ROUND THE C･H･I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-2 พบกับความน่ารักของสัตว์น้ำนานาชนิดที่ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า”「PORT OF NAGOYA PUBLIC AQUARIUM」
INUYAMA-NAGOYA-MINOKAMO-NAGOYA
“พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า”『PORT OF NAGOYA PUBLIC AQUARIUM(名古屋港水族館)』ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว
ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ และจุดจัดแสดงต่างๆ ที่น่าสนใจ ทำให้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ『PORT OF NAGOYA PUBLIC AQUARIUM(名古屋港水族館)』แห่งนี้ได้รับความนิยมเทียบเคียงกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่โอซาก้าเลยทีเดียว
นอกจากการชม โลมา วาฬเพชฌฆาต หรือวาฬเบลูกา และโชว์น่ารักแสนรู้ ของสัตว์น้ำเหล่านี้แล้ว สถานที่แห่งนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะในส่วนอาคารใต้ ที่ส่วนนกเพนกวิน พร้อมกลุ่มปลาซาร์ดีนที่รวมกลุ่มว่ายอยู่อย่างตระการตา ฯลฯ เป็นต้น
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชม “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า” ในส่วนอื่นๆ ต่อจากตอนที่แล้วกันค่ะ ไปกันเลย
จากโชว์โลมาในวันนี้ จะมีโลมาทั้งหมด “โลมาปากขวดธรรมดา” 3 ตัว และ “Pacific white-sided dolphin” อีก 2 ตัว การแสดงก็จะมีทั้ง การกระโดดโค้ง หรือการกระโดดแตะลูกบอลที่ลอยอยู่บนผิวน้ำสูงกว่า 6m นอกจากนี้ยังมี การแสดงผู้ฝึกโต้คลื่นบนหลังโลมา และ โลมาดันผู้ฝึกกระโดดบนผิวน้ำเรียกว่า「Rocket Jump」อีกด้วย การแสดงจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการแสดงนี้ นอกจากจะได้ความเพลิดเพลินแล้ว เรายังจะได้เห็นความฉลาด ความน่ารัก และความสวยงามของเหล่าโลมา อีกทั้งยังได้เห็นความไว้ใจกันระหว่างผู้ฝึกและโลมาเองอีกด้วย
ส่วนนี่ก็คือ โชว์จากวาฬเพชฌฆาต ซึ่งโชว์นี้จะชื่อว่า「การเปิดให้ชมการฝึก」ในโชว์นี้เพื่อนๆ จะได้ชมการฝึก มากกว่าการแสดงค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถว่ายน้ำได้เร็ว และคล่องตัวเหมือนโลมา แต่ก็สามารถกระโดดเพื่อสาดน้ำเป็นวงกว้างด้วยขนาดตัวของมันได้ น่ารักมากๆ
หลังจากเพลิดเพลินกับโชว์ต่างๆ แล้ว เราจะไปอาคารอีกฝั่งหนึ่งของ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า” ที่ “อาคารใต้” กันบ้าง โดยลงบันไดเลื่อนจากชั้นที่มี “สเตเดียม” ที่ชั้น 3F มาสู่ชั้น 2F เมื่อลงบันไดเลื่อนมาแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ เพื่อไปที่ทางเข้าอาคารใต้กันเลย
ซึ่งในส่วนอาคารใต้นี้ จะเป็นการจัดแสดงจะจัดแสดงโซนต่างๆ ตามลำดับเส้นทางเดินเรือของเรือ “ฟูจิ” ที่จอดเรียบท่าอยู่ที่ท่าเรือนาโกย่า ตามลำดับ “ทะเลญี่ปุ่น” ⇒ “แปซิฟิกใต้” ⇒ “แอนตาร์กติกา” นั่นเองเมื่อเข้ามาสู่โซนอาคารใต้แล้ว ก็จะเป็นส่วน「Large Kuroshio Tank」เลยโดยความน่าสนใจของส่วนนี้จะอยู่ที่「A tornado of Sardine」ส่วนจัดแสดงปลาซาร์ดีนนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ.2550 ด้วยการนำปลาซาร์ดีนเป็นกลุ่มมาจัดแสดงอยู่ในส่วนนี้ แต่ ” A tornado of Sardine” นี้เกิดขึ้นแบบเหนือความคาดหมาย เกิดขึ้นจากความตื่นตัวของปลาซาร์ดีนในขณะที่กำลังให้อาหาร ซึ่งพนักงานผู้ดูแลเองก็ทึ่งมากๆ เช่นกัน และด้วยการศึกษาการให้อาหารหรือวิจัยอื่นๆ ไปเรื่อยๆ จนทำให้ปัจจุบันแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาปกติปลาซาร์ดีนเหล่านี้ก็ยังคงว่ายเป็น ” A tornado of Sardine” ต่อไปเรื่อยๆ นั่นเอง
นอกจากปลาซาร์ดีนแล้ว ก็มี “ปู” ตัวใหญ่ยักษ์ ซึ่งปูที่ถูกจัดแสดงอยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คือ “ปูแมงมุมญี่ปุ่น” ที่มีขาที่ยาวมากๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมัน ซึ่งยาวกว่าปูทั่วไปที่ไทยหลายสิบเท่าเลยทีเดียว โดยปูแมงมุมญี่ปุ่นนี้ส่วนใหญ่สามารถพบเห็นได้ที่คาบสมุทรอิซุ หรือ บริเวณรอบๆ อ่าวซุรุงะ และช่วงเวลาที่สามารถทานปูแมงมุมญี่ปุ่นนี้ได้อย่างเอร็ดอร่อยจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึงฤดูหนาวนั่นเอง
และที่อยู่เลย “Marine Life around Japan” ก็คือส่วน「Large Coral Reef Tank」เป็นส่วนอุโมงค์ที่สามารถชมเหล่าสัตว์น้ำนานาชนิดได้จากรอบทิศทั้งด้านข้างและด้านบน ส่วน「Large Coral Reef Tank」จะเป็นส่วนที่สร้างจากการจำลอง「เกรตแบร์ริเออร์รีฟ」ในออสเตรเลียที่เป็นพืดหินปาการังที่ยาวที่สุดในโลก พอเรามองไปข้างบนก็เห็น「ปลาโรนิน」กำลังว่ายอยู่บนหัวพอดีเลยค่ะ
ซึ่งในส่วนอาคารใต้นี้จะมีส่วนจัดแสดงพิเศษที่เรียกว่า『HENKAWATEN(へんカワ展)』อ่านว่า “เฮ็น คา วะ เท็น” ที่แปลว่า “สัตว์ที่แปลกแต่น่ารัก” อยู่
ส่วนจัดแสดงสัตว์นานาชาติ ที่แปลก แต่ก็น่ารัก「HENKAWATEN」นี้จะเปิดให้ชมได้จนถึงเดือนมกราคม ปีพ.ศ.2562 ค่ะ
ซึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของอาคารใต้แห่งนี้ก็คือ “เหล่าเพนกวิน” ที่น่ารัก โดยมีเหล่าเพนกวินที่อาศัยอยู่บริเวณขั้วโลกใต้ หรือเกาะบริเวณโดยรอบอยู่ทั้งหมด 4 ชนิด มีทั้ง “เพนกวินอาเดลี” ที่มีขอบสีขาวรอบตา “เพนกวินชินสแตรป”ที่มีหน้าขาว มีส่วนเส้นสีดำอยู่บริเวณคาง “เพนกวินเจนทู” ที่มีเส้นสีขาวเชื่อมอยู่ระหว่างตา และ “เพนกวินจักรพรรดิ” ซึ่งเป็นเพนกวินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นต้น
ในภาพล่างขวา คือภาพของลูกเพนกวินน้อยน่ารักที่เพิ่งเกิดออกมาได้ไม่กี่เดือน ซึ่งเพนกวินเป็นสัตว์ที่มีการเจริญเติบโตช้ากว่าหมาหรือแมว โดยจะใช้เวลานานถึง 3 ปี ถึงจะโตเป็นผู้ใหญ่ อีกทั้งยังต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี ถึงจะสามารถขยายพันธุ์ได้ ระหว่างนั้นเพนกวินเด็กน้อยเหล่านี้ก็จะได้รับการดูแลปกป้องจากเพนกวินผู้ใหญ่ทั้งหลายนั่นเอง
เพนกวินจักรพรรดิที่อ้วนกลม เป็นเพนกวินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่เมื่อโตเต็มที่แล้วจะมีน้ำหนักมากถึง 50kg เลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นเพนกวินที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่หนาวที่สุดในโลก เมื่อเข้าสู่ช่วงหนาวจัดเพนกวินพันธุ์นี้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ทานอาหารใดๆ นานถึงเกือบครึ่งปี ดังนั้นเมื่อผ่านพ้นช่วงฤดูหนาวจัดไปน้ำหนักตัวที่มีมากถึง 50kg ก็จะลดลงเหลือเพียง 30kg เท่านั้น เพนกวินเหล่านี้จึงทานอาหารกักตุนไว้ในร่างกายให้ได้มากที่สุด จนตัวอ้วนท้วนสมบูรณ์อย่างที่เห็นนั่นเอง
ซึ่งที่ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า” แห่งนี้ นอกจากโชว์ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่แล้ว อาหารกลางวันในร้านอาหารที่มีอยู่ 2 แห่งนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยค่ะ ซึ่งที่ส่วนชั้น 2 อาคารใต้นี้จะมีร้านอาหารชื่อ『ARRIBADA RESTAURANT』โดยภายในร้านอาหารจะมีตู้อควาเรียมขนาดใหญ่ ที่สามารถชมเหล่าสัตว์น้ำนานาชนิดได้พร้อมๆ กับการทานอาหารเลยทีเดียว
ภายในร้านที่กว้างขวาง พร้อมตู้ปลาขนาดใหญ่ เราจะได้เพลิดเพลินกับอาหารแสนอร่อยไปพร้อมๆ กับเหล่าปลานานาชนิดสีสันสดใส ซึ่งร้านอาหารแห่งนี้จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ถึงแม้ว่าคนจะเยอะและแถวจะยาวเพียงใด ก็รอไม่นานเลยค่ะ เพราะว่าในร้านมีที่นั่งรองรับได้มากกว่า 100 ที่นั่งเลยทีเดียว
ซึ่งเมนูภายในร้านก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายชนิด ทั้งเมนูทั่วไปอย่าง แฮมเบิร์ก（1180 เยน）เซอร์ลอยน์สเต็ก（1680 เยน）หรือ ข้าวแกงกะหรี่（1080 เยน）นอกจากนี้ยังมีอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่าอย่างเมนูจากเนื้อไก่「ไก่โคชินนาโกย่า」ทั้ง “ไก่โคชินนาโกย่าแฮมเบิร์ก(名古屋コーチン親子ハンバーグ)”（1580 เยน）หรือ “แกงกะหรี่ไก่นาโกย่าโคชินทอด(名古屋コーチンから揚げカレー)”（1580 เยน）เท่านั้นไม่พอที่นี่ยังมีเมนูแปลกๆ อย่างเมนูเนื้อปลาฉลาม “แกงกะหรี่ปลาฉลามทอด(シャークフライカレー)”（1380 เยน）หรือ “สเต็กฉลาม(シャークステーキ)”（1280 เยน）อีกด้วย
ส่วน ICHIGO-CHAN ก็ได้สั่งเป็น「แกงกะหรี่ไก่นาโกย่าโคชินทอด」（1580 เยน）เป็นเมนูที่มีไก่โคชินนาโกย่าทอด โปะอยู่บนแกงกะหรี่เนื้อแสนอร่อย ซึ่ง “ไก่โคชินนาโกย่า” จะเป็นเนื้อไก่ที่แตกต่างจากเนื้อไก่ทั่วไปทั้งความหอมและรสสัมผัส เป็นรสชาติที่อร่อยเข้ากับแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่นเป็นที่สุด
นอกจากบรรยากาศดีๆ ที่ได้ทานอาหารท่ามกลางสัตว์น้ำนานาชนิดสีสันสดใสแล้ว ราคาอาหารรวมเครื่องดื่ม（คาลพิสโซดา）ราคารวมภาษีอยู่ที่ 2050 เยน（650THB）ซึ่งถึงว่าคุ้มเลยค่ะ
เมื่อเทียบกับร้านอาหารทั่วไปตามสวนสนุก หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แล้ว การบริการของ「ARRIBADA RESTAURANT」ถือว่าดีมากๆ ตอนสั่งอาหารก็อธิบายรายละเอียดของเมนูต่างๆ ให้เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยความยิ้มแย้ม เราเลยขอถ่ายรูปกับพนักงานเป็นที่ระลึกซักหน่อย
ซึ่งที่ “มิวเสียมช้อป” ก็เต็มไปด้วยสินค้ามากมาย ทั้งตุ๊กตาสัตว์ชนิดต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อย่างเพนกวิน（ตัวเล็ก 540 เยน-）หรือ กระเป๋าเป้เด็กรูปสตว์น่ารักๆ （1680 เยน）ฯลฯ อีกมากมาย
นอกจากของที่ระลึกแล้ว ก็ยังมีของฝากประเภทขนมต่างๆ มากมาย ที่ปริ้นท์ลายสัตว์น่ารักๆ ที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ถ้าได้ซื้อไปฝากเด็กๆ หรือที่บ้านจะต้องดีใจมากๆ แน่ๆ
นอกจากนี้บริเวณด้านข้าง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกย่า จะมีศูนย์การค้า 『JETTY』 อยู่
ที่นี่เพื่อนๆ สามารถทานอาหารนานาชนิดได้ในราคาที่สบายกระเป๋ากว่าร้านอาหารภายในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ นอกจากนี้ยังมีร้านขายของฝาก หรือมิวเสียม「GASHA 2(ガチャ2)」ที่มีตู้กาชาปองเรียงรายอยู่มากมายหลากหลายชนิด เป็นต้น
และเมื่อเดินลึกเข้าไปผ่าน JETTY อีกก็จะมีเรือสีส้มขนาดใหญ่เทียบท่าอยู่ภายในท่าเรือนาโกย่าแห่งนี้ สิ่งนี้คือ “Antarctic Museum and Former Research Ship Fuji” เป็นเรือที่ถูกใช้จริงเป็นเวลายาวนานกว่า 18 ปีเพื่อใช้เป็นเรือสังเกตุการณ์ หรือเพื่อขนส่งคนไปประจำการที่ขั้วโลกใต้นั่นเอง ซึ่งเรือที่ถูกปลดประจำการนี้ได้ถูกนำมาจัดแสดง ณ ท่าเรือนาโกย่าแห่งนี้ ให้คนทั่วไปได้เข้าชมภายในเรือได้อย่างเต็มที่（ค่าเข้า 300 เยน）
และ หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เพื่อชมสัตว์น้ำน่ารักๆ นานาชนิดพร้อมชมโชว์โลมาแสนฉลาดไปแล้ว ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปสถานที่ที่คนนาโกย่าให้ความเคารพมาช้านาน ที่ “ศาลเจ้าอัตสึตะ”「ATSUTA JINJA」กันค่ะ
ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นที่ “ศาลเจ้าอัตสึตะ”「ATSUTA JINJA」กัน ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day2-2 PORT OF NAGOYA PUBLIC AQUARIUM】
