เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-1 เดินทางจาก “โตเกียว” ไปยัง “มิชิมะ” และออกจาก “โกเท็มบะ” เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ “ทะเลสาบคาวากุจิ”
TOKYO-FUJI-MISHIMA-SHUZENJI-SHIMIZU-MIHONOMATSUBARA-HAMAMATSU-NAGOYA
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/1%28280%29.jpg)
พาสที่จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง Central Japan Railway Company หรือ JR TOKAI กับพาสสุดคุ้ม『Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini』
พาสที่สามารถใช้นั่งเส้นทางระหว่าง อาตามิ~โทโยฮาชิ(Tokaido Main Line), นุมะซุ~มัตสึดะ(Gotemba Line)หรือ ฟูจิ~ชิโมเบะออนเซ็น(Minobu Line)รวมการนั่งรถไฟแบบด่วนพิเศษได้ไม่อั้น(ยกเว้นรถไฟแบบนอน)นอกจากนี้ยังสามารถใช้นั่งยานพาหนะอื่นๆ เช่น รถไฟ Izuhakone Railway(ทุกสายของสายซุนซึ Sunzu Line)รถบัสเพื่อใช้ท่องเที่ยว โกเทมบะ พรีเมียม เอ้าท์เล็ตส์ขนาดใหญ่ และ ทะเลสาบคาวากุจิ หรือ เรือเฟอร์รี่「The Suruga Bay Ferry」เพื่อนั่งเรือชมภูเขาไฟฟูจิจากทะเลได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นพาสสุดคุ้มที่ให้เพื่อนๆ ได้ท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่
「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」มีอายุ 3 วัน ราคาเพียง 4500 เยนเท่านั้น แค่เพียงราคาตั๋วรถบัสไปกลับระหว่างโกเท็มบะ และ คาวากุจิโกะแบบปกติอยู่ที่ 3020 เยนและเรือเฟอร์รี่ The Suruga Bay Ferry(ราคาปกติ 2100 เยน)รวม 2 อย่าง อยู่ที่ 5300 เยน จะเห็นได้ว่าไม่จำเป็นต้องใช้นั่งรถไฟใดๆ ก็คุ้มเกินทุน โดยครั้งนี้เราจะใช้พาสนี้ท่องเที่ยวแบบสุดคุ้ม เดินทางจาก “โตเกียว” ไปยัง “มิชิมะ” และออกจาก “โกเท็มบะ” เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ “ทะเลสาบคาวากุจิ”
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/2%28245%29.jpg)
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ท่องเที่ยวตลาดใหม่ในโตเกียวที่ “ตลาดโทโยสุ” และตลาดเก่าแก่ที่อยู่คู่ชาวเมืองโตเกียวมายาวนานอย่าง “ตลาดด้านนอกของซึกิจิ” ต่อด้วยชมวิวเมืองโตเกียวที่ “ศาลาว่าการกรุงโตเกียว” และช้อปปิ้งที่ “ย่านชินจุกุ” แล้ว
Day1-4 ทานอาหารค่ำที่ “ย่านชินจุกุ” และเข้าพักโรงแรม「Keikyu EX Inn Higashi – Ginza」
วันนี้ก็เป็นวันที่ 2 ของทริป และได้เวลาใช้พาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」กันแล้ว โดยเราจะนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงชินคันเซ็น จาก “สถานีโตเกียว” ไปที่ “สถานีมิชิมะ” เพื่อเที่ยว “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น”「Arakurayama-Sengen Park」ชมวิวภูเขาฟูจิ ไปพร้อมๆ กับเจดีย์ห้าชั้น ท่ามกลางบรรยากาศฤดูต่างๆ อย่างซากุระ หรือใบไม้เปลี่ยนสี
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยัง “สถานีคาวากุจิโกะ Kawaguchiko Station” ที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวพื้นที่ ฟูจิ โยชิดะFuji Yoshida・สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น Arakurayama-Sengen Park กันค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%28224%29.jpg)
เมื่อทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม「Keikyu EX Inn Higashi-Ginza」กันเลย สถานที่แรกของวันนี้เราจะไปจุดชมวิวภูเขาฟูจิยอดฮิตที่ “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น” 「Arakurayama-Sengen Park」ซึ่งวิธีการเดินทางไป “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น” 「Arakurayama-Sengen Park」จะมีอยู่หลายวิธี โดยวันนี้เราจะเลือกเดินทางด้วย รถไฟฟ้าความเร็วสูงชินคันเซ็น ไป “สถานีมิชิมะ Mishima Station” จากนั้นนั่งรถไฟ JR สายโกเท็มบะ Gotemba Line และนั่งรถบัสต่อไปอีกรอบ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%28222%29.jpg)
การเดินทางจากโรงแรมไปสถานีโตเกียวเพื่อขึ้นรถไฟฟ้าความเร็วสูงชินคันเซ็นนั้น เดินทางด้วยรถบัสจะสะดวกที่สุด โดยนั่งรถบัสจากป้าย「Tsukiji 3 Choume」เพื่อไปลงที่ป้าย “สถานีโตเกียว ประตูมารุโนะอุจิ”「Tokyo Station Marunouchi Gate」รถบัสจะวิ่งทุกๆ 3-5 นาที และใช้เวลาเดินทางไปสถานีโตเกียว 10-15 นาที รถบัส Tokyo Metro Bus จะมีประตูอยู่สองประตู วิธีขึ้นรถก็คือ จะต้องขึ้นรถจากประตูหน้า และลงรถบัสจากประตูหลัง เป็นแบบจ่ายค่าโดยสารก่อนขึ้นรถนั่นเอง โดยใส่เงิน 210 เยนในกล่องใส่เงินที่อยู่ข้างคนขับก่อน และไปหาที่นั่งได้เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%28231%29.jpg)
นั่งรถบัสไปไม่ถึง 15 นาที ก็มาถึง “สถานีโตเกียว ประตูมารุโนะอุจิ Tokyo Station Marunouchi Gate” เป็นที่เรียบร้อย “สถานีโตเกียว” ที่เป็นสถานที่ที่เป็นตัวแทนของทั้งโตเกียว และญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2457 “สถานีโตเกียว ประตูมารุโนะอุจิ Tokyo Station Marunouchi Gate” สร้างขึ้นด้วยอิฐ เปรียบเสมือนประตูหน้าบ้านของญี่ปุ่นมายาวนานมากกว่า 100 ปี ซึ่งสถานีนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่คมนาคมทางรถไฟเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/6%28231%29.jpg)
บริเวณลานกว้างหน้าสถานีมารุโนะอุจิจะเป็นมุมถ่ายรูปที่สวยมากๆ โดยมีอาคารสถานีโตเกียวเป็นพื้นหลัง และด้านตรงข้ามลานกว้างจะมี「MARU BIRU(丸ビル)」「SHIN MARU BIRU(新丸ビル)」ที่เป็นแหล่งรวมร้านค้า และร้านอาหารต่างๆ มากมาย และที่เห็นลึกเข้าไปอีก บริเวณที่เป็นพื้นที่สีเขียวก็คือ “พระราชวังหลวงโตเกียว” ที่เป็นที่ประทับของจักรพรรดิญี่ปุ่น เรียกได้ว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่ได้สัมผัสญี่ปุ่นอย่างแท้จริงเลยนะคะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%28229%29.jpg)
ซึ่งจุดขึ้นลงรถไฟฟ้าความเร็วสูงชินคันเซ็นจะอยู่บริเวณประตูยาเอสุ Yaesu Gate ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามประตูมารุโนะอุจิ โดยหันหน้าเข้าทางประตูมารุโนะอุจิ และเดินเข้าไปในอาคารจากประตูมารุโนะอุจิทางทิศเหนือ「Marunouchi North Gate」ที่อยู่ซ้ายมือ เมื่อเข้ามาในอาคารแล้วก็จะเป็นโดมเพดานหลังคาทรงแปดเหลี่ยมสวยงาม
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/8%28233%29.jpg)
เมื่อเข้ามาในอาคารแล้วเราจะยังไม่ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปค่ะ ให้เดินไปตามทางเดิน「Passage to Yaesu Side」ทางซ้ายมือ เมื่อเดินพ้นทางเดินยาว และเดินไปทางขวามือแล้วก็จะเห็น「Tokaido・Sanyo Shinkansen Tracks」(รูปล่างซ้าย)เราจะไปซื้อตั๋วรถไฟฟ้าความเร็วสูงชินคันเซ็น และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ พาสสุดคุ้มที่เราจะใช้ในการท่องเที่ยวในครั้งนี้กับพาส「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ที่「Shinkansen and JR Line Tickets」ที่อยู่ข้างๆ ทางซ้ายมือ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%28231%29.jpg)
สามารถติดต่อที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วได้โดยแสดงหนังสือเดินทาง และบัตรแลกตั๋วเท่านั้น
「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」เป็นพาสที่สามารถใช้ท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยภายใน “ชิซุโอกะ” ทั้งชม “ภูเขาฟูจิ” “อิซุ” หรือ “ฮะมะมัตสึ” ได้อย่างเต็มที่ แต่มีข้อควรระวังอยู่เล็กน้อยคือ ผู้ที่สามารถใช้พาส「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」นี้จะต้องเป็น「นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวแบบไม่มีวีซ่า หรือ วีซ่าแบบนักท่องเที่ยว 」เท่านั้น ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น หรือนักเรียนแลกเปลี่ยนจะไม่สามาถใช้พาสนี้ได้ นอกจากนี้ ช่วงเส้นทางตั้งแต่ “สถานีโตเกียว” ไปจนถึง “สถานีมิชิมะ” จะอยู่นอกขอบเขตพาส「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องซื้อตั๋วขึ้นรถไฟ และตั๋วรถด่วนพิเศษเพิ่ม ซึ่งตั๋วรถไฟแบบ Non-Reserved Seat ไป “สถานีมิชิมะ” จะอยู่ที่ 4000 เยนพอดี สามารถชำระได้ทั้งเงินสด และบัตรเครดิต
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%28234%29.jpg)
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปชานชาลากันเลย รถไฟที่วิ่งระหว่าง “โตเกียว” และ “มิชิมะ” ในช่วงเวลา 9:00 – 16:00 น. จะมีรถไฟ “KODAMA(こだま号)” แบบจอดทุกสถานีชินคันเซ็น วิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว หรือ “HIKARI(ひかり号)” ที่วิ่งแบบด่วน วิ่ง 2 ชั่วโมงละ 1 เที่ยว ซึ่งรถไฟ “NOZOMI(のぞみ号)” ทั้งหมด และ “HIKARI(ひかり号)” บางส่วนจะไม่จอด “สถานีมิชิมะ” เพราะฉะนั้นดูขบวนรถไฟให้ดีๆ อย่าขึ้นผิดนะคะ
『ตารางเวลารถไฟจาก “โตเกียว” ไป “มิชิมะ”』
“HIKARI(ひかり号)” จะใช้เวลาในการเดินทาง 44 นาที ส่วน “KODAMA(こだま号)” จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 54-56 นาที ซึ่งแต่ละขบวนจะออกตัวจากชานชาลาที่แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็คชานชาลาที่ป้ายแสดงตารางเวลารถไฟก่อนด้วยนะคะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%28240%29.jpg)
และเมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วมาแล้ว บริเวณลานจุดนัดพบจะมีร้านข้าวกล่องสถานีที่รวบรวมเอาข้าวกล่องตามเรียบเส้นทาง Tokaido・Sanyo Shinkansen Line เอาไว้ นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายของฝากอยู่อีกด้วย ซึ่งเสน่ห์ของการเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นคือ เราสามารถเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มต่างๆ มาทานระหว่างการเดินทาง ไปพร้อมๆ กับชมวิวระหว่างทางได้นั่นเอง
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%28241%29.jpg)
เมื่อขึ้นมาที่ชานชาลาแล้ว ก็ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นกันเลย ซึ่งรูปทรงของรถไฟโทไคโดชินคันเซ็นที่วิ่งด้วยความเร็วมากถึง 285km รูปทรงก็จะเรียว ออกแบบได้อย่างมีสไตล์ จนอยากเก็บภาพเป็นที่ระลึก แต่ก็อย่าเผลอถ่ายรูปเพลิน เดี๋ยวจะขึ้นรถไม่ทันนะคะ
รถไฟ “KODAMA(こだま号)” จาก “โตเกียว” ถึง “มิชิมะ”จะวิ่งทั้งหมด 16 โบกี้ โดยโบกี้ที่ 1 ถึง 7 และ 13 ถึง 15 จะเป็นแบบ Non-Reserved Seat และรถไฟบางขบวนในโบกี้ที่ 15 จะเป็นพื้นที่สูบบุหรี่ได้เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่ชอบบุหรี่ก็ควรหลีกเลี่ยงโบกี้นี้นะคะ รถไฟ “KODAMA(こだま号)” ที่ออกจากสถานีโตเกียวส่วนใหญ่ถ้าไม่ติดช่วงสิ้นปีปีใหม่ หรือช่วงวันหยุดยาว ส่วนใหญ่ก็สามารถนั่งได้ทั้งหมดค่ะ เมื่อเทียบกับ “NOZOMI(のぞみ号)” หรือ “HIKARI(ひかり号)” แล้ว ค่อนข้างนั่งได้แบบสบายๆ เลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%28234%29.jpg)
ที่นั่งแบบธรรมดาจะถูกแบ่งออกเป็น 3 แถว กับ 2 แถว รวมเป็น 5 แถว นอกจากนี้ยังสามารถหมุนพนักที่นั่งได้โดยเหยียบแผ่นเหล็กที่อยู่ใต้ที่นั่งเพื่อหมุนฝั่งให้หันหน้าเข้าหากันได้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นกลุ่ม ยิ่งได้พูดคุยกันเวลาก็ผ่านไปเร็วมากๆ นอกจากนี้ที่นั่งแถว A และ E จะมีปลั๊กไฟให้ได้เสียบชาร์ตมือถือหรือแท็บเล็ตได้อีกด้วย (ยกเว้นบางขบวน)
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%28238%29.jpg)
การเดินทางจาก “สถานีโตเกียว” มาสู่ “สถานีมิชิมะ” นั้นแนะนำให้นั่งที่นั่งทางฝั่งซ้ายมือ(แถว C-E)เพราะว่าเมื่อออกจาก “สถานีโอดาวาระ” แล้วทางซ้ายมือก็สามารถชมวิว “ปราสาทโอดาวาระ” และสามารถชมวิวอ่าวซางามิที่สวยงามได้บริเวณ “สถานีอาตามิ”
ออกจาก “สถานีโตเกียว” มาประมาณ 55 นาที ตอนนี้ก็ได้เดินทางมาถึง “สถานีมิชิมะ” เป็นที่เรียบร้อย เมื่อถึงสถานีมิชิมะแล้ว ก็ลงบันไดเลื่อนที่อยู่กลางชานชาลาและเดินไปตามป้ายบอกทาง「Tranfer to Tokaido Line(東海道線のりかえ)」เพื่อไปเปลี่ยนรถไฟกันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%28230%29.jpg)
การเดินทางจาก “สถานีมิชิมะ” ไป “ทะเลสาบคาวากุจิ” นั้นจะต้องเดินทางจำนวน 3 ครั้ง คือ
มิชิมะ Mishima(三島)-นุมะซุ Numazu (沼津):Tokaido Line(東海道線)
นุมะซุ Numazu (沼津)-โกเท็มบะ Gotemba (御殿場):Gotemba Line (御殿場線)
โกเท็มบะ Gotemba (御殿場)-ทะเลสาบคาวากุจิ Kawaguchiko(河口湖):รถบัส Fujikyu Bus(富士急バス)
ซึ่งการเดินทางทุกชนิดสามารถใช้พาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ในการเดินทางได้ เพราะฉะนั้นตอนผ่านช่องตรวจตั๋วเปลี่ยนรถไฟ ให้แสดงพาสที่ช่องตรวจตั๋วที่อยู่ริมขวาสุดที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ได้เลย โดยแสดงตั๋วรถไฟชินคันเซ็นจาก “สถานีโตเกียว ถึง สถานีมิชิมะ” พร้อมพาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปได้เลย และเดินไปขึ้นรถไฟที่ชานชาลาหมายเลข 4 กับรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ “นุมาซุ・ชิซูโอกะ” ของรถไฟสาย โทไคโด Tokaido Line
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%28230%29.jpg)
จาก “สถานีมิชิมะ”(สถานีเริ่มต้นรถไฟสายโกเท็มบะ)ไปยัง “สถานีนุมะซุ Numazu Station” จะมีรถไฟวิ่งอยู่ชั่วโมงละ 4-5 เที่ยว นั่งไป “สถานีนุมะซุ Numazu Station” เพียง 1 สถานี ใช้เวลา 4 นาที เมื่อถึงสถานีนุมะซุ Numazu Station แล้วก็เดินไปทางด้านหน้า เพื่อขึ้นบันไดสะพานเชื่อมชานชาลาไปทางขวามือ เพื่อไปขึ้นรถไฟสายโกเท็มบะที่จะออกจากชานชาลาหมายเลข 5 กันค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%28236%29.jpg)
รถไฟจาก “สถานีนุมาซุ” ไป “สถานีโกเท็มบะ” จะวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว ใช้เวลาประมาณ 35 นาที เป็นที่นั่งแบบบล็อคซีทที่นั่งได้ 4 ที่นั่ง หากมาเป็นกลุ่มก็สามารถหันหน้าพูดคุยกันได้ การเดินทางก็แปปเดียวเท่านั้นค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%28229%29.jpg)
ออกเดินทางมาจาก “สถานีนุมะซุ” 35 นาที ออกเดินทางจาก “สถานีโตเกียว” มาเวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง “สถานีโกเท็มบะ” กันแล้วค่ะ ต่อไปเราจะเดินทางจาก “สถานีโกเท็มบะ” ไป “ทะเลสาบคาวากุจิ” ด้วยรถบัส Fujikyu Bus กันค่ะ โดยเดินขึ้นบันไดที่อยู่กลางชานชาลามาก็จะเจอช่องตรวจตั๋วเลย สามารถผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วได้โดยแสดงพาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ในช่องตรวจตั๋วที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ จากนั้นมุ่งหน้าไปทาง「Mt.Fuji Side(富士山口)」ที่อยู่ซ้ายมือเพื่อไปป้ายรถบัสกันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%28229%29.jpg)
เมื่อออกมาจากประตู Mt.Fuji Side(富士山口) แล้วก็จะเจอเทอร์มินอลบัสเล็กๆ ซึ่งรถบัสที่จะมุ่งหน้าไปสู่ “ทะเลสาบคาวากุจิ” จะออกตัวจากป้ายบัสหมายเลข 2 ช่วงเวลา 8:00-11:00 น. จะวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยวคือนาทีที่ 10 และ 40 ส่วนช่วงเวลา 12:00-18:00 น. จะวิ่งชั่วโมงละ 1 เที่ยว คือนาทีที่ 40
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/20%28212%29.jpg)
รถบัสที่มุ่งหน้าจาก “สถานีโกเท็มบะ” ไป “ทะเลสาบคาวากุจิ” จะขึ้นรถบัสจากประตูกลาง และลงรถบัสจากประตูหน้า โดยปกติแล้วเวลาขึ้นรถบัสจะต้องรับคิวตั๋วรถขณะขึ้นรถก่อน จากนั้นก็เช็คราคาค่าโดยสารก่อนลงรถจากบอร์ดแสดงราคาที่อยู่ข้างคนขับ จากนั้นก็ใส่เงินค่าโดยสาร(1510 เยน)ลงไปในกล่องชำระเงินข้างคนขับก่อนลงรถจากประตูหน้า แต่ครั้งนี้ ช่วงเส้นทางนี้สามารถใช้พาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ในการเดินทางได้ เพราะฉะนั้นแสดงตั๋วนี้ให้กับคนขับรถขณะลงได้เลย ใช้เวลาเดินทางจากสถานีโกเท็มบะ ไปทะเลสาบคาวากุจิประมาณ 75 นาที เมื่อเข้าใกล้ทะเลสาบคาวากุจิแล้ว บรรยากาศโดยรอบก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวชอุ่ม สามารถชมวิวสวยๆ นอกหน้าต่างได้ระหว่างเดินทางเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/21%28196%29.jpg)
ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง “สถานีคาวากุจิโกะ” ที่เป็นสถานที่หลักในการท่องเที่ยวชมภูเขาฟูจิ ด้วยความที่สถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ทำให้มีทั้งนักท่องเที่ยวโซนเอเชีย และทางฝั่งยุโรปมาเที่ยวกันอย่างคึกคัก นอกจากนี้สถานีคาวากุจิโกะยังมีทั้งร้านจำหน่ายของฝากขนาดใหญ่ หรือร้านอาหาร ที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถช้อป กิน เที่ยวได้ระว่างรอรถบัส หรือรถไฟอีกด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/22%28160%29.jpg)
ภายในสถานีคาวากุจิโกะนี้มีร้านอาหาร「FUJIYAMA CAFÉ」ที่จำหน่ายทั้งอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่ และอาหารออริจินัลภูเขาฟูจิอยู่มากมาย ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว
ICHIGO-CHAN ก็ไม่รอช้า เข้าไปในร้านเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/23%28126%29.jpg)
เมนูภายในร้านก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งอาหารขึ้นชื่อของเมืองฟูจิโยชิดะที่อยู่ข้างๆ ทะเลสาบคาวากุจิกับ「YOSHIDA UDON」(650 เยน), อาหารขึ้นชื่อของที่ตั้งภูเขาฟูจิที่จังหวัดยามางาตะกับเมนู「HOUTOU(ほうとう)」(950 เยน), ราเม็ง(750 เยน)หรือ แกงกะหรี่ฟูจิซัง(1000 เยน)เท่านั้นไม่พอยังมีอาหารทานเล่นอย่าง「FUJISAN HANPEN(富士山はんぺん)」(380 เยน)หรือ มันบดทอดฟูจิซัง「FUJISAN KOROKKE(富士山コロッケ)」(250 เยน)อีกด้วย
ร้านนี้จะเป็นแบบบริการตนเอง สามารถสั่งอาหารได้ที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน จากนั้นก็จะได้รับคูปองหมายเลข จากนั้นก็หาที่นั่งได้เลย เมื่ออาหารเสร็จแล้ว ก็สามารถรับอาหารได้ที่ช่องข้างๆ เคาน์เตอร์ชำระเงินได้เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/24%2885%29.jpg)
「FUJIYAMA CAFÉ」ที่มีที่นั่งเกือบ 100 ที่นั่ง แม้จะเป็นช่วงเวลาอาหารกลางวัน ก็สามารถเข้ามาทานในร้านได้สบายค่ะ ภายในร้านมีทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ที่หันหน้าออกนอกหน้าต่างชมวิวรถไฟฟูจิคิวแล่นไปมา นอกจากนี้ยังมีที่นั่งแบบโต๊ะที่สามารถนั่งได้ 4 คน หรือ 6 คน จัดเตรียมไว้ สามารถรองรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ได้สบายเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/25%2867%29.jpg)
มีทั้ง “YOSHIDA UDON”(650 เยน)เมนูเพื่อสุขภาพที่เต็มไปด้วยผัก เมื่อเทียบกับซานุกิอุดง หรือโอซาก้าอุดงแล้ว อุดงของที่นี่จะมีเนื้อแน่น และรสชาติของน้ำซุปก็เข้มข้นกลมกล่อม นอกจากนี้ได้สั่ง “ไก่ทอดหินลาวา”「YOUGAN KARAAGE(溶岩からあげ)」(380 เยน)ดูผ่านๆ อาจรู้สึก ไม่น่าทาน ด้วยการหมักเนื้อกับผงถ่านไม้ไผ่ แต่รสชาติอร่อยมากๆ นักท่องเที่ยวก็ให้ความสนใจกับเมนูแปลกๆ นี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/26%2848%29.jpg)
หลังจากที่ได้ทานอาหารกลางวันที่ “สถานีคาวากุจิโกะ” ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่ชมภูเขาฟูจิแล้ว
ก่อนอื่นเราจะเดินทางไปจุดชมวิวภูเขาฟูจิสุดฮิต “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น”「Arakurayama-Sengen Park」ที่สามารถชมวิวภูเขาฟูจิ ไปพร้อมๆ กับเจดีย์ห้าชั้น ท่ามกลางบรรยากาศฤดูต่างๆ อย่างซากุระ หรือใบไม้เปลี่ยนสี เป็นสถานที่ชื่อดังที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเรียนไทยอีกด้วย
ตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “สวนอาราคุระยามะ เซ็นเก็น”「Arakurayama-Sengen Park」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day2-1 MISHIMA/FUJI-CAFE】
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/27%2833%29.jpg)
PASS ที่ใช้ TRIP นี้ “Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini”