Day2-1 เที่ยวดินแดนมารุโกะ「CHIBI MARUKO CHAN LAND」และ ทานข้าวหน้าปลาดิบราคาไม่แพงกับร้าน 「SHIMIZUKO SAKANAYA」ที่เมืองชิซุโอกะ
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ไปลิ้มลองข้าวหน้าปลาไหล「HITSUMABUSHI」ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดทำการมา 100กว่าปีมาแล้ว และเข้าพักที่โรงแรมเปิดใหม่ 「KURETAKE INN PREMIUM NAGOYA NAYABASHI」
วันนี้เราจะนั่งรถไฟโทไคโดชินคันเซ็น TOKAIDO ที่เราอยากนั่งมานาน มุ่งหน้าไปสู่ชิซุโอกะ SHIZUOKA ด้วยความเร็วที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากรถไฟไทย เพื่อท่องเที่ยวชมวิวภูเขาไฟฟูจิจาก เมืองชิมิซึ SHIMIZU และเมืองนิฮนไดระ NIHONDAIRA
ที่ชิซุโอกะเราสามารถชมวิวที่「ด้านหน้าเป็นทะเล ส่วนด้านหลังเป็นวิวภูเขาไฟฟูจิ」ได้ที่「S-Pulse Dream Plaza」เพื่อชมความสวยงามของวิวภูเขาไฟฟูจิกันที่นี่
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/2%2866%29.jpg)
จากโรงแรม「KURETAKE INN PREMIUM NAGOYA NAYABASHI」ที่พัก ICHIGO-CHAN เมื่อคืนเดินไปสถานีนาโกย่าประมาณ 15 นาที อันที่จริงเราสามารถเดินทางไปด้วยรถไฟใต้ดินจากสถานีที่ใกล้ที่สุดอย่างสถานีฟูชิมิ ที่เดินย้อนกลับไปทางขามาประมาณ 10 นาทีก็ได้เช่นกัน แต่ไหนๆอากาศตอนนี้ดีขนาดนี้เดินไปชิว ๆ แล้วกันเนาะ ทางที่เดินไปก็ไม่ยาก ก่อนอื่นเดินออกจากโรงแรมไปทางซ้าย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%2853%29.jpg)
เมื่อเดินมาทางซ้ายจากโรงแรมแล้ว ก็เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับสี่แยกใหญ่ที่มีทางด่วนอยู่ด้านบน ให้เดินข้ามและตรงไปเรื่อยๆประมาณ 5 นาที ก็จะเจอแยกที่มีห้างขนาดใหญ่และร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่「YAMADA DENKI LABI」ให้เลี้ยวซ้ายที่แยกนี้ ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอสถานีนาโกย่าอยู่ด้านขวามือ ข้ามทางม้าลายหน้าสถานีเพื่อตรงเข้าไปในสถานี จากประตูซากุระโดริ SAKURA-DORI EXIT
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%2849%29.jpg)
เมื่อถึงสถานีแล้วก็ซื้อตั๋วเพื่อไปชิซุโอกะกัน สามารถซื้อจากเคาเตอร์หรือเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติก็ได้ ซึ่งเราสามารถใช้บัตรเครดิต VISA・Master・JCB และอื่นๆ ชำระเงินได้ทั้งที่เคาเตอร์จำหน่ายตั๋วหรือเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%2854%29.jpg)
ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติมีภาษาอังกฤษด้วย ก่อนอื่นก็ต้องกดเลือกว่าจะนั่งที่นั่งแบบ「แบบจองระบุเลขที่นั่ง」หรือ「แบบไม่จองเลขที่นั่ง」 ในกรณีที่เลือกแบบไม่จองเลขที่นั่งก็กดเลือกสถานีที่ต้องการจะไป และจำนวนคน
หลังจากได้ซื้อตั๋วรถไฟด่วนSHINKANSENแล้ว สามารถซื้อต่อตั๋วขึ้นรถไฟได้พร้อมกัน เมื่อเลือกแล้วราคาตั๋วก็จะแสดงออกมา หากท่านใดที่ต้องการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ก็ใส่บัตรเครดิตเข้าไปในช่องข้างๆ ด้านซ้าย กดรหัสบัตรเครดิต และกด Enter เท่านี้ก็เรียบร้อย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%2858%29.jpg)
เมื่อได้ตั๋วมาแล้ว ก็ผ่านช่องตรวจตรวจตั๋วเข้าไป เพื่อไปที่ชานชาลาเบอร์ 14・15 โทไดโดชินคันเซ็นที่เชื่อมระหว่างโตเกียวกับชินโอซาก้านั้นจะมีอยู่ 3 แบบคือ 「NOZOMI」「HIKARI」「KODAMA」 รถไฟที่จอดที่สถานีชิซุโอกะ จะมีเฉพาะรถด่วน「HIKARI」บางขบวน กับ「KODAMA」ที่จะจอดทุกสถานี ส่วนรถด่วน「NOZOMI」ถ้าออกจากนาโกย่าแล้วก็จะวิ่งแบบนอนสต๊อบไปจนถึงชินโยโกฮาม่าเลย เพราะฉะนั้นต้องระวังอย่าไปขึ้น「NOZOMI」หรือ「HIKARI」บางขบวนที่จะไม่จอดชิซุโอกะที่เราจะไป 「HIKARI」จากนาโกย่าไปโตเกียวจะวิ่งชั่วโมงละ 2 รอบคือ นาทีที่ 26 และนาทีที่ 35 ให้ขึ้นรถไฟนาทีที่ 35 ถ้าหากต้องการไปสถานีชิซุโอกะ
ถ้าอยากรู้ว่าขบวน「HIKARI」ที่กำลังมาจะมา จะจอดที่「SHIZUOKA」หรือไม่ ถามพนักงานสถานีรถไฟก็ได้
「TSUGINO HIKARI WA SHIZUOKA NI TOMARIMASUKA??」
「ซูกิโนะ HIKARIวะ SHIZUOKAนิ โทะมะลิมะซุคะ」
แปลว่า” รดไฟHIKARI ขบวนหน้าจะจอดที่สถานีSHIZUOKAหรือเปล่าค่ะ”
รถไฟที่ถูกใช้เป็นรถไฟโทไคโดชินคันเซ็นส่วนใหญ่จะเป็นแบบ N700
ซึ่งความเร็วสูงสุดของรถไฟโทไคโดชินคันเซ็นระหว่างโตเกียว-ชินโอซาก้า คือ 285km เลยทีเดียว ส่วนเส้นทางระหว่างชินโอซาก้า-ฮากาตะของรถไฟซันโยชินคันเซ็น นั้นมีความเร็วสูงสุดถึง 300km เลยทีเดียว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%2853%29.jpg)
ที่นั่งของ「HIKARI」ตั้งแต่โบกี้ที่ 1 ถึง 5 จะเป็นที่นั่งแบบไม่ระบุจองที่นั่ง ส่วนโบกี้ที่ 6・7 ・แล้ว11 – 16 จะเป็นที่นั่งแบบจอง และตั้งแต่โบกี้ 8 ถึง 10 ก็คือ Green Car
สำหรับผู้ที่ซื้อตั๋วแบบไม่ได้จองที่นั่งก็ต้องต่อแถวที่โบกี้หมายเลข 1 ถึง 5 ท้ายๆชานชาลา(จากชินโอซาก้า)
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%2860%29.jpg)
และถ้าที่นั่งว่าง ก็อยากแนะนำให้นั่งที่นั่ง E หรือ D ทางฝั่งซ้าย เมื่อออกจากนาโกย่ามาประมาณ 25 นาทีเราก็จะเห็นวิวของทะเลสาบฮามานะ ที่ขึ้นชื่อเรื่องปลาไหล และอาจเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิด้วย ในวันที่อากาศดี ท้องฟ้าสดใส
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%2868%29.jpg)
ชินคันเซ็นใช้เวลาวิ่งเพียง 57 นาทีก็จะถึงสถานีชิซุโอกะที่อยู่ห่างออกไปถึง 185km เป็นระยะทางพอๆ กับกรุงเทพถึงเขาใหญ่เลย (จอดระหว่างทาง 1 ครั้งด้วย) วิ่งไม่ถึงชั่วโมงเลยเร็วจริงๆ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%2870%29.jpg)
สถานีรถไฟที่ใกล้「S–Pulse Dream Plaza」ที่สุดที่เรากำลังจะไปคือ ชิมิสึ เราต้องเปลี่ยนเป็นสายโทไคโดที่สถานีชิซุโอกะ ลงบันไดที่ชานชาลาสถานีชิซุโอกะและไปทางขวาเพื่อผ่าน「Transfer to TOKAIDO LINE」 และขึ้นรถไฟสายโทไคโด ที่จะมุ่งหน้าไปสู่「นุมาซุ NUMAZU・อาตามิ ATAMI」ที่ชานชาลาที่ 1・2 นั่งไปประมาณ 10 นาที เพื่อลงที่สถานีชิมิสึ SHIMIZU STATION
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%2863%29.jpg)
เมื่อถึงสถานีชิมิสึ SHIMIZU STATION ก็ขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปที่ช่องตรวจตั๋ว และเมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วมาแล้วก็ไปทางขวา เดินไปตามทางยาวๆ เพื่อไปที่ EAST EXIT ทางเดินยาวๆ เป็นกำแพงกระจกทั้งแถบ มองวิวภูเขาไปฟูจิได้ด้วย (กระจกสะท้อนนิดหน่อย) ผ่านทางเดินมาแล้ว ก็ลงบันไดไปที่ป้ายรถเมย์ 「สถานีรถบัสพิเศษ」บัสฟรีเพื่อไป S-Pulse Dream Plaza ยกเว้นรอบบ่ายโมง วันธรรมดาบัสจะวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว(นาทีที่ 05 และ 35)・วันเสาร์วิ่งชั่วโมงละ 4 เที่ยว(นาทีที่ 05 / 20 / 35 และ 50) จากสถานีชิมิสึไป S-Pulse Dream Plaza ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ซึ่งจะวิ่งท่ามกลางธรรมชาติ ทุ่งนา ที่สวยงาม
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%2872%29.jpg)
และเราก็มาถึง『S-Pulse Dream Plaza』ที่มีชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่เด่นๆ อยู่ด้านข้าง ถึงจะเป็นกลางวันวันธรรมดาแต่รถก็เยอะมาก ที่นี่จะมีร้านค้าต่างๆ มากมาย ซึ่งชิงช้าสวรรค์ของที่นี่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิด้วย และยังมี『Chibi Maruko Chan Land』มารุโกะแลนด์อยู่ด้วย ซึ่งบ้านเกิดของคนเขียนเรื่องมารุโกะจัง คุณซากุระโมโมโกะ อยู่ที่ชิมิสึนี้เอง ซึ่งเมืองชิมิสึคือเมืองในเรื่องชิจิมารุโมด้วยนั่นเอง ก่อนอื่นเราก็จะขึ้นไปที่ชั้น 3F เพื่อไป「Chibi Maruko Chan Land」กัน
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%2864%29.jpg)
Chibi Maruko Chan Land จะมีโซนที่ต้องเสียค่าเข้าชม และโซนที่สามารถเข้าชมได้ฟรี โซนที่เข้าชมได้ฟรี จะมีที่ขายของมารุโกะจัง และสามารถถ่ายรูปกับหุ่นมารุโกะจังได้ ส่วนโซนที่ต้องเสียค่าเข้าชม 600 เยน เราสามารถเข้าไปในบ้าน โรงเรียน ของมารุโกะจังได้แบบสมจริง เหมือนได้เข้าไปอยู่ในการ์ตูนเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%2863%29.jpg)
เมื่อเข้ามาภายในโซนที่เสียค่าเข้าชมแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนได้มาที่บ้าน「จิบิมารุโกะจัง」จริงๆ เลย ได้สัมผัสบรรยากาศการ์ตูนวัยเด็กแบบสมจริง
ด้านในก็จะมีห้องต่างๆ หลายแบบเหมือนในการ์ตูน และยังมีบทพูดในเรื่องเปิดเอาไว้ให้ฟังด้วย(แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น)ยิ่งทำให้นึกถึงตอนที่ดูการ์ตูนตอนเด็ก ๆ เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%2867%29.jpg)
เมื่อผ่านบ้านมารุโกะจังแล้วต่อไปก็จะเป็นโรงเรียน และห้องเรียน แค่ได้เข้ามาในโรงเรียนแบบในเรื่องมารุโกะแล้ว ยังได้เห็นบรรยากาศของห้องเรียนญี่ปุ่น(แบบสมัยเก่าเล็กน้อย)ด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%2857%29.jpg)
ระหว่างทางก็เจอเพื่อนๆมารุโกะจังด้วย ICHIGO-CHAN ถ่ายกับคุณปู่ กับ มารุโกะจังด้วย เอาไปลงโซเชียลดีกว่า
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%2859%29.jpg)
ที่ชั้น 1F ของ「S–Pulse Dream Plaza」มีโซน「SHIMIZU SUSHI YOKOCHOU」ตรอกซอยชิมิสึซูชิ ด้วย ที่ท่าเรือชิมิสึเป็นหนึ่งในท่าเรือประมงของญี่ปุ่นที่เป็นแหล่งรวมปลามากุโระ และปลาสดไว้มากมาย เราสามารถทานซูชิหน้าปลาต่างๆที่ทั้งสดและมีแบบครบครัน 「SUSHI YOKOCHOU」นี้มีร้านซูชิที่เรียงกันถึง 8 ร้านเลย ICHIGO-CHAN เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเข้าร้านไหนดี
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/20%2860%29.jpg)
เลยตัดสินใจลองเข้าร้าน「SHIMIZUKO SAKANAYA」
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/21%2855%29.jpg)
ที่นั่งจะเป็นแบบเคาเตอร์ประมาณ 10 ที่นั่ง ที่ร้านนี้เราสามารถทานปลาอาจิที่ยังมีชีวิตได้แบบสดๆ เป็นปลาอาจิที่ตกได้จากอ่าวซุรุงะ หน้าท่าเรือชิมิสึเลย กินปลาที่มีชีวิตแบบสดๆอาจจะดูน่าสงสารไปหน่อย แต่เนื้อมันจะนิ่ม เด้ง อร่อยมากๆ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/22%2843%29.jpg)
เมนูก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งเมนูที่มีโทโระมากุโระอัดแน่นอย่าง 「TOROSANMAI TEISHOKU」(1880 เยน)และชุดนิกิริ「NIGIRI TEISHOKU」(1280 เยน)และ DONBURI TEISHOKU(1280 เยน)ซึ่งในทุกเมนูเราสามารถเติมข้าวและซุปได้แบบไม่อั้นเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/23%2849%29.jpg)
วันนี้ ICHIGO-CHAN สั่ง「DONBURI TEISHOKU」(1280 เยน)ไป และเครื่องเคียงของร้านนี้ก็คือ มากุโระเท็มปุระ และไข่เจียวชิ้นเล็กๆ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/24%2835%29.jpg)
และอาหารหลักของเราก็มาแล้ว ข้าวหน้าทะเลรวม ไคเซ็นดง Kaisen Don มีทั้งปลามากุโระ แซลมอน กุ้ง ไข่ปลา ต่างๆ เป็นท้อปปิ้ง ได้ลองชิมหลายๆอย่างในหนึ่งเมนูเลย กินอันไหนก็อร่อยไปหมดเลย ยิ่งใครที่ชอบวาซาบิ ก็กินแบบผสมวาซาบิลงในโชยุและราดไปบนข้าวยิ่งอร่อยเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/25%2834%29.jpg)
เมนู「DONBURI TEISHOKU」ที่รวมปลาชนิดต่างๆไว้ในเมนูเดียว ราคาแค่ 1280 เยน(+ภาษี)เยนเอง ที่ชิมิสึ เราสามารถทานปลาแบบสดใหม่ได้ในราคาที่ถูกกว่า โตเกียวและโอซาก้าเลย ทำให้ผู้คนต่างเดินทางมาทานเมนูปลาสดใหม่ที่นี่กันมากมาย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/26%2825%29.jpg)
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้กินอิ่มแล้ว เราจะไปนั่งชิงช้าสวรรค์เพื่อชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของ「MORINOMIYA」และ「NIHONDAIRA」ที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวภูเขาไฟฟูจิและสถานที่ที่มีวิวสวยๆ
ในครั้งต่อไปเราจะมาชมความสวยงามของวิวจากแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชิมิสึกับ「S–Pulse Dream Plaza」และช้อปปิ้งภายในนี้กัน
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/0%2865%29.jpg)
【ตารางเดินทางวันนี้】