ถูกจำลองออกมาอย่างละเอียด ทั้งรูปร่างตั้งแต่หัวจรดหาง หรือการเคลื่อนไหว ไว้เหมือนกับมีชีวิตอยู่ แม้กระทั่งรูทวารที่อยู่ส่วนด้านล่างหางในวงกลมสีเหลืองก็ถูกจำลองออกมาด้วย

ภายในโดม「โลกแห่งไดโนเสาร์ DINOSAUR WORLD」ที่มีหุ่นยนต์ไทแรนโนซอรัสเป็นศูนย์กลางนี้ นอกจากหุ่นจำลองแล้ว สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ “โครงกระดูกไดโนเสาร์” ด้วยการนำชิ้นส่วนไดโนเสาร์จริงมาสร้างใหม่เป็นโครงกระดูกไดโนเสาร์ตั้งแต่ขนาดเล็ก 1m ไปจนถึงขนาดใหญ่มากกว่า 20m สามารถเดินดูได้แบบใกล้ๆ อย่างเต็มที่ และที่สำคัญคือ ภายในโดมแห่งนี้มี “แบรคิโอซอรัส” ไดโนเสาร์กินพืชที่มีความสูงกว่า 22m สูงพอๆ กับตึก 8 ชั้นเลยทีเดียว

ภายใน「โลกแห่งไดโนเสาร์ DINOSAUR WORLD」แห่งนี้จะมีมุมที่สามารถสัมผัสบรรยากาศโลกไดโนเสาร์ได้จากหน้าจอสกรีนขนาดใหญ่ทั้งสองด้าน พร้อมภาพ และเสียงประกอบเสมือนจริง

ทั้งการโจมตีของกลุ่มไดโนเสาร์กินเนื้อที่ กำลังล่าไดโนเสาร์กินพืช ตื่นเต้นจนเผลอปิดตาเลยค่ะ

และเมื่อเที่ยวชม「โลกแห่งไดโนเสาร์ DINOSAUR WORLD」โดยรอบแล้ว ก็จะเข้าไปสู่โซน「DINO LAB」ในชั้น 1F・2F ที่จัดแสดงกระดูกไดโนเสาร์ของจริงของ “ไทแรนโนซอรัส” ซึ่งนอกจากจะได้เห็นกระดูกของจริงแล้วยังมีบางส่วนที่ให้ได้สัมผัสกระดูกของจริงอีกด้วย

ภายในห้องจัดแสดงนี้ยังมีกระดูกต้นขาขนาดใหญ่ของ FUKUITITAN ที่ใหญ่พอๆ กับผู้หญิงผอมๆ หนึ่งคนเลย

และนอกจากศูนย์จัดแสดงไดโนเสาร์แล้ว ที่นี้ยังมีกิจกรรมเปิดประสบการณ์การขุดหาไดโนเสาร์ เพื่อให้ผู้ที่สนใจไดโนเสาร์ได้ลองขุดหากระดูกไดโนเสาร์ด้วยตนเองในส่วน 『FIELD STATION』ปิดบริการเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ในปลายเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนพฤษจิกายนเท่านั้น
โดยนั่งบัสเฉพาะจากส่วนพิพิธภัณฑ์เพื่อเดินทางไปยังจุดขุดไดโนเสาร์ เพื่อทำการขุดไดโนเสาร์ไปพร้อมๆ กับการอธิบายจากเจ้าหน้าที่ ในระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ราคา 1200 เยนต่อคน(ข้อมูลเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2561)โดยสามารถจองล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ เข้าไปกรอกแบบฟอร์มเพื่อทำการจองได้Registration Form』เลย

เมื่อชมความยิ่งใหญ่ของไดโนเสาร์นานาชนิดแล้ว ต่อไปก็ไปสู่โซนช้อปปิ้งของฝากกันบ้าง ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีร้านขายของฝาก「DINO STORE」อยู่

ภายในร้านจะมีสินค้ามากมายทั้งสินค้าเฉพาะของที่นี่ ขนม ของเล่น เครื่องเขียน ตุ๊กตา หรือหุ่นจำลอง ฯลฯ ซึ่งสินค้ายอดนิยมของที่นี่ก็คือ 「LONG BAUMKUCHEN」(1,620 เยน),「ฟิกเกอร์」(980 เยน-แต่ละชนิด)และ「ตุ๊กตา」(540- แต่ละชนิด)นั่นเอง

และร้านที่อยู่ตรงข้าม「DINO STORE」ก็คือร้านอาหารและคาเฟ่「Dino」ที่มีเมนูน่ารักๆ เกี่ยวกับไดโนเสาร์มากมาย ถึง ICHIGO-CHAN จะเพิ่งทานอาหารกลางวันโซบะและซอสคัตสึที่วัดเอฮจิมาแต่ก็อดไม่ได้ ลองเข้าไปกันเลย

ภายในร้านจะมีทั้งที่นั่งแบบโต๊ะ และโซนที่นั่งติดหน้าต่างแบบเคาน์เตอร์ จากที่นั่งติดหน้าต่างเราสามารถเห็นโดมของโลกไดโนเสาร์ที่เราเข้าไปเมื่อกี้ด้วย บริเวณโดยรอบก็มีแต่ธรรมชาติ ต้นไม้เขียวชอุ่มวิวดีมากๆ

เมนูภายในร้านมีเมนูแปลกๆ เกี่ยวกับไดโนเสาร์อยู่มากมาย ทั้งเมนูที่มีนักเก็ตรูปไดโนเสาร์อย่าง「Fukui saur’s egg Curry」(1060 เยน)หรือ เมนูรอยเท้าไดโนเสาร์อย่าง

「VOLGA RICE」(1530 เยน)และเมนูฟอสซิลอย่าง「Fossil excavation OMU-HAYASHI RICE」(1300 เยน)นอกจากนี้ยังมีพาร์เฟต์คุ๊กกี้ไดโนเสาร์กับ「ไทแรนโนพาร์เฟต์」(600 เยน)อีกด้วย น่ารักน่าถ่ายรูปทั้งนั้นเลย

ส่วน ICHIGO-CHAN ก็สั่ง “ไทแรนโนพาร์เฟต์” มาค่ะ เป็นพาเฟต์ที่น่ารักมากๆ ตกแต่งด้วย สตอเบอรี่ ส้ม บลูเบอรี่ และเมล่อนชิ้นโต บวกกับคุ๊กกี้ไทแรนโนซอรัสชิ้นโต ใหญ่เท่าหน้า ICHIGO-CHAN เลย พลาดไม่ได้เลยต้องถ่ายลงโซเชียลด้วย

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินชมความยิ่งใหญ่ของไดโนเสาร์ ช้อปปิ้ง และทานพาร์เฟต์อร่อยๆ และได้รูปลงโซเชียลมาเยอะมากๆ แล้ว เราออกมาถ่ายรูปเล่นที่ด้านนอกอาคารอีกซักหน่อย ตอนนี้ก็เริ่มเย็นมากแล้ว เดี๋ยวเราจะไปที่พักที่ในเมืองฟุกุอิกันเลยดีกว่า

ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปทานดินเนอร์ปลาดิบแสนอร่อยที่ฟุกุอิ และเข้าที่พักของเราในคืนนี้กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ

【ตารางการเดินทาง Day2-3 FUKUI PREFECTUAL DINASAUR MUSEUM】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶