เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ ริวีวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day2-4 เดินทางเข้าสู่ “มิชิมะ” เพื่อทานอาหารค่ำและเข้าพักที่「Fugoku-no-yu Dormy inn Mishima」
TOKYO-FUJI-MISHIMA-SHUZENJI-SHIMIZU-MIHONOMATSUBARA-HAMAMATSU-NAGOYA
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/1.png)
พาสที่จำหน่ายโดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตอนกลาง Central Japan Railway Company หรือ JR TOKAI กับพาสสุดคุ้ม『Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini』
พาสที่สามารถใช้นั่งเส้นทางระหว่าง อาตามิ~โทโยฮาชิ(Tokaido Main Line), นุมะซุ~มัตสึดะ(Gotemba Line)หรือ ฟูจิ~ชิโมเบะออนเซ็น(Minobu Line)รวมการนั่งรถไฟแบบด่วนพิเศษได้ไม่อั้น(ยกเว้นรถไฟแบบนอน)นอกจากนี้ยังสามารถใช้นั่งยานพาหนะอื่นๆ เช่น รถไฟ Izuhakone Railway(ทุกสายของสายซุนซึ Sunzu Line), รถบัสเพื่อใช้ท่องเที่ยว โกเทมบะ พรีเมียม เอ้าท์เล็ตส์ขนาดใหญ่ และ ทะเลสาบคาวากุจิ หรือ เรือเฟอร์รี่「The Suruga Bay Ferry」เพื่อนั่งเรือชมภูเขาไฟฟูจิจากทะเลได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นพาสสุดคุ้มที่ให้เพื่อนๆ ได้ท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่
「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」มีอายุ 3 วัน ราคาเพียง 4500 เยนเท่านั้น แค่เพียงราคาตั๋วรถบัสไปกลับระหว่างโกเท็มบะ และ คาวากุจิโกะแบบปกติอยู่ที่ 3020 เยนและเรือเฟอร์รี่ The Suruga Bay Ferry(ราคาปกติ 2100 เยน)รวม 2 อย่าง อยู่ที่ 5300 เยน จะเห็นได้ว่าไม่จำเป็นต้องใช้นั่งรถไฟใดๆ ก็คุ้มเกินทุน โดยครั้งนี้เราจะใช้พาสนี้ท่องเที่ยวแบบสุดคุ้ม เพื่อเดินทางจาก “ทะเลสาบคาวากุจิโกะ” ไปยัง “มิชิมะ”
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/2%28249%29.jpg)
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้เที่ยว หมู่บ้านน้ำใส “โอชิโนะ ฮักไก” เพื่อเที่ยว ชิม ช้อป ท่ามกลางวิวธรรมชาติทุ่งหน้าป่าเขา และภูเขาไฟฟูจิไปแล้ว
Day2-3 เที่ยว ชิม ช้อป ท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิ ที่ หมู่บ้านน้ำใส “โอชิโนะ ฮักไก”「Oshino Hakkai」
สถานที่ต่อไปก็คือ “มิชิมะ” ที่เป็นที่ตั้งของที่พักในคืนนี้ “มิชิมะ” เป็นจุดสำคัญในการเชื่อมต่อเส้นทางระหว่าง โตเกียว หรือ โอซาก้า กับ ภูเขาฟูจิ หรือ อิซุ นั้นตั้งอยู่ใกล้อ่าวหลักๆ ของญี่ปุ่นอย่าง “อ่าวนุมะซุ” หรือ “อ่าวชิมิสึ” โดยถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่เป็นศูนย์รวมอาหารทะเลอร่อยเลยก็ว่าได้
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ เดินทางจากหมู่บ้านน้ำใส “โอชิโนะ ฮักไก” ไปยัง “สถานีโกเท็มบะ” เพื่อออกไปสู่ “มิชิมะ” ที่ตั้งที่พักของเราในคืนนี้ พร้อมทานอาหารค่ำที่ “มิชิมะ” กันค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/3%28227%29.jpg)
โดยเดินจาก หมู่บ้านน้ำใส “โอชิโนะ ฮักไก” เรียบแม่น้ำเล็กๆ ไปประมาณ 7 นาที
ที่พักของเราตั้งอยู่ใน “มิชิมะ” ซึ่งเราจะต้องนั่งรถบัสที่อยู่เชิงสะพานพาดผ่านแม่น้ำเล็กๆ ไปลงที่ “โกเท็มบะ” ก่อน จากนั้นนั่งรถไฟ JR สายโกเท็มบะ จากสถานีโกเท็มบะไปจะสะดวกที่สุด โดยเราจะใช้เวลานั่งรถบัสเดินทางจากหมู่บ้านน้ำใส “โอชิโนะ ฮักไก” ไปยัง “โกเท็มบะ” เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ด้วยรถบัสฟูจิคิว「Fujikyu Bus」ที่วิ่งทุกนาทีที่ 23 ตั้งแต่เวลา 7:00 ถึง 16:00 น. ซึ่งรถบัสฟูจิคิว「Fujikyu Bus」ในช่วงเส้นทาง ทะเลสาบคาวากุจิ-โอชิโนะ ฮักไก-ทะเลสาบยามานากะ-โกเท็มบะนี้จะสามาถใช้พาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ได้ เพราะฉะนั้นสามารถขึ้นรถบัสได้เลยเพียงแสดงพาสนี้ให้กับคนขับรถเท่านั้น และในระหว่างทางจะวิ่งผ่านทะเลสาบยามานากะที่สวยไม่แพ้ทะเลสาบคาวากุจิ ยิ่งหากโชคดีก็จะได้ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ไปพร้อมกับทะเลสาบยามานากะได้ระหว่างการเดินทางอีกด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/4%28225%29.jpg)
ออกจากหมู่บ้านน้ำใส “โอชิโนะ ฮักไก” มาประมาณ 1 ชั่วโมงพอดี ตอนนี้เราก็ได้เดินทางมาถึง “สถานีโกเท็มบะ” เป็นที่เรียบร้อย จากสถานีโกเท็มบะเราจะนั่งรถไฟ JR สายโกเท็มบะ Gotenba Line เพื่อเดินทางไปยังสถานีนุมะซุ ที่มีรถไฟสายโทไคโด Tokaido Line วิ่งผ่าน จากนั้นเราจะนั่ง รถไฟสายโทไคโด Tokaido Line ไป 1 สถานี เพื่อไปลงที่สถานีมิชิมะ Mishima Station กันค่ะ ซึ่งเส้นทางระหว่าง สถานีโกเท็มบะ กับ สถานีมิชิมะ ก็สามารถใช้พาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ได้เช่นกันค่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่มีพาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」ก็สามารถแสดงพาสสุดคุ้มได้ที่ช่องตรวจตั๋วริมสุดที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่เพื่อผ่านเข้าไปในชานชาลาได้เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/5%28234%29.jpg)
ส่วนเพื่อนๆ คนไหนที่ไม่มีพาสสุดคุ้มก็สามารถซื้อตั๋วรถไฟได้จากเครื่องจำหน่ายตั๋ว แล้วจึงผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วได้ค่ะ โดยวิธีซื้อตั๋วก็ง่ายนิดเดียว ก่อนอื่นจะต้องเช็คราคาค่าโดยสารจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเพื่อเช็คราคาค่าโดยสารไป “มิชิมะ”「MISHIMA」(580 เยน) จากนั้นก็กด「580」บนหน้าจอ และใส่เงินเข้าไปในเครื่อง เท่านี้ก็เรียบร้อย สามารถผ่านเข้าช่องตรวจตั๋วไปได้เลย เมื่อผ่านเข้ามาแล้วก็ลงบันไดเพื่อไปชานชาลาหมายเลข 2・3 ที่อยู่ด้านซ้ายมือ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/6%28234%29.jpg)
ก่อนอื่นเราจะนั่งรถไฟสายโกเท็มบะเพื่อไปลงที่ “สถานีนุมะซุ” โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 35-40 นาที ขึ้นอยู่กับรถไฟ ซึ่งรถไฟจะวิ่งชั่วโมงละ 2 เที่ยว
เมื่อถึงสถานีโกเท็มบะแล้ว ก็เดินไปทางด้านหลังและลงบันไดไป จากนั้นก็เดินไปทางขวามือ ผ่านทางเดินใต้ดินไปชานชาลาหมายเลข 4 ของชานชาลารถไฟสายโทไคโด Tokaido Line เลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/7%28232%29.jpg)
รถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ “มิชิมะ” จะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 4 โดยเราจะเดินทางจาก “นุมะซุ” ไป “มิชิมะ” เพียง 1 สถานี ใช้เวลา 4 นาทีเท่านั้น
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/8%28236%29.jpg)
เมื่อถึงสถานีมิชิมะแล้วก็เดินไปทางด้านหน้าเพื่อลงบันไดเลื่อนไป จากนั้นก็เดินไปทางขวามือเดินไปทางประตูทางออกใต้「South Side」ผ่านออกจากช่องตรวจตั๋วได้โดยแสดงพาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」เท่านั้น จากนั้นก็เดินผ่านออกจากประตูที่อยู่ตรงหน้าและเดินไปทางซ้ายมือ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/9%28234%29.jpg)
เมื่อออกจากสถานีมาก็จะเจอร้านซูชิ「Uogashi Sushi」อยู่ซ้ายมือทันที โดยร้านซูชินี้เป็นร้านที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จาก “เมืองนุมะซุ” เมืองข้างมิชิมะที่เป็นสถานที่ที่มีอ่าวชื่อดังของญี่ปุ่นอยู่หลายจุด อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่มีปลาสดๆ มากมายรวมไปถึงปลามากุโระอีกด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/10%28237%29.jpg)
ภายในร้านจะมีที่นั่งทั้งแบบเคาน์เตอร์ และแบบโต๊ะ 2 คน 4 คน ไปจนถึงที่นั่งแบบพื้น รวมแล้วประมาณ 60 ที่นั่ง ถึงจะมาท่องเที่ยวเพียงคนเดียวก็เข้าร้านได้ไม่อึดอัดเลยค่ะ ยิ่งถ้าได้นั่งที่นั่งเคาน์เตอร์ก็จะได้ชมเชฟปั้นซูชิไปด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/11%28243%29.jpg)
ถึงแม้ว่าเมนูอาหารที่นี่จะมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ทุกเมนูจะมีรูปภาพประกอบด้วยเพราะฉะนั้นชาวต่างชาติก็สามารถเลือกสั่งได้ไม่ยากเลยค่ะ นอกจากเมนูเดี่ยวๆ แล้วก็จะมีเมนูแบบเซตซูชิให้เลือก ทั้ง「SEKIWAKE(関脇)」(1380 เยน)หรือ UOGASHI NIGIRI(魚がし握り)(3400 เยน)สามารถเลือกได้ตามความชอบเลยค่ะ ซึ่งนอกจากเมนูซูชิแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูข้าวหน้าปลาดิบ หรือ ปลาดิบซาชิมิ เท่านั้นไม่พอยังมีเมนูของทอดเหมือนกับมันบดทอดอยู่อีกด้วย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/12%28244%29.jpg)
ส่วน ICHIGO-CHAN เลือกสั่งเป็น「SEKIWAKE(関脇)」ในราคา 1380 เยน = 400 บาท ซึ่งจะได้ซูชิ 8 คำ บนจานแบบสองชั้น เสิร์ฟพร้อมไข่หวาน และซุปร้อนๆ น่าทานมากๆ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/13%28237%29.jpg)
และเราได้สั่งไปอีกหนึ่งเมนูคือกุ้งทอด “ซากุระเอบิ”「SAKURA EBI(桜エビ)」ที่เป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของชิซุโอกะ ซึ่ง “ซากุระเอบิ” นี้เป็นกุ้งที่ตกได้เฉพาะที่ “นิมะซุ” หรือ “อ่าวซูรูงะ” ที่คาบสมุทรอิซุ” เท่านั้นในประเทศญี่ปุ่น เป็นเมนูที่กรอบหอมมัน และรสชาติหวานๆ ของกุ้ง อร่อยมากๆ เลยค่ะ โดยราคาค่าอาหารทั้งหมดของวันนี้ รวมเซตซูชิ SEKIWAKE บวกกุ้งซากุระเอบิทอด และเครื่องดื่มโมจิโต้เป็น 2540 เยน คุณภาพอาหารขนาดนี้แต่ได้ทานอาหารในราคาต่ำกว่า 800 บาทถือว่าคุ้มค่าเกินราคาจริงๆ ค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/14%28241%29.jpg)
หลังจากที่ได้ทานอาหารค่ำไปจนเต็มอิ่มแล้ว เราจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรม「Fugoku-no-yu Dormy inn Mishima」ที่สามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็นได้ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงแรมที่อยู่ใจกลางเมืองหน้าสถานีก็ตาม โดย「Fugoku-no-yu Dormy inn Mishima」สามารถเดินจากสถานีไปเพียง 5 นาทีเท่านั้น โดยออกจาก「Uogashi Sushi」ไปทางซ้ายมือ และเลี้ยวซ้ายที่แยกใหญ่แยกแรกก็จะเจอตึกสีขาวขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/15%28233%29.jpg)
เดินจากสถานีมิชิมะมาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น เราก็มาถึงทางเข้า『Fugoku-no-yu Dormy inn Mishima』เป็นที่เรียบร้อย
เข้าไปข้างในกันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/16%28233%29.jpg)
ที่พักแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ปีพ.ศ.2554 ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าที่นี่จะเปิดทำการมาแล้ว 7 ปี เพราะว่าที่นี่ยังดูใหม่กว้างขวาง และสะอาดสะอ้านมากๆ ก่อนอื่นเราจะไปเช็คอินที่ฟร้อนท์โดยแสดงพาสปอร์ตและบัตรเครดิต พร้อมกรอกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ลงในใบลงทะเบียนเข้าพัก โดยที่นี่จะต้องทำการชำระเงินก่อนการเข้าพัก แน่นอนว่าสามารถชำระเงินได้ด้วยเงินสด และบัตรเครดิตหลักๆ อีกด้วย เมื่อเช็คอินและได้รับคีย์การ์ดพร้อมคูปองอาหารเช้า(ในกรณีที่จองพร้อมอาหารเช้า)แล้วก็ไปที่ห้องพักกันเลย
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/17%28239%29.jpg)
ครั้งนี้ ICHIGO-CHAN เลือกพักเป็นห้องทวินรูม ห้องพักตกแต่งเรียบๆ ขนาดกำลังพอดี มีเตียงขนาดเซมิดับเบิ้ลอยู่ 2 เตียง สามารถนอนได้สบายๆ เลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/18%28232%29.jpg)
ห้องน้ำและส่วนห้องอาบน้ำจะถูกแยกออกจากกัน สามารถอาบน้ำได้อย่างสบายตัวด้วย แต่……
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/19%28232%29.jpg)
ที่「Fugoku-no-yu Dormy inn Mishima」นี้จะมีบ่อออนเซ็นธรรมชาติรวมขนาดใหญ่อยู่ที่ชั้นบนสุด เป็นบ่อออนเซ็นขนาดใหญ่ท่ามกลางหน้าต่างบานใหญ่ ที่เพื่อนๆ สามารถชมวิวรถไฟชินคันเซ็น หรือรถไฟที่แล่นเข้าออกระหว่างสถานีมิชิมะ วิวเมืองมิชิมะ และหากท้องฟ้าปลอดโปร่งก็สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย เป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายสุดๆ ไปเลยค่ะ
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/20%28215%29.jpg)
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้แช่ออนเซ็นสบายตัว ทั้งบ่อออนเซ็นธรรมชาติ และวิวเมืองมิชิมะก็ทำให้ได้ผ่อนคลายมากๆ
ตั้งแต่เช้าที่เราได้เดินทางจากโตเกียว เพื่อท่องเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิ และหมู่บ้านน้ำใส “โอชิโนะ ฮักไก” เป็นหนึ่งวันที่ได้ท่องเที่ยวแบบเต็มที่มากๆ และตอนนี้ก็ได้นอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ แบบนี้มีความสุขมากๆ เลยค่ะ
และพรุ่งนี้ก็จะเข้าสู่วันที่ 3 ของการท่องเที่ยวด้วยพาสสุดคุ้ม「Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini」แล้ว เราจะออกเดินทางไปยังพื้นที่ออนเซ็นของคาบสมุทรอิซุ ที่ “ชูเซ็นจิ ออนเซ็น Shuzenji Onsen” กันฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day2-4 UGASHI SUSHI/FUGOKU-NO-YU-DORMY INN MISHIMA】
![](https://ichigojapan.jp/wp-content/uploads/2021/10/21%28199%29.jpg)
PASS ที่ใช้ TRIP นี้ “Mt.Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass mini”