หลังจากทานซุชิแสนอร่อยจนอิ่มท้องแล้วก็ออกไปที่เรือล่องแม่น้ำ (River Cruise) ของเมืองโอซาก้า
สำหรับตัวฉันซึ่งอาศัยอยู่ที่กรุงเทพ ถึงจะได้ขึ้นเรือที่แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่บ่อย ๆ แต่ว่าเรือล่องแม่น้ำของไทยและญี่ปุ่นมันจะแตกต่างกันยังไงบ้างนะ…?
ชักจะอดใจไม่ไหวแล้วสิ
ศูนย์การค้าใต้ดินของโอซาก้านั้นมีความซับซ้อนขนาดที่ว่าแม้แต่คนญี่ปุ่นเองหลายคนก็ยังหลงทางเลย แต่ว่าครั้งนี้สบายมาก หลังจากออกมาจากร้านซุชิก็เลี้ยวขวาและเดินตรงไปก็จะออกไปที่ลานกว้างซึ่งเป็นเสาเป็นโฆษณา จากตรงนั้นเลี้ยวขวาอีกทีก็จะเจอกับช่องตรวจตั๋วของรถไฟใต้ดิน
เมื่อผ่านเครื่องตรวจตั๋วแล้วก็ลงบันได จากนั้นก็ขึ้นรถไฟซึ่งมุ่งหน้าไป “เทนโนจิ” / “นากาโมสึ” จากชานชาลาหมายเลข 1 ทางฝั่งขวา
รถไฟส่วนใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นจะมี “ตู้รถไฟใช้เฉพาะผู้หญิง” ด้วยนะ
ส่วนใหญ่แล้วตู้รถไฟแบบนี้มักจะมีให้บริการเฉพาะช่วงเวลาเร่งรีบในตอนเช้าและตอนเย็น/ค่ำ แต่ก็มีแบบที่ให้บริการทั้งวันในวันธรรมดาอย่างที่รถไฟใต้ดินสายมิโดซุจิด้วยเหมือนกัน
พวกผู้ชายจะไม่สามารถขึ้นตู้รถไฟแบบนี้ได้ ยกเว้นเด็กเล็กที่ต่ำกว่าชั้นประถมและคนพิการ
ตู้รถไฟใช้เฉพาะผู้หญิงนั้น เมื่อดูจากรูปแล้วก็สามารถเข้าใจง่ายดี แถมอาจจะมีทาสีที่ตู้รถไฟอีกด้วย แต่โดยปกติแล้วก็จะมีแค่แปะสติกเกอร์เอาไว้เหมือนกับที่ในวงกลมสีเหลืองเท่านั้นแหละ
ถ้าหากพวกผู้ชายเผลอไปขึ้นรถไฟผิดตู้ ก็รีบย้ายไปตู้ขบวนอื่นจะดีกว่านะ
ถ้าหากมีตู้รถไฟใช้เฉพาะผู้หญิง ที่บริเวณจุดขึ้นรถของชานชาลาจะมีสติ๊กเกอร์แปะเอาไว้เหมือนอย่างในรูป เพราะฉะนั้นถ้าสังเกตให้ดีก่อนที่จะขึ้นรถก็จะช่วยให้เราไม่ขึ้นรถไฟผิดตู้ได้นะ
เอาล่ะ ต่อไปก็เตรียมตัวมุ่งหน้าไปที่จุดขึ้นเรือ AQUA-LINER ได้เลย
พอขึ้นไปที่ประตูทางออกหมายเลข 1 ด้วยบันไดเลื่อนแล้วก็เลี้ยวกลับ จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ
หลังจากเดินจากประตูทางออกราว ๆ 2 นาที ก็จะถึงที่ขายตั๋วของเรือ 『AQUA-LINER』
ปกติแล้วจะมี 6 เที่ยวใน 1 วัน โดยจะออกเรือทุก 1 ชั่วโมง แต่เวลาที่มีลูกค้าจำนวนมากก็มีเรือเที่ยวพิเศษเพิ่มให้ด้วย
เรือ AQUA-LINER จะล่องเรือจากโยโดยาบาชิ ผ่านทาง OAP (โรงแรมอิมพีเรียล), ปราสาทโอซาก้า, หาดฮาจิเคนยะ แล้วค่อยกลับมาที่โยโดยาบาชิ นอกจากจะสามารถใช้บริการเรือล่องแม่น้ำโดยขึ้นและลงเรือที่ท่าเรือเดียวกันได้แล้ว ยังสามารถใช้บริการเหมือนกับเป็นรถบัสทางน้ำโดยขึ้นเรือที่จุดหนึ่งและลงเรือที่อีกจุดหนึ่งได้ด้วย
ค่าโดยสาร 1700 เยน แต่ถ้าแสดง Osaka Amazing Pass แล้วสามารถขึ้นได้ฟรีในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ได้ ส่วนช่วงเดือนอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ก็สามารถใช้เป็นส่วนลดในราคาที่ต่าง ๆ กันได้
เรือได้มาถึงที่ท่าแล้ว!!
ต่อจากนี้ก็จะขอเพลิดเพลินไปกับเรือล่องแม่น้ำเป็นเวลา 55 นาทีนะ
ภายในเรือก็จะเป็นแบบนี้
เพดานอยู่ต่ำนะ เสา (วงกลมสีแดง) ซึ่งมองเห็นอยู่ที่ด้านในนั้นมีรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ ว่าแต่มันคืออะไรกันนะ?
…นั่นก็มีไว้เพื่อลอดใต้สะพานที่เตี้ยมาก ๆ นั่นเอง
เสาต้นที่ว่านั้นสามารถขยับขึ้นลงได้ ทำให้ช่วยลดความสูงของหลังคาเรือลงมาในตอนที่เรือกำลังจะลอดใต้สะพาน
ออกเดินทางได้เลย
ที่มองเห็นอยู่ด้านหลังก็คือโรงกษาปณ์โอซาก้านั่นเอง
โรงกษาปณ์โอซาก้าเป็นสถานที่จัดพิมพ์ธนบัตรและผลิตเหรียญของประเทศญี่ปุ่น
รูปร่างกลม ๆ ที่เห็นอยู่บนหัวของ ICHIGO CHAN ก็มีไว้เพื่อสื่อความหมายของเหรียญนั่นเอง
สำหรับเหรียญของญี่ปุ่น รู้ไหมว่าเหรียญ 5 เยนนั้นมีรูตรงกลาง??
สำหรับรูตรงนี้ ได้ยินมาว่าได้เจาะให้เป็นรูเพื่อจะได้ช่วยประหยัดวัสดุที่เอามาใช้ผลิตเหรียญเมื่อตอนสิ้นสุดสงคราม ถึงแม้ว่าตอนนี้ญี่ปุ่นดูเหมือนจะเป็นประเทศที่มีความร่ำรวย แต่ก็เคยมียุคสมัยแบบนั้นเหมือนกันนะ
แล้วก็ Osaka Business Park….
ระหว่างที่ชมปราสาทโอซาก้า (ตรงที่ในวงกลมสีเหลือง) ไปเพลิน ๆ ช่วงเวลา 55 นาทีก็ผ่านไปในพริบตา….
แล้วก็กลับมาที่โยโดยาบาชิอีกครั้ง
เพราะว่ามีเซียมซีที่เกี่ยวกับเรื่อง “ความรัก” ด้วย เลยไปลองเสี่ยงทายมา
คำทำนายก็คือ… ไม่บอกดีกว่าแฮะ