Day1-2 ตามรอยพระบาทกษัตริย์ของไทยไปกับวัดนิตไต「KAKUOSAN NITTAIJI」

Day1-2 ตามรอยพระบาทกษัตริย์ของไทยไปกับวัดนิตไต「KAKUOSAN NITTAIJI」

ICHIGO-CHAN นั่งเครื่องมาจากกรุงเทพใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงตอนนี้ก็อยู่ญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และที่แรกที่เราได้ไปมาก็คือย่านร้านค้าโอสุ เดินกินไก่ทอด และช้อปปิ้งที่ห้างจำหน่ายของมือสองที่「KOMEHYO」

และไปขอพรที่วัด「OSU KANNON」เพื่อขอพรให้เราได้เจอแต่สิ่งดีๆในทริปนี้

และวันนี้เราจะเดินกลับมาที่ย่านร้านค้าโอสุกันอีกนิดหน่อย จากนั้นมุ่งหน้าไปที่วัด「KAKUOSAN NITTAIJI」

ที่วัดนี้ได้มีการบวงสรวงพระบรมสารีริกธาตุที่รัชกาลที่ 5 ได้ทรงบริจาคไว้ให้ เรียกได้ว่าเป็นวัดที่เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างไทยและญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

วันนี้เราจะมาแนะนำวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย ที่ในหลวงออกก่อนรัชกาลที่ 9 ได้ทรงเสร็จมาเมื่อปี พ.ศ. 2506 และที่นั่นยังได้ดูแลรักษาต้นไม้ที่พ่อหลวงองค์ปัจจุบันได้ทรงปลูกเอาไว้เป็นอย่างดีกับวัด「KAKUOZAN NITTAIJI」

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้กราบไหว้ที่วัด「OSU KANNON」

ก็ผ่านมาที่「ย่านร้านค้าโอสุ」อีกรอบเพื่อไปที่สถานี「KAMIMAEZU STATION」

เดินกลับไปตามทางเดิมเหมือนตอนขามาเลย

ระหว่างทางเจอร้านขายของฝาก「OSU OMIYAGE COMPANY」ด้วย

ป้ายร้านเขียนคำว่า「OMIYAGE」ที่แปลว่าของฝากไว้หลายภาษาเลย ทั้งภาษาไทย อังกฤษ เกาหลี จีน เวียดนาม มาเลเซีย อินเดีย อาราเบีย…………ยังมีอีกนะ แต่เรารู้แค่นี้ 555

ขากลับเราจะไม่ผ่านทางที่เรามา「BANSHOJI DORI」แต่จะกลับไปอีกทางที่「NIOMON DORI」

ออกจากเส้นย่านร้านค้าโอสุเพื่อไปถนนใหญ่ และเลี้ยวขวา และแยกแรกคือทางเข้า「NIOMON DORI」เลี้ยวซ้ายไปเพื่อเข้าไปสู่ย่านร้านค้า

เมื่อเทียบเส้นนี้กับ「BANSHOJI DORI」แล้ว เส้นนี้จะมีร้านอาหารเยอะกว่ามาก

และหนึ่งในนั้นก็คือร้านพิซซ่า 『SOLO PIZZA』แสนน่าทานราคาก็ไม่แพง และเป็นที่กำลังพูดถึงกันในโซเชียลด้วย

เมื่อกี้เพิ่งกินไก่ทอด「คาราเกะ」ไปแต่กลิ่นหอมๆของพิซซ่ามันทำให้ ICHIGO-CHAN อดใจไม่ไหวจริงๆ

เป็นร้านที่อบพิซซ่าจากเตาโดยเฉพาะเมนูพิซซ่ามาเกริต้า「Margherita」แค่ 350 เยนเองง!

ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็แค่ร้อยกว่าบาทเอง แถมยังได้กินพิซซ่าแบบดั้งเดิมอีก

ที่ร้านจะเป็นแบบบริการตัวเองเหมือนแม็คโดนัลเลย

ร้านจะมีสองชั้น ชั้นล่างจะมีเคาเตอร์และที่นั่ง ที่นั่งจะเป็นที่นั่งแบบสองคนส่วนใหญ่ ส่วนชั้นสองจะเป็นที่นั่งแบบโซฟา ที่สามารถรองรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ได้ด้วย ถ้าไปกันเยอะก็แบ่งคนที่เฝ้าโต๊ะ และคนที่ไปสั่งอาหารก็น่าจะดีนะ

ICHIGO-CHAN ชอบกินพิซซ่ามากๆ กินพิซซ่าประจำ ร้านที่ชอบไปกินที่ไทยถ้าคิดดูแล้วก็ชิ้นละเกือบ 100 บาท แต่ที่นี่ได้กินทั้งแผ่นในราคา 100 กว่าบาทเอง

ได้กินพิซซ่าแบบอบสดๆเลยด้วย

ตรงไปเส้น「NIOMON DORI」เรื่อยๆ ก็จะมาถึงถนนเส้นใหญ่หน้าสถานีคามิมาเอะซุ「KAMIMAEZU STATION」

ก็จะเจอกับทางเข้าเพื่อลงไปสู่รถไฟใต้ดิน

วิธีไป「KAKUOSAN NITTAIJI」คือ ลงสถานี「KAKUOZAN STATION」รถไฟใต้ดินเส้นฮิกาชิยามะ Higashiyama และเดินไปจะสะดวกที่สุด

ก่อนอื่นก็ขึ้นสายเมโจ Meijo Line ก่อน จากนั้นเปลี่ยนรถไฟที่สถานีซากาเอะ Sakae เพื่อไปลงที่สถานีคาคุโอซัน KAKUOZAN

วันนี้เราซื้อ 1 Day Ticket(740 เยน) แล้วเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วรถไฟแล้ว ใช้บัตรวันเดย์ผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วได้เลย

เมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วแล้ว เข้ามาข้างใน และลงบันไดที่อยู่ซ้ายมือเพื่อไปที่ชานชาลา และนั่งรถไฟที่ชานชาลาเบอร์ 2 รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่「ซากาเอะ SAKAE・โอโซเนะ OZONE」และนั่งไป 2 สถานี ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีเพื่อไปที่สถานีซากาเอะ

ลงที่ซากาเอะเพื่อเปลี่ยนรถไฟ เมื่อลงมาแล้วให้ขึ้นบันไดที่อยู่บริเวณด้านหน้า และมุ่งหน้าไปที่ชานชาลาเส้นฮิกาชิยามะ HIGASHIYAMA LINE

และนั่งชานชาลาเบอร์ 1 รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่「HIGASHIYAMA KOUEN・FUJIGAOKA」

นั่งรถไฟไป 5 สถานีใช้เวลาประมาณ 9 นาทีเพื่อไปที่สถานีคาคุโอซัน KAKUOZAN

เมื่อถึงสถานีคาคุโอซัน KAKUOZAN แล้วให้เดินไปตามทางบริเวณท้ายๆ และผ่านออกมาจากช่องตรวจตั๋ว

เมื่อผ่านมาแล้วก็ขึ้นบันไดเพื่อออกจากประตูเบอร์ 1 ที่อยู่ขวามือ

เมื่อขึ้นมาแล้วก็เดินไปทางขวา และเลี้ยวขวาที่แยกสตาร์บัค และตรงไปเรื่อยๆ ไปจนสุดทางก็จะเจอกับ「KAKUOSAN NITTAIJI」

KAKUOZAN ในตอนกลางวันจะมีบรรยากาศเงียบสงบ

ทุกๆวันที่ 21 ของเดือนที่นี่จะมีงานวัดของวัดนิตไต NITTAIJI

ที่งานวัดก็จะมีทั้งทาโกยากิ ไก่ทอด นอกจากอาหารก็มีร้านขายทั้งยูกาตะ ของขึ้นชื่อของพื้นที่ต่างๆมากมาย

ถ้าตารางแพลนวันที่  21ว่างพอดีก็ลองไปกันดูน้า

และแล้วเราก็มาถึง「KAKUOSAN NITTAIJI」

「NITTAIJI 」ชื่อนี่มาจากภาษาญี่ปุ่น「NIHON TO TAI NO OTERA」ที่แปลว่าวัดของไทยและญี่ปุ่น

วัดนี้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานีที่เก็บและบวงสรวงพระบรมสารีริกธาตุที่รัชกาลที่ 5 ได้ทรงบริจาคไว้ ตั้งแต่ 100 กว่าปีมาแล้ว หรือถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2438 นั่งเอง

 หลังจากนั้นวัดนี้ก็กลายเป็นวัดที่เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างไทยและญี่ปุ่นไปเลย

วัดนี้ถือเป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทยอย่างลึกซึ้ง ซึ่งพ่อหลวงองค์ก่อนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และพ่อหลวงองค์ปัจจุบันสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ ได้ทรงเสด็จมาที่นี่ด้วย

เมื่อผ่านเข้าประตูวัดขนาดใหญ่เข้ามาแล้ว เราจะเห็นเจดีย์ห้าชั้น หอระฆัง และธงชาติไทยเป็นเด่นชัด

ถึงจะอยู่ห่างไกลประเทศไทยถึง 5000km ก็ยังได้เห็นธงชาติไทยที่ต่างประเทศด้วย รู้สึกปราบปลื้มและถือเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งเลยที่ได้เห็นอะไรแบบนี้

และข้างๆตัววัดยังมีรูปปั้นรัชกาลที่ 5 ที่ได้ทรงบริจาคพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่วัดนี้ด้วย

และบริเวณใกล้เคียงก็ยังมี ดอก KAIKOUZU ที่รัชกาลที่ 5 ได้ทรงปลูกเอาไว้ตอนที่ท่านทรงเป็นมงกุฏราชกุมาร

ตอนนี้เพิ่งเป็นช่วงเริ่มเข้าหน้าฤดูใบไม่ผลิทำให้ต้นนี้ยังไม่มีทั้งใบและดอก แต่เมื่อเข้าหน้าร้อนแล้วดอกและใบก็จะเต็มต้นสวยงามตามรูปภาพเลย

เอาล่ะ มาเคารพสักการะซักหน่อย

ขอให้ความสัมพันธ์ของไทยและญี่ปุ่นดีแบบนี้ไปนานด้วยนะคะ ……

ตัววัดสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2518

เพื่อเป็นที่ระลึกในการสร้างเสร็จสมบูรณ์ ยังได้รับ รูปปั้นพระพุทธรูป  ป้ายตามภาพ จากพ่อหลวงองค์ก่อนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมประทับตราประจำพระองค์ด้วย

วัดนิตไตนี้มีที่ตั้งพระบรมสารีริกธาตุอยู่ที่บริเวณใกล้ๆกับตัวอาคารหลักของวัด

พระบรมสารีริกธาตุที่รัชกาลที่ 5 ได้บริจาคไว้นั้นไม่ได้ประดิษฐานอยู่ที่ตัวอาคารหลักแต่จะถูกประดิษฐานไว้นอกตัววัดที่อยู่ห่างออกไปในระยะทางที่สามารถเดินไปได้ 3 นาที

โดยออกจากประตูด้านหลังที่อยู่ระหว่างเจดีย์ห้าชั้นและตัวอาคารหลัก เดินลงทางลาดชันมาก็จะเจอกับสี่แยกขนาดใหญ่

ให้เลี้ยวซ้ายที่สี่แยก และเดินไปเรื่อยๆก็จะเจอกับ「NITTAIJI SHARIDEN」อยู่ทางขวามือ เข้าไปข้างในเลย

เมื่อขึ้นมาแล้วก็จะพบกับประตูขนาดใหญ่ ซึ่งด้านหลังประตูนั้นก็คือสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตั้งตระหง่านอยู่

แต่น่าเสียดายที่บุคคลทธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเข้าไปถึงข้างในได้

ในปี พ.ศ. 2497  พ่อหลวงองค์ก่อนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ได้ทรงเสด็จมาที่นี่และได้ทำการถวายดอกไม้แก่พระบรมสารีริกธาตุ

ICHIGO-CHAN ได้เห็นความสัมพันธ์อันดีของประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย และยังได้ตามรอบพระบาทท่านด้วย รู้สึกเป็นเกีตรติและซาบซึ้งมากๆเลยค่ะ

เอาล่ะได้เวลากลับแล้ว

เดินย้อนกลับไป ผ่านวัด เพื่อกลับไปที่สถานีคาคุโอซัน「KAKUOSAN STATION」

เมื่อกี้ไม่ทันสังเกตุแต่ที่ระฆังวัดมีภาษาไทยเขียนไว้ว่า「พระพุทธศากยมุนี」ด้วย

ICHIGO-CHAN ได้ไปดูประวัติความเป็นมาความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและญี่ปุ่น ได้กราบไหว้สักการะวัดแห่งนี้ อย่างอิ่มอกอิ่มใจกันไปแล้ว

ครั้งต่อไปเราจะไปช้อปปิ้งกันอีกที่ใจกลางเมืองนาโกย่าที่「SAKAE」「ซากาเอะ」กัน อย่าลืมติดตามตอนต่อไปน้า

【ตารางเดินทางวันนี้】

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶