ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-2 เที่ยวชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ “ปราสาทอินุยามะ INUYAMA CASTLE” พร้อมของกินประจำท้องถิ่นต่างๆ มากมาย
INUYAMA-NAGOYA-MINOKAMO-NAGOYA
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เดินทางจากกรุงเทพ นั่งเครื่องบินมาเป็นเวลา 6 ชั่วโมง เพื่อมาลงที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ Chubu International Airport ซึ่งเราได้เดินทางมาที่สถานที่แรกของทริปที่ “อินุยามะ”「INUYAMA」โดยนั่ง Limited Express μ-SKY(มิว-สกาย) มาอีกเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง “อินุยามะ INUYAMA” ตั้งอยู่บริเวณทางเหนือของจังหวัดไอจิ ที่เป็นที่ตั้งของนาโกย่า ซึ่งเป็นเมืองเก่าใกล้ปราสาทที่มาคงความเก่าแก่ บรรยากาศเหมือนได้ย้อนเวลามาในอดีตของญี่ปุ่น โดย “ปราสาทอินุยามะ INUYAMA CASTLE” ที่มีอายุมากกว่า 400 ปีนี้เป็นปราสาทที่เก่าแก่และคงสภาพปราสาทมาตั้งแต่ก่อตั้งเลยทีเดียว
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “ปราสาทอินุยามะ INUYAMA CASTLE” และเมืองบริเวณรอบๆ ปราสาทกันค่ะ
เดินทางจากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ หรือนาโกย่า มายังสถานีอินุยามะ เราจะต้องเดินไปอีกประมาณ 15 นาที และเดินทางมายัง “ศาลเจ้าซันโค อินาริ SANKO INARI SHRINE” ที่อยู่ข้าง “ปราสาทอินุยามะ INUYAMA CASTLE” ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองอินุยามะ
“ศาลเจ้าซันโค อินาริ SANKO INARI SHRINE” ที่มี “แผ่นไม้ขอพรเอมะ รูปหัวใจ” นี้ด้านหลังของศาลเจ้าจะมีเสาแดงเรียงกันอยู่มากมายเหมือนกับศาลเจ้าฟูชิมิอินาริที่เกียวโต เป็นมุมถ่ายรูปที่สวยและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งเสาแดงนี้ก็เป็นทางลัดไปสู่ปราสาทอินุยามะด้วยเช่นกัน หลังจากได้ถ่ายรูปไปเต็มที่แล้ว ก็เดินผ่านเสาโทริอิไปหลายสิบเสาเพื่อเดินไปที่ปราสาทกันเลย เมื่อพ้นเสาโทริอิไปแล้วก็เดินไปทางขวามือ จากนั้นก็เดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ
ซึ่งบริเวณตีนเขาที่เป็นที่ตั้งของปราสาทอินุยามะ นี้จะมีศาลเจ้าอยู่มากมาย นอกจาก「ศาลเจ้าซันโค อินาริ SANKO INARI SHRINE」แล้วก็มี「ศาลเจ้าซารุตะฮิโกะ SARUTAHIKO SHRINE」หรือ「ศาลเจ้าฮาริสึนะ HARITSUNA SHRINE」เป็นต้น ซึ่งแต่ละที่จะมีเรื่องที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป สามารถเดินเที่ยวศาลเจ้าแต่ละที่ได้ระหว่างทางขึ้นไปยังปราสาทเลยค่ะ คร่าวๆ แล้ว 「ศาลเจ้าซันโค อินาริ SANKO INARI SHRINE」จะโดดเด่นเรื่อง “การค้าขาย”「ศาลเจ้าซารุตะฮิโกะ SARUTAHIKO SHRINE」โดดเด่นเรื่อง “การเดินทางการขับขี่ปลอดภัย” และ「ศาลเจ้าฮาริสึนะ HARITSUNA SHRINE」โดดเด่นเรื่อง “การคลอดบุตร การมีบุตร และอายุยืน” นั่นเอง
เมื่อขึ้นเนินมากจนสุดแล้ว ก็จะมีจุดจำหน่ายบัตรเข้าชมปราสาทอินุยามะ อยู่ทางด้านขวามือ บัตรเข้าชมจะอยู่ที่ผู้ใหญ่ 550 เยน ซึ่งเพื่อนๆ สามารถซื้อได้ทั้งที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วและเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ แต่หากเพื่อนๆ ต้องการเที่ยวชม “เมจิ มูระ”「MEIJI MURA」ด้วยก็สามารถซื้อตั๋วชุด “ปราสาทอินุยามะ” และ “เมจิ มูระ” ได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว กับ『INUYAMA ROMAN-TICKET(犬山浪漫券)』(1900 เยน)ได้ ซึ่งจะคุ้มกว่าซื้อตั๋วแยกถึง 300 เยนเลยทีเดียว การซื้อตั๋วสามารถชำระได้ด้วยเงินสดเท่านั้น ไม่รองรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตนะคะ
“ปราสาทอินุยามะ”「INUYAMA CASTLE」ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 480 ปีที่แล้วในปีพ.ศ.2080
ซึ่งปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่มีส่วนห้องนั่งเล่น ที่มีกลหลวง 「ISHIOTOSHI NO MA(石落としの間) หรือ ช่องโยนหิน」และ「MUSHAGAKUSHI NO MA (武者隠しの間) หรือ ที่หลบซ่อนนักรบซามุไร」เพื่อปกป้องการบุกรุกของศัตรูหลงเหลืออยู่อีกด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นการสร้างเพื่อการต่อสู้ แต่ก็เป็นรูปแบบการสร้างที่สวยงาม เป็นปราสาทที่มีเสนห์ได้รับความนิยมทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเลยทีเดียว
“ปราสาทอินุยามะ”『INUYAMA CASTLE』ที่ตั้งอยู่บนเนินเล็กๆ ที่มีความสูงประมาณ 85 เมตร
นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองอินุยามะแล้ว ยังเป็นสมบัติของชาติที่ยังคงหลงเหลือมาตั้งแต่สมัยโบราณ เทียบเคียงกับ “ปราสาทฮิเมจิ”(จังหวัดเฮียวโงะ)・ปราสาทมัตสึโมโตะ(นางาโนะ)・ปราสาทฮิโกเนะ(ชิงะ)・ปราสาทมัตสึเอะ(จังหวัดชิมาเนะ)นั่นเอง
ถึงแม้ว่าปราสาทแห่งนี้จะมีขนาดเล็กๆ กว่าเมื่อเทียบเคียงกับปราสาทฮิเมจิ หรือ ปราสาทมัตสึโมโตะ แต่ก็เป็นปราสาทที่มีประวัติยาวนานมากที่สุด ในบรรดาปราสาทที่เป็นสมบัติของชาติเลยทีเดียว
เพื่อนๆ สามารถเพลิดเพลินกับปราสาทได้พร้อมๆ กับบรรยากาศในแต่ละฤดูได้อย่างสวยงาม เช่น บรรยากาศท้องฟ้าสดใสกับต้นไม้เขียวชอุ่มในฤดูร้อน ในช่วงนี้ ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่ต้นไม้ใบหญ้าบริเวณรอบๆ หอยคอยปราสาทจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ตัดกับวิวหอคอยปราสาทโบราณที่สวยงามยิ่งได้บรรยากาศมากๆ เลยค่ะ ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะเยอะเป็นพิเศษ
เดินเข้าไปในหอคอยปราสาทจากทางเข้าล่างหอคอยปราสาทเลย ซึ่งการเข้าชมภายในหอคอยปราสาทนั้นจะต้องถอดรองเท้า เหมือนการเข้ากุฏิในวัดไทยโดยทั่วไปเลยค่ะ เมื่อเข้ามาแล้วก็ถอดรองเท้าใส่ถุงที่ได้รับบริเวณทางเข้า เพื่อเดินเข้าชมได้เลย ภายในปราสาทที่หลงเหลือมาตั้งแต่สมัยก่อนอายุเกือบ 500 ปี บันไดภายในปราสาทจะมีความชันมาก เป็นองศาที่แทบจะตั้งฉากเลย ต้องค่อยๆ ปีนขึ้นไปทีละขั้นๆ อย่างช้าๆ ซึ่งเสน่ห์ที่สำคัญของปราสาทญี่ปุ่นก็คือ นอกจากเราจะได้ชมกำแพงหินที่ถูกก่อขึ้นไปที่ละขั้นๆ แล้ว เรายังได้สัมผัสตัวหอคอยปราสาทแบบใกล้ชิด เริ่มด้วยการขึ้นบันไดที่ชันนี้ไปเลย
ภายในปราสาทแห่งนี้ ก็จะมีการจัดแสดงสิ่งต่างๆ มากมายทั้ง โมเดลไม้ปราสาทอินุยามะ หรือชุดนักรบและหมวกคาบูโตะที่ถูกใช้จริงในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงกระเบื้องหลังคาที่แตกหักลงมาจากเหตุฟ้าผ่าอีกด้วย ซึ่งเพื่อนๆ สามารถชมได้แบบใกล้ชิดเลยทีเดียว
จากทางเข้าเราจะต้องขึ้นบันไดชันทั้งหมด 5 ครั้ง เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของหอคอยปราสาทแล้วก็จะออกมาสู่ระเบียง「廻縁(มาวาริเอ็น MAWARIEN)」จาก “มาวาริเอ็น” นี้เพื่อนๆ สามารถชมวิวทั้งวิวแม่น้ำคิโซะ ที่ไหลอยู่บริเวณทิศเหนือของปราสาท วิวธรรมชาติสีเขียวชอุ่ม บริเวณสองฝั่งแม่น้ำคิโซะของเมืองนิโนกาโมะ วิวเมืองคานิ ไปพร้อมๆ กับท้องฟ้าสดใสที่สะท้อนลงบนผิวแม่น้ำ เหล่านี้ได้อย่างสวยงาม
แม่น้ำคิโซะ (KISO RIVER) ที่อยู่บริเวณปราสาทอินุยามะนี้ เมื่อย้อนขึ้นแม่น้ำไปอีกประมาณ 13km ไปถึงหุบเขาบริเวณมิโนะกาโมะ จะมีไลน์แม่น้ำที่เรียกว่า「JAPAN RHINE RHINE」ซึ่งเป็นวิวที่ให้บรรยากาศเหมือน “แฟรงก์เฟิร์ต” หรือ “ไฮเดลแบร์ก” ที่ประเทศเยอรมนี ที่เป็นแนวเมืองเก่าเรียบแม่น้ำ เหมือนกับที่เราเปรียบเทียบเขาใหญ่ว่าเป็น “ตอสคานา” หรือ เรียกวังน้ำเขียวว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์” นั่นเองค่ะ
หลังจากที่ได้เที่ยวชมหอคอยปราสาทแล้ว ก็เดินกลับมาตามทางเดิมเพื่อมาที่บริเวณเมืองเก่ารอบปราสาท(บริเวณทที่มีศาลเจ้าซันโคอินาริ)กันเลย ซึ่งบริเวณนี้จะมีบริการรถลากจากเหล่าดาวตลกมือใหม่「OWARAI JINRIKISHA(お笑い人力車)」(1000 เยน/10 นาที)สำหรับนักท่องเที่ยวให้ได้นั่งเที่ยวชมบรรยากาศเมืองโบราณ ได้เหมือนย้อนเวลาไปยังอดีตเลยค่ะ
ซึ่งที่บริเวณ “ปราสาทอินุยามะ” นี้จะมีการจัดงาน “เทศกาลอินุยามะ”『INUYAMA MATSURI』ขึ้นในช่วงดอกซากุระบาน ในวันเสาร์/อาทิตย์แรก ของเดือนเมษายนในทุกๆ ปี
จะมีขบวนแห่รถ “ดาชิ” ในงานเทศกาล มีความสูงถึง 3 ชั้นและมีมากถึง 13 อัน แห่ไปรอบๆ เมือง เป็นเทศกาลพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิประจำเมือง ที่เมื่อถึงเวลาค่ำ ก็จะได้ชมขบวนแห่งรถดาชิ ที่มีโคมไฟประดับอยู่คันละมากถึง 365 อันแห่ไปภายในเมืองที่ส่องไปยังทางสายซากุระที่สวยงาม โดยเทศกาลเก่าแก่ที่มีมานานกว่า 380 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ.2178 นี้ได้ถูกบันทึกเป็น “มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ หรือ Intangible Cultural Heritage(ICH)” ผู้คนมากมายทั้งภายในเมืองและจากแดนไกลต่างเดินทางมาเข้าร่วมชมเทศกาลนี้กันเป็นจำนวนมาก
ท่ามกลางเมืองที่สวยงาม และงานเทศกาลอินุยามะก็เป็นสิ่งที่มีเสน่ห์ แต่เสน่ห์ที่เป็นจุดเด่นของเมืองบริเวณรอบๆ ปราสาทอินุยามะก็คือ “การเดินทานของทานเล่น” บริเวณโดยรอบจะมีร้านค้าแผงลอยต่างๆ เรียงรายกันอยู่มากมาย ทั้งอาหารขึ้นชื่อของอินุยามะ เนื้อญี่ปุ่นชั้นดี “ซูชิเนื้อฮิดะ”(2 คำ 500 เยน)หรือ “โกเฮโมจิ五平餅”(200 เยน)มีอาหารน่าอยู่มากมายหลายร้านเลยทีเดียว
ภายในเมือง “อินุยามะ” บริเวณรอบๆ ปราสาทที่มีอาหารอร่อยๆ น่าทานอยู่มากมายนี้จะมีอาหารที่ได้รับความนิยมอยู่มากก็คือ “ข้าวปิ้งซอสโชยุเสียบไม้”「SHOUYU OKOGE KUSHI」(160 เยน)ของ Juhyoya Toshi Tawaraya Inuyama Inoue’s house ที่เคยได้รับเลือกเป็นอันดับหนึ่งในการจัดอันดับอาหารของบริเวณนี้ เป็นหนึ่งเมนูที่นำข้าวปั้นซอสโชยุไปย่างไฟจนได้ที่ และเสียบไม้พร้อมกับหัวไช้เท้าดองที่ชื่อว่า「NARAZUKE」และ「MORIGUCHI ZUKE」ข้าวปั้นย่างที่กรอบนอกนุ่มใน พอทานกับผักดองแล้วอร่อยเข้ากันมากๆ ถ้าได้มาจะต้องลองเลยค่ะ นอกจากอร่อยแล้ว ยังได้รูปสวยๆ น่ารักๆ อีกด้วย
พอได้ทาน “ข้าวปิ้งซอยโชยุเสียบไม้”「SHOUYU OKOGE KUSHI」แทนที่จะอิ่มแต่ ICHIGO-CHAN กลับหิวขึ้นกว่าเดิมเลยค่ะ ตอนนี้ก็เลยเวลาเที่ยงแล้วด้วย เราจะไปทานอาหารในเมืองอินุยามะบริเวณรอบๆ ปราสาทกันเลย
วันนี้เราเลือกเป็นร้าน “โดเตะมันจิโร่”『DOTEMANJIROU』ที่สามารถทานอาหารขึ้นชื่อของพื้นที่อินุยามะ และอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดไอจิ
บรรยากาศภายในร้านก็จะดูเป็นร้านญี่ปุ่นแบบโบราณ ตกแต่งด้วยโต๊ะไม้สีเข้ม มีที่นั่งแบบโต๊ะ 4 ที่นั่งอยู่หลายโต๊ะ และที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ รวมแล้วมีประมาณ 25 ที่นั่ง ถึงแม้ว่าจะมากันแบบกลุ่มก็สามารถรองรับได้สบายเลย
เมนูภายในร้านมีดังนี้
ข้าวหน้าหมูทอด “โดเตะคัตสึดง”「DOTE KATSUDON(どてかつ丼)」(850 เยน)
ข้าวหน้าหมูทอดมิโซะ “มิโซะคัตสึดง”「MISOKATSUDON(味噌カツ丼)」(750 เยน)
ข้าวหน้าหมูทอดซอส “ซอสคัตสึดง”「SAUCE KATSUDON(ソースかつ丼)」(820 เยน)
“โดเตะดง”「DOTEDON(どて丼)」(750 เยน)
“โดเตะทามะอุดง”「DOTETAMAUDON(どて玉うどん)」(750 เยน)
ซึ่งคำว่า “โดเตะ” ที่เป็นชื่อร้านและ เป็นชื่ออยู่ในเมนูนั้นก็คือ “โดเตนิ「DOTENI(どて煮)」อาหารประจำท้องถิ่นของคนจังหวัดไอจิ ที่ครอบคลุมไปถึงนาโกย่า และอินุยามะนี้ ในเมนูที่ชื่อว่า “โดเตะดง”「DOTEDON」ซึ่งเมนูนี้ก็คือ การนำเอ็นเนื้อวัวมาตุ๋นต้มกับมิโซะแดง “อากะมิโซะ” จนได้ที่จนนุ่ม ซึ่ง “โดเตะดง”「DOTEDON」ก็คือการนำเอา “โดเตะนิ”「DOTENI」มาราดข้าวนั่นเอง
ซึ่งวันนี้ ICHIGO-CHAN สั่งเป็น “มิโซะคัตสึดง”「MISOKATSUDON」(750 เยน)ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูที่เป็นอาหารประจำท้องถิ่นของนาโกย่า หนึ่งใน “อาหารประจำนาโกย่า”「NAGOYAMESHI(名古屋めし)」นั่นเอง ด้วยหมูทอดกรอบๆ ที่ผสมกับซอสมิโซะหวานเค็มเข้มข้น ยิ่งทานกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ด้วยแล้ว อร่อยมากจนเป็นหนึ่งรสชาติที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ
โดยเมนูขึ้นชื่อที่อยู่ในรายการของ “อาหารประจำนาโกย่า”「NAGOYAMESHI(名古屋めし)」ก็คือ「มิโซะคัตสึ MISOKATSU(味噌カツ)」「ปีกไก่ TEBASAKI(手羽先)」「กุ้งทอด EBI FRIED」และ「อุดงมิโซะ MISO NIKOMI UDON(味噌煮込みうどん)」เป็นต้น เป็นอาหารที่มีรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษที่จะทำให้คุณติดใจอย่างแน่นอน หลายๆ คนติดใจรสชาติของอาหารนาโกย่าจนต้องกลับมาทานซ้ำเลยทีเดียว
อ่านรีวิวอาหารขึ้นชื่อของนาโกย่า “อาหารประจำนาโกย่า”「NAGOYAMESHI(名古屋めし)」ได้ทาง ICHIGO-JAPAN คลิ๊กเลย
เป็นร้านที่อบอุ่นเหมือนได้ทานข้าวกับครอบครัวเลยกับร้าน “โดเตะมันจิโร่”「DOTEMANJIROU」แน่นอนว่ารสชาติอาหารก็จะต้องอร่อยอยู่แล้ว แต่ที่ทำให้อิ่มใจมากกว่าก็คือรอยยิ้มที่อบอุ่นของคนที่ร้าน เป็นมื้อที่ดีมากๆ อีกมื้อหนึ่งเลยค่ะ และเราจะมุ่งหน้าไปที่หมายต่อไปที่ “เมจิ มูระ”「MEIJI MURA」กันเลย
ซึ่ง “เมจิ มูระ”「MEIJI MURA」ที่เรากำลังจะไปหลังจากนี้ สามารถเดินทางไปได้โดยนั่งรถบัสจากสถานีอินุยามะ
ออกจากร้าน “โดเตะมันจิโร่”「DOTEMANJIROU」ไปทางขวามือ และตรงไปเรื่อยๆ จากนั้นก็เดินไปที่ถนนใหญ่ผ่านบริเวณอินุยามะเมืองรอบปราสาทไปทางซ้ายมือ และเดินตรงไปตามถนนใหญ่เรื่อยๆ ประมาณ 10 นาทีก็จะมาถึงสถานี “อินุยามะ INUYAMA STATION” เลย ซึ่งป้ายรถบัสของสถานีอินุยามะจะอยู่ทางประตูทิศเหนือ HIGASHI GUCHI(東口) ที่มีสถานีอินุยามะขั้นกลาง
โดยขึ้นบันไดสถานีอินุยามะไป และเดินตรงไปเรื่อยๆ โดยมีช่องตรวจตั๋วอยู่ทางขวามือ เมื่อออกมาจากประตูทิศเหนือ HIGASHI GUCHI(東口) แล้วก็เดินไปทางซ้ายมือ ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอป้ายรถบัสเลย
ซึ่งรถบัสจากสถานีอินุยามะ ไป เมจิมูระ นั้นจะต้องนั่งรถบัสจากสถานีอินุยามะ INUTAMA STATION(犬山駅) ประตูทิศเหนือ HIGASHI GUCHI(東口) ป้ายบัสหมายเลข 2 โดยมีรอบวิ่งวันธรรมดาชั่วโมงละ 2 เที่ยว ในทุกๆ นาทีที่ 28 และ 58 ใช้เวลาเดินทางไปสู่หน้าเมจิมูระเป็นเวลา 20 นาที
ซึ่ง “เมจิมูระ” นี้เป็นธีมปาร์คจัดแสดงเมืองที่มีอาคารทางประวัติศาสตร์จากทั่วประเทศญี่ปุ่นเอาไว้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเที่ยวชม และร่วมสนุกกิจกรรมต่างๆ มากมาย
ครั้งหน้าเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชมภายใน “เมจิมูระ MEIJI MURA” กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ ♪
【ตารางการเดินทาง Day1-2 INUYAMA CASTLE】