ROUND THE C・H・I
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-2 ชมวิวเมืองโอซาก้าจากตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น「ABENO HARUKAS」ที่มีความสูง 300m และมุ่งหน้าไปย่านแห่งโอซาก้าที่「SHINSEKAI」
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/1%28112%29.jpg)
OSAKA-KYOTO-OSAKA-AMANOHASHIDATE-OSAKA
ออกจากกรุงเทพมาตอนนี้ก็ผ่านไป 9 ชั่วโมง และตอนนี้เราได้มาถึง「ABENO HARUKAS」แลนด์มาร์กของโอซาก้ากันแล้ว
ตึก『ABENO HARUKAS』ถือเป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นที่มีความสูงถึง (ถ้าไม่นับโตเกียวสกายทรีและทาเวอร์อืนๆ)300m ถ้าอากาศดีก็จะเห็นวิวโอซาก้าทั้งหมด หรืออาจจะมองเห็นไปถึงยอดเขาร๊อคโคหรือสนามบินคันไซเล
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/2%2897%29.jpg)
ด้านหน้าลิฟต์ที่ขึ้นไปจุดชมวิวของ ABENO HARUKAS ก็จะมีทั้งร้านค้าต่างๆมากมาย และลานจัดงานแสดงผลงานศิลปะจากทั้งภายในประเทศญี่ปุ่นและจากต่างประเทศ ถ้าเป็นช่วงเวลาที่คนเยอะก็อาจจะต้องรอต่อคิว อาจไม่สามารถขึ้นได้ทันที
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%2883%29.jpg)
ลิฟต์ที่ใช้ขึ้นไปบนจุดชมวิวจะเป็นลิฟต์แก้ว ก็คิดว่าจะได้เห็นวิวรอบๆระวังขึ้น แต่แปปเดียวเท่านั้นก็ถึงข้างบนเลย เร็วมากเหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนของ「โดเรม่อน」เลย ระหว่างขึ้นไปจะมีตัวเลขแสดงว่าตอนนี้เราอยู่ที่ความสูงกี่เมตรด้วย สาเหตุที่ทำให้ลิฟต์แก้วไม่สามารถมองเห็นวิวข้างนอกได้ก็เพราะเอาไว้สำหรับคนที่เป็นโรคกลัวความสูงนั่นเองค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%2879%29.jpg)
โอซาก้าที่ฝนตกบ่อย แต่พอ ICHIGO-CHAN ขึ้นมาถึงจุดชมวิวแล้วท้องฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้นมานิดนึงแล้ว แสงอาทิตย์แหวกออกมาจากก้อนเมฆนิดนึง
ก่อนอื่นเราไปชมวิวตึก ABENO HARUKAS จากทิศเหนือกันก่อนเลย
ด้านหน้าก็จะมี SHINSEKAI สถานที่ขึ้นชื่อของโอซาก้าที่นัมบะ และย่านที่มีตึกสูงๆ ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งย่านธุรกิจอย่าง “อุเมดะ”
ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบสัดส่วนกันแล้วโอซาก้าจะใหญ่กว่ากรุงเทพ แต่ที่กรุงเทพจะมีแต่พื้นที่ราบ ซึ่งโอซาก้าจะมีภูเขาล้อมรอบเมืองที่มีแต่ตึกสูงทำให้โอซาก้าจะดูแออัดกว่าหนาแน่นกว่า
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%2884%29.jpg)
และที่อยู่ในวงกลมสีแดงระหว่างตึกก็คือ แลนด์มาร์กของโอซาก้า「TSUTENKAKU」หรือหอคอยโอซาก้า ที่มีความสูง 108m ซึ่งหอคอบอันปัจจุบันก็คือหอคอยรุ่นที่ 2 ที่ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2499 และอยู่คู่คนโอซาก้ามาเป็นเวลานาน ซึ่งที่ชั้น 5F(87.5m)ของหอคอยโอซาก้านี้จะเป็นจุดชมวิวเมือง ที่สามารถชมบรรยากาศรอบๆ ของโอซาก้าและแน่นอนว่าเราจะมองเห็น「ABENO HARUKAS」ด้วยเช่นกันค่ะ หากใครมี Osaka Amazing Pass ก็สามารถเข้าชมได้ฟรี !
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/6%2885%29.jpg)
ตอนนี้เรากำลังชมวิวจากจุดชมวิวของ ABENO HARUKAS ทางทิศเหนือ วิวเมืองโอซาก้าที่มีแต่ตึกเต็มไปหมด แต่ที่น่าแปลกใจคือระหว่างตึกมีต้นไม้ มีโซนเขียวๆ อยู่ในเมืองด้วย และที่เห็นโซนเขียวๆ เยอะๆอยู่ทางฝั่งด้านซ้ายก็คือศูนย์รวมของวัดต่างๆ มากมาย ตั้งแต่วัดเก่าแก่วัดชิเท็นโนจิ SHITENNOJI TEMPLE และวัดต่างๆ ที่อยู่รอบๆและที่เห็นอยู่ริมสุดทางขวามือก็คือสวนปราสาทโอซาก้านั่นเอง
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%2888%29.jpg)
โอซาก้าที่เป็นเมืองหนึ่งที่เป็นเมืองแห่งกีฬา เมื่อมองวิวทางทิศใต้ของหอคอยโอซาก้าแล้ว เราจะเห็น「YANMAR STADIUM NAGAI」หรือนากิอิ สเตเดียม ขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ
นากิอิ สเตเดียมนี้เป็นสถานที่ตั้ง ฟุตบอลลีคมืออาชีพของญี่ปุ่น「J LEAGUE」ของ CEREZO OSAKA(เซเรซโซ โอซาก้า) ซึ่งที่ CEREZO OSAKA(เซเรซโซ โอซาก้า) นี้มีตัวแทนคนไทย U23 ที่เป็น MF “เชาว์วัฒน์ วีระชาติ” เข้าร่วมอยู่ในทีมนี้ด้วย
ซึ่งถ้าช่วงที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วตรงกับวันแข่งขันพอดีก็อาจได้ชมการแข่งขันฟุตบอลที่ญี่ปุ่นก็ได้นะคะ!?
และเมื่อชมจากฝั่งตะวันตกก็จะมองเห็น「KYOCERA DOME」หรือเคียวเซร่าโดม สถานที่ขึ้นชื่อของโอซาก้า ซึ่งสเตเดียมนี้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันเบสบอลด้วยเช่นกัน การแข่งขันเบสบอลที่นี้จะถูกจัดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนไปจนถึงช่วงเดือนกันยายน แข่งขันกันทีมละ 143 การแข่งขันเลยทีด้วย ถึงแม้ว่ากีฬาเบสบอลอาจจะเป็นกีฬาที่เราไม่คุ้นเคยซักเท่าไหร่ แต่ถ้าลองไปดูเราจะได้เห็นบรรยากาศแบบแปลกใหม่ในการเชียร์เบสบอลของคนญี่ปุ่นเลยด้วย ยังไงลองไปกันดูได้นะคะ นอกจากการแข่งขันกีฬาแล้วที่นี้ก็มักจะมีการจัดคอนเสริต์ต่างๆ ทั้งของศิลปินญี่ปุ่นและศิลปินเกาหลีด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/8%2888%29.jpg)
ควาจริงแล้ววันนี้ ICHIGO-CHAN อยากจะลองเล่นเครื่องเล่นใหม่ของ「ABENO HARUKAS」กับ「EDGE THE HARUKAS」โดยเราสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินทางเดินแคบๆ และยื่นตัวออกไปบนความสูง 300m จากจุดที่อยู่สูงกว่าจุดชมวิวขึ้นไปอีก แต่น่าเสียดายที่วันนี้อากาศไม่ดีเลยงดให้บริการชั่วคราว
เครื่องเล่นนี้เราจะได้ใส่ชุดที่มีสายโยงชูชีพเพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าจะตกลงไป หากใครต้องการสัมผัสประสบการณ์ความตื่นเต้นหวาดเสียวกับ「EDGE THE HARUKAS」แบบนี้ก็สามารถติดต่อสอบถามได้จากเคาน์เตอร์ Information ที่อยู่ภายในจุดชมวิวได้เลย ราคา 1000 เยน
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%2883%29.jpg)
และจุดชมวิวที่ชั้น 60F จะเปิดชั้นแบบเปิดโล่ง ที่สามารถมองเห็น ชั้น 59F ที่มีทั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็ก และร้านกาแฟอยู่
หลังจากที่เราได้ชมวิวจากทางทุกทิศทางแล้ว ก็สามารถมานั่งชิวๆ ทานอาหารและจิบกาแฟได้เลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%2891%29.jpg)
ที่ร้านกาแฟก็จะมีหลากหลายเมนูให้เลือก ทั้งเมนูเครื่องดื่มกาแฟ(380 เยน)ลาเต้วิป(500 เยน)และเมนูอาหาร ข้างหน้าแกงกะหรี่ไก่ และอาหารอเมริกัน (แต่ละอย่าง 980 เยน)ที่เราสามารถชมวิวจากความสูง 300m ไปพร้อมๆ กับทานอาหารจิบกาแฟชิวๆ เลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%2898%29.jpg)
ที่จุดชมวิวจะมีร้านค้าขายของที่ระลึกหลากหลายแบบ ซึ่งหลักๆจะมีสินค้าคาแรคเตอร์ของ ABENO HARUKAS กับ「ABENOBEA」หรืออ่านว่า “อาเบะโนะเบะอา” ซึ่งชื่อนี้สามารถอ่านได้ทั้งจากด้านหน้าไปหลัง หรือหลังไปหน้าได้ ออกเสียงเหมือนกันเลยด้วย ไซส์ตุ๊กตาที่อยู่ด้านหลังพี่สาวคนนี้ราคา 5000 เยน นอกจากนี้ก็มี หมอนข้าง 1800 เยน หรือคุ้กกี้ “อาเบะโนะเบะอา”(แต่ละชนิดราคาตั้งแต่ 580 เยน)
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%28101%29.jpg)
เมื่อลงจากจุดชมวิวแล้วที่ด้านข้างเคาน์เตอร์สอบถามข้อมูล จะมีจุดถ่ายรูปที่สามารถถ่ายรูปกับ “อาเบะโนะเบะอา” ตัวใหญ่ได้ด้วย และถ้าขอพนักงานก็สามารถถ่ายรูปเป็นกลุ่มแบบมีวันที่ที่เราเดินทางไปได้ด้วย
เมื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราจะไปกันที่「SHINSEKAI」อ่านว่า ชินเซไค
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%2895%29.jpg)
การเดินทางไปชินเซไคนี้เราจะต้องนั่งจากสถานีเท็นโนจิ TENNOJI STATION ด้วยรถไฟใต้ดินสายมิโดสึจิ MIDOSUJI LINE เพื่อไปลงสถานีที่ใกล้ที่สุดที่สถานีโดบุสึเอ็นมาเอะ DOBUTSUEN MAE STATION
ก่อนอื่นก็ต้องลงลิฟต์ลงมาที่ทางเข้าจุดชมวิวที่ชั้น 16F และเปลี่ยนลิฟต์เพื่อลงไปที่ชั้นใต้ดิน 1F เมื่อลงมาถึงชั้นใต้ดิน 1F เรียบร้อยแล้วก็ก็เดินตรงไปเรื่อยๆ และผ่านออกประตูอัตโนมัติไป และเลี้ยวไปทางซ้ายมือ ไปเรื่อยๆ ซักพักก็จะออกมาสู่จุดนัดพบของสถานีรถไฟใต้ดิน ให้เดินเยื้องไปทางขวาก็จะมาถึงรถไฟใต้ดินสายมิโดสึจิ MIDOSUJI LINE ที่สถานีเท็นโนจิเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%28101%29.jpg)
เราสามารถใช้「Osaka Amazing Pass」ขึ้นรถไฟใต้ดินได้ไม่อั้น และผ่านเข้าไปได้เลยโดยไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่ แต่หากใครไม่ได้ใช้「Osaka Amazing Pass」ก็สามารถซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินได้ปกติ โดยวิธ”ซื้อก็ง่ายนิดเดียว ก่อนอื่นก็เช็คราคาตั๋วจากบอร์ดแผนผังรถไฟที่อยู่บนเครื่องตรวจตั๋วก่อน สำหรับเครื่องจำหน่ายตั๋วของรถไฟภายในโอซาก้าหรือบริษัทเอกชนของคันไซนั้น จะต้องใส่เงินเข้าไปก่อน จากนั้นก็กดคำว่า「Ticket」และกดราคาตั๋วที่แสดงออกมาด้านล่างหน้าจอ
จากสถานีเท็นโนจิไปลงสถานีที่ใกล้ “ชินเซไค” มากที่สุดที่สถานีโดบุสึเอ็นมาเอะ「DOBUTSUEN MAE STATION」ราคาตั๋วจะอยู่ที่ 180 เยน เราสามารถเช็คราคาตั๋วได้ก่อนล่วงหน้าจากเว็บไซด์ โดยค้นหาจากมือถือได้เพียงแค่ใส่ข้อมูลสถานีต้นทางและสถานีปลายทางเท่านั้น อ่านรายละเอียดคลิ๊กเลย !การเดินทางในญี่ปุ่นของคุณจะง่ายมากขึ้นเมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว
นอกจากนี้สำหรับใครที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่ 10 คนขึ้นไปก็สามารถเลือกซื้อแบบ「回数券」「KAISUUKEN」อ่านว่า “ไคซูเค็น” แปลว่า “ตั๋วคูปอง” ได้
“ไคซูเค็น” คืออะไร ? คลิ๊กอ่านรายละเอียดเลย !ตั๋วรถไฟญี่ปุ่นยิ่งซื้อเยอะก็ยิ่งลดเยอะ มันคืออะไรไปดูกันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%2892%29.jpg)
ผ่านช่องตรวจตั๋วเพื่อเข้าไปชานชาลากันเลย เมื่อผ่านช่องตรวจตั๋วเข้ามาแล้วก็ตรงไปเพื่อลงบันไดไปชานชาลาสายมิโดซุจิ MIDOSUJI LINE ขึ้นรถไฟจากชานชาลาเบอร์ 3 ด้วยรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ อุเมดะ「UMEDA」ชินโอซาก้า「SHIN OSAKA」เซ็นริจูโอ「SENRI-CHOU」เพื่อลงที่สถานีแรกสถานีโดบุสึเอ็นมาเอะ「DOBUTSUEN MAE STATION」 เมื่อลงที่สถานีโดบุสึเอ็นมาเอะเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ฝั่งด้านหน้าชานชาลาเพื่อออกจากช่องตรวจตั๋ว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%2893%29.jpg)
เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วเรียบร้อยแล้วก็เดินไปทางซ้ายเรื่อยๆ จนสุดทางเดินและเลี้ยวขวาเพื่อออกจากทางออกเบอร์ 1 เพื่อขึ้นไปชั้นบนดินค่ะ เมื่อขึ้นมาสู่ชั้นบนดินแล้วก็เดินตรงไปเรื่อยๆ โดยให้ทางออกอยู่ด้านหลัง เดินไปเรื่อยๆ จนเจอ FamilyMart อยู่ด้านซ้ายมือ ก็เลี้ยวซ้ายเพื่อลอดทางรถไฟยกระดับ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%2898%29.jpg)
เมื่อลอดผ่านทางรถไฟยกระดับมาแล้วก็จะเข้ามาสู่เมืองที่ให้บรรยากาศเหมือนได้ย้อนเวลามา 50 ปีที่「JANJANYOKOCHO」หรือ “จันจันโยโกโจ” สองข้างทางเดินแคบๆ ก็จะมีทั้งร้านยิงปืน ร้านเหล้า อีกทั้งยังเป็นสถานที่แข่งขันหมากรุกญี่ปุ่น “โชกิ” หรือร้านอาหารต่างๆมากมายที่ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นสุดๆ เลย
เมื่อผ่าน JANJANYOKOCHO ไปแล้วก็………
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%2888%29.jpg)
และนี้ก็คือบรรยากาศรอบๆ หอคอยโอซาก้าที่มีความสูง 108m ที่มีป้ายร้านค้าต่างๆ มากมายเต็มไปหมดเลย 「SHINSEKAI」ที่ให้บรรยากาศแปลกใหม่ต่างจาดที่อื่นๆ ถ้าให้คนญี่ปุ่นนึกถึงความเป็นโอซาก้าก็คงจะต้องนึกถึงที่นี่เลย รอบๆ ก็จะมีทั้งร้านอาหาร กลิ่นหอมโชยไปทั่ว และร้านขายของฝากต่างๆ มากมาย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%2891%29.jpg)
และสิ่งที่ขึ้นชื่อของชินเซไค เทียบเคียงกับหอคอยโอซาก้าก็คือ「BILLIKEN SAN」รูปปั้นเด็กที่มีเอกลักษณ์เป็นหัวแหลม ๆ ตาชี้ขึ้นกับ「BILLIKEN SAN」ซึ่งเดินทีรูปปั้นนี้เป็นรูปปั้นที่แพร่หลายที่อเมริกา แต่ปัจจุบันเชื่อกันว่าเป็นรูปปั้นนำโชคที่ถูกนำเข้ามาตั้งแต่ก่อนหอคอยโอซาก้าอันแรกไฟไหม้
ปัจจุบันรูปปั้นนี้จะมีอยู่ในที่ต่างๆ ทั้งภายในหอคอยโอซาก้ารุ่นที่ 2 ภายในชินเซไค หรือในเมืองโอซาก้า ที่เป็นสิ่งนำโชคที่อยู่คู่กับคนโอซาก้ามาอย่างยาวนาน และมีความเชื่อว่าถ้าถูที่เท้าหลังของรูปปั้นก็จะได้รับโชคด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/20%2886%29.jpg)
และลักษณะเด่นอีกอย่างของชินเซไคก็คือป้ายใหญ่ๆ แบบย่านโดทงโบริ ที่โอซาก้านี้จะมีป้ายขึ้นชื่อแปลกๆ อยู่เช่น ป้ายปลาปักเป้าชื่อ「TETCHIRI」ของร้าน「ZUBORAYA」หรือป้าย EBISU SAN นำโชคของร้าน「EBISUYA」ด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/21%2877%29.jpg)
ตอนเช้าไป「ABENO HARUKAS」จากนั้นก็ไปชมบรรยากาศ「SHINSEKAI」แต่ตอนนี้ ICHIGO-CHAN เริ่มหิวแล้ว ไหนๆ เราก็มาถึงที่นี่นแล้วก็ไปกินร้านที่มีป้ายแปลกๆ อย่าง「EBISUYA」กันค่ะ ภายในร้านนี้จะมีทั้งที่นั่งแบบ 4 ที่หรือ 6 ที่นั่ง เป็นที่นั่งแบบโต๊ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/22%2858%29.jpg)
ที่มีเมนูขึ้นชื่อของโอซาก้ามากมาย ตั้งแต่ คูชิคาสึ หรือ ของทอดเสียบไม้(แท่งละตั้งแต่100 เยน~)ยากิโซบะ(ตั้งแต่ 650 เยน~)หรือ โอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่น(ตั้งแต่ 720 เยน~)อยู่ครบเลย ถึงแม้ว่าเมนูจะเป็นภาษาญี่ปุ่นแต่ก็มีรูปให้ดู ชี้บอกพนักงานได้เลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/23%2863%29.jpg)
และเมนูที่ ICHIGO-CHAN เลือกวันนี้ก็คือ「โอโคโนมิยากิแบบมิกซ์」(850 เยน+ภาษี)
ที่มีส่วนผสมทั้งเนื้อหมูคล้ายเบค่อน ปลาหมึก กุ้ง และกะหล่ำปลีแบบอัดแน่น น่าทานมากๆ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/24%2843%29.jpg)
ราดด้วยซอสโอโคโนมิยากิ มายองเนส และผงสาหร่าย ก่อนอื่นก็ราดซอสโอโคโนมิยากิสีน้ำตาลเข้มจากขวดที่มี 3 รูลงไปที่โอโคโนมิยากิเลย จากนั้นก็ตามด้วยมายองเนส และปิดท้ายด้วยผงสาหร่าย เท่านี้เราก็สามารถลิ้มลองโอโคโนมิยากิรสชาติดั้งเดิมจากถิ่นกำเนิดเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/25%2840%29.jpg)
“โอโคโนมิยากิ” เองก็จะมีหลากหลายแบบ ทั้งโอโคโนมิยากิแบบใส่เส้นยากิโซบะอย่าง「HIROSHIMA STYLE OKONOMIYAKI」หรือ「MODAN YAKI」ไปจนถึงโอโคโนมิยากิแบบที่อัดแน่นไปด้วยกะหล่ำปลีอย่าง「CABBAGE YAKI」หรือ「MONJA YAKI」ซึ่งที่「EBISUYA」จะเป็นโอโคโนมิยากิแบบกรอบนอกนุ่มใน บวกกับซอสรสชาติดี ถูกปากแน่นอนเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/26%2829%29.jpg)
โอโคโนมิยากิอร่อยๆ กับเครื่องดื่ม ราคารวมแล้ว 1176 เยน ≒ 330 บาท ถึงแม้ว่าที่ไทยจะมีร้านโอโคโนมิยากิอยู่เยอะ แต่โอโคโนมิยากิแบบรสชาติดั้งเดิมราคาก็ปาไป 500 กว่าบาทแล้ว ถือว่าเราได้กินโอโคโนมิยากิรสชาติดั้งเดิมในราคาที่คุ้มมากๆ แล้ว ICHIGO-CHAN ก็อิ่มมากๆ ด้วย
ต่อไปเราจะไปกันที่「TSUTENKAKU」หรือ “หอคอยโอซาก้า” แลนด์มาร์กที่อยู่คู่คนเมืองโอซาก้ามาอย่างยาวนาน พร้อมชมบรรยากาศบริเวณรอบๆ
【ตารางการเดินทาง Day1-2 ABENO HARUKAS/SHINSEKAI】
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/27%2823%29.jpg)