Day1-1 เริ่มวันแรกของทริปด้วยการเที่ยวชมเมืองนาโกย่า ช้อปปิ้งที่ย่านร้านค้าโอสุและไหว้พระขอพรที่วัด「OSU KANNON DORI」
ออกจากกรุงเทพมาประมาณ 5 ชั่วโมงกับอีก 30 นาที และแล้ว ICHIGO-CHAN ก็บินมาถึงสนามบินชูบุ ครั้งนี้เรามาลงกันที่ Chubu Centrair International Airport สนามบินชูบุ(เซ็นแทรร์) เราจะไปกันที่ นาโกย่า ชิสึโอกะ ยามานาชิ บริเวณรอบๆภูเขาไฟฟูจิ และโตเกียวกัน วันแรกเราจะเที่ยวกันที่นาโกย่า ที่แรกเราจะไปกันที่ OSU โอสุ ในนาโกย่า เป็นสถานที่ที่มีความเป็นญี่ปุ่นอยู่สูง นักท่องเที่ยวก็เริ่มให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ 「OSU KANNON」ที่เป็น NIHON SANDAI KANNON(พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ที่มีชื่อเสียงหนึ่นในสาม) และเป็นประตูทางเข้าหน้าเมืองของนาโกย่า มีย่านร้านค้าโอสุที่มีประวัติมายาวนาน ร้านค้าเรียงรายกันมากมายกว่า1200 ร้านเลยทีเดียว ใน 1200 ร้านที่เรียงรายอยู่มากมายนี้ มีร้าน「KOMEHYO」สาขาหลัก เป็นร้านกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่น่าเข้า ในครั้งนี้เราจึงจะมาแนะนำร้านกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้กันด้วย
ออกจากกรุงเทพมาเป็นเวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง และเครื่องบินที่ ICHIGO-CHAN นั่งมาก็มาถึง สนามบินชูบุ(เซ็นแทรร์)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวจะมีลมตะวันตกพัดแรงทำให้เครื่องบินมาถึงได้เร็วใช้เวลาไม่ถึง 5 ชั่วโมง แต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงช่วงหน้าร้อน ลมตะวันตกนี้จะพัดไม่แรง ทำให้ใช้เวลาในการบินนานกว่าปกติ ใช้เวลาผ่านตม.และตรวจภาษีรวมแล้วก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%2850%29.jpg)
เมื่อออกจากทางออกขาเข้าประเทศแล้วเดินไปทางซ้าย ประมาณ 50m ก็จะเจอสามแยก ให้เดินไปทางขวามือที่เป็นทางลาดชัน เมื่อลงไปแล้วก็จะเป็นสถานีรถไฟของ MEITETSU ที่มุ่งหน้าไปสู่ตัวเมืองนาโกย่า และกิฟุ จากสนามบินชูบุ(เซ็นแทรร์)ไปในตัวเมืองนาโกย่ามีรถไฟอยู่ 3 แบบก็คือ「Limited ExpressμSky」・「Limited Express」・「Local Express」โดยแต่ละแบบวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว
Limited ExpressμSky ใช้เวลาเดินทางไปในตัวเมือง 28 นาที
Limited Express・Local Express สามารถซื้อตั๋วได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ส่วน Limited ExpressμSky สามารถซื้อได้ที่เคาเตอร์จำหน่ายตั๋ว
ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN เลือกเป็น Limited ExpressμSky ที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ด้วยสมกับเป็นสถานีในสนามบินนานาชาติเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%2845%29.jpg)
Limited ExpressμSky จากสนามบินชูบุไปสู่นาโกย่า เป็นที่นั่งแบบจองระบุที่นั่งทั้งหมด ที่นั่งเป็นแบบ Reclining Seat นั่งได้สบายกว่า ที่นั่ง Economy บนเครื่องบินที่ ICHIGO-CHAN นั่งมาอีก ออกตัวจากสถานีก็ข้ามสะพานกว้างๆ สนามบินชูบุจะเป็นสนามบินที่สร้างโดยการถมทะเลแบบเดียวกับสนามบินคันไซ
ในประเทศญี่ปุ่นตอนนี้แทบจะไม่มีที่ดินกว้างๆให้สร้างสนามบินหลงเหลืออยู่แล้ว ดังนั้นสนามบินส่วนใหญ่อย่าง สนามบินคันไซ ชูบุ โกเบ คิตะคิวชู และนางาโน่ จะเป็นสนามบินที่สร้างอยู่เหนือทะเล
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/%E6%96%B0%E8%A6%8F.jpg)
ส่วนมากที่นั่งของรถไฟด่วนพิเศษ สามารถปรับที่นั่งให้หันหน้าเข้าหากันได้ด้วย ไม่ใช่แค่ Express μSky รถไฟด่วนพิเศษอื่นๆก็เช่นกัน
เวลาอยากปรับที่นั่งของรถไฟด่วน ควรขออนุญาตกับคนที่นั่งข้างๆก่อนว่า
「SUMIMASEN ISUWO MAWASITE IIDESUKA?」「ชุมิมะเซ็น อิชุโอะ มะวะชิเตะ อี้เดสก้ะ」
แปลว่า ขออนุญาตปรับที่นั่งได้ไหมคะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%2850%29.jpg)
เมื่อถึงนาโกย่าแล้วเราจะมุ่งไปที่「OSU SHOPPING STREET」「ย่านร้านค้าโอสุ」
จากสถานีนาโกย่า เดินทางไปย่านร้านค้าโอสุนั้น สามารถไปได้ทั้งรถไฟ และรถบัส แต่วันนี้เราเลือกนั่งรถไฟที่ใช้เวลาน้อยกว่า
สถานีที่ใกล้ย่านร้านค้าโอสุมากที่สุดก็คือรถไฟใต้ดิน「KAMIMAEZU STATION」MEIJO LINE
ก่อนอื่นจะต้องขึ้นรถไฟใต้ดินเส้นฮิกาชิยามะ Higashiyama Line ก่อน จากนั้นก็เปลี่ยนรถไฟเป็นเส้นเมโจ Meijo LINE ที่สถานีซากาเอะ「SAKAE STATION」
เมื่อถึงสถานีเมเทสึนาโกย่าMeitetsu Nagoya Station ให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปเพื่อออกจากช่องตรวจตั๋ว Central Gate
เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋ว Central Gate มาแล้วก็ลงบันไดที่อยู่ด้านขวามือ จากนั้นเดินไปทางซ้ายก็จะเจอกับช่องตรวจตั๋ว South Gate ของ Higashiyama Line
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/6%2850%29.jpg)
สำหรับใครที่ต้องขึ้นรถไฟใต้ดินเกิน 4 ครั้งต่อวัน อยากแนะนำให้ซื้อเป็น 1 DayPass ไปเลย
วิธีซื้อก็ง่ายนิดเดียว
ก่อนอื่นก็เลือก「English」และเลือก「Ticket」
จากนั้นก็กดปุ่มที่อยู่ในวงกลมสีแดงตามภาพที่ 3 และใส่เงินจำนวน 740 เยน
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%2854%29.jpg)
เมื่อซื้อตั๋ว 1 Day Pass แล้วก็ผ่านช่องตรวจตั๋วเข้าไปเลย
แล้วลงบันไดที่อยู่ตรงหน้าเพื่อไปที่ชานชาลาเบอร์ 1 และขึ้นรถไฟที่มุ่งหน้าไป「ฟูชิมิ FUSHIMI・ซาคาเอะ SAKAE・ฟูจิกาโอกะ FUJIGAOKA」
นั่งไป 2 สถานีเพื่อไปสถานีซาคาเอะใช้เวลา 5 นาที
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/8%2853%29.jpg)
เมื่อถึงสถานีซาคาเอะแล้วให้ลงบันได B เพื่อไปชานชาลาเบอร์ 3
นั่งสาย MEIJYOU LINE ที่ชานชาลาที่ 3 ไป 2 สถานี เพื่อลงสถานีที่ใกล้ย่านร้านค้าโอสุมากที่สุดที่สถานี「KAMIMAEZU STATION」
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%2850%29.jpg)
ขึ้นบันไดที่อยู่ท้ายชานชาลา「KAMIMAEZU STATION」และออกจากทางออกช่องตรวจตั๋วทางใต้
พอออกจากช่องตรวจตั๋วก็จะเจอตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญ
ไซส์กลางจะสามารถใส่กระเป๋าเดินทางได้ราคา 500 เยน ส่วนไซส์เล็ก300 เยน
เมื่อฝากกระเป๋าแล้วก็หันหลังให้ช่องตรวจตั๋วอยู่ด้านหลังและไปทางขวา ให้ขึ้นทางออกเบอร์ 9 ที่อยู่ขวามือได้เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%2856%29.jpg)
เส้นชินไซบาชิหรือเท็นจินบาชิในโอซาก้า อาเมโยโกะของโตเกียวจะเป็นถนนเส้นตรงที่มีร้านเรียงอยู่ข้างทาง ทำให้เดินง่าย แต่ที่ย่านร้านค้าของโอสุจะมีซอยแยกออกไปอีกหลายๆซอย อาจจะงงๆหน่อย
วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ「BANSHOJI DORI」「HIGASHI NIOMON DORI」เป็นหลัก
เริ่มจากบริเวณใกล้ๆทางออกสถานีรถไฟใต้ดิน และเดินขึ้นไปทางเหนือ ตรงไปเรื่อยๆบนเส้น BANSHOJI DORI เพื่อมุ่งไปที่ OSU KANNON
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%2863%29.jpg)
เมื่อออกมาจากประตูทางออกเบอร์ 9 จาก「KAMIMAEZU STATION」แล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ
เมื่อเห็นสตาร์บัคอยู่ทางซ้ายมือก็จะเจอทางเข้า BANSHOJI DORI อยู่ข้างหน้าเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%2866%29.jpg)
เมื่อเข้าแล้วก็จะเจอร้านรองเท้า「ABC MART」ที่เราคุ้นเคยกันดี
ที่นี่มีสินค้ามากมายทั้ง Adidas, Nike, New Balance, Asics,นอกจากรองเท้าของ Onitsuka Tiger มีครบเกือบทุกยี่ห้อเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%2860%29.jpg)
นอกจากนี้ยังมีร้านกระเป๋าที่มีทั้ง anello หรือ KANKEN
ร้าน Drug Store ที่รองรับ Tax Free ก็มีให้เลือกมากมายเลยที่「BANSHOJI DORI」
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%2868%29.jpg)
ของขึ้นชื่อของโอสุก็คือไก่ทอด ถ้าพูดถึงโอสุก็ต้องนึกถึงไก่ทอด ถ้าพูดถึงไก่ทอดก็ต้องนึกถึงโอสุเลย
ถ้าไม่ได้กินไก่ทอดก็เหมือนยังมาไม่ถึงโอสุ
เมื่อเดินเข้ามาในเส้น BANSHOJI DORI เลี้ยวซ้ายที่ซอยที่สอง เข้าไปเล็กน้อย ก็จะเจอกับร้านไก่ทอดยอดนิยม「GABURI CHICKEN」
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%2860%29.jpg)
เมนูก็มีให้เลือกหลากหลายทั้ง ไก่ทอดแบบธรรมดา(400 เยน)ไก่ทอดต้นหอมมายองเนส(450 เยน)หรือของขึ้นชื่อของนาโกย่า อย่างนาโกย่ามิโซะ(450 เยน)
ต้องลองดูซักหน่อยแล้ววว
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%2858%29.jpg)
โดยเอาปีกไก่ทอดมากางออกให้เป็นเหมือน「ดอกทิวลิป」ในเมนูซอสเผ็ดมะเขือเทศ(450 เยน)
ไก่ทอดกรอบๆหอมๆ กับซอสเผ็ดกับมะเขือเทศรสเด็ด เป็นเมนูต้องลองเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%2863%29.jpg)
กลับไปที่ BANSHOJI DORI เราจะเจอร้าน แบรนด์เนมมือสอง
ห้างร้านขายของแบรนด์เนมมือสอง『KOMEHYO』
มีสินค้ามากมายทั้ง เครื่องประดับ นาฬิกา กระเป๋า เป็นสินค้าหลัก และยังมีกล้อง หรือ เครื่องดนตรีด้วย
สินค้าที่จำหน่ายอยู่ที่นี่เป็นสินค้าใช้แล้วทั้งหมด แต่ก็ถูกจัดให้สวยงามเหมือนร้านแบรนด์เนมหรูๆ เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%2853%29.jpg)
มีเสื้อแบบชั่งกิโลขายด้วย
「เยนกรัม」ที่สามารถเลือกเสื้อผ้าได้จากกองเสื้อผ้ากองโต เสื้อ1g=1Yen
แล้วบางทีก็มีกิจกรรม ซื้อเสื้อเต็มถุง ถุงละ1000 เยน
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%2855%29.jpg)
จากจุดสิ้นสุดถนน BANSHOJI DORI ด้านหน้า「KOMEHYO」และข้ามถนนไป และเดินตรงไปเรื่อยๆบนถนน「OSU KANNON DORI」ก็จะมาถึง『OSU KANNON』
OSU KANNON สร้างขึ้นเมื่อเกือบ 700 กว่าปีมาแล้วตั้งแต่ปี 1333
ถึงแม้ว่าวัดนี้จะถูกไฟไหม้จาก เหตุเพลิงไหม้และสงครามโลกครั้งที่สอง ถึงสองรอบ แต่ก็ได้รับการบูรณะและเป็นวัดที่อยู่คู่ชาวเมืองนาโกย่ามาจนถึงปัจจุบัน
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/20%2857%29.jpg)
ด้านในมีนกพิราบเต็มเลย
นกพวกนี้ชินกับคนมากๆ ไม่กลัวคนเลยแม้แต่นิดเดียว เวลาเดินขึ้นไปอาคารหลักศาลเจ้าก็ระวังเหยียบมันนะ
เมื่อขึ้นบันไดมาก็จะเจอกับสถานที่จุดธูป สามารถนำธูปมาจุดได้ 100 เยน
ด้านข้างอาคารหลักศาลเจ้ามีเจ้าแมวสีขาวนอนอยู่ในสำนักงานด้วย คนในท้องถิ่นรู้จักมันดีเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/21%2852%29.jpg)
ทริปของ ICHIGO-CHAN ในครั้งนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ขอพรให้เราได้เจอแต่สิ่งดีๆในทริปนี้กัน
「OSU KANNON」เป็นวัด ไม่ใช่ศาลเจ้า
ดังนั้นเวลาไหว้ขอพรจึงไม่จำเป็นต้องตบมือเหมือนศาลเจ้า
แค่ก้มหัวไหว้ธรรมดาก็พอ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/22%2841%29.jpg)
ICHIGO-CHAN ได้ไหว้ขอพรเรียบร้อยแล้ว
ถ่ายรูปกับโคมขนาดใหญ่เป็นที่ระลึก และเดินกลับไปที่ BANSHOJI DORI เพื่อเดินเล่นอีกนิดหน่อย และมุ่งหน้าไปที่「KAKUOZAN NITTAIJI」วัดนิตไต คาคุโอซัน
ที่วัดนี้ได้มีการบวงสรวงพระบรมสารีริกธาตุที่รัชกาลที่ 5 ได้ทรงบริจาคไว้ให้ เรียกได้ว่าเป็นวัดที่เป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพระหว่างไทยและญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
ในครั้งต่อไปเราจะพาทุกคนไปเดินเล่นในย่านร้านค้าโอสุกันอีกเล็กน้อย และไปเยี่ยมชมวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย ที่ในหลวงออกก่อนรัชกาลที่ 9 ได้ทรงเสร็จมาเมื่อปี 1963 และที่นั่นยังได้ดูแลรักษาต้นไม้ที่พ่อหลวงองค์ปัจจุบันได้ทรงปลูกเอาไว้เป็นอย่างดีกับวัด「KAKUOZAN NITTAIJI」
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/Day1-1%E8%A1%8C%E7%A8%8B%E8%A1%A8.jpg)