เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-4 เที่ยวชม “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” ที่ชินนางาตะ และ เที่ยวชมบริเวณคิตาโนะ ในเมืองโกเบ
HYOGO-KYOTO-OSAKA-NARA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เพลิดเพลินกับปราสาทฮิเมจิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และได้ถ่ายรูปปราสาทที่สวยงามไปอย่างเต็มที่แล้ว
Day1-3 เที่ยชม “ปราสาทฮิเมจิ” ที่ยิ่งใหญ่ พร้อมมุมถ่ายรูปที่สวยงามต่างๆ มากมาย
สถานที่ที่เราจะไปต่อจากปราสาทฮิเมจิก็คือ “ชินนางาตะ”(Shin-Nagata) ที่มีรูปปั้น “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」ยักษ์สูงกว่า 15 เมตร มีน้ำหนักกว่า 50 ตัน และราคาแพงถึง 40 ล้านบาทเลยทีเดียว
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「KANSAI ONE PASS」เป็นเวลา 5 วัน 3 คืนในตอนที่ 4 นี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชม “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」และเดินเล่นบริเวณโกเบ・คิตาโนะ ที่มีกลิ่นอายความเป็นเมืองอ่าวกันค่ะ
ซึ่งการเดินทางจากปราสาทฮิเมจิไปยัง ชินนางาตะ ที่มี “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” อยู่นั้นเดินทางด้วยรถไฟ JR Special Rapid Service สายโกเบ (Kobe Line) และ รถไฟแบบธรรมดาไปจะสะดวกที่สุด ซึ่งก่อนอื่นจะต้องออกจากปราสาทฮิเมจิไปยังสถานีฮิเมจิ ของรถไฟ JR กันเลย
การเดินทางจากปราสาทฮิเมจิ ไปยังสถานีฮิเมจิ จะใช้เวลาเดินเท้า 15 นาที เมื่อออกจากประตูทางออก（โอเตะมง : OTEMON : 大手門）และข้ามสะพานมาแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็ข้ามทางม้าลายที่สามแยกที่อยู่ตรงหน้าไป และเดินตรงไปเรื่อยๆ เพื่อเดินไปทางสถานีฮิเมจิกันเลย
เดินตามถนนใหญ่มาประมาณ 10 นาที ก็จะเดินมาถึงลานกว้างหน้าสถานีฮิเมจิเลย เมื่อถึงลานกว้างหน้าสถานีฮิเมจิแล้ว ก็เดินข้ามทางม้าลายไป และเดินตรงเข้าไปในอาคารสถานีฮิเมจิเลย
โดยสถานีฮิเมจินี้จะแบ่งออกเป็น 2 สถานีคือ “สถานี JR ฮิเมจิ”「JRHIMEJI STATION」และ “สถานีฮิเมจิของรถไฟซันโย”「Sanyo Electric Railways HIMEJI STATION」ซึ่งสถานีที่สามารถเดินทางมุ่งตรงไปยัง “ชินนางาตะ” ได้นั้นจะมีเพียงรถไฟของ JR เท่านั้นค่ะ
เมื่อเดินเข้ามาในอาคารสถานีแล้ว ก็จะเจอช่องตรวจตั๋วที่อยู่เลยเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติอยู่ทางซ้ายมือ เมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติไปแล้ว ก็ไปขึ้นรถไฟด่วน JR Special Rapid Service มุ่งหน้าไปสู่ โกเบ・โอซาก้า ที่ชานชาลาหมายเลข 5・6 กันเลย ซึ่งรถไฟด่วน JR Special Rapid Service ส่วนใหญ่จะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 5 ออกตัวทุกๆ 15 นาที คือ ชั่วโมงละ 4 เที่ยว ในนาทีที่ 12/27/42/57 ค่ะ
เราจะใช้เวลาในการเดินทางจาก สถานีฮิเมจิ ไปยังสถานีต่อรถไฟที่ สถานีอาคาชิ (Akashi Station) ไปประมาณ 25 นาที ซึ่งในวันธรรมดานี้รถไฟด่วน JR Special Rapid Service ที่มีอยู่ 12 โบกี้ที่ออกจากฮิเมจิส่วนใหญ่คนก็จะโล่งแบบที่เห็นนี้เลยค่ะ เพราะฉะนั้นสามารถนั่งรถไฟชมวิวได้อย่างสบายตลอดการเดินทาง โดยรถไฟด่วน JR Special Rapid Service นี้สามารถนั่งได้โดยใช้ตั๋วขึ้นรถไฟแบบธรรมดา แต่ก็มีความเร็วมากถึง 130 km เลยทีเดียว ซึ่งจะเชื่อมระหว่าง “ฮิเมจิตะวันออก・บันชูอะโค” กับ “ประตูหน้าบ้านของแถบโฮคุริคุ・ชิงะ” เป็นระยะทาง 256km เลยทีเดียว
ซึ่งรถไฟด่วน JR Special Rapid Service นี้จะไม่จอดที่ “สถานีชินนางาตะ” ที่มีรูปปั้น “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」เพราะฉะนั้นเราจะต้องลงรถไฟที่สถานีระหว่างทางที่ “สถานีอาคาชิ (Akashi Station)” กันก่อน จากนั้นก็นั่งรถไฟแบบธรรมดาไปอีก 20 นาที จำนวน 9 สถานี เพื่อไปลงที่ “สถานีชินนางาตะ” กันค่ะ ซึ่งช่วงระหว่างทางระหว่าง “อาคาชิ” “ไมโกะ” และ “ซุมิ” จะเป็นช่วงที่เพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินกับวิว “ช่องแคบอาคาชิ : 明石海峡” ที่สวยงามได้ทางฝั่งขวามือ และบริเวณใกล้เคียงสถานีไมโกะที่อยู่ระหว่างทางก็จะได้เห็น “สะพานอาคาชิไคเคียวโอฮาชิ”「AKASHI KAIKYO OHASHI(明石海峡大橋)」สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกในความยาว 4 กิโลเมตรที่เราได้เห็นกันเมื่อตอนขามาอีกรอบเลยค่ะ
เดินทางจากสถานีอาคาชิมาประมาณ 20 นาที ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง “สถานีชินนางาตะ” เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อลงจากรถไฟที่สถานีชินนางาตะแล้วก็ลงบันไดที่อยู่ภายในชานชาลาไป เพื่อไปที่ช่องตรวจตั๋วกันเลย ซึ่งที่ชินางาตะนี้ถือเป็นเมืองแห่งซับคัลเจอร์ของโกเบที่มีทั้ง หุ่น “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」หรือเป็นเมืองที่อยู่อาศัยของผู้เขียนการ์ตูน “สามก๊ก” อีกด้วย
บริเวณภายในอาคารสถานีนี้ก็จะมีแผนที่บอกตำแหน่งหุ่น “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」หรือจุดสัมผัสบรรยากาศการ์ตูนเรื่อง “สามก๊ก” ในที่ต่างๆ อีกด้วย
ระยะทางจาก “สถานีชินนางาตะ” ไป “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” จะเป็นระยะทางเพียง 250 เมตรเท่านั้น ถึงจะค่อยๆ เดินไปก็ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น โดยเดินออกจากลานกว้างหน้าสถานีไปทางขวามือ เมื่อออกมาสู่ถนนใหญ่แล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็เดินข้ามทางม้าลายไปทางขวามือและเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอป้ายย่านร้านค้า「SHINNAGATA 1 BANCHO(新長田1番街)」ที่มีรูป “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” อยู่ ให้เดินไปทางป้ายก็จะเจอหุ่น “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」ขนาดใหญ่อยู่ทางด้านขวามือเลย
“เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」นี้ถือเป็นการ์ตูนทีวีอนิเมะที่โด่งดังในช่วงปีพ.ศ.2493-2503 ซึ่งเป็นการ์ตูนที่ตัวเอกของเรื่องจะเป็นผู้บังคับ “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」เพื่อปราบและต่อสู้กับเหล่าวายร้ายทั้งหลาย
ซึ่งผู้เขียน “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」นี้มีบ้านเกิดอยู่ที่ “ชินนางาตะ” ดังนั้นจึงได้มีการสร้างหุ่น “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”『TETSUJIN 28 GOU』ขนาดใหญ่มหึมานี้ขึ้นมานั่นเอง เดิมทีเป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่หรือบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น แต่ด้วยขนาดความยิ่งใหญ่และความแปลกของ “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” นี้ทำให้ปัจจุบันเป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ซึ่งหุ่น “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” นี้ก็เหมาะถ่ายรูปคู่ลงโซเชียลต่างๆ มากๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ร่วมกันถ่ายรูปกับหุ่น “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” กันใหญ่เลยค่ะ
และบริเวณชินนางาตะนี้ก็ไม่ได้มีเพียง “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” เท่านั้น เพราะว่าที่นี่จะมียังมีสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่างเช่นอาหารขึ้นชื่อของบริเวณนี้กับ “อาคาชิยากิ”「AKASHIYAKI(明石焼)」ที่ร้าน “ทาโกยากิจิเอะ”「たこ焼きちえ(TAKOYAKICHIE)」อยู่ระหว่างสถานีชินนางาตะ และ “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” เลยค่ะ
โดยเดินจาก “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28” ไปตามย่านร้านค้า「SHINNAGATA 1 BANCHO(新長田1番街)」เพื่อกลับไปทางสถานี จากนั้นก็เดินข้ามทางม้าลายไปก็จะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือเลย
โดย “อาคาชิยากิ”「AKASHIYAKI(明石焼)」（600 เยน）นี้จะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับ “ทาโกยากิ” ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้า แต่จะแตกต่างจากทาโกยากิตรงที่วิธีการทาน เพราะว่าเราจะไม่ทานคู่กับซอส แต่จะทานกับน้ำซุปแทน
สำหรับไส้ทาโกยากินั้น นอกจากหมึกแดงแล้ว ก็จะมีต้นหอม และขิงแดง แต่ “อาคาชิยากิ” นั้นจะมีเพียงหมึกแดงเท่านั้น โดยจะมีความแบน และนุ่มกว่าทาโกยากิ
ซึ่งที่ร้าน “ทาโกยากิจิเอะ”「たこ焼きちえ(TAKOYAKICHIE)」นี้เพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินกับการทาน “อาคาชิยากิ” ครึ่งหนึ่งและ ทาโกยากิอีกครึ่งหนึ่งได้อีกด้วย จะได้ลองทานเทียบกันดูเลย
หลังจากที่เราได้เพลิดเพลินกับหุ่นยักษ์ “เท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28”「TETSUJIN 28 GOU」และทาน “อาคาชิยากิ” อร่อยๆ ที่ “ชินนางาตะ” ไปแล้ว ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปที่ “โกเบ・โมโตมาจิ” กันค่ะ ถึงแม้ว่าเราสามารถเดินทางจาก ชินนางาตะ ไปยัง บริเวณโกเบ・โมโตมาจิ ด้วยรถไฟ JR หรือ รถไฟใต้ดินได้ทั้งสองทาง แต่ครั้งนี้เราจะเลือกใช้การเดินทางที่ใช้เวลาสั้นกว่าและราคาถูกกว่า เป็นรถไฟ JR กันค่ะ
โดยออกจากร้าน “ทาโกยากิจิเอะ”「たこ焼きちえ(TAKOYAKICHIE)」ไปทางขวามือ และเข้าไปในอาคารสถานีชินนางาตะกันเลย เมื่อผ่านเข้าไปในช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ทางด้านซ้ายมือเพื่อขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ “ซันโนมิยะ : 三ノ宮・โอซาก้า : 大阪” ที่ชานชาลาหมายเลข 1 กันเลย โดยเราจะนั่งจาก “ชินนางาตะ” ไปยัง “โมโตมาจิ” ไป 3 สถานี ใช้เวลาในการเดินทาง 8 นาทีค่ะ แปปเดียวเท่านั้นก็สามารถเดินทางไปยัง “สถานีโมโตมาจิ” ได้เลย
เมื่อถึง “สถานีโมโตมาจิ” แล้ว ก็ลงรถไฟเดินไปทางด้านหน้า จากนั้นก็ลงบันไดไป และผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติเลย
เมื่อผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วอัตโนมัติแล้วก็เดินไปทางซ้ายมือไปทาง「Tor Road」เพื่อออกจากอาคารสถานีกันค่ะ
เมื่อ 400 ปีก่อน ถึง 150 ปีก่อน ในช่วงยุดเอโดะ นี้ จะมีนโยบาย “ซาโกกุ” ที่ได้มีการห้ามไม่ให้ทำการค้าขายกับต่างประเทศ ยกเว้นบางประเทศอย่างเช่น ประเทศฮอล์แลนด์ แต่ก็ได้มีการเปิดทะเลในปีพ.ศ.2411 และเริ่มมีเรือเข้ามาเทียบท่ามากขึ้นที่โกเบ ใกล้โอซาก้า หรือเกียวโต นอกจากนี้ด้วยความที่ข้อตกลงของท่าเรือเป็นไปด้วยดีทำให้มีเรือมากมายเข้ามายังโกเบแห่งนี้จนได้สร้างเมืองเป็น “เขตพักอาศัย” ของชาวต่างชาตินั่นเอง
และบริเวณใกล้เคียงสถานีโมตาจิ ขึ้นเนินไปเล็กน้อย ที่บริเวณคิตะโนะ ก็จะมีบรรยากาศบ้านเมืองที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ไหนๆ เราก็ได้มาแล้ว ไปเดินเล่นกันซักหน่อยนะคะ
โดยเดินออกจากช่องตรวจตั๋วฝั่งตะวันออกของสถานีโมโตมาจิ ไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็เดินขึ้นเนินเล็กๆ ไปก็จะเจอบริเวณบ้านเมืองสไตล์ยุโรป บริเวณนี้ก็คือ “คิตาโนะ”「KITANO(北野)」เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
มีจุดที่สามารถเข้าชมอาคารบ้านเรือน ร้านจำหน่ายของฝาก หรือคาเฟ่ต่างๆ มากมายและ…….
ที่นี้มีร้านกาแฟชื่อดังอย่าง “สตาร์บัคส์” อยู่ ซึ่งเป็นสาขาที่มีโครงสร้างร้านที่แปลกตา เข้ากับบรรยากาศย่านพักอาศัยของคนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นร้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และสินค้าที่แปลกใหม่เฉพาะของที่นี่อย่างเช่น แก้วกาแฟโกเบ หรือแก้วทัมเบลอร์ที่เหมาะที่จะซื้อไปเป็นของที่ระลึก หรือของฝากเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งจุดมุ่งหมายในการมาโกเบของเราในครั้งนี้ก็คือการทาน “เนื้อโกเบ” โดยเฉพาะที่บริเวณรอบๆ สถานีโมโตมาจินี้จะมีร้านที่เพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อโกเบชั้นดีได้อยู่หลายร้าน โดยร้านที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษเลยก็คือ “ร้านสเต็กแลนด์ สาขาโกเบ”「STEAK LAND・KOBE(神戸店)」
โดยเดินออกจากช่องตรวจตั๋วตะวันออกสถานีโมโตมาจิ จากนั้นก็เดินไปทางขวามือ เมื่อออกจากอาคารสถานีแล้วก็เดินเรียบทางยกระดับไปเรื่อยๆ ก็จะเจอย่านร้านกินดื่มอยู่ที่บริเวณมุมหนึ่ง
เดินจากสถานีโมโตมาจิ (Motomachi Station) มาประมาณ 5 นาที ก็จะเจอร้าน「STEAK LAND・KOBE(神戸店)」อยู่ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งเป็นร้านสเต็กที่ย่างให้ชมตรงหน้า พร้อมลิ้มลองเนื้อโกเบชั้นดีของญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่
ในครั้งต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปทานดินเนอร์ที่ร้าน STEAK LAND และเข้าพักที่โรงแรม「HOTEL WBF GOJO OMIYA」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ
【ตารางการเดินทาง Day1-4 SHINNAGATA/KITANO(KOBE)】
