Day 4-1 เที่ยวชมปราสาทสีดำ “ปราสาทมัตสึโมโตะ” ที่ยิ่งใหญ่อลังการประจำเมืองมัตสึโมโตะ

เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม

ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป

พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ

Day 4-1 เที่ยวชมปราสาทสีดำ “ปราสาทมัตสึโมโตะ” ที่ยิ่งใหญ่อลังการประจำเมืองมัตสึโมโตะ

NAGOYA-TAKAYAMA-SHIRAKAWAGO-TOYAMA-ALPINEROUTE-MATSUMOTO-NAGOYA

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เที่ยวชม “เส้นทางแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ”「TATEYAMA KUROBE ALPINE ROUTE」ประกอบไปด้วยกำแพงหิมะ “ยูกิโนะโอทานิ” หรือ “บึงมิกุริกะ” ที่รายล้อมไปด้วยหิมะหนา จากนั้นก็ได้ชมความสวยงามของวิว “ทะเลสาบคุโรเบะ” ในเขื่อนคุโรเบะแล้ว ในมื้อเย็นเราก็ได้ทานอาหารที่ร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น “อิซากายะ” ไปจนเต็มอิ่ม เป็นหนึ่งวันที่เต็มที่มากๆ เลยค่ะ

Day 3-5 ทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารแนวกินดื่ม “แนวฮิซากายะ” ที่เมืองมัตสึโมโตะ พร้อมเข้าพักที่โรงแรม Hotel Montagne Matsumoto

โดยที่ “มัตสึโมโตะ” คือเมืองที่อยู่ระหว่างทางท่องเที่ยวจาก โตเกียว หรือ ภูเขาฟูจิ ไปยัง สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ชิราคาวาโกะ หรือ ทาคายาม่า โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของมัตสึโมโตะก็คือ “ปราสาทมัตสึโมโตะ” เป็นปราสาทสีดำแปลกตาสวยงาม อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับ ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาวได้อย่างสวยงามเช่นกัน ไม่ว่าฤดูไหนๆ ก็มีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวอย่างแน่นหนา

การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วยพาส「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ในตอนที่ 14 ซึ่งเราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชม “ปราสาทมัตสึโมโตะ” กันค่ะ

วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของทริปแล้ว เราจะเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเช้าหน่อย ตอน 8 โมงครึ่ง การเช็คเอ้าท์ก็เพียงคืนกุญแจห้องให้พนักงานที่ฟร้อนท์เท่านั้น (หากไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) เราจะฝากสัมภาระเอาไว้ และไปท่องเที่ยวปราสาทมัตสึโมโตะกันเลย

ซึ่งที่โรงแรม「Hotel Montagne Matsumoto」นี้มีบริการเช่าชุดกิโมโน(4000 เยน-/2 ชั่วโมง)และชุดนินจา(2500 เยน-/1 วัน)อยู่ด้วย เพื่อนๆ สามารถเช่าชุดเหล่านี้เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เพื่อให้ได้บรรยากาศมากขึ้น เหมือนได้เป็นเจ้าหญิง หรือราชา ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่เหมาะมากๆ เลยค่ะ ทั้งวิวสวยๆ ของแต่ละฤดูและอากาศที่ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป

เราจะใช้เวลาเดินจากโรงแรมไปยังปราสาทมัตสึโมโตะในวันที่อากาศดีท้องฟ้าแจ่มใสเป็นเวลา 15 – 20 นาที แต่วันนี้ฝนตก เราจึงจะนั่งรถบัสจากสถานีมัตสึโมโตะเพื่อไปที่ปราสาทมัตสึโมโตะกันค่ะ ซึ่งป้ายรถบัสจะอยู่อีกฝั่งโดยมีอาคารสถานีกั้นอยู่ ตั้งอยู่ฝั่งประตูตะวันออก(東口)ของสถานี ก่อนอื่นต้องเดินออกจากโรงแรมไปทางขวามือ และเดินไปจนสุดทาง จากนั้นก็ขึ้นบันไดเลื่อนไป

เมื่อขึ้นบันไดมาแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ จากนั้นเดินตรงไปตามทางเรื่อยๆ และลงบันไดเลื่อน จากนั้นก็เดินตรงไปที่ป้ายรถบัสหมายเลข 1

รถบัสที่มุ่งหน้าจากสถานีมัตสึโมโตะไปยังปราสาทมัตสึโมโตะจะออกตัวจากป้ายรถบัสหมายเลข 1 สามารถนั่งรถบัส “Town Sneaker” หมายเลข 200 (วันธรรมดาวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว・วันเสาร์อาทิตย์ ชั่วโมงละ 3 เที่ยว)หรือ รถบัสหมายเลข 32 (ชั่วโมงละ 1-2 เที่ยว)ไปยังปราสาทมัตสึโมโต้ได้ (ค่าโดยสาร 200 เยน)

ซึ่งวิธีขึ้นรถบัสในประเทศญี่ปุ่นก็จะมีความแตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่ แต่ละบริษัท โดยรถบัสที่เราจะขึ้นในวันนี้ให้ขึ้นรถบัสจากประตูกลาง และลงรถบัสจากประตูหน้า เมื่อรถบัสมาแล้วก็ขึ้นรถบัสจากประตูกลางเลย จากนั้นก็หยิบตั๋วรถบัสที่อยู่บริเวณทางเข้าจากเครื่องออกตั๋วป้ายสีส้ม

เราจะนั่งรถบัสจากสถานีมัตสึโมโตะ ไปลงที่ป้าย「Matsumotojo Shiyakushomae」ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที เมื่อเห็นปราสาทมัตสึโมโตะอยู่ด้านซ้ายมือก็ลงรถบัสได้เลยค่ะ สามารถชำระค่าโดยสารได้โดยใส่เงินจำนวน 200 เยนลงไปในกล่องใส่เงินที่อยู่ข้างคนขับเลยค่ะ เมื่อลงรถบัสมาแล้วก็เดินเรียบคูน้ำไปทางฝั่งด้านหลังเลย

เมื่อเดินเรียบคูน้ำมาซักพักก็ข้ามสะพานไปและที่อยู่ตรงหน้าก็คือ “ประตูไทโกะ”「Taiko-mon」เดิมทีเป็นสถานที่ตีกลอง และระฆัง เพื่อบอกเวลาให้คนที่อยู่ในปราสาท และผู้คนบริเวณใกล้เคียงทราบ

เมื่อผ่านประตูไทโกะมาแล้ว ก็เดินไปทางซ้ายมือ จากนั้นก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้าปราสาทมัตสึโมโตะอยู่ทางขวามือ โดยปราสาทมัตสึโมโตะเป็นปราสาทที่มีอายุมากกว่า 500 ปี『MATSUMOTO CASTLE』

และในส่วน “หอคอยปราสาท” ที่เป็นสัญลักษณ์นั้น เป็นอาคารดั้งเดิมตั้งแต่ 400 กว่าปีก่อนอีกด้วย เป็นปราสาทที่ยังคงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง อย่าง “ปราสาทฮิเมจิ” “ปราสาทฮิโกะเนะ” หรือ “ปราสาทอินุยามะ” ที่มีขนาดใหญ่มากเลยทีเดียว

ค่าเข้าชมราคา 410 เยน สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเลย (รับเฉพาะเงินสดเท่านั้น)

และเมื่อผ่านเข้ามาแล้ว ก็จะเจอ “ประตูคุโรมง”「Kuromon」เมื่อลอดผ่านประตูคุโรมงไปแล้วก็จะเข้าสู่ลานกว้างหอคอยปราสาท และที่บริเวณประตูคุโรมงจะมีนักรบซามุไรยืนราวกับว่าปกป้องประตูอยู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม「Matsumoto Castle Hospitality Team(松本城おもてなし隊)」สามารถถ่ายรูปกับพวกเขาได้เลย นอกจากนี้พวกเขายังสามารถให้ข้อมูลการท่องเที่ยวต่างๆ ได้อีกด้วย

และเมื่อเดินเลยประตูคุโรมงไปทางขวามือจะมีร้านจำหน่ายของฝาก ทั้งสินค้าออริจินัลของปราสาทมัตสึโมโตะ หรือขนมต่างๆ มากมาย เช่น ขนมมันจู(12 ชิ้น 650 เยน), “โปสการ์ดรูปภาพ”(1 ใบ 100 เยน、6 ใบ 370 เยน), “ถ้วยชา”(370 เยน)ที่ทำจากไม้บนเขาที่จังหวัดนางาโนะ หรือ ตุ๊กตาเย็บมือ(700-900 เยน)นอกจากนี้ยังมีสินค้าคิตตี้ หรือโดเรม่อนอยู่อีกด้วย

และฝั่งด้านซ้ายร้านขายของฝาก ถัดจากลานกว้างก็คือหอคอยปราสาทของปราสาทมัตสึโมโตะ บริเวณโดยรอบจัดตกแต่งสวนสีเขียวสวยงาม ปราสาทมัตสึโมโตะสีดำนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า「KARASU-JO(烏城)」ที่แปลว่า “ปราสาทนกกา” นั่นเอง ลานกว้างแห่งนี้สามารถเพลินเพลิดกับความสวยงามของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละฤดูของญี่ปุ่น ทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว โดยเฉพาะ ฤดูใบไม้ผลิ หรือ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาว เป็นบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นจริงๆ เลยค่ะ

เมื่อเดินเลยลานกว้างไป ก็จะเดินไปทางเข้าหอคอยปราสาทเลย บริเวณทางเข้าหอคอยปราสาทก็มีนินจา ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม「Matsumoto Castle Hospitality Team(松本城おもてなし隊)」เช่นกันค่ะ

เมื่ออดีตกว่า 300 ปีที่ผ่านมา ในสมัยเอโดะที่ยาวนานมากกว่า 250 ปีนั้น ในช่วงกลางยุคสมัยเอโดะได้มีนินจาอยู่จริง ณ ปราสาทมัตสึโมโตะแห่งนี้ อีกทั้งยังมีการเตรียมการรบต่างๆ มากมาย สังเกตุได้จากช่องลับ「ISHIOTOSHI(石落)」ตามจุดต่างๆ ภายในปราสาท ตามภาพด้านบนในวงกลมสีเหลืองเลยค่ะ (รายละเอียดเพิ่มเติมจะทำการอธิบายระหว่างเที่ยวชมด้านในค่ะ)

ภายในหอคอยปราสาทแห่งนี้จะต้องถอดรองเท้าเที่ยวชมค่ะ “ปราสาทมัตสึโมโตะ” ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะวันหยุด และหากยิ่งเป็นช่วงของใบไม้เปลี่ยนสียิ่งมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นจนต้องรอเข้าชมปราสาทกว่า 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากจะไปเที่ยวช่วงที่คาดว่านักท่องเที่ยวจะเยอะก็ควรเผื่อเวลาเอาไว้เยอะๆ นะคะ

เมื่อถอดรองเท้า และเข้าไปในปราสาทแล้ว สิ่งแรกที่เห็นเด่นชัดเลยก็คือ บันไดที่ชัน และทางเดินแคบๆ ซึ่งกลไกการสร้างแบบนี้เป็นโครงสร้างเพื่อป้องกันศัตรู บันไดชันเพื่อให้ศัตรูไม่สามารถปีนขึ้นไปในปราสาทได้ง่าย และทางเดินแคบๆ เพื่อไม่ให้สามารถเหวี่ยงดาบได้อย่างสะดวกนั่นเอง

และภายในหอคอยปราสาทจะมีช่องอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งถูกเรียกว่า “อิชิโอโตชิ”「ISHIOTOSHI(石落)」มีไว้เพื่อป้องกันการรุกรานของศัตรู โดยจะใช้ช่องนี้ในการยิงธนู หรือยิงปืนต่อสู้กับศัตรูนั่นเอง ซึ่งเดิมทีในช่วงยุคการสร้างปราสาทแห่งนี้(เมื่อ 400 กว่าปีก่อน) ญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศสหพันธรัฐที่มีหลายๆ แคว้นอยู่รวมกัน เฉพาะฉะนั้นมักจะมีการต่อสู้กันระหว่างแคว้นเพื่อแผ่อนาเขตแคว้นของตนเอง จึงมีการคิดค้นกลไกต่างๆ เหล่านี้เพื่อป้องกันศัตรูนั่นเอง

ภายในหอคอยปราสาทจะมีการจัดแสดงปืน หรือการทำลูกปืน อีกทั้งยังมีการจัดแสดงชุดนักรบ พร้อมรูปวาดอธิบายให้เห็นภาพอย่างชัดเจน ของแต่ละชิ้นได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นสิ่งที่ถูกทำมือขึ้นมาตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน

หอคอยปราสาทแห่งนี้จะมีทั้งหมด 6F เมื่อเดินขึ้นบันไดชันมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุดก็จะได้ชมวิวเมืองมัตสึโมโตะที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา

สถานที่แห่งนี้จะมีข้อควรระวังเล็กน้อยสำหรับคุณผู้หญิง ก็คือการแต่งกาย เนื่องจากการจะขึ้นไปสู่ชั้นบนสุดจะต้องขึ้นบันไดชัน ดังนั้นจึงไม่แนะนำการใส่กระโปรงสั้นนะคะ ใส่กระโปรงยาว หรือกางเกงน่าจะปลอดภัยกว่านะคะ

ที่ชั้นบนสุด 6F ของหอคอยปราสาทจะมีระเบียงอยู่รอบๆ เพื่อชมวิวเมืองมัตสึโมโตะได้เป็นมุมกว้าง ยิ่งหากเป็นช่วงฤดูหนาว บริเวณภูเขาที่ล้อมรอบเมืองมัตสึโมโตะและอาคารบ้านเรือนโดยรอบจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนสวยงาม หาชมแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ ถึงแม้จะเป็นใหญ่อย่างเมืองโตเกียว หรือโอซาก้าก็ตาม เป็นวิวที่สวยงามมากๆ เลยค่ะ

หลังจากที่ได้เที่ยวชมหอคอยปราสาทแล้ว เราจะไปชมอีกหนึ่งไฮไลท์ของปราสาทมัตสึโมโตะที่สะพานแดง “อิซุฮาชิ”「UZUHASHI(埋橋)」กันค่ะ โดยเดินออกจากทางเข้าหอคอยปราสาทและข้ามสะพานไป จากนั้นก็เดินเรียบคูน้ำไปทางขวามือเรื่อยๆ ซึ่งระหว่างทางเดินไปสะพานแดงอิซุฮิชินี้จะมีต้นซากุระเรียงรายอยู่มากมายที่จะบานสะพรั่งสวยงามในช่วงก่อนหรือหลังวันที่ 15 เมษายน ที่เป็นช่วงที่สามารถเริ่มใช้พาสสุดคุ้ม「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」ได้พอดี หากได้มาเที่ยวที่นี่ช่วงวันหยุดสงกรานต์ก็จะได้ชมซากุระบานสวยงามพอดีเลยทีเดียว♪

เดินเรียบคูน้ำไปประมาณ 5 นาที เราก็จะเดินมาถึงสะพาน “อิซุฮาชิ”「UZUHASHI(埋橋)」สีแดงพร้อม「INUIKOTENSHU(乾小天守)」ที่อยู่ข้างหอคอยปราสาทมัตสึโมโตะ「DAITENSHU(大天守)」เป็นฉากหลัง สะพานสีแดงสไตล์ญี่ปุ่นที่ตัดกับหอคอยปราสาทสีดำเป็นภาพที่สวยงามมากๆ เลยค่ะ

หากเพื่อนๆ คนไหนที่ติดตามและชื่นชอบอนิเมะของญี่ปุ่นอยู่ ก็ไม่ควรพลาดมุมนี้ที่เป็นวิวที่ถูกใช้เป็นหน้าปกการ์ตูนเรื่อง「orange」ตอนที่ 4 อีกด้วย วันที่ ICHIGO-CHAN ไปเจอกลุ่มเด็กผู้หญิงแต่งชุดแบบญี่ปุ่นอยู่เต็มเลยขอถ่ายรูปด้วยซักหน่อย โชคดีมากๆ เลย

และ ICHIGO-CHAN ก็ได้เที่ยวชมปราสาทมัตสึโมโตะไปเต็มที่แล้ว ตอนนี้ก็ใกล้ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว ซึ่งเราจะบินจากนาโกย่า(ชูบุ) เวลา 16:55 น. กับสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เพราะฉะนั้นเราจะต้องเดินทางออกจาก “เมืองมัตสึโตโมะ” กันภายในช่วงเช้าเลย

ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ เดินทางออกจาปราสาทมัตสึโมโตะไปยัง “สถานีนาโกย่า” จากนั้นก็ทานอาหารกลางวันที่นาโกย่ากันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ ♪

【ตารางการเดินทาง Day4-1 MATSUMOTO CASTLE】

PASS ที่ใช้ใน TRIP นี้「Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass」

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶