![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13-4.jpg)
ถึงสนามบินคันไซแล้ว AIR ASIA X ระหว่างทางเดินภายในเครื่อง อาจจะดูแคบนิดหน่อย แต่ความกว้างด้านหน้าของที่นั่งก็ไม่ต่างจากสายการบินอื่น และถ้าเทียบกับตัวเล็กๆ ICHIGO CHAN แล้ว ดูก้วางขึ้นมาเยอะ และไม่มีอาหารเช้าบริการ ICHIGO CHAN นอนหลับสบายมาตลอดทางเลยค่ะ
จากสนามบินกรุงเทพ (DMK -ดอนเมือง) เที่ยวบิน XJ612 ถึงสนามบินโอซาก้า (KIX -คันไซ) เวลา 8:40 น.ช่วงเวลานี้คนอาจจะเยอะ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับสายการบิน FINLAND ,SINGAPORE , สายการบินเกาหลี JEJUER ที่เดินทางมาถึงสนามบินคันไซ ในเวลาเดียวกัน ทำให้ไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองล่าช้า ไปประมานหนึ่งชั่วโมง และได้ออกมาข้างนอกประมาน 10:30 น
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/31-1.jpg)
ก่อนอื่นเราจะเดินทางไปที่ เกียวโต
หลังจากที่เราออกมาจากสนามบิน แล้วให้เลี้ยวขวา เดินขึ้นบันไดเลื่อน จากนั้นให้เลี้ยวซ้าย ข้ามสะพาน ก็จะเจอสถานีสนามบินคันไซ จากนั้นเดินไปซื้อตั๋วของรถไฟ JR เพื่อไปยังสถานีเกียวโตกันค่ะ
การเดินทางจากสนามบินคันไซไปเกียวโต มี4วิธี
จากลำดับที่4 การนั่งรถไฟNANKAI +รถไฟใต้ดินHANKYU+รถไฟใต้ดิน เป็นวิธีที่ถูกที่สุด แต่การเปลี่ยนสถานีอาจทำให้เราเดินทางลำบากขึ้น
วิธีที่ถูกและดีที่สุดของของรถไฟ JR คือ KANKU RAPID และ SHIN-KAISOKU
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/k4-5-6-954x1024.jpg)
วิธีการซื้อตั๋ว
ก่อนอื่นเลือกเมนู ภาษาอังกฤษ
มีบัตร ICOCA ด้วยนะคะ แต่เราจะเลือกซื้อตั๋วค่ะ โดยเลือกที่ PURCHASE TICKET จากนั้นใส่เงินลงไปในช่อง ตู้จะโชว์ราคาให้เราเลือก เราสามารถเช็คราคาได้จากแผนที่ด้านบน ว่าถึงสถานีปลายทางราคาเท่าไร เช่นของเราไปถึง KYOTO STATION ราคา 1880 เยน จากนั้นก็กดปุ่มเลือกราคา เพียงเท่านี้ตั๋วก็จะออกมาค่ะ หรือถ้าหากจะไป OSAKA STATION ราคา1190เยน ราคาเดียวกับสถานี UNIVERSAL CITY STATION
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/71-1.jpg)
สถานีสนามบินคันไซ จะมีทางเข้าตรวจตั๋ว 2 จุด สถานี JR ทางเข้าตรวจตั๋วจะเป็นสีน้ำเงิน
ส่วนสีส้มเป็นรถไฟสาย NANKAI อย่าเข้าผิดนะคะ จากนั้นเราก็ออกเดินทางไปขึ้นรถไฟกัน
รถไฟสีขาว คือรถด่วนพิเศษ HARUKA สีเงินเป็นรถด่วน KANSAI AIRPORT RAPID SERVICE หรือ รถไฟธรรมดา รถไฟธรรมดาไปไม่ถึงเกียวโต ครั้งนี้เราจะขึ้นรถไฟที่ชื่อว่า KANSAI AIRPORT RAPID SERVICE ซึ่งเป็นรถด่วนจากสนามบินคันไซที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และมีเบาะที่นั่งคู่ และเดี่ยว ทำให้นั่งสบาย
ในระหว่างทาง เราจะเห็น『KYOCERA DOME OSAKA』คือสนามแข็งเบสบอลนั่นเองค่ะ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโอซาก้า มีลักษณะคล้ายกับ TAKOYAKI เป็นโดมที่ใหญ่ใน 5 แห่ง ของญี่ปุ่น 『FUKUOKA DOME』『TOKYO DOME』『NAGOYA DOME』『SAPPPRO DOME』
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/k11-K12-1024x371.jpg)
ถึงแม้รถไฟด่วนสนามบินคันไซ (Kansai Airport Rapid) จะแวะจอดที่บางสถานีระหว่างทาง เราก็ไปถึงสถานีโอซาก้าโดยใช้เวลาราว ๆ 70 นาที เราจะต้องเปลี่ยนจากรถไฟด่วนสนามบินคันไซเป็นรถไฟด่วนแบบใหม่ (Special Rapid) ที่สถานีโอซาก้า
พอรถไฟด่วนสนามบินคันไซเข้าจอดที่ชานชาลาหมายเลข 2 เราก็ขึ้นบันไดเลื่อนของชานชาลากลาง เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนแล้วให้เดินไปทางช่องตรวจตั๋ว หลังจากผ่านช่องตรวจตั๋วแล้วก็ลงบันไดเลื่อนซึ่งจะลงไปยังชานชาลาหมายเลข 7 / 8 รถไฟด่วนแบบใหม่จะออกจากชานชาลาหมายเลข 8 โดยจะมีรถไฟ 2 ประเภท คือ “รถไฟด่วนแบบใหม่” และ “รถไฟด่วน” เข้ามาที่ชานชาลานี้ ไม่ว่าจะขึ้นขบวนไหนก็สามารถไปยังเกียวโตได้เหมือนกัน เพียงแต่รถไฟด่วนแบบใหม่จะไปถึงเร็วกว่า
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/132-2.jpg)
รถไฟด่วนแบบใหม่มาถึงแล้ว โดยปกติรถไฟด่วนแบบใหม่จะมีอยู่ 12 ตู้ เนื่องจากตู้รถไฟตอนกลาง ๆ มักจะมีคนแน่น เพราะฉะนั้นเราไปขึ้นรถไฟที่หัวขบวนหรือไม่ก็ท้ายขบวนกันเถอะ เพราะโอกาสที่เราจะได้นั่งน่าจะมีสูงกว่า
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/142-2.jpg)
รถไฟด่วนแบบใหม่ใช้เวลา 30 นาทีเพื่อมาถึงที่สถานีเกียวโต เพราะว่าเป็นเที่ยวบินกลางคืนเลยทำให้เหนื่อยนิดหน่อย ในขณะที่กำลังจะเผลอหลับ รถไฟก็มาถึงที่หมายซะแล้ว รถไฟด่วนแบบใหม่นั้นมีปลายทางอยู่หลายแห่ง ซึ่งก็รวมไปถึงจังหวัดฟุกุอิของภูมิภาคโฮคุริคุด้วยนะ ถ้าหากเผลอหลับแล้วนั่งรถเลยไป พอตื่นขึ้นมาก็อาจจะไปโผล่ตรงที่ไกลมาก ๆ เลยก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องระวังให้ดีนะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/153-2.jpg)
ใกล้จะ13:00แล้ว
เพราะว่าไม่ได้สั่งอาหารตอนที่อยู่บนเครื่องบิน ตอนนี้ก็เลยหิวสุด ๆ ตรงที่ 『PORTA』 ซึ่งเป็นศูนย์การค้าใต้ดินของสถานีเกียวโตนั้นมีร้านอาหารเรียงรายอยู่เต็มไปหมด เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น เป็นต้น ตอนแรกก็ลังเลอยู่ว่าจะเข้าร้านไหนดีน้า….!? แต่เอาเป็นว่าไปกินเทมปุระของร้าน 『GINZA HAGETEN』ก่อนละกัน
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/163.jpg)
เมนูอาหารที่แนะนำมี3อย่าง คือ “เซอร์วิสคอร์ส”(999 เยน), “ข้าวหน้าเทมปุระกุ้งแบบคัดพิเศษ”(1080 เยน)และ “โวลุ่มคอร์ส” (1404 เยน)
ICHIGO CHAN ขอสั่งเซอร์วิสคอร์สซึ่งมีข้าวสวยหุงร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมกับกุ้ง1ตัว,ผัก3ชนิด,ปลา1ตัว,ไข่ตุ๋น และยังมีอากาดาชิ(ซุปมิโสะแดง)ด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/173-1.jpg)
ในราคา 999เยน=280บาท ถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับปริมาณขนาดนี้
โดยเฉพาะเทมปุระที่ทอดมากรอบ ๆ พอได้ทานแล้วก็จะดังกรุบ ๆ เลยล่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/183-1.jpg)
สำหรับน้ำซุปที่ชื่อว่า “อากาดาชิ” ICHIGO CHAN nเพิ่งจะเคยได้ทานเป็นครั้งแรก ถ้าเทียบกับซุปมิโสะแล้วก็ถือว่าเป็นซุปที่มีรสชาติเข้มข้นมากทีเดียว คิดว่าจะต้องถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน
“มิโสะ” ที่จะขาดไม่ได้เลยในอาหารญี่ปุ่น
ในแต่ละพื้นที่ก็จะมีวัตถุดิบและสีสันที่แตกต่างกันออกไป สำหรับโอซาก้าและเกียวโตนั้น โดยทั่วไปจะใช้ “มิโสะขาว” มีรสหวานนิด ๆ เพราะใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบ แต่สำหรับภูมิภาคโทไก เช่น นาโงย่า โดยทั่วไปจะใช้มิโสะที่มีสีแดงและมีรสเผ็ดร้อน เพราะใช้ถั่วเป็นวัตถุดิบ สำหรับภูมิภาคคิวชูนั้น โดยทั่วไปจะเป็นมิโสะซึ่งใช้ข้าวสาลีเป็นวัตถุดิบ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/193.jpg)
เอาล่ะ พอทานอาหารที่แสนอร่อยเสร็จแล้วก็ได้เวลาคิดเงิน
ที่ประเทศไทยนั้น โดยปกติแล้วจะเรียกพนักงานให้มาที่โต๊ะเพื่อคิดเงิน แต่ว่าที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น คนจะถือรายการอาหารที่สั่งและเดินไปที่เคาน์เตอร์คิดเงินด้วยตัวเองเพื่อให้พนักงานคิดเงิน ถ้าเป็นช่วงเวลาที่มีลูกค้าเยอะ บางครั้งพนักงานก็อาจจะไม่ได้ประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์คิดเงินนะ
ในเวลานั้น
ให้พูดว่า “OKAIKEI ONEGAI SHIMASU” (รบกวนช่วยคิดเงินด้วย)
กับพนักงานของร้านนะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/202.jpg)
ICHIGO CHAN ที่ตอนนี้ท้องอิ่มเพราะว่าทานเทมปุระแสนอร่อยเสร็จแล้ว
ถึงจะมาที่เกียวโตเป็นครั้งที่3แล้วก็ตาม ที่จริงแล้วก็อยากจะลองขึ้นไปบนหอคอยที่อยู่หน้าสถานีดูเหมือนกันนะ อยากจะลองขึ้นมาตั้งนานแล้ว เพราะฉะนั้นในครั้งหน้าจะขอนำเสนอบรรยากาศของ『KYOTO TOWER』