ICHIGO CHAN มาถึงสนามบินคันไซโดยสายการบิน Thai AirAsia X หลังจากออกเดินทางออกจากดอนเมืองผ่านไป10ชั่วโมง
ICHIGO CHAN กินเทมปุระอิ่มท้องแล้ว เอาสัมภาระวางไว้ที่โรงแรมเสร็จก็จะไปขึ้นหอคอยเกียวโตทาวเวอร์
ความจริงแล้ว ICHIGO CHAN เดินทางมาท่องเที่ยวเกียวโตเป็นครั้งที่3การดูบรรยากาศของเมืองเกียวโตนั้นจะเป็นยังไงตามไปดูกันนะคะ
2คืนหลังจากวันนี้เราจะพักที่『KYOTO TOWER HOTEL ANNEX』ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่ถึง5นาทีถึงสถานีเกียวโต จากทางออกฝั่งด้านหน้าของสถานีเกียวโต หรือทางออก KARASUMA-GUCHI เดินตรงไปจากนั้นเลี้ยวซ้าย
จะเห็นตึกชั้นหนึ่งมี LAWSON และธนาคารจากนั้นให้เลี้ยวขาวโรงแรมจะอยู่ทางด้านซ้าย ทางเข้าโรงแรมประดับด้วยต้นไฝ่เนื่องจากเป็นช่วงปีใหม่นั้นเองค่ะ
ผนังที่มองดูคล้ายต้นไผ่ ด้านหลังของพนักงานบรรยากาศดูทันสมัยมาก
เป็นโซ่สีเขียวที่ห้อยลงมาราวกับม่าน
เก๋ไก๋มาก ๆ เลยล่ะ!!
ถ้า ICHIGO CHAN กลับไทยไปแล้วลองแต่งกำแพงห้องแบบนี้ดูดีมั้ยน๊า 555
มีตาข่ายมาคลุมเพื่อจัดเก็บสัมภาระให้แบบนี้ก็ช่วยให้สบายใจขึ้นเนอะ
พอจะออกไปข้างนอก สต๊าฟแสนใจดีก็ยกชามาเสิร์ฟให้
ท่านที่ใช้บริการโรงแรมสามารถเพลิดเพลินไปกับน้ำชาหรือเครื่องดื่มหลากหลายประเภทได้ฟรีที่เลานจ์ข้าง ๆ ล็อบบี้
ICHIGO CHAN ก็เลยได้ดื่มชาเขียวยูซุด้วย
สำหรับ ICHIGO CHAN ที่มาจากประเทศไทยแล้วเจออากาศข้างนอกอันแสนหนาว ก็ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและรู้สึกแข็งแรงขึ้นมาเลยล่ะ
ที่ประเทศญี่ปุ่นมีคำพูดที่ใช้เวลาที่มีคนเลี้ยงข้าวหรือเครื่องดื่มด้วยนะ
「GOCHISOU-SAMA-DESHITA(โกะจิโซซามะเดชิตะ)」
ไม่ว่าจะหลังได้รับบริการฟรีเหมือนที่โรงแรมแห่งนี้
หรือหลังทานอาหารและชำระเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ลองพูดว่า「GOCHISOU-SAMA-DESHITA」ให้กับคนที่ร้านดูกันนะ รับรองว่าจะต้องได้รับรอยยิ้มตอบกลับมาแน่นอนเลยล่ะ
หลังเก็บของให้ตัวเบาสบาย ตามด้วยดื่มชาให้ร่างกายอบอุ่นแล้วก็มุ่งหน้าสู่เมืองเกียวโตกันทันที
ที่แรกที่เราจะมุ่งหน้าไปคือ『KYOTO TOWER』เกกยวโตทาเวอร์
ที่ตั้งก็อยู่หน้าสถานีรถไฟเกียวโตเลย แบบนี้ก็ไม่น่าจะหลงนะ…!?
เมื่อขึ้นลิฟต์จากชั้น 1F ของอาคารมาแล้วจะพบกับทางเข้าห้องชมวิว『KYOTO TOWER』เกกยวโตทาเวอร์
ค่าบริการโดยปกติแล้วผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 770 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 620 เยน, นักเรียนมัธยมต้น 520 เยน แต่ถ้าเป็นผู้เข้าพักที่『KYOTO TOWER HOTEL』และ『KYOTO TOWER HOTEL ANNEX』 ผู้ใหญ่และนักเรียนมัธยมปลายขึ้นไปจะอยู่ที่ 300 เยน ส่วนที่อายุน้อยกว่านั้นเข้าฟรี!!
ICHIGO CHAN อายุเท่าไหร่กันน๊ะ….เป็นความลับ แต่ก็ขอราคาพิเศษที่ 300 เยนละกัน
สต๊าฟคนสวยออกมาต้อนรับ แล้วก็ขึ้นไปข้างบนหอคอยเกียวโต
ที่เมืองเกียวโตนี้ เพื่อเป็นการรักษาวิวทิวทัศน์จึงมีการจำกัดความสูงของอาคารเอาไว้อย่างเข้มงวด(เช่นเดียวกับเชียงใหม่)
เกียวโตทาวเวอร์มีความสูง 131 เมตร ห้องชมวิวซึ่งอยู่บนความสูง 100 เมตรนี้จึงเป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สามารถมองเมืองเกียวโตจากข้างบนลงไปข้างล่างได้
ภายในลิฟต์โดยสารก็ถูกวาดไว้ด้วยรูปทิวทัศน์ของเมืองเกียวโต
มีทั้งเกียวโตทาวเวอร์, เจดีย์ 5 ชั้นของวัดโท ฯลฯ อาคารซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของเกียวโตเหล่านี้เป็นเงาหลังทำให้สวยงามยิ่งนัก
และแล้วลิฟต์ก็พาเรามาถึงจุดชมวิวที่สูงจากพื้นดิน 100 เมตร
แรกสุดกับวิวทางทิศตะวันตก อาคารสีขาวขนาดใหญ่ที่เราเห็นอยู่ทางซ้ายนิดๆ
จากตรงกลางคือสถานที่อันมีชื่อเสียงแห่งใหม่『KYOTO RAILWAY MUSEUM』(พิพิธภัณฑ์รถไฟเกียวโต) นั่นเอง
ประเทศญี่ปุ่นที่ซึ่งมีความเจริญก้าวหน้าด้านการรถไฟนี้มี「แฟนคลับรถไฟ」อยู่เป็นจำนวนมาก นอกจาก 3 พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่อย่าง「พิพิธภัณฑ์รถไฟ」(เมืองไซตามะ), 「พิพิธภัณฑ์รถไฟ Rinia」(เมืองนาโกย่า) และ「พิพิธภัณฑ์รถไฟเกียวโต」แล้ว ในประเทศญี่ปุ่นยังมีพิพิธภัณฑ์อีกมากมายที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม
ที่จริงแล้ว ICHIGO CHAN ก็ชอบรถไฟนะ สักวันก็อยากจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์รถไฟเกียวโตดูบ้างเหมือนกันน๊า….
ต่อไปคือวิวทางทิศเหนือ
ที่เห็นอยู่ข้างหน้าคือ『HIGASHI-HONGANJI』(ฮิกาชิฮนกันจิ) เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แนวเขาที่เห็นอยู่ไกล ๆ เรียกว่าเกียวโตโกะซัง(ภูเขาทั้งห้าของเกียวโต)
ในวันที่ 16 สิงหาคมของทุกปีจะมีการจัดงานที่เรียกว่า「GOZAN-NO-OKURIBI」(โกะซังโนะโอคุริบิ) ซึ่งจะเป็นการจุดไฟเป็นตัวหนังสือคำว่า「ใหญ่」หรือ「โทริอิ」ฯลฯ หรือลวดลายที่ภูเขาต่าง ๆ และคับคั่งไปด้วยแขกที่มาเที่ยวชมมากมาย
จะลองแพนกล้องไปทางตะวันออกเฉียงเหนือนิดหนึ่งนะ
จากตรงกลางไปทางซ้ายนิด ๆ มีสิ่งที่ทอดยาวตรงออกไปคือ「Karasuma Dori」(ถนนคาราสุมะ) ซึ่งผ่ากลางเกียวโตจากเหนือตรงไปใต้ ในหลายเมืองของญี่ปุ่น เช่น เกียวโต, โอซาก้า, นารา, ฮากาตะ ฯลฯ มีการสร้างเมืองให้กลางเมืองมีถนนขีดขั้นเป็นเส้นตรงแนวตั้ง, แนวนอนซึ่งทำให้เข้าใจง่ายและดูเหมือนว่าจะทำให้เกิดรถติดได้ยากด้วย
สำหรับ ICHIGO CHAN ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แล้ว นี่ช่างน่าอิจฉาเสียจริง….
สีเขียว ๆ ที่มองเห็นอยู่ไกล ๆ ไปทางซ้ายนิด ๆ จากตรงกลางคือ『KYOTO GOSHO』(เกียวโตโกะโช)
เป็นสถานที่ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่อยู่อาศัยของจักรพรรดิ ปัจจุบันก็ถูกใช้งานเช่นในปี 2015 ตอนที่ประธานาธิบดีโอบาม่าของสหรัฐอเมริกาดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้นมาเยือนญี่ปุ่น ฯลฯ
เมื่อมองดูด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้จะสามารถชมพื้นที่ทั้งหมดของวัดโทฟุคุจิและศาลเจ้าฟูชิมิอินาริได้ ขบวนรถไฟชินคังเซ็นสีขาวที่ออกวิ่งจากสถานีเกียวโตทำให้หัวใจของ ICHIGO CHAN ผู้ชื่นชอบรถไฟนี้ผ่อนคลายยิ่งนัก
ที่ห้องชมวิวมีโมเดลจำลองแบบนี้ด้วยนะ
ดูเหมือนว่าชื่อของตุ๊กตาคือ「ทาวาวะจัง」 จะยอมเป็นเพื่อนกับ ICHIGO CHAN มั้ยนะ!?
ข้าง ๆ นั้นถึงกับมี「ศาลเจ้าทาวาวะจัง」อยู่ด้วยนะ อึ้งไปเลย มีเอะมะ(แผ่นไม้สำหรับเขียนคำอธิษฐาน)ที่มีคำอธิษฐานเขียนไว้เต็มไปหมด
พอได้ชื่นชมกับทิวทัศน์เหล่านี้แล้วแป๊บ ๆ เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกแค่ 2 ชั่วโมงก็จะถึงเวลาค่ำแล้ว
เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังพื้นที่เป้าหมายถัดไปเราจึงทิ้งห้องชมวิวไว้ข้างหลัง
พบกับตู้คีบตุ๊กตา「ทาวาวะจัง」เข้าแล้ว อยากจะพากลับไทยไปด้วยกันจะได้เป็นเพื่อนกันจังเลย แต่ก็น่าเสียดายที่คีบไม่ได้
ที่ร้านค้าก็เต็มไปด้วยสินค้าของ「ทาวาวะจัง」
มีสินค้าของ「ทาวาวะจัง」หลากหลายรูปแบบ น่าอิจฉาจัง
คงต้องพยายามมากขึ้นเพื่อให้มีคนผลิตสินค้า ICHIGO CHAN ให้ 555
เอาล่ะ เพื่อเป็นการมุ่งสู่『FUSHIMI-INARI(ฟูชิมิอินาริ)』ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายถัดไปเราจึงกลับมาที่สถานีเกียวโต
ในวันพรุ่งนี้ก็อยากจะขอแนะนำวิธีเดินทางและบรรยากาศของศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในหมู่คนไทยด้วยอย่างศาลเจ้าฟูชิมิอินาริให้ได้ชมกัน