เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
OSAKA-KYOTO-KURAMA-UJI-OSAKA
Day1-1 เริ่มทริป! เดินทางจากกรุงเทพ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ และเข้าสู่ตัวเมืองโอซาก้า
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/1%28358%29.jpg)
เมื่อเข้าสู่ช่วงปีใหม่ของประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวที่แท้จริง เป็นช่วงเวลาที่สามารถเพลิดเพลินไปกับอากาศที่หนาวเย็น ที่ไม่สามารถสัมผัสได้ที่ประเทศไทย พร้อมอาหารฤดูหนาวที่แสนอร่อย เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวถือได้ว่ามากกว่านักท่องเที่ยวในช่วงอากาศอบอุ่นในช่วงเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนกันยายน ทำให้ช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่นนี้จะเป็นช่วงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือท่าอากาศยานดอนเมืองจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น
โดยในครั้งนี้จะเป็นการท่องเที่ยว “เกียวโต” และ “โอซาก้า” ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ “โตเกียว” หรือ “ภูเขาไฟฟูจิ” ซึ่งพาสที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเมืองเกียวโต และโอซาก้า ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นโบราณกับ「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟเคฮังนั่นเองค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/2%28308%29.jpg)
โดย “รถไฟเคฮัง” นี้จะเป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่าง “สถานีโยโดยาบาชิ Yodoyabashi Station” ที่อยู่ศูนย์กลางโอซาก้าแหล่งรวมสถานที่ทางราชการอย่างที่ทำการอำเภอโอซาก้า ไปยัง “สถานีเทนมะบาชิ Temmabashi Station” ใกล้ปราสาทโอซาก้า เข้าสู่ศูนย์กลางเกียวโตที่ “สถานีกิออน ชิโจ Gion-Shijō Station” และ “สถานีเดมาจิยานางิ Demachiyanagi Station” ที่เป็นทางเข้าสู่คุรามะ・คิฟุเนะ
ซึ่งพาส『KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS』นี้ก็คือพาสที่เพื่อนๆ สามารถใช้เดินทางท่องเที่ยวเส้นทางสายหลักของรถไฟเคฮัง และเส้นทางรถไฟสายอุจิ ที่เชื่อมระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวในอุจิ พร้อมนั่งรถไฟเคฮังในเกียวโต และโอซาก้าได้ไม่อั้น
「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ แบบ 1 day(800 เยน)และ 2 days(1200 เยน)ที่รองรับการท่องเที่ยวโอซาก้า และสามารถเดินทางไปยังเกียวโตแบบไปกลับได้ เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%28285%29.jpg)
ซึ่งค่าเดินทางจาก “สถานีโยโดยาบาชิ Yodoyabashi Station” หรือ “สถานีเทนมะบาชิ Temmabashi Station” ในตัวเมืองโอซาก้า ไปยัง “สถานีเดมาจิยานางิ Demachiyanagi Station” ในเกียวโต ขาเดียวจะอยู่ที่ 470 เยน เฉพาะฉะนั้นเพียงเดินทางไปกลับวันเดียวก็สามารถใช้ตั๋วแบบวันเดียวได้แบบคุ้มค่า
ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเกียวโต(ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ・วัดคิโยะมิซุ・กิออน・ศาลเจ้าชิโมกาโมะ)แบบวันเดียว โดยออกจาก โอซาก้า(โยโดยาบาชิ)
สถานีโยโดยาบาชิ Yodoyabashi Station⇒สถานีฟุชิมิ อินาริ Fushimi-Inari Station:400 เยน(เยี่ยมชมศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ)
สถานีฟุชิมิ อินาริ Fushimi-Inari Station⇒สถานี คิโยมิสึ โกโจ Kiyomizu-Gojō Station:210 เยน(ท่องเที่ยว วัดคิโยะมิซุ・วัดโคไดจิ・ซันเนซากะ・กิออน)
สถานีกิออน ชิโจ Gion-Shijō Station⇒สถานีเดมาจิยานางิ Demachiyanagi Station:210 เยน(เยี่ยมชมศาลเจ้าชิโมกาโมะ)
สถานีเดมาจิยานางิ Demachiyanagi Station⇒สถานีโยโดยาบาชิ Yodoyabashi Station:470 เยน
รวมเป็น :1290 เยน
ซึ่งพาสแบบ 1 day จะอยู่ที่ 800 เยน เพราะฉะนั้นถือว่าคุ้มค่าไป 490 เยนเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%28283%29.jpg)
「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」ที่จำหน่ายโดยรถไฟเคฮังนี้ ถือเป็นบริษัทรถไฟที่ใช้รถไฟที่หรูหราอลังการ สามารถนั่งได้ด้วยตั๋วค่าเดินทางปกติ จะมีทั้งที่นั่งแบบแถวยาว หรือที่นั่งแบบ Cross Seat ที่นั่งแบบสบายๆ เท่านั้นไม่พอยังมีขบวนรถไฟด่วนพิเศษส่วนหนึ่งที่เป็นแบบที่นั่ง 2 ชั้นอีกด้วย เรียกได้ว่าเพื่อนๆ จะสามารถนั่งชมวิวได้จากมุมสูง และพิเศษสุดๆ คือเพื่อนๆ สามารถนั่งขบวนแบบ 2 ชั้นได้ด้วยตั๋วรถไฟแบบธรรมดาเลยค่ะ สามารถเลือกนั่งได้ตามความชอบเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%28292%29.jpg)
และตั้งแต่ปีพ.ศ.2560 รถไฟด่วนพิเศษ(ยกเว้นบางส่วน)ได้เริ่มมีการเปิดโบกี้『Premium Car』ที่นั่งแบบพิเศษ
ที่มีที่นั่งเพียง 3 แถว แบบ Reclining Seat กว้างขวาง ซึ่งจะเป็นที่นั่งแบบ Reserved Seat ทั้งหมด ให้เพื่อนๆ ได้นั่งรถไฟเดินทางระหว่างเกียวโต-โอซาก้า ได้อย่างสบายตลอดการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง โดยในแต่ละที่นั่งจะมีปลั๊กไฟให้ได้เสียบชาร์ตมือถือ แท็บเล็ต หรือโน๊ตบุ๊ค เท่านั้นไม่พอยังมี Wifi บริการอีกด้วย
การใช้บริการ Premium Car นั้นนอกจากตั๋วขึ้นรถไฟแบบธรรมดาแล้ว จะต้องซื้อตั๋ว Premium Car เพิ่มอีกประมาณ 400-500 เยน (ขึ้นอยู่กับช่วงระยะทาง) สำหรับเพื่อนๆ ที่มี 「KYOTO-OSAKA SIGHTSEEING PASS」 ก็สามารถใช้นั่งส่วนนี้ได้โดยจ่ายเพิ่มเฉพาะ ตั๋ว Premium Car เท่านั้นได้เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/6%28295%29.jpg)
โดยครั้งนี้เราจะเลือกเดินทางด้วยสายการบินราคาประหยัดอย่าง 『AirAsiaX』 ที่มีเที่ยวบินเชื่อมระหว่างกรุงเทพ-โตเกียว
โดย AirAsiaX นั้นมีเที่ยวบินไปกลับระหว่าง กรุงเทพ-คันไซ อยู่วันละ 2 เที่ยว
กรุงเทพ(ดอนเมือง) ⇒ คันไซ
XJ612 1:10⇒ 8:40
XJ610 14:15⇒21:40
คันไซ ⇒ กรุงเทพ(ดอนเมือง)
XJ613 9:50⇒ 13:50
XJ611 23:45⇒ 4:00(วันถัดไป)
สามารถเลือกบินได้ตามเวลาที่ต้องการ โดยวันนี้เราจะเดินทางด้วย AirAsiaX ออกจากกรุงเทพจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ซึ่งเที่ยวบินระหว่างประเทศจะออกจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองจากเทอร์มินอล 1 โดยเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน AirAsiaX เที่ยวบินไปสู่ประเทศญี่ปุ่น จะอยู่ที่หมายเลข 4
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%28291%29.jpg)
ในกรณีที่เคาน์เตอร์เช็คอินเต็มไปด้วยลูกค้าที่มาเช็คอิน ก็สามารถทำการเช็คอินได้ที่เครื่องเช็คอินอัตโนมัติ โดยกดปุ่ม「Check In」จากนั้นทำการสแกนหนังสือเดินทาง โดยใช้เวลาเช็คอินเพียง 30 วินาทีเท่านั้น สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการฝากสัมภาระใต้ท้องเครื่องก็สามารถทำการเช็คอินได้ที่เครื่องเช็คอินอัตโนมัติก่อน แล้วจึงฝากสัมภาระที่เคาน์เตอร์ช่อง BagDrop อาจจะดูยุ่งยากที่จะต้องดำเนินการถึงสองขั้นตอน แต่เมื่อเทียบกับการต้องต่อแถวรอเช็คอินจากแถวที่ยาวเหยียดแล้ว วิธีนี้เร็วกว่าเยอะเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/8%28296%29.jpg)
เที่ยวบิน AirAsiaX ที่เดินทางจากกรุงเทพ ไปสู่ญี่ปุ่นนั้นจะเป็นเครื่องบินลำใหญ่ A330 โดยส่วนใหญ่มีที่นั่งอยู่ทั้งหมด 9 แถว แบ่งออกเป็น 3-3-3 ถึงแม้ว่าจะมีที่นั่งอยู่มากมายถึง 400 ที่นั่ง แต่เส้นทางคันไซส่วนใหญ่จะที่นั่งเต็มเกือบทุกรอบ ดังนั้นในบางกรณีถึงแม้ว่าจะมาด้วยกันก็อาจไม่ได้นั่งที่นั่งติดกัน เพราะฉะนั้นหากเพื่อนๆ อยากนั่งติดกับครอบครัว แฟน หรือเพื่อน ก็สามารถจองที่นั่งล่วงหน้า(มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) เอาไว้ตอนจองตั๋วได้เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%28296%29.jpg)
ใช้เวลาเดินทางจากดอนเมืองไป 5 ชั่วโมง 30 นาที และตอนนี้ก็ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติคันไซแบบตรงเวลา ถึงแม้ว่าสายการบินนี้จะไม่มีหน้าจอทีวี เหมือนกับสายการบินไทย หรือสายการบินญี่ปุ่น แต่ก็นั่งได้แบบสบายๆ ไม่มีแสงรบกวนจากหน้าจอข้างๆ เลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะเสียดายที่ไม่มีปลั๊กให้เสียบชาร์ตก็ตาม แต่ถ้ามีพาวเวอร์แบงค์เตรียมเอาไว้ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้วค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%28299%29.jpg)
ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซที่มีความยาวตั้งแต่ทิศเหนือไปยังทิศใต้เป็นระยะทางมากกว่า 1km เพราะฉะนั้นเมื่อถึงสนามบินและออกจากเครื่องบินมาแล้ว ก็จะต้องนั่งรถไฟฟ้าไปยังอาคารหลักเพื่อไปยังเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง ที่วิ่งทุกๆ 3 นาที เพื่อนั่งไปประมาณไม่ถึง 2 นาทีเท่านั้น
หากเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองได้เพิ่มเคาน์เตอร์มากขึ้นและทำให้สามารถผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองได้รวดเร็วมากขึ้นอาจจะไม่ต้องรอนานเกินครึ่งชั่วโมงเหมือนเมื่อก่อนเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%28305%29.jpg)
บริเวณใกล้เคียง ประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จะมีทั้งส่วนเครื่องจำหน่ายซิมมือถืออัตโนมัติ เคาน์เตอร์เช่าไวไฟเราเตอร์ หรือจุดให้บริการข้อมูลการท่องเที่ยว เป็นต้น และที่สำคัญคือร้านกาแฟต่างๆ อยู่บริเวณนี้ อย่างเช่น STARBUCKS อยู่อีกด้วย
เมื่อออกจากประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศไปทางขวามือ และตรงไปเรื่อยๆ ก็จะมีเคาน์เตอร์รับขนส่งสัมภาระ ที่หากดำเนินการฝากสัมภาระเพื่อขนส่งก่อน 14:00 น. ทางร้านก็จะทำการขนส่งสัมภาระไปยังโรงแรมภายในตัวเมืองโอซาก้าได้ภายในเวลา 19:00 น. ลดปัญหาสัมภาระที่หนักอึ้งระหว่างการท่องเที่ยวไปได้เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%28306%29.jpg)
เมื่อออกจากประตูผู้โดยสารขาออกมาแล้ว ก็มุ่งหน้าไปในตัวเมืองโอซาก้ากันเลย
ซึ่งการเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ไปยังตัวเมืองโอซาก้าจะมีหลายวิธีคือ
1.เดินทางด้วยรถไฟนันไค NANKAI ไปยัง “นัมบะ Namba” “ชินอิมามิยะ Shinimamiya” “เทนกาฉะยะ Tengachaya” เพื่อใช้รถไฟใต้ดินต่อ
2.เดินทางด้วยรถไฟ JR สาย Kansai Airport ที่สามารถเดินทางไปยัง “เท็นโนจิ Tennoji” “โอซาก้า Osaka” หรือ “ชินโอซาก้า Shin-Osaka”
3.เดินทางด้วย “ลีมูซีนบัส” เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในคันไซได้โดยตรง
โดยเราจะเลือกเดินทางด้วย ข้อ 1 รถไฟนันไค NANKAI ค่ะ
ในข้อที่ 1 และ 2 จะเป็นรถไฟที่ออกตัวจากสถานีท่าอากาศยานนานาชาตคันไซ ที่เชื่อมต่อกับเทอร์มินอลสนามบินเลยค่ะ
เมื่อเดินออกจากประตูผู้โดยสารขาออกแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ซ้ายมือไปที่ชั้น 2F จากนั้นเดินออกจากประตูที่อยู่ซ้ายมือเพื่อเดินข้ามสะพานผ่านไปที่ตึกสถานีท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เมื่อถึงสถานีแล้วก็ไปซื้อตั๋วรถไฟที่อยู่ซ้ายมือเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%28297%29.jpg)
การเดินทางจากสถานีท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ไปยังศูนย์กลางโอซาก้าที่ “นัมบะ” “ชินอิมามิยะ” หรือ “เทนกาฉะยะ” สามารถขึ้น「Airport Express」(ค่าเดินทาง 920 เยน)ใช้เวลาในการเดินทาง 45-50 นาที หรือ「Limited Express rapit」(ค่าเดินทาง+ตั๋วรถด่วนพิเศษ 1270 เยน)ใช้เวลาในการเดินทาง 35 นาที
ในกรณีที่ใช้บริการ Limited Express rapit นั้นแนะนำให้ซื้อ「YOKOSO! OSAKA TICKET」(1650 เยน)ที่มาพร้อมกับตั๋วเดินทางปกติ+ตั๋วรถไฟด่วนพิเศษ พร้อมตั๋วนั่งรถไฟใต้ดินในโอซาก้าทุกสาย และโอซาก้าซิตี้บัส ได้ไม่อั้น 1 วัน
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วก็เดินผ่านช่องตรวจตั๋วสีส้มไปที่ชานชาลากันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%28301%29.jpg)
Limited Express rapit ที่เราใช้บริการในครั้งนี้ จะมีหัวรถไฟที่เหมือนหุ่นยนตร์ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคอรถไฟทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติ ไม่น้อยเลยทีเดียว บางคนถึงกับเดินทางมาที่สนามบินคันไซเพื่อมาใช้บริการรถไฟนี้เลยทีเดียว โดย Limited Express rapit จะใช้บริการตั้งแต่เช้า 7:00 น. ไปจนถึง 22: 35 น. ทุกๆ 30 นาที ใช้เวลาเดินทางจากสถานีท่าอากาศยานนานาชาติคันไซไปยังตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 35 นาที
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%28291%29.jpg)
Limited Express rapit นี้จะมีทั้งหมด 6 โบกี้ ซึ่งในโบกี้ที่ 2 และ 3 จะเป็นที่นั่งแบบ Super Seat ส่วน 4 โบกี้ที่เหลือจะเป็นที่นั่งแบบทั่วไป ที่นั่งเป็นลวดลายเสือดาว ตกแต่งภายในแบบเรียบหรู มีบริการส่วนเก็บสัมภาระ และ WIFI ฟรี นอกจากนี้ยังมีตู้กดน้ำอัตโนมัติอยู่อีกด้วย
เมื่อรถไฟออกจากสนามบินคันไซมา ก็จะวิ่งผ่านสะพานข้ามทะเลยาวกว่า 5km ชมวิวทะเลที่สวยงาม เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองโอซาก้ากันเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%28291%29.jpg)
ที่พักของเราในวันนี้อยู่ใกล้กับหนึ่งในสถานีหยุดจอดของ Limited Express rapit ที่สถานีชินอิมามิยะ ที่โรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」สามารถเดินจากสถานีไปเพียง 1 นาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราจะไปฝากสัมภาระที่โรงแรมก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวกันค่ะ โดยออกจากสถานีสนามบินคันไซมา 33 นาที สถานีชินอิมามิยะ จะอยู่ก่อนสถานีปลายทางที่สถานีนัมบะ ก่อน 1 สถานี เมื่อลงจากรถไฟแล้วก็ลงบันไดที่อยู่ภายในชานชาลาเพื่อผ่านออกไปจากช่องตรวจตั๋วกันเลย จากนั้นก็ไปทางบันไดที่อยู่ทางซ้ายมือเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%28297%29.jpg)
จากนั้นก็ลงบันไดไป เพื่อออกจากสถานีไปทางซ้ายมือ และเดินไปตามถนนใหญ่ ก็จะเจอโรงแรม『UNIVERSAL HOTEL REBORN』ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม ปีพ.ศ.2561 เมื่อไม่นานมานี้ อยู่ทางด้านซ้ายมือเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%28292%29.jpg)
ซึ่งโรงแรมนี้ตั้งอยู่ในสถานที่ที่สามารถเดินไปยัง “สถานีรถไฟ JR สถานีชินอิมามิยะ สาย Osaka Loop Line” “สถานีรถไฟนันไค สถานีชินอิมามิยะ สายหลัก” “สถานีรถไฟใต้ดินโดบุทสึเอ็นมาเอะ สาย Sakaisuji Line・Midosuji Line” และ “สถานีรถไฟฮังไค สถานีชินอิมามิยะ” สามารถใช้เวลาเดินเท้าได้ภายใน 3 นาที โดยโรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」ที่ตั้งอยู่ในจุดที่สามารถใช้เส้นทางรถไฟได้มากถึง 5 สายนี้ ได้รับการรีวิวในเว็ปไซต์ agoda ถึง 8.9 /10 เลยทีเดียว
และสำหรับผู้เข้าพักสามารถฝากสัมภาระเอาไว้ได้ฟรี เพราะฉะนั้นเราจะไปเช็คอินและฝากกระเป๋าเอาไว้ก่อน แล้วค่อยเดินทางไปเที่ยวตัวเมืองโอซาก้ากันต่อค่ะ
ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ เดินทางออกจากที่พักโรงแรม「UNIVERSAL HOTEL REBORN」ไปยังร้านเช่าชุดกิโมโนที่「WASOBI」เพื่อเปลี่ยนเป็นชุดกิโมโนเดินเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในโอซาก้า โดยเริ่มจากปราสาทโอซาก้ากันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day1-1 DON MUEANG AIRPORT(DMK)/KANSAI AIRPORT(KIX)】
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%28290%29.jpg)