Day1-2 เริ่มออกเดินทางจากท่าอากาศยานนาริตะ นั่งรถไฟมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองโตเกียว เพื่อไปยังจุดมุ่งหมายแรกที่ “ย่านอาซากุสะ ASAKUSA”

ROUND THE C・H・I

ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day1-2 ชมการละเล่นทางวัฒนธรรมญี่ปุ่น “การแสดงโอะซะชิกิ โอโดริ ของเกอิชา ในอาซากุสะ”「ASAKUSA GEISHA NO OZASHIKI ODORI」ที่ “ศูนย์วัฒนธรรมและให้ข้อมูลการท่องเที่ยวอาซากุสะ”「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」หน้าประตูคามินาริมง วัดเซ็นโซ

TOKYO-FUJI-KAWAGUCHIKO-TOKYO

ICHIGO-CHAN นั่งรถไฟด่วนพิเศษสกายไลเนอร์ SKYLINER และนั่งรถไฟใต้ดินมาที่ สถานีอาซากุสะแล้ว ซึ่งสถานที่ขึ้นชื่อในบริเวณนี้ก็คือ「คามินาริมง KAMINARIMON」「วัดเซ็นโซ SENSOJI」และ「โตเกียวสกายทรี TOKYO SKYTREE」แต่นอกจากสถานที่เหล่านี้แล้วยังมีที่เที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมวิววัดเซ็นโซ พร้อมโตเกียวสกายทรีจากจุดชมวิวมุมสูง ที่「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」ซึ่งนอกจากการบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่าง Wifi ฟรี ฯลฯ แล้วก็ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเปิดประสบการณ์สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นต่างๆ ได้ที่นี่อีกด้วย ไปดูกันเลย

หลังจากที่เราได้นั่งรถไฟด่วนพิเศษสกายไลเนอร์ SKYLINER และนั่งรถไฟใต้ดิน โตเกียวเมโทรสายกินซ่า GINZA LINE จากสถานีอุเอโนะ มา 3 สถานี เป็นเวลา 5 นาทีแล้วตอนนี้เราก็อยู่กันที่ “สถานีอาซากุสะ” แล้วค่ะ ก่อนจะออกไปเดินเที่ยว เราจะของฝากกระเป๋าใบใหญ่ๆ หนักๆ เอาไว้ที่ตู้ล็อคเกอร์ก่อนนะคะ แม้ว่าภายในสถานีจะมีตู้ล็อคเกอร์อยู่แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีคนใหญ่อยู่เกือบทุกตู้ เพราะฉะนั้นในเวลาแบบนี้ เพื่อนๆ สามารถเดินไปใช้บริการตู้ล็อคเกอร์ที่ทางเข้า「ย่านร้านค้าใต้ดินอาซากุสะ ASAKUSA CHIKA SHOTENGAI」ท่ามกลางบรรยากาศสไตล์เรโทร โดยออกจาช่องตรวจตั๋วไปทางซ้ายมือทันที ซึ่งตู้ส่วนใหญ่ของที่นี่จะว่างค่ะ ไซส์เล็ก ที่สามารถใช่ประเป๋าใบเล็ก หรือถุงของฝากต่างๆ ได้ราคาวันละ 300 เยน และขนาดกลางที่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ราคาวันละ 500 เยน ตู้จะเป็นสไตล์หยอดเหรียญ 100 เยน ถ้าใครไม่มีเหรียญก็สามารถแลกเงินได้ที่เครื่องแลกเงินที่อยู่ข้างๆ ได้เลย สามารถแลกได้เฉพาะแบงค์ 1000 เยนเท่านั้น เมื่อเตรียมเหรียญเรียบร้อบแล้วก้ใส่เหรียญตามจำนวนก่อน จากนั้นก็ปิดล็อคตู้ เท่านี้ก็เรียบร้อย

เมื่อฝากของเรียบร้อยแล้วก็เดินไปย่าน “อาซากุสะ” กันเลย โดยออกจากช่องตรวจตั๋ว ตรงไปเรื่อยๆ ขึ้นบันไดที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นก็เดินไปทางซ้ายมือ เพื่อออกมาสู่ส่วนด้านนอก

เมื่อออกมาแล้วก็จะเห็นรถลากสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ หรือนักท่องเที่ยวที่แต่งชุดกิโมโนเดินอยู่เต็มไปหมด และด้านซ้ายมือจะมีสตาร์บัคส์ที่ตกแต่งด้วยไม้สไตล์ญี่ปุ่นด้วย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนรู้สึกง่วงจากเที่ยวบินเมื่อคืนก็แวะไปซื้อกาแฟซักแก้วก่อนออกเดินทางได้เลย

เมื่อออกมาจากอาคารแล้วข้ามถนนไปอีกฝั่งก็จะเข้ามาสู่ย่านร้านค้ามีหลังคากับ “ชินนาคามิเสะ”「SHIN-NAKAMISE」ภายในย่านนี้จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านของฝาก ร้านกาแฟ หรือ ร้าน DRUG STORE ต่างๆ มากมายให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันตั้งแต่เริ่มทริปเลยค่ะ

นอกจากนี้ภายในย่านนี้ยังมีร้านเช่าชุดญี่ปุ่น “ชุดกิโมโน” ราคาไม่แพงอยู่หลายร้าน ไหนๆ ก็มาเดินย่านอาซากุสะที่มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นตั้งแต่โบราณแล้วได้เดินเที่ยวด้วยชุดกิโมโนก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยนะคะ ใส่ได้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายเลยค่ะ

เมื่อเข้าช่วงหน้าร้อนแล้ว ก็อยากจะแนะนำเป็นชุด “ยูกาตะ” ค่ะ ที่ย่านร้านค้า “ชินนาคามิเสะ” นี้ก็มีร้านจำหน่ายชุดยูกาตะราคาไม่แพงอยู่มากมายหลายร้าน หน้าร้อนของญี่ปุ่นที่อากาศแทบจะไม่แตกต่างจากกรุงเทพนี้ ลองเปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะสำหรับหน้าร้อนเดินเที่ยวรอบอาซากุสะ และถ่ายรูปเล่นตามสถานที่ต่างๆ ก็ทำให้ทริปนั้นๆ สนุกขึ้นไปอีกเลยนะคะ

เดินเที่ยวชม “ชินนาคามิเสะ” ช้อปปิ้ง และทานของกินเล่นต่างๆ ไปเพลินๆ ก็จะมาถึงย่านร้านค้า “นาคามิเสะ”「NAKAMISE」หน้าวัดเซ็นโซกันแล้วค่ะ ซึ่งถนนใน “นาคามิเสะ” คนจะแออัดมากๆ ดังนั้นเราจะเดินไปทางเดินด้านหลัง และเลี้ยวไปทางซ้าย จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ เพื่อออกไปสู่ถนนใหญ่ จากนั้นก็ข้ามถนนใหญ่ไปก็จะเจอตึกกระจกที่ตกแต่งด้วยไม้อยู่ สถานที่นี้ก็คือตึก『ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER』

เป็นอีกสถานที่ที่ควรแวะมาหากได้มาที่อาซากุสะเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในอาคารแล้วก็จะเจอ Information ขนาดใหญ่อยู่ซ้ายมือ ซึ่งเป็นจุดที่สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ “อาซากุสะ” หรือ ภายในโตเกียวได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมดีๆ สำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ นั่นก็คือ「ไกด์อาสาสมัครไปทัวร์เดินรอบอาซากุสะ」เพียงแค่ติดต่อเข้าร่วมกิจกรรมที่ Information เท่านั้นก็สามารถร่วมท่องเที่ยวอาซากุสะได้แบบฟรีๆ(บางกิจจกรรมมีค่าใช้จ่าย)วันที่ ICHIGO-CHAN ไปเป็นวันที่มีกิจกรรม「ASAKUSA GEISHA NO OZASHIKI ODORI」แปลว่า “การแสดงโอะซะชิกิ โอโดริ ของเกอิชา ในอาซากุสะ” เป็นกิจกรรมที่สามารถชมการระบำของ “เกอิชา” ตัวจริงได้แบบใกล้ชิด ซึ่งไม่ได้หาดูง่ายๆ ได้ทั่วไป เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพียง 2 ครั้งต่อปี ก็คือช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงช่วงฤดูร้อน และช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ละช่วงจะจัดเป็นระยะเวลา 15-20 วัน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี) และที่สำคัญกิจกรรมนี้สามารถเข้าชมได้ฟรี !

 “ซะชิกิ โอโดริ” 『ZASHIKI ODORI』 จัดขึ้นวันละ 2 รอบ เวลา 13:00 และ 14:30 เป็นระยะเวลา 30 นาที(รวมแล้วจะใช้เวลา 45 นาที)

การเข้าชมการแสดงซาชิกิจะเป็นระบบบัตรคิว จุคนได้ 85 คน+แบบยืน 30 คน ซึ่งจะเริ่มแจกบัตรคิวตั้งแต่เช้า 10 โมงครึ่ง ที่ด้านข้าง Information หากต้องการเข้าชมการแสดงแนะนำว่าให้รีบมาเอาบัตรคิวที่「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」ก่อนแล้วระหว่างรอก็สามารถเดินเที่ยว หรือทานอาหารรอการแสดงได้เลย

และไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างของ「ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION CENTER」ก็คือ จุดชมวิวที่ดาดฟ้าชั้น 8F ซึ่งสามารถชมวิว “นาคามิเสะ NAKAMISE(เซ็นโซจิโอโมเตะซันโด SENSOJI OMOTESANDOU)”  “วัดเซ็นโซ” “ความสวยงามของเจดีย์หาชั้น” และบรรยากาศโดยรวมของผู้คนที่อยู่ภายในย่านนี้

นอกจากนี้ยังได้เห็นวิวทางฝั่งโตเกียวสกายทรี และตึกๆ ข้าง คือตึกของบริษัทอาซาฮีที่รูปร่างประหลาดเป็นเอกลักษณ์ ส่วนดาดฟ้าก็สามารถเข้าชมได้ฟรี ! สถานที่นี้เป็นสถานที่ที่สามารถชมวิวโดยรอบของย่านอาซากุสะได้ พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ของย่านนี้ด้วย แต่จุดชมวิวนี้อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก ทำให้บนนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากเท่าที่อื่นๆ เพราะฉะนั้นเป็นโอกาสดีที่จะได้รูปสวยๆ ปราศจากผู้คนพลุกพล่านเลยนะคะ

และด้านข้างจุดชมวิวดาดฟ้าก็มีคาเฟ่「TOKYO MIHARASHI CAFÉ」อยู่ด้วย จากจุดนี้เราจะได้ชมวิวบริเวณ “วัดเซ็นโซ” หรือ “โตเกียวสกายทรี” ไปพร้อมๆ กับการทานอาหารหรือจิบชาชิวๆ เลยค่ะ

ซึ่งเมนูที่นี่ก็จะมีหลากหลาย ทั้ง ซอฟ์ตครีมรสต่างๆ อย่าง วนิลา ช๊อคโกแลต หรือ มัทฉะ(แต่ละชนิด 350 เยน)เมนูเครื่องดื่ม และอาหารเมนูต่างๆ เช่น ข้าวหน้าแกงกะหรี่(850 เยน)หรือ ข้าวหน้าโรโคโมโค่ ROCOMOCO DON(850 เยน)เป็นต้น อากาศด้านนอกวันนี้อยู่ที่ 34 องศา ICHIGO-CHAN เดินข้างนอกมาร้อนมากๆ เลยจะขอคลายร้อนด้วย ซอฟ์ตครีมเย็นๆ ซักหน่อย

จากนั้นลงมาดูที่ชั้น 7F กันบ้าง ที่ชั้นนี้จะมีการนำเสนอข้อมูลทั้งสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณอาซากุสะ หรือ กิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นในแต่ละฤดู ซึ่งบริเวณอาซากุสะที่เป็นเมืองเก่าแก่มีวัฒนธรรมเด่นชัดนี้จะมีการจัดงานเทศกาลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง “เทศกาลซันจะ”「SANJA MATSURI」นอกจากนี้ก็มี งานดอกไม้ไฟที่แม่น้ำซุมิดะ หรือ งานคานิวัลในเดือนสิงหาคม ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งในเดือนสิงหาคมจะมีการลอยโคมไฟ ขึ้นที่แม่น้ำซุมิดะ ที่ไหลผ่านอาซากุสะอีกด้วย เป็นเทศกาลที่คล้ายกับลอยกระทงในบ้านเราเลยค่ะ

และมุมหนึ่งของโซนจัดแสดง ICHIGO-CHAN ได้เจอกับ “ไทโตคุง”「TAITOKUN」คาแรคเตอร์ของเขตไทโตด้วย เลยถ่ายรูปด้วยกันซักหน่อย

ตอนนี้ก็ได้เวลาเริ่มการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」ของเกอิชาในอาซากุสะแล้ว เราจะไปกันที่ชั้น 6F กันเลย ซึ่งฮอลล์จัดแสดงจะเปิดประตูก่อนเวลาแสดง 30 นาที ที่นั่งจะเป็นแบบระบุที่นั่งชัดเจน เพราะฉะนั้นเข้าไปนั่งที่นั่งตามหมายเลข Seat No ที่กำหนดไว้บนบัตรเข้าชมเลย สติ๊กเกอร์หมายเลขที่นั่งจะถูกติดไว้ที่เบาะที่นั่งเลยค่ะ

การแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」ก็คือการแสดงทางวัฒนธรรมที่ถูกสืบทอดมายาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจะมีการแสดงด้วยการเต้น ร้อง หรือ ฉะมิเซ็น(เครื่องดนตรีญี่ปุ่นมี 3 สายลักษณะคล้ายกีตาร์) นอกจากนี้ก็มีการเล่นโอะซะชิกิ อาโซบิ (OZASHIKI ASOBI) กับแขกที่โรงน้ำชา หรือภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นสุดหรู ซึ่งเดิมทีจะเป็นการละเล่นระหว่างแขกและพนักงานผู้หญิง แต่ก็ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยทำให้การละเล่นโอะซะชิกิ อาโซบิ (OZASHIKI ASOBI) เป็นการละเล่นเฉพาะเกอิชาที่ยึดเป็นอาชีพหลักเฉพาะทางนั่นเอง

ก่อนจะเริ่มการแสดง โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI) ก็จะเป็นการละเล่นโอะซะชิกิ ก่อน โดยจะเลือกผู้โชคดี 12 คนเท่านั้นจากผู้เข้าร่วม 100 คน เพื่อมาร่วมเล่นบนเวที ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งของผู้โชคดีที่ได้ขึ้นไปบนเทวีเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย น่าเสียดายจังเลยที่ ICHIGO-CHAN ไม่ได้ขึ้นไปเล่นบ้าง

และผู้โชคดีทั้ง 12 คนก็จะได้ร่วมเล่น「HASHIMAKI ASOBI (箸巻き遊び)」 กับเกอิชา ด้วยการนำจอกเหล้ามาผูกติดเอาไว้ที่ปลายเชือกด้านหนึ่ง อีกด้านผูกติดกับตะเกียบ และหมุนๆ ให้จอกเหล้าขึ้นมาติดตะเกียบให้ได้เร็วที่สุดเท่านั้น ง่ายมากๆ เลยค่ะ ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ก็เป็นมือใหม่ทั้งนั้น ตอนเกอิชาสาธิตให้ดูทุกคนก็ตั้งใจดูมากๆ

* HASHIMAKI ASOBI (箸巻き遊び) อ่านว่า “ฮาชิมากิ อาโซะบิ” แปลว่า การละเล่นม้วนตะเกียบ

และนี่ก็คือบรรยากาศการเล่นโอซะชิกิ อาโซบิค่ะ

ท่ามกลางเสียง “ฉะมิเซ็น” ที่มีความงดงามสละสลวย เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น ทุกคนตั้งใจหมุนตะเกียบเพื่อดึงจอกเหล้าขึ้นมาใหญ่เลยค่ะ เป็นกานละเล่นง่ายๆ ไม่ว่ามือใหม่ก็สามารถสนุกสนานไปพร้อมๆ กันได้ แค่ดูเฉยๆ ก็เผลอยิ้มออกมาเลย และผู้ชนะก็คือ ชาวต่างชาติเสื้อแดงที่อยู่ถัดจากเกอิชาไป 2 คนทางด้านขวานั่นเอง ยินดีด้วยมากๆ เลยค่ะ

หลังจากที่ได้ร่วมเล่น “การละเล่นโอะซะชิกิ” กันไปแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการแสดง「โอะซะชิกิ โอโดริ (OZASHIKI ODORI)」จากเกอิชาของอาซากุสะ ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ไม่สามารถหาดูได้ง่ายๆ เราจะไปชมบรรยากาศพร้อมๆ กันในตอนหน้า ฝากติดตามด้วยนะคะ

【ตารางการเดินทาง Day1-2 ASAKUSA CULTURE TOURIST INFORMATION】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶