เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-2 ทานอาหารกลางวันในย่าน「TOKYO STATION 1 BANGAI」พร้อมเที่ยวชม “ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”「SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE」
TOKYO-HAKONE-GOTEMBA-KAWAGUCHIKO/FUJI-TOKYO
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้นั่งเครื่องบินสายการบิน NokScoot จากกรุงเทพ มาลงที่ท่าอากาศยานนาริตะที่เปรียบเสมือนประตูหน้าบ้านของโตเกียว จากนั้นก็ได้นั่งรถบัส「THE ACCESS NARITA」ที่เชื่อมระหว่างสนามบินนาริตะ และสถานีโตเกียว・กินซ่า และได้เดินทางเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงมาที่สถานีโตเกียวเป็นที่เรียบร้อย
Day1-1 เริ่มทริป! เดินทางจากกรุงเทพเข้าสู่โตเกียวจากสนามบินนาริตะ และเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองโตเกียว
ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายโมงพอดี ก่อนอื่นเราจะไปทานอาหารมื้อแรกกันย่านร้านค้า「TOKYO STATION 1 BANGAI」ที่เชื่อมต่อกับสถานีโตเกียว จากนั้นก็จะไปช้อปปิ้งที่ย่านช้อปปิ้งชินจุกุ กันค่ะ
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「ฟูจิฮาโกเน่พาส」ในตอนที่ 2 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปทานอาหารกลางวันที่ย่าน「TOKYO STATION 1 BANGAI」และท่องเที่ยวย่านชินจุกุกันค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/2%28293%29.jpg)
เดินทางจากสนามบินนาริตะมาประมาณ 1 ชั่วโมง ได้ชมภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ไกลๆ ดีสนีย์แลนด์ หรือโตเกียวสกายทรีจากหน้าต่างรถไฟ เพียงแปปเดียวเท่านั้นก็เดินทางมาถึงสถานีโตเกียวเป็นที่เรียบร้อย โดย THE ACCESS NARITA จะไปลงที่ สถานีโตเกียว ประตูกลางยาเอสุ (TOKYO STATION YAESU CENTRAL EXIT) สามารถเดินไปภายในอาคารสถานีโตเกียวโดยเดินข้ามถนนไป ใช้เวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้น
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%28270%29.jpg)
เมื่อถึงสถานีโตเกียวแล้ว ก็เดินไปที่ย่าน『TOKYO STATION 1 BANGAI』แหล่งรวมร้านค้าต่างๆ มากมาย โดยเราจะไปทานอาหารกลางวันกันที่นี่เลยค่ะ
ก่อนอื่นก็เดินไปทางสถานีโตเกียวที่อยู่ตรงหน้า เมื่อลงรถบัสแล้ว ก็เดินไปทางด้านหน้า จากนั้นก็ข้ามทางม้าลายขนาดใหญ่ไปทางเข้า「TOKYO STATION YAESU CENTRAL EXIT」ให้เข้าไปทางด้านในสถานีเลย จากนั้นเมื่อเข้าสถานีมาแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ เดินไปอีกซักพักก็จะเจอบันไดเพื่อลงไปชั้นใต้ดินอยู่ซ้ายมือ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%28268%29.jpg)
เมื่อลงมาที่ใต้ดินแล้ว ก็จะเจอสี่แยก ให้เดินไปทางขวามือ เมื่อเลี้ยวขวาไปแล้ว ก็จะเจอร้านอาหารทะเลสดใหม่「SHIROEBITEI」เป็นร้านที่มาจาก โทยามะ เมืองแห่งทะเลทางฝั่งทะเลญี่ปุ่น ที่มีทั้ง “ชิโรเอบิ (Japanese glass shrimp กุ้งฝอยใสๆ)”, ปลาดิบสดใหม่ หรือวัตถุดิบทะเลเท็มปุระ ที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลได้อย่างเต็มที่
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%28277%29.jpg)
『SHIROEBITEI』ร้านบรรยากาศแบบญี่ปุ่น
เป็นร้านยอดนิยมที่มีแถวยาวในช่วงกลางวัน นอกจากจะสามารถทานที่ร้านได้แล้ว ยังสามารถห่อกลับบ้านได้อีกด้วย ในกรณีที่ไม่อยากรอนานจนเสียเวลาก็สามารถซื้อกลับไปทานได้เลยค่ะ ดีมากๆ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/6%28280%29.jpg)
ซึ่งเมนูภายในร้านทุกเมนูจะมีตัวอย่างอาหารจัดแสดงอยู่หน้าร้านทั้งหมด เพราะฉะนั้นสามารถเลือกสั่งได้ไม่ยาก เมนูของร้านมีทั้ง “ข้าวหน้ากุ้งชิโรเอบิเท็มปุระ”「SHIROEBI TENDON(白えび天丼)」(1260 เยน), อาหารขึ้นชื่อของโทยามะ “ข้าวหน้าเท็มปุระปลาบุริ”「BURI TENDON(ぶり天丼)」(1160 เยน), 「TOYAMA SPECIAL TENDON(富山スペシャル天丼)」(1680 เยน)ที่ประกอบไปด้วยกุ้งชิโระเอบิ ปลาบุริ(ปลาหางเหลือง) และ ปลาหมึกโฮตารุอิกะ(ปลาหมึกเรืองแสง) นอกจากนี้ยังมีเมนูชุดอาหารที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน「ZEPPIN HIGAWARI LUANCH(絶品日替わりランチ)」(1160 เยน)อยู่อีกด้วย มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าตัวอย่างอาหารชนิดไหนๆ ก็เหมือนจริงและน่าทานมากๆ เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%28276%29.jpg)
วิธีสั่งอาหารก็สามารถสั่งได้จากเครื่องจำหน่ายคูปองอัตโนมัติ ที่นอกจากจะตั้งอยู่บริเวณด้านข้างตู้แสดงตัวอย่างเมนูอาหารแล้ว ที่ปุ่มแต่ละปุ่มบนเครื่องยังมีรูปภาพประกอบด้วย เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าจะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกก็สามารถสั่งได้ไม่ยากเลยค่ะ
ก่อนอื่นก็ไปที่เครื่องจำหน่ายคูปองอาหารอัตโนมัติ จากนั้นก็ใส่เงินเข้าไปในเครื่อง และกดปุ่มอาหารตามต้องการ เท่านี้ก็เรียบร้อย เมื่อเข้าไปนั่งภายในร้านแล้ว ก็ยื่นคูปองให้พนักงาน ซักพักอาหารก็จะมาเสริร์ฟเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/8%28281%29.jpg)
ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN ก็เลือกทาน「SUJIME SALMON TO IKURA NO OYAKODON(酢じめサーモンといくらの親子丼)」(1480 เยน)กับเมนูที่ประกอบไปด้วยปลาแซลมอนดิบชิ้นหนาหมักเปรี้ยว และไข่ปลาอิคุระที่หอมมัน ยิ่งทานคู่กับวาซาบิ กับโชยุแล้วก็ยิ่งเข้ากันมากๆ “วาซาบิ” ที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาประเทศญี่ปุ่น ด้วยความเผ็ดที่มีเอกลักษณ์ หอมเผ็ดขึ้นจมูก ยิ่งได้ทานคู่กับข้าวหน้าปลาแซลมอนดิบแล้ว ยิ่งเป็นรสชาติที่ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%28281%29.jpg)
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ทานอาหารจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาออกจากร้านกันแล้ว ซึ่งที่ร้านนี้จะมีทั้ง「SHIROEBI SUSHI」หรือ “โชยุ” และเกลือที่ใช้ในร้านจำหน่ายอยู่ หากถูกใจก็สามารถเลือกซื้อติดมือกลับบ้านไปได้อีกด้วย เมื่อทานอาหารกลางวันจนอิ่มท้องแล้ว ก็ได้เวลาไปที่ “ชินจุกุ” ใกล้ที่พักของเรากันเลย โดยเราจะนำสัมภาระไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อน แล้วออกเดินทางไปย่านชินจุกุกันค่ะ
โดยการเดินทางจากสถานีโตเกียวที่ตั้งของร้าน「SHIROEBITEI」ไปยัง ย่านชินจุกุนั้น สามารถเดินทางได้ด้วย รถไฟ JR สายชูโอจะสะดวกที่สุด ก่อนอื่นเราจะไปที่ช่องตรวจตั๋วสถานีโตเกียวกันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%28284%29.jpg)
ออกจากร้าน SHIROEBITEI ไปทางซ้ายมือ เดินไปอีกซักพักก็จะเจอเครื่องตรวจตั๋ว Yaesu Underground Central Exit ของสถานีโตเกียวอยู่ทางซ้ายมือ
เราไปซื้อตั๋วรถไฟไปยัง ชินจุกุ จากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ข้างช่องตรวจตั๋วกันก่อนเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%28290%29.jpg)
วิธีซื้อตั๋วก็ไม่ยาก ก่อนอื่นก็จะต้องเช็คราคาค่าโดยสารจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋ว ซึ่งตั๋วจากสถานีโตเกียว ไปยังสถานีชินจุกุจะอยู่ที่ 200 เยน จากนั้นก็สัมผัส「Language」บนหน้าจอ เพื่อเลือก「English」และ「Ticket」จากนั้นหน้าจอก็จะแสดงตัวเลขค่าเดินทางตามภาพล่างซ้าย ให้กดปุ่มตามจำนวนค่าโดยสาร (200 เยน) ที่เช็คเอาไว้ และใส่เงินในขั้นตอนสุดท้ายเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%28291%29.jpg)
เมื่อซื้อตั๋วแล้ว ก็ผ่านเข้าไปในช่องตรวจตั๋ว จากนั้นก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่เยื้องไปทางซ้ายมือ เพื่อไปที่ชั้น 1F เลย เมื่อลงจากบันไดเลื่อนแล้ว ก็ตรงไปเรื่อยๆ เดินไปจนสุดทางตึกอิฐแล้วก็เลี้ยวไปทางซ้ายมือ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%28282%29.jpg)
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาแล้ว ก็จะเจอบันไดเลื่อนยาวเพื่อขึ้นไปยังชานชาลารถไฟสายชูโอ(ชานชาลาหมายเลข 1・2)ซึ่งรถไฟที่เข้ามาจอดในชานชาลารถไฟสายชูโอนี้ทุกคันจะผ่านสถานีชินจุกุทั้งหมด เพราะฉะนั้นสามารถขึ้นรถไฟที่เข้ามาจอดก่อนได้เลย
โดยเราจะนั่งรถไฟจากสถานีโตเกียว ไป สถานีชินจุกุ 4 สถานี ใช้เวลาประมาณ 15 นาที นั่งรถไฟชมวิวไปเรื่อยๆ ก็แปปเดียวเท่านั้นค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%28286%29.jpg)
เมื่อถึง “ชินจุกุ” แล้ว ก็ขึ้นบันไดหรือบันไดเลื่อนที่อยู่ภายในชานชาลาไป และออกจากช่องตรวจตั๋ว South Exit เพื่อออกจากสถานีกันเลย
ที่พักของเราในคืนนี้「SHINJUKU WASHINGTON HOTEL」สามารถเดินจากสถานีชินจุกุประตูใต้ South Exit ไปประมาณ 7-8 นาทีเท่านั้น ออกจากสถานีไปทางขวามือ และตรงไปเรื่อยๆ ผ่านทางม้าลายไปเรื่อยๆ จำนวน 4 อัน เมื่อข้ามทางม้าลายมา 4 อันแล้วก็เข้าซอยที่มีป้าย SHINJUKU WASHINGTON HOTEL ที่อยู่ในวงกลมสีเหลืองในภาพล่างขวา ไปทางขวามือ โดยไม่ต้องเดินข้ามถนนใหญ่ไปค่ะ จากนั้นก็เดินไปอีกประมาณ 2 นาทีก็จะเจอโรงแรม SHINJUKU WASHINGTON HOTEL อยู่ทางซ้ายมือเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%28276%29.jpg)
SHINJUKU WASHINGTON HOTEL นี้เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีห้องพักกว่า 1280 ห้อง ในส่วนชั้น 1F จะมีทั้ง ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหาร ส่วน 2F จะเป็นฟร้อนท์และล็อบบี้ เมื่อเข้าไปในตึกแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2F เพื่อฝากสัมภาระที่ฟร้อนท์กันเลย หากถึงเวลาที่สามารถเช็คอินได้แล้ว(ปกติเวลา 15:00 น.)ก็ทำการเช็คอินได้เลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%28276%29.jpg)
หากพูดถึง “ชินจุกุ” หลายๆ คนก็จะต้องนึกถึง「SHINJUKU DORI」ที่อยู่ทางฝั่งประตูตะวันออก(東口) ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าน่าสนใจต่างๆ มากมายทั้ง「Onitsuka Tiger」「BICQLO」หรือ「อิเซตัน」แต่ทางฝั่งประตูตะวันตก(西口) เองก็มีร้านค้าที่น่าสนใจอยู่มากมายเช่นกัน
เมื่อออกจากประตูตะวันตก (西口) มาแล้วก็จะเจอ「CAMERA STREET」และ「ศาลาว่าการนครโตเกียว」ที่มีจุดชมวิวบนความสูงมากกว่า 200 เมตร เท่านั้นไม่พอยังมี “ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”「SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE」」อยู่อีกด้วย
ซึ่งในทริปก่อนหน้าเมื่อไม่นานมานี้เราได้แนะนำ「SHINJUKU DORI」และ “จุดชมวิวศาลาว่าการนครโตเกียว”「Tokyo Metropolitan Government Building observation room」ไปแล้ว
คลิ๊กเลย ! 『อ่านรีวิว 「SHINJUKU DORI」และ จุดชมวิว「จุดชมวิวศาลาว่าการนครโตเกียว」บนความสูงกว่า 200 เมตร』
ดังนั้นครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”「SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE」และ「CAMERA STREET」กันค่ะ
เมื่อออกจากโรงแรมแล้ว ก็เดินไปทางฝั่งตรงข้ามทางขามา(ฝั่งตรงข้ามสถานีชินจุกุ)เดินผ่านสวนสาธารณะขนาดใหญ่ “ชินจุกุ เซ็นทรัล พาร์ค”「SHINJUKU CHUO PARK」อยู่ทางขวามือไปเรื่อยๆ จากนั้นก็เลี้ยวไปทางขวาเรียบสวนสาธารณะไปเดินไปประมาณ 10 นาที ก็จะเจอ “ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”「SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE」เลย
ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงได้ผ่านพ้นไป เพื่อเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงต้นเดือนธันวาคม
ดอกแปะก๊วยที่บานสวยงามอยู่ภายในสวนสาธารณะ “ชินจุกุ เซ็นทรัล พาร์ค” เหลืองอร่าม ทั้งดอกที่อยู่บนต้นไม้ และกลีบที่ร่วงโรยอยู่บนพื้น พร้อมทั้งเสียงกระทบของใบไม้จากลมที่พัดมา ให้บรรยากาศสงบ พร้อมลมเย็นๆ ในฤดูหนาว บรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%28282%29.jpg)
เดินเรียบสวนสาธารณะไปประมาณ 10 นาที ทางด้านขวามือก็จะเจอ “ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”『SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE』ที่มีโทริอิหิน อยู่คู่กับดอกแปะก๊วยสวยงาม
ถึงแม้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะตั้งอยู่ใกล้ ศาลาว่าการนครโตเกียว แต่ก็อุดมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด “ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”「SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE」เป็นเหมือนศูนย์กลางความอุดมสมบูรณ์กลางเมืองใหญ่เลยก็ว่าได้ เราเข้าไปในศาลเจ้ากันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%28276%29.jpg)
“ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”「SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE」นี้เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานถูกสร้างขึ้นเมื่อ 600 กว่าปีก่อน เป็นศาลเจ้าย่อยจากศาลเจ้าคุมาโนะในจังหวัดวาคายาม่า ตามชื่อท้ายของศาลเจ้าเลยค่ะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่มีพลังเรื่องการแข่งขัน เงินทอง และความเจริญก้าวหน้า เป็นศาลเจ้ากลางเมืองที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงมากมาย ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%28274%29.jpg)
และมุมหนึ่งของศาลเจ้า ที่สำนักงานศาลเจ้านั้นจะมีเครื่องรางของขลังจำหน่ายอยู่ ทั้งเครื่อราง 12 นักษัตร「JYUUNISHI MAMORI(十二支守り)」(500 เยน)หรือแผ่นไม้ขอพร แผ่นไม้เอมะ「KIGAN EMA(祈願絵馬)」(400 เยน)ซึ่งลายนกที่อยู่บนแผ่นไม้ขอพร แผ่นไม้เอมะ ก็คือนกที่มีสามขาถูกเรียกว่า “ยาตะการาสุ”「YATAGARASU:八咫烏」ที่มีความเชื่อแต่โบราณว่านกนี้เป็นเทพเจ้าแห่งการแข่งขัน และถูกใช้เป็นโลโก้ยูนิฟอร์มตัวแทนนักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นอีกด้วย เป็นสัญลักษณ์ที่คนญี่ปุ่นโดยทั่วไปคุ้นเคยกันดี
หากลองสังเกตุดูดีๆ ด้านหลังแผ่นไม้เอมะส่วนใหญ่ก็เขียนเป็นภาษาต่างประเทศทั้งนั้นเลย ทั้งอังกฤษ จีน และภาษาไทยด้วย!!
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/20%28250%29.jpg)
ไหนๆ ก็ได้มาเยี่ยมชมศาลเจ้ากันแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะไปกราบไหว้สักการะภายในศาลเจ้ากันเลย แต่ก่อนจะไปกราบไหว้ศาลเจ้านั้น จะต้องทำการ “ชำระล้างร่างกายให้เรียบร้อย เพื่อชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์ก่อน โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.ถือกระบวยด้วยมือขวา และตักน้ำให้เต็ม จากนั้นน้ำมาล้างมือซ้าย
2.เปลี่ยนมือที่ถือกระบวยเป็นข้างซ้าย และล้างมือขวา
3.เปลี่ยนมาถือกระบวยมือขวาอีกรอบ เทน้ำใส่มือซ้ายพอประมาณ และทำการบ้วนปาก
4.ล้างมือซ้ายอีกรอบ
5.ตั้งกระบวยขึ้น โดยหันหน้ากระบวยเข้าตัว เพื่อให้น้ำไหลลงไปล้างที่จับกระบวย วางกระบวยไว้ที่เดิม เท่านี้ก็เรียบร้อย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/21%28213%29.jpg)
เมื่อทำขั้นตอนชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปกราบไหว้สักการะศาลเจ้ากันเลย
โดยโยนเหรียญใส่กล่องทำบุญ(ตามจิตศรัทธา โดยปกติประมาณ 5-50 เยน)จากนั้นให้ทำการ
โค้งคำนับ 2:โค้งคำนับไปทางศาลเจ้า 2 ครั้ง
ปรบมือ 2:ปรบมือ 2 ครั้ง
โค้งคำนับ 1:อธิษฐานในใจ และโค้งคำนับอีก 1 รอบ
ซึ่งขั้นตอนวิธีการกราบไหว้นี้จะเป็นขั้นตอนของศาลเจ้าเท่านั้น หากกราบไหว้ที่วัด ก็เพียงแค่พนมมืออธิษฐาน และโค้งคำนับ 1 ครั้งเท่านั้น
ในวันที่เราไปมีพิธีแต่งงานพอดีเลยค่ะ โดยงานแต่งงานของประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วจะจัดขึ้นที่ศาลเจ้าหรือที่โบสถ์ ICHIGO-CHAN โชคดีมากๆ เลยที่ได้มาวันที่มีพิธีแต่งงานพอดี
หลังจากที่กราบไหว้สักการะที่ “ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”「SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE」แล้ว ต่อไปเราจะไปชม การประดับไฟอิลลูมิเนชั่นสวยงามที่ “โอโมเตะซันโด・ฮาราจุกุ”「OMOTESANDO・HARAJUKU」ที่จัดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงคริสต์มาสกันค่ะ ซึ่งที่ “โอโมเตะซันโด・ฮาราจุกุ” นี้นอกจากจะมีการประดับไฟอิลลูมิเนชั่นที่สวยงามแล้ว ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งของเหล่าวัยรุ่นที่มีทั้ง「KIDDY LAND」หรือ「Onitsuka Tiger」รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ มากมายที่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งหมด
ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “โอโมเตะซันโด・ฮาราจุกุ”「OMOTESANDO・HARAJUKU」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ
【ตารางการเดินทาง Day1-2 Lunch at TOKYO STATION 1 BANGAI / SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE】
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/22%28166%29.jpg)