Day1-2 เพลิดเพลินกับร้านกาแฟขึ้นชื่อของเกียวโต 『MAEDA-COFFEE』พร้อมชิมกาแฟและชมสาธิตการคั่วเมล็ดกาแฟ

Day1-2 เพลิดเพลินกับร้านกาแฟขึ้นชื่อของเกียวโต 『MAEDA-COFFEE』พร้อมชิมกาแฟและชมสาธิตการคั่วเมล็ดกาแฟ

ICHIGO-CHAN กับ Mon-Chan ได้เริ่มจากเปลี่ยนชุดกิโมโนแต่งหน้าและทำผมสวยๆ ที่ร้าน「YUMEYAKATA OIKE BETTEI」เพื่อไปเดินเล่นในเมืองเกียวโต

เริ่มเดินจาก HANAMIKOJI DORI -YASAKA JINJA-NENE NO MICHI-NINENZAKA-SANNEN ZAKA-KIYOMIZU DERA ในพื้นที่รอบๆเมืองเกียวโตแบบเต็มที่แล้ว

Day1-1 แต่งชุดกิโมโนที่『YUMEYAKATA OIKE BETTEI』เพื่อเดินเล่นในเมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่น เกียวโต

เดินเที่ยวในเมืองก็สนุกแต่กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง ทั้งสองคนเลยตัดสินใจไปที่ร้านที่ Mon-Chan แนะนำร้านกาแฟ 「MAEDA-COFFEE」

ร้านนี้เป็นร้านกาแฟที่มีประวัติมายาวนานกว่า 37 ปี 『MAEDA-COFFEE』ที่ร้านมีสาธิตการคั่วเมล็ดกาแฟด้วย และวันนี้จะมาแนะนำเมนูของที่ร้านทั้งของหวานและกาแฟ

หลังจากที่ ICHIGO-CHAN และ Mon-Chan ได้เพลิดเพลินกับการใส่ชุดกิโมโนเดินเล่นในเมืองเกียวโตแล้ว ที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือ 「MAEDA-COFFEE」

การเดินทางก็นั่งบัสไปที่ SHIJOU KARASUMA ที่ 「MAEDA-COFFEE」จะสะดวกที่สุด

โดยนั่งจากป้ายรถบัสที่ใกล้ KIYOMIZU ZAKA ที่สุด นั่งสาย 207 จะสามารถไปที่ร้านได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถเลย

ก่อนอื่นก็ต้องเดินลงจากเนินวัดน้ำใสมาก่อน เมื่อเดินลงเนินมาเรื่อยๆก็จะเจอทางแยกที่มีลานจอดรถขนาดใหญ่เป็นสองทาง ให้ไปทางด้านซ้าย เดินลงเนินประมาณ 7 นาทีก็จะออกมาสู่ถนนใหญ่ ให้ข้ามถนนใหญ่ไปฝั่งตรงข้าม ก็จะเจอป้ายรถเมย์เลย

เมื่อถึงป้าย SHIJOU KARASUMA ก็เดินย้อนกลับไปจนเจอสี่แยกไปแดง ให้เลี้ยวไปทางซ้าย จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ

ก็จะเจอซอยที่มีตึกอิฐสีน้ำตาลอยู่ตรงหัวมุม ให้เลี้ยวไปทางซ้าย ไปอีกนิดก็จะเจอ『MAEDA-COFFEE』อยู่ทางด้านขวามือ

「MAEDA-COFFEE」ถ้ารวมสาขาหลักแล้วจะมีอยู่ 9 สาขา และนอกจากนี้ยังมีสาขาแฟรนไชส์ที่ปังกิ่ง ประเทศจีน ด้วย

ร้านที่เป็นสาขาแรกเดิมทีเป็นร้านขายผ้าคีโมโนมาก่อน ร้าน MAEDA-COFFEE ย้ายมาที่นี้ตั้งแต่ปี 1981 ก็ผ่านมาแล้ว 37 ปี เป็นร้านที่มีที่นั่งมากกว่า 100 ที่นั่ง เป็นร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่คนเกียวโตส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดี

เมื่อเข้าไปภายในร้านก็จะได้กลิ่นหอมๆของเมล็ดกาแฟที่คั่วอยู่ไปทั่วทั้งร้าน

ด้านซ้ายเป็นส่วนจำหน่ายเมล็ดกาแฟ ส่วนด้านขวาเป็นตู้ของหวาน

เค้กสตอเบอรี่(400 เยน)ฟรุ้ตทาร์ต(420 เยน) คัสตาร์ดและผลไม้ห่อด้วยเครปกับเมนู FUKKOKU BALLOON(420 เยน)

และโรลเค้กนมสดสตอเบอรี่ที่อัดแน่นไปด้วยสตอเบอรี่สดๆทั้งอัน(2500円)!!

ทั้งเค้ก อาหาร และของหวานอื่นๆเป็นของที่ร้านทำเองทั้งหมด

เมื่อเข้าไปในร้านเราจะได้กลิ่นเมล็ดกาแฟคั่วหอมโชยมาทันที

และเมล็ดกาแฟที่ร้าน MAEDA-COFFEE จะเป็นเมล็ดที่คั่วเองทั้งหมด

เมล็ดกาแฟของที่ร้านจะใช้เครื่องคั่วเมล็ดกาแฟที่นำเข้ามาจากเยอรมันตั้งแต่ 35 ปีที่แล้วมูลค่ากว่า 20 ล้านเยน(≒ 6 ล้านบาท)

มันดูขรุขระคล้ายๆกับกระเป๋าเดินทาง RIMOWA ของเยอมันที่ ICHIGO-CHAN มีอยู่เลย 5555

กำลังยืนดูเครื่องคั่วกาแฟเก่าแก่อยู่ ทางร้านก็คั่วเมล็ดกาแฟให้เราดูด้วย

และนี่คือคลิปตอนคั่วกาแฟ

ใช้เวลาคั่วกาแฟอย่างปราณีต ระดับการคั่วของกาแฟจะให้ความหอมของรสกลิ่นที่ต่างกันออกไป

เพราะใช้เมล็ดที่ดีหรือเปล่ากลิ่นหอมเป็นพิเศษเลย

ICHIGO-CHAN ดูกรรมวิธีการคั่วไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกอยากลองชิมกาแฟของที่นี่ขึ้นมาเลย

MAEDA-COFFEE จะ「พิถีพิถัน」กับเรื่องงกาแฟอยู่ 4 ข้อคือ

ข้อแรกคือการเลือกเมล็ดกาแฟ

MAEDA-COFFEE จะพิถีพิถันในการเลือกสรรเมล็ดกาแฟจากประเทศต่างๆ

ซึ่งเมล็ดกาแฟที่ใช้อยู่ตอนนี้คือ เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพจากอเมริกาใต้หรือแอฟริกา

ที่ประเทศไทยช่วงนี้ก็มีเมล็ดกาแฟ「ม่วนใจ๋」ของไทยอยู่ด้วย ที่ร้านจะสนใจเอาไปใช้ไหมนะ・・・・?

และในขั้นตอนการคั่วนี้「การควบคุมอุณหภูมิความร้อน」「การควบคุมระยะเวลา」เป็นเรื่องที่สำคัญมาก นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ「การควบคุมความชื้น」ในแต่ละฤดูก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเช่นกัน

แค่เพียงอากาศเข้าไปนิดเดียว อุณภูมิในเครื่องก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงต้องคอยดูอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีเมล็ดชนิดใหม่เข้ามาก็จะปรับเปลี่ยนทดสอบหาอุณภูมิ ระยะเวลา และความชื้นที่เหมาะสมกับเมล็ดนั้นมากที่สุด                                                                                        

เป็นวิธีที่ไม่ว่าร้านกาแฟไหนก็เลียนแบบไม่ได้เลย

「ความพิถีพิถันการบด และการชงที่พิถีพิถัน」

เป็นการบดอย่างละเอียดโดยใช้เครื่องมิลลิ่งหรือเครื่องบดกาแฟชั้นดีจากเยอมัน และบดให้เท่ากันทำให้คงความหอมของกาแฟได้ การบดละเอียดนี้เพื่อให้รถชาติไม่จางหายไปอย่างรวดเร็ว และจะชงกาแฟจากเมล็ดที่เพิ่งบดเท่านั้น เพื่อให้ความสดใหม่ยังคงอยู่

และด้วยการชงแบบ「Nell Drip」หรือการชงกาแฟใหม่ๆ รินตามจำนวนคนเลย จะทำให้สามารถเสิร์ฟกาแฟที่หอมและอร่อยได้ตลอดเวลา

ตอนที่ ICHIGO-CHAN ชงกาแฟก็เป็นแบบ 「Drip」เหมือนกัน แต่ ICHIGO-CHAN จะชอบเสียดายเลยรอจนหยดสุดท้าย นี่คือเหตุผลที่ทำให้กาแฟไม่อร่อยสินะ ความใสของกาแฟก็คือเคล็ดลับความอร่อยของกาแฟนั่นเอง

อธิบายมายาวแล้ว เราเข้าไปในร้านกันเลยดีกว่า

ไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นร้านที่ปรับปรุงมาจากร้านตึกเก่าของเกียวโต ร้านดูดีมากๆ มีทั้งที่นั่งแบบเก้าอี้และแบบโซฟารวมแล้วเกือบร้อยที่นั่ง

และถ้าเคลื่อนย้ายโต๊ะของที่นั่งโซฟาก็สามารถรองรับลูกค้าได้เป็นกลุ่มใหญ่เลย

ภายในร้านมีโซนแบบโต๊ะไม้ด้วย

สมมุติว่ามีกลุ่มที่มาดูงานก็สามารถนั่งกันเป็นกลุ่มเล็กได้เลย

และเมนูกาแฟพิเศษของร้านจะเป็นประมาณนี้

เป็นกาแฟพิเศษที่แขกชื่นชอบมาตั้งแต่เปิดร้านเลย เมล็ดกาแฟจากโคลัมเบีย 「RYUNOSUKE」(450 เยน)หรือเมล็ดกาแฟจากเอธิโอเปีบ「BENKEI」(750 เยน)ซึ่งที่ร้านมีทั้งหมด 4 ชนิดให้เลือก

และใน 4 ชนิดนี้มี 「RYUNOSUKE」และ「FUKU」ที่ตั้งจากชื่อพ่อแม่ของเจ้าของร้านด้วย เจ้าของร้านดูใส่ใจกับมันมากๆเลย

เค้กก็มีอยู่หลากหลายชนิด

「มูสซากุระ」(450 เยน)「ทาร์ตช็อคโกแลตคาราเมล」(420 เยน)และ「เคียวฟูมูส」มูสรสชาเขียว(450 เยน)

และเค้กต่างๆที่อยู่ในตู้เช่น 「FUKKOKU BALLOON」(420 เยน)「มองบลังค์เกาลัดญี่ปุ่น」(450 เยน)

「ชีสเค้ก」(400 เยน)「ชูครีม」(250 เยน)ดูน่าทานไปหมดเลย

ไม่รู้เลือกอันไหนเลย

ช่วงนี้ที่ไทยก็เริ่มมีร้านเค้กเยอะขึ้นแล้ว แต่ถ้าเทียบเค้กญี่ปุ่นกับของไทยแล้ว เค้กญี่ปุ่นจะใช้เนยน้อยกว่ามาก รสชาติของวัตถุดิบจะเด่นออกมาเลย และใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ ยิ่งทำให้เค้กอร่อยยิ่งขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ที่ร้านยังมีอาหารและพาร์เฟต์อีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็น แกงกะหรี่คัตสึ ที่มีทงคัตสึโปะหน้า (980 เยน)แซนวิสครัวซ็อง(750 เยน)หรือจะเป็นแซนวิสแบบหรู แซนวิสเนื้ออบ(1400 เยน)PURUPURU MATCHA PARFAIT(1050円)ที่มีเมนูให้เลือกหลากหลายชนิด

สำหรับท่านใดที่สั่งฟาร์เฟต์หรืออาหาร จ่ายเพิ่มแค่ +200 เยน ก็จะสามารถสั่งกาแฟ 「RYUNOSUKE」「กาแฟลาเต้」หรือ「น้ำส้ม」ได้ด้วย

ICHIGO-CHAN สั่ง「ซากุระมูส」(450 เยน)ที่ประกอบไปด้วย ครีมซากุระ เยลลี่ และอุจิมัทฉะ

พอตัดดูข้างในจะเห็นเป็นสามชั้นสวยงามคือ ชั้นมูสมัทฉะ ชั้นเยลลี่ และบนสุดคือครีมซากุระ สีสันน่ารักมากๆจนไม่กล้าทานเลย

ส่วน Mon-Chan สั่ง「PURUPURU MATCHA PARFAIT」(1050 เยน )ภาษาไทยก็คงเรียกว่า พาร์เฟต์มัทฉะเยลลี่ดึ๋งๆ

ICHIGO-CHAN ก็เล็งขนมอยู่แต่ Mon-Chan กินคนเดียวหมดเลย

อยากกินจัง

เครื่องปั้มน้ำสมัยก่อน ไว้ใช้ยามเกิดอัคคีภัย ที่ยังคงหลังเหลืออยู่ของคนในท้องถิ่น

และอันนี้คือ「DOUKAKE」ที่วาดรูป「AOI MATSURI」เอาไว้

ภายในร้านที่ดูดี ก็จะมีของที่ทำให้รู้สึกถึงเมืองเก่าแก่ที่มีขนบธรรมเนียมประดับอยู่ภายในร้าน ทำให้ดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลย

ตรงทางเข้าออกของร้านมีเมล็ดต่างๆว่าจำหน่ายอยู่ มีสินค้าเป็นเซตที่เหมาะสำหหรับของฝากด้วย

มุมจำหน่ายสินค้าภายในร้านมีชุดกิฟต์เซตเมล็ดกาแฟ และแก้วน้ำของร้าน 「แก้วลาเต้&จานรอง」(2160 เยน)หรือแม้กระทั่ง「Coffee Siphon」(9180 เยน)เป็นต้น

ICHIGO-CHAN อยากได้ Coffee Siphon แต่ ครั้งนี้เอากระเป๋าเล็กมาใส่ไม่พอ ไว้ครั้งหน้าถ้าได้มาเกียวโตอีกจะเอากระเป๋าใบใหญ่ๆมาเลย

เต็มอิ่มไปแล้ว ราคาเครื่องดื่มและขนมรวมเป็น 1700 เยน กาแฟ「RYUNOSUKE」ที่จ่ายแค่ 200 เยนเมื่อสั่งพาร์เฟต์

 ได้ดื่มชากาแฟอร่อยๆในราคาแบบนี้ เหลือเชื่อจริงๆเลย

ได้ทานทั้งกาแฟ ของหวาน อีกทั้งยังได้ดูการสาธิตคั่วเมล็ดกาแฟอีกด้วย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

MAEDA-COFFEE มีสาขาอยู่ตามสถานท่องเที่ยวต่างๆที่คนไทยรู้จักด้วย เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกียวโต วัดโคไดจิ หรือปราสาทนิโจ

ถ้าพูดถึงร้านกาแฟ คนส่วนใหญ่ก็คงจะไปร้านใหญ่ๆที่มีหลายสาขา แต่ลองไป「MAEDA-COFFEE」หรือร้านกาแฟอื่นๆของญี่ปุ่นดูก็เป็นหนึ่งความสนุกของการท่องเที่ยวเหมือนกันนะ

ICHIGO-CHAN กับ Mon-Chan นั่งที่ ร้านชิวๆสบายๆ จนเพลินเลย

เม้ากันจนเพลินถึงเวลาต้องไปคืนชุดกิโมโนที่ร้าน「YUMEYAKATA OIKE BETTEI」กันแล้ว

จาก「 MAEDA-COFFEE」 ไปร้าน 「YUMEYAKATA OIKE BETTEI」สามารถเดินไปได้แค่ 10 นาทีเท่านั้น

ออกจากร้านไปทางซ้ายเพื่อออกมาที่ 「ถนน KARASUMA」และเลี้ยวซ้ายอีกรอบ เดินตรงไปนิดนึงก็จะเจอสี่แยกไฟแดง ให้เดินข้ามถนนไปอีกฝั่งและเลี้ยวไปทางซ้าย เลี้ยวมาแล้วก็เลี้ยวขวาที่ซอยแรก และเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอร้าน 「YUMEYAKATA OIKE BETTEI」อยู่ทางซ้ายมือ

แทบไม่อยากจะถอดชุดกิโมโนที่ใส่อยู่เลย

Mon-Chan กับ ICHIGO-CHAN ก็ต้องไปซะแล้ว พนักงานมาส่งด้วยน่ารักมากๆ

อาจจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่การได้ใส่ชุดกิโมโนท่องเที่ยวรอบเมืองเกียวโต ให้คนที่เดินผ่านไปมาอิจฉาเล่น และได้ถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆของเกียวโตอย่างเต็มที่ เป็นอะไรที่ดีมากๆเหมือนได้เป็นดาราเลย

「YUMEYAKATA OIKE BETTEI」มีทั้งพนักงานคนไทยทำให้รู้สึกอุ่นใจ ถ้าใครมาเกียวโตยังไงลองมาใช้บริการที่ร้านดูนะคะ

เอาล่ะได้เวลาไปที่พักกันแล้ว

ครั้งต่อไปเราจะมาแนะนำที่พักของเรา เดินจากสถานีเกียวโตประตูฮาจิโจไปประมาณ 1 นาที กับโรงแรม『HOTEL KEIHAN KYOTO GRANDE』

Sponsored by MAEDA COFFEE

        Go to the top Page        

  ◀ BACK           NEXT ▶