Day1-2 สนุกกับช้อปปิ้งที่『GOTEMBA PREMIUM OUTLETS』
ท่ามกลางหิมะที่ตกโปรยปราย ICHIGO-CHAN ก็ได้สนุกกับการเล่นเลื่อนหิมะซึ่งไม่สามารถสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ได้ที่ประเทศไทยค่ะ
Day1-1 GOTEMBA ในวันที่หิมะปุกคุม เล่นสกีชมวิวฟูจิที่ SNOW TOWN YETI
หลังจากเล่นเลื่อนหิมะเสร็จ เราก็จะไปเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่『GOTEMBA PREMIUM OUTLETS』ซึ่งเป็นหนึ่งใน OUTLET ขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ
มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากแวะมาที่「GOTEMBA PREMIUM OUTLETS」ซึ่งแน่นอนเพราะว่าอยู่ใกล้กับโตเกียวแบบว่าใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 90 นาทีค่ะ นอกจากนี้ยังอยู่ติดกับ HAKONE (สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย) และทะเลสาบ KAWAGUCHI / บริเวณ FUJI ด้วยค่ะ
เป็นสถานที่ซึ่งคนไทยสามารถช้อปปิ้งได้ง่าย เพราะมีแผนที่ภาษาไทยจัดเตรียมเอาไว้ด้วยนะคะ
ในครั้งนี้ เราก็จะขอนำเสนอ「GOTEMBA PREMIUM OUTLETS」กันค่ะ
มีเพียงวันละเที่ยว
รถบัสที่จะออกรถจาก「yeti」ในเวลา 13:27 ได้มีการขยายเส้นทางไปที่「GOTEMBA PREMIUM OUTLETS」ผ่านสถานี GOTEMBA ค่ะ
ช่างเป็นรถบัสที่เชื่อมโยงการเล่นหิมะและการช้อปปิ้งเอาไว้ด้วยกันจริง ๆ นะคะ สำหรับราคาค่าโดยสารของรถบัสในฝันสำหรับคนไทยคันนี้อยู่ที่ 1360 เยนค่ะ
เราได้มาถึงที่ป้ายรถบัสของ PREMIUM OUTLETS ที่อยู่ท่ามกลางทัศนียภาพของหิมะแล้วค่ะ
ในครั้งนี้เรามุ่งหน้าจาก「yeti」โดยตรงค่ะ นอกจากรถชัทเทิลบัสแบบนั่งฟรีที่ออก 4 คันต่อชั่วโมง (9:30AM – 30 นาทีก่อนจะปิดร้าน) จากสถานี GOTEMBA แล้ว ก็มีรถบัสที่วิ่งตรงจากโตเกียว, ชินางาวะ, ชินจุกุ และทะเลสาบ KAWAGUCHI มาให้บริการด้วยนะคะ สะดวกมากเลย
และยังมีวิธีใช้แบบว่า หลังจากเที่ยวในโตเกียวเสร็จแล้ว ก็ไปเพลิดเพลินกับศูนย์การค้า GOTEMBA PREMIUM OUTLETS ด้วยรถบัส แล้วต่อด้วยการไปที่ทะเลสาบ KAWAGUCHI ค่ะ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับตารางเวลา ขอเชิญทางนี้ค่ะ
『รถบส การเดินทาง GOTEMBA PREMIUM OUTLETS』
มีทัวร์แบบ 1 วันถูกจัดเอาไว้ด้วยค่ะ (4480 เยน – 6180 เยน) คือ ออกจากสถานีโตเกียว / สถานีชินจุกุ แวะมายังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย อย่างเช่น ฐานที่ 5 ของภูเขาไฟ FUJI / ทะเลสาบ KAWAGUCHI / OSHINO HAKKAI และหลังจากที่เพลิดเพลินกับ「GOTEMBA PREMIUM OUTLETS」แล้วก็จะกลับไปยังโตเกียวค่ะ
นอกเหนือจากนี้ก็มีทัวร์หลายมากมายหลายแบบ เพราะงั้นต้องตรวจสอบด้วยนะคะ!
เอาล่ะ เข้าไปที่ภายในของ『GOTEMBA PREMIUM OUTLETS』กันเลยค่า
ดีใจจังเลย มีเว็บไซต์ที่เป็นภาษาไทยด้วยนะคะ
ท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก ผู้คนที่เดินตามทางเดินก็ดูเบาบาง แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ
ที่ทางเดินด้านหน้าสาขามีกันสาดอยู่ ช่วยให้เราสามารถเพลิดเพลินได้โดยไม่ต้องมากังวลเรื่องฝนและหิมะค่ะ
ที่นี่ได้รวบรวมเอาร้านสาขาต่าง ๆ มากกว่า 220 แห่งเอาไว้ด้วยกันค่ะ มีครบเลยไม่ว่าจะเป็นร้านสินค้าแบรนด์เนม, นาฬิกา, รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ
สำหรับรายละเอียดของร้านสาขา ไปตรวจสอบที่เว็บได้นะคะ!
เพราะว่าเป็นศูนย์การค้าระดับใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ภายในศูนย์การค้าที่ใหญ่โตแห่งนี้ได้แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ「EAST ZONE (โซนตะวันออก)」และ「WEST ZONE (โซนตะวันตก)」ค่ะ โซนทั้งสองนี้เชื่อมโยงกันด้วยสะพานซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาไฟ FUJI ได้อย่างสวยงามในวันที่ “อากาศแจ่มใส” นะคะ
บริเวณที่รถบัสจะมาถึงก็คือ WEST ZONE (โซนตะวันตก) ค่ะ
พอเข้ามาจากประตูทางเข้า เราจะพบกับศูนย์ให้ข้อมูลที่ด้านหน้า และเราสามารถขอรับแผนที่ได้ด้วยค่ะ
ที่ด้านในของร้าน「GAP」ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือเมื่อเราเข้ามา จะมีตู้ ATM ที่สามารถใช้บัตร ATM ของต่างประเทศได้ และมี WIFI ฟรี, ห้องน้ำ และตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญค่ะ
ก่อนที่จะไปเดินในศูนย์การค้าที่กว้างขวางแบบนี้ เรามาเตรียมตัวให้พร้อมกันสักหน่อยนะคะ
ก่อนอื่นเราก็ฝากของที่ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญกันนะคะ
พอเราใส่ของเข้าไปในตู้ล็อกเกอร์ที่ยังว่างอยู่และปิดประตู หน้าจอที่อยู่ตรงกลางของตู้ล็อกเกอร์ก็จะแสดงหมายเลขตู้ล็อกเกอร์ที่เราได้ใส่ของเข้าไปเพื่อทำการตรวจสอบค่ะ
พอตรวจสอบหมายเลขว่าถูกต้องแล้วก็กด「OK」ค่าฝากของจะปรากฏขึ้นมา และเราก็หยอดเหรียญค่ะ
หลังจากหยอดเหรียญไปแล้ว กระดาษที่เขียนหมายเลข PIN ไว้ก็จะยื่นออกมาค่ะ
หมายเลขที่เขียนไว้บนกระดาษจะถูกใช้แทนกุญแจตู้นะคะ เพราะงั้นเก็บไว้ให้ดี ห้ามทำหายนะคะ
พอลงจากรถบัสมา ให้เลี้ยวซ้ายและเดินไปทางสะพาน เราก็จะพบกับร้านของ「SEIKO」นะคะ
นาฬิกา SEIKO ซึ่งเป็นของฝากยอดนิยมของคนไทยมีราคาถูกกว่าที่ขายอยู่ในตัวเมืองค่ะ ICHIGO-CHAN เองก็ซื้อ 1 เรือนไปเป็นของฝากให้คุณพ่อเหมือนกันนะคะ
แค่ภายในร้านของ SEIKO เองก็มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากนะคะ คือมีตั้งแต่รุ่นราคาถูกประมาณ 3000 เยน ไปจนถึงรุ่นราคาแพงที่มีราคาสูงกว่า 100,000 เยนเลยค่ะ
ตอนนี้ก็เริ่มจะหิวแล้วค่ะ เลยจะไปที่「EAST ZONE (โซนตะวันออก)」ซึ่งมี「FOOD BAZAAR」อยู่นะคะ จากสะพานที่จะข้ามไปยัง EAST ZONE ถ้าอากาศแจ่มใส เราจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟ FUJI ได้ค่ะ แต่ว่าวันนี้หิมะตกซะหนักเลย คือว่าทิวทัศน์ของหิมะมันก็สวยดีนะคะ แต่ถ้าอากาศแจ่มใส มันก็คงจะดีไม่น้อยเลย….
เราสามารถเคารพภูเขาไฟ FUJI ได้นะคะ
แม้ว่าสะพานแห่งนี้จะเป็นจุดถ่ายรูปที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟ FUJI ได้ แต่ถ้าเราลองเปลี่ยนมุมสักหน่อยก็จะสามารถมองเห็นผืนป่าที่กว้างจนไม่มีที่สิ้นสุดได้ค่ะ
ขอถ่ายรูปต้นไม้ที่มีหิมะปกคลุมสักใบนะคะ แบบว่าสวยงามเลยทีเดียว ขอแชร์ให้กับเพื่อน ๆ ทาง Facebook ก่อนนะคะ♪
พอเราข้ามสะพานมาแล้วก็จะเจอกับ「FOOD BAZAAR」อยู่ทางขวามือค่ะ
ไม่รอช้า เราเข้าไปกันเลยค่ะ
การตกแต่งภายในของที่นี่ดูไม่เหมือนกับฟู้ดคอร์ตราคาถูกเลยค่ะ แต่ดูเหมือนพวกรีสอร์ทของยุโรปมากกว่านะคะ
มีที่นั่งจำนวนมากมาย เพราะงั้นถึงจะเป็นวันที่มีคนหนาแน่นก็สามารถหาที่นั่งได้ไม่ยากค่ะ
มีร้านอาหารแบบสบาย ๆ ตั้งอยู่เรียงรายกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น「GOTEMBA CURRY」「STEAK MOUNTAIN」「MENTAISHO(ราเมน)」ซึ่งเราสามารถทานได้ในราคาประมาณ 1000 เยนค่ะ
แถมยังมีน้ำดื่มฟรีด้วยนะคะ ปลื้มมากเลย
ที่ ICHIGO-CHAN เลือกก็คือ ข้าวแกงกะหรี่ไก่ (850 เยน)
พอได้ทานข้าวแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่นพร้อมกับชมหิมะตกไปด้วย ก็รู้สึกในใจได้ว่า “เราได้มาถึงที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วน้า…” เลยค่ะ
เพราะว่าข้าวแกงกะหรี่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู, เนื้อไก่ และเนื้อวัว (แม้แต่คนที่ไม่ทานเนื้อวัวหรือเนื้อหมู) ทำให้ทุกคนสามารถทานข้าวแกงกะหรี่พร้อมกันได้ค่ะ
ที่ EAST ZONE มีร้านรองเท้าของ NIKE, PUMA, NEW BALANCE ที่คนไทยชื่นชอบไม่แพ้พวกนาฬิกา รวมไปถึงร้าน「UNITED ARROWS」อันยอดนิยมซึ่งยังไม่มีสาขาในประเทศไทยด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีร้านสไตล์เก๋ไก๋อย่าง「BEAMS」ที่เพิ่งไปเปิดสาขาที่เอ็มควอเทียร์ด้วยนะคะ
ร้านที่เราอยากจะแนะนำที่สุดใน「GOTEMBA PREMIUM OUTLETS」ก็คือ DISNEY STORE ค่ะ
ปกติแล้วร้าน DISNEY STORE จะไม่ค่อยมีลดราคาสินค้าเท่าไรนะคะ แต่เพราะว่าอยู่ภายในศูนย์การค้า OUTLET เลยทำให้เราสามารถซื้อพวกสินค้าที่หมดฤดูกาลไปแล้วหรือสินค้าก่อนจะนำไปเปลี่ยนในราคาสุดคุ้มได้ค่ะ
อย่างเช่น ตุ๊กตาราคา 1300 เยนตัวนี้ ก็ขายในราคา 325 เยนค่ะ!!
ICHIGO-CHAN เองก็เผลอซื้อของไปฝากน้องสาวที่กรุงเทพเยอะแยะเลยค่ะ กระเป๋าเงินนี่เบาไปเยอะเลย จริง ๆ แล้วก็อยากจะซื้อกระเป๋าสะพายให้กับตัวเองนะคะ แต่ในครั้งนี้ต้องอดทนเอาไว้ก่อน
เอาล่ะ จากนี้เราก็จะมุ่งหน้าไปยัง HAKONE YUMOTO ซึ่งมีที่พักของเราในคืนนี้ค่ะ
จาก「GOTEMBA PREMIUM OUTLETS」ไปยัง HAKONE YUMOTO มีรถบัสออก 2 เที่ยวต่อวันค่ะ ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่คือ 1,280 เยนนะคะ
พอขึ้นรถบัสแล้ว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็จะไปถึงที่ HAKONE YUMOTO ค่ะ
สำหรับคนที่ถือ「HAKONE-FREE PASS」ที่ถือจากสถานี GOTEMBA ก่อนที่จะไปลานสกี เมื่อแสดงพาสแล้วก็สามารถขึ้นรถได้ค่ะ
สำหรับรถบัสที่ใช้งานอยู่เป็นประจำก็จะมีหน้าตาประมาณนี้นะคะ
ถ้ามองเผิน ๆ ก็อาจจะดูเหมือนเป็นรถบัสทั่วไปที่ใช้งานภายในตัวเมืองนะคะ แต่ว่าก็มีจัดเตรียมพื้นที่สำหรับวางกระเป๋าและสัมภาระสำหรับนักท่องเที่ยวด้วยค่ะ เพราะงั้นถึงจะมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็สามารถขึ้นรถได้อย่างสบายใจ… แต่ว่า…
รถบัสที่จะมุ่งหน้าไป HAKONE YUMOTO หยุดวิ่งเนื่องจากหิมะที่ตกหนักค่ะ
ได้ยินมาว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นแค่เพียงปีละครั้งเท่านั้นเอง…
ในเวลาแบบนี้ คนที่เราพอจะพึ่งได้ก็คือ คุณพี่สาวที่ศูนย์ให้ข้อมูลและรถไฟญี่ปุ่นค่ะ รถไฟญี่ปุ่นจะให้บริการส่งลูกค้าไปถึงที่หมายปลายทาง ถึงจะเป็นวันที่หิมะตกหรือวันที่ไต้ฝุ่นเข้า (ไม่ว่าจะต้องล่าช้าขนาดไหนก็ตาม) ตราบใดที่ไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรงค่ะ
ก่อนอื่น เราก็ไปที่ศูนย์ให้ข้อมูลกันค่ะ
「(ปลายทาง) MADE NO IKIKATA WO OSHIETE MORAEMASUKA?」
ลองสอบถามตามนี้ดูนะคะ ส่วนใหญ่แล้วเค้าก็จะช่วยค้นหาข้อมูลให้สุดชีวิตเลย หรือไม่ก็จะแนะนำช่องทางติดต่อที่เราสามารถสอบถามรายละเอียดได้ค่ะ
สิ่งที่คุณพี่สาวที่ศูนย์ให้ข้อมูลแนะนำมาก็คือ ให้นั่งรถชัทเทิลบัสไปสถานี GOTEMBA และนั่งรถไฟสาย JR จากสถานี GOTEMBA ไปยังสถานี MATSUDA จากตรงนั้นให้เดินเท้าไปที่สถานี SHIN-MATSUDA ของ ODAKYU และนั่งรถไฟจากสถานี SHIN-MATSUDA ไปยังสถานี ODAWARA และเปลี่ยนรถเป็นรถไฟ HAKONE TOZAN เพื่อมุ่งหน้าไป HAKONE YUMOTO ค่ะ
เรากลับไปขึ้นรถชัทเทิลบัสเพื่อไปที่สถานี GOTEMBA ค่ะ
จากสถานี GOTEMBA ไป HAKONE YUMOTO ถ้าเราไปที่ช่องจำหน่ายตั๋ว เราก็สามารถซื้อตั๋วไปยัง HAKONE YUMOTO ได้ค่ะ (1030 เยน)
ถ้าจะซื้อผ่านเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ก็ให้ซื้อตั๋วไปสถานี「MATSUDA」เพื่อจะเปลี่ยนรถเป็นสาย ODAKYU ก่อนนะคะ
ก่อนอื่นให้ตรวจสอบค่าโดยสาร (500 เยน) ที่ตารางค่าตั๋วด้านข้างเครื่องจำหน่ายตั๋วค่ะ จากนั้นก็ใส่เงินเข้าไป สุดท้ายเรากดที่เลข「500」ก็จะได้รับตั๋วแล้วค่ะ
หลังจากซื้อตั๋วแล้ว เราก็จะไปขึ้นรถไฟที่จะออกจากชานชาลาหมายเลข 1 ค่ะ โดยเราจะลงที่สถานี「MATSUDA」ซึ่งเป็นสถานีอันที่ 6 นะคะ
พอเราออกจากช่องตรวจตั๋วของสถานี MATSUDA เราก็จะเห็นสถานี「SHIN-MATSUDA」ของ ODAKYU อยู่ตรงหน้า เดินเท้าไปประมาณ 30 วินาทีค่ะ
จากนั้นไปที่สถานี ODAWARA ด้วยรถไฟของ ODAKYU เพื่อไปที่ HAKONE YUMOTO ค่ะ จากตรงนั้นเราจะมุ่งหน้าไป HAKONE YUMOTO ด้วยรถไฟ HAKONE TOZAN ค่ะ
ที่เครื่องจำหน่ายตั๋ว กดที่「Transfer Ticket (ตั๋วเปลี่ยนขบวน)」แล้วกดที่「Hakone Tozan Line」ที่อยู่ขอบขวาค่ะ
จากตารางค่าโดยสารที่อยู่ด้านบน ค่าโดยสารสำหรับไปที่ HAKONE YUMOTO คือ 530 เยนค่ะ ให้เรากดที่ตัวเลข 530 ก็สามารถซื้อตั๋วได้แล้วนะคะ
เพราะหิมะที่ตกหนัก รถไฟของ ODAKYU ที่จะมุ่งหน้าไปยัง HAKONE YUMOTO ก็เลยมาถึงช้าค่ะ
จะยังไงก็ได้ ตอนนี้ขอแค่ไปถึงที่ HAKONE ได้ก็พอน้า…
ตั้งแต่ออกจาก GOTEMBA มาก็เกือบจะ 3 ชั่วโมงแล้ว ในที่สุดเราก็มาถึงที่ HAKONE YUMOTO ได้สำเร็จแล้วค่ะ
เดินจากสถานีไปนิดเดียวก็จะถึง「HAKONE SUIMEISOU」ซึ่งเป็นที่พักของวันนี้ค่ะ
พอออกจากช่องตรวจตั๋วและลงบันไดเลื่อนมาก็ให้เลี้ยวขวาค่ะ เลี้ยวซ้ายตรงสะพานยาวและลงบันไดไปก็จะเจอกับประตูทางเข้าของ「HAKONE SUIMEISOU」แล้วค่ะ
มาถึงที่「HAKONE SUIMEISOU」ของ HAKONE YUMOTO แล้วค่ะ
เป็นการเดินทางที่ทุลักทุเลพอสมควรเลยค่ะ แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่รถไฟของญี่ปุ่นยังคงสามารถมาส่งเราถึงที่หมายปลายทางได้แม้จะมีภัยธรรมชาติอย่างพายุหิมะนะคะ
ขอติดตามเป็นแฟนคลับของรถไฟญี่ปุ่นเลยค่ะ
เพราะว่ามาถึงช้าเนื่องจากหิมะที่ตกหนัก ทำให้มาไม่ทันอาหารมื้อเย็นเลยค่ะ
ภัตตาคารในบริเวณรอบ ๆ ส่วนใหญ่ก็ปิดร้านเพราะหิมะที่ตกหนักค่ะ
แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เรายังสามารถซื้ออาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ที่ร้านสะดวกซื้อของประเทศญี่ปุ่นค่ะ ICHIGO-CHAN เลยซื้อทาโกยากิมาทานกับเกี๊ยวซ่าของโปรด และโค้ก 2 ขวดมาทานกับผักแท่งซะเลย… ไม่ดีเหรอ? งั้นซื้อผักแท่งก็ได้
เพราะว่าเมื่อวานเป็นเที่ยวบินรอบกลางคืนถึงเช้า ตอนนี้ ICHIGO-CHAN ก็เริ่มจะง่วงนอนแล้วค่ะ งั้นวันนี้จะขอตัวเข้านอนเร็วหน่อยแล้วค่อยมาจัดของวันพรุ่งนี้แทนละกันนะคะ
ในครั้งหน้า เราจะขอแนะนำบรรยากาศภายในของ「SUIMEISOU」และบรรยากาศของการท่องเที่ยวใน HAKONE ที่เปลี่ยนจากหิมะที่ตกหนักมาเป็นอากาศแจ่มใสแทนนะคะ รอชมได้เลยค่ะ♪