Day4-1 ขากลับ สนุกกับการเที่ยวในสนามบินนาโงย่า『CHUBU INTERNATIONAL AIRPORT(CENTRAIR)』

ในที่สุดการท่องเที่ยวจากโอซาก้าไปอิเสะ, โทบะ, นาโงย่าก็มาถึงวันสุดท้ายแล้ว

แม้ว่าเพิ่งจะมาถึงที่โอซาก้าเมื่อ 5 วันที่แล้ว แต่ ICHIGO CHAN ก็ได้เต็มอิ่มไปกับการท่องเที่ยวมากมายราวกับว่าได้รับรู้ถึงบรรยากาศในสมัยก่อนเลย ยังอยากออกไปเที่ยวต่อนะ แต่ก็ต้องเดินทางกลับแล้วล่ะ

ในวันนี้จะออกจากโรงแรมในเมืองนาโงย่าและเดินทางกลับไปกรุงเทพผ่านทางสนามบินนานาชาติชูบุ

ในครั้งนี้จะขอนำเสนอบรรยากาศของ 『RED PLANET HOTEL NAGOYA NISHIKI』 ที่ได้เข้าพักในวันสุดท้าย รวมไปถึงวิธีการเดินทางจากโรงแรมนั้นไปยัง 『CHUBU INTERNATIONAL AIRPORT (CENTRAIR)』

โรงแรมที่ ICHIGO CHAN ได้เข้าพักในครั้งนี้คือโรงแรม 『RED PLANET HOTEL』ที่เพิ่งจะสร้างเสร็จเมื่อเดือนตุลาคมปี 2017

เป็นโรงแรมที่คนไทยคุ้นเคยซึ่งก็มีอยู่ที่กรุงเทพ, ภูเก็ต และพัทยาด้วยเช่นกัน

โรงแรมของประเทศญี่ปุ่นนั้น เมื่อเทียบกับโรงแรมของประเทศไทยแล้ว ห้องพักส่วนใหญ่จะแคบกว่า โดยเฉพาะห้องพักที่เรียกว่า “Single Room” ซึ่งเอาไว้สำหรับเข้าพักคนเดียวและไม่มีห้องพักประเภทนี้ในประเทศไทย

ห้องพักแบบ Single Room ของ 『RED PLANET HOTEL NAGOYA NISHIKI』 ที่ได้เข้าพักในครั้งนี้ ถึงจะไม่ได้กว้างขวางอะไรขนาดนั้น แต่ก็มีเตียงนอนที่สะอาดและนอนสบายซึ่งสามารถที่จะนอนหลับสนิทได้เลย

เพราะขนาดที่กะทัดรัดของห้องพักแบบนี้ ทำให้ไม่มีตู้เสื้อผ้าภายในห้อง แต่จะมีไม้แขวนผ้าแขวนอยู่ที่ผนังห้องแทน ช่วยให้เราสามารถใช้แขวนเสื้อผ้าได้

มีตู้เย็น, ตู้เซฟ แล้วก็กระติกน้ำร้อนถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้

ทั้ง ๆ ที่เมื่อวาน ICHIGO CHAN เพิ่งจะทาน “ไก่นาโงย่าโคชิง” มาแบบไม่อั้น แต่พอเห็นว่ามีกระติกน้ำร้อนก็เลยไปแกะมาม่าเอามาต้มกินอีกรอบ

ห้องพักประเภทนี้ไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่สำหรับคนไทยแล้วจะมีหรือไม่มีอ่างอาบน้ำก็เหมือนกันแหละนะ

ที่โรงแรมระดับ 3 ดาวของประเทศญี่ปุ่นนั้น สิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดเตรียมเอาไว้ให้ส่วนใหญ่ก็จะมีแค่แปรงสีฟันและมีดโกนเท่านั้น แต่ถ้ามีหมวกอาบน้ำและไม้แคะหูจัดเตรียมเอาไว้ครบเลยก็ถือว่าโชคดี

ล็อบบี้ที่ดูดีมีสไตล์

ในตอนแรกนั้น โรงแรม『RED PLANET HOTEL』อยู่ในเครือของแอร์เอเชีย เลยมีเสื้อโปโลและหมวกวางจำหน่ายอยู่เหมือนกับแอร์เอเชีย

และยังมีของขึ้นชื่อของเมืองนาโงย่าจัดเรียงอยู่ที่มุมหนึ่งของชั้นวางของด้วย….

มีปราสาทนาโงย่า, ปลาชาจิโฮโกะทองคำที่มีชื่อเสียงของปราสาทนาโงย่า (ประดับเอาไว้ที่สองฝั่งของหลังคา) รวมไปถึงกลุ่มของตุ๊กตาและโมเดลของรถยนต์วางเอาไว้

เมืองโตโยตะที่อยู่ติดกับเมืองนาโงย่านั้นมีสำนักงานใหญ่ของรถยนต์โตโยต้าซึ่งมีชื่อเหมือนกับชื่อเมือง ที่ประเทศญี่ปุ่นเองก็มีคนที่นึกว่า นาโงย่า = รถยนต์โตโยต้า อยู่เยอะเหมือนกัน…

ตุ๊กตาหมีโคอาล่าที่อยู่ฝั่งขวามีชื่อว่า “โดอาล่า”

คนญี่ปุ่นจำนวนมากนั้นคลั่งไคล้กีฬาเบสบอล ได้ยินว่าผู้คนต่างชื่นชอบโดอาล่าซึ่งเป็นมาสคอตของ “ชูนิจิดราก้อนส์” ทีมเบสบอลของเมืองนาโงย่าเป็นอย่างมากเลยล่ะ

ใกล้จะถึงเวลาเดินทางแล้ว

ก่อนอื่นเลยคือกลับไปที่สถานี “ฮิซายะโอโดริ” ที่ได้ใช้บริการเมื่อวาน

วิธีการซื้อตั๋วของรถไฟใต้ดินในประเทศญี่ปุ่นอาจจะยากสักหน่อย อย่างแรกคือต้องมองหาสถานีที่ต้องการจะไปบนแผนที่เส้นทางซึ่งอยู่ด้านบนของเครื่องจำหน่ายตั๋วก่อน แล้วก็ตรวจดูราคาตั๋วที่เขียนไว้บนแผนที่นั้น

ต่อมาก็เลือกตั๋วในราคานั้น ๆ ที่เครื่องจำหน่ายตั๋ว เมื่อใส่เงินเข้าไปแล้วก็จะสามารถซื้อตั๋วได้ เพราะว่าแผนที่เส้นทางนั้นเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นและตัวอักษรภาษาอังกฤษเล็ก ๆ เท่านั้น จึงอาจจะดูเข้าใจยากสำหรับชาวต่างชาตินะ…? ถ้าไม่เข้าใจก็ลองไปสอบถามเจ้าหน้าที่ของสถานีหรือคนท้องที่ดู

ลองสอบถามว่า “ไป(_ปลายทาง_)ราคาเท่าไร?”

 “(_ปลายทาง_)MADEWA IKURA DESUKA??”

ขึ้นรถไฟใต้ดินสายซากุระโดริที่มุ่งหน้าไป “NAKAMURA-KUYAKUSHO” อีก 3 สถานี จากนั้นลงรถที่สถานีนาโงย่าและขึ้นบันไดเลื่อนเหมือนในรูปภาพ เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนแล้วให้เลี้ยวไปทางซ้ายก็จะเจอกับจุดจำหน่ายตั๋ว ให้ไปซื้อตั๋วที่ตรงนั้น

ในการเดินทางจากนาโงย่าไปถึง 『CHUBU INTERNATIONAL AIRPORT(CENTRAIR)』ในช่วงเวลาส่วนใหญ่จะมีขบวนรถไฟ 3 ประเภทที่วิ่งอยู่ คือ 『μ-SKY』“รถไฟด่วนพิเศษ” “รถไฟกึ่งรถด่วน” โดย μ-SKY ใช้ 28 นาที, รถไฟด่วนพิเศษใช้ 35 นาที, รถไฟกึ่งรถด่วนใช้ 48 นาที

ค่าโดยสาร 870 เยน แต่ถ้าขึ้นขบวนรถแบบจองที่นั่งของ『μ-SKY』หรือรถไฟด่วนพิเศษจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 360 เยน เราขอแนะนำ 『μ-SKY』 เพราะว่ามีชั้นวางของขนาดใหญ่สำหรับคนที่จะเดินทางไปยังสนามบิน

 “μ-SKY” ที่จะมุ่งหน้าไปสนามบินนานาชาติชูบุนั้นจะออกจากชานชาลาหมายเลข 3

ที่สถานีนาโงย่าของการรถไฟนาโงย่านั้นมีรถไฟหลายขบวนที่ออกจากชานชาลาเดียวกันแต่มุ่งหน้าไปยังปลายทางต่าง ๆ กัน แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็มีจำนวนไม่น้อยที่ขึ้นรถไฟผิดขบวน

เพราะฉะนั้นตรวจสอบปลายทางให้ดีก่อนที่จะขึ้นรถดีกว่านะ

 “μ-SKY” วิ่งเข้ามาแล้ว

รถไฟสีฟ้าที่มีเขียนคำว่า『centrair』ไว้ที่หัวขบวนและท้ายขบวนก็คือ『μ-SKY』นั่นเอง

ใช้เวลา 30 นาทีกว่า ๆ ก็มาถึงที่『CHUBU INTERNATIONAL AIRPORT(CENTRAIR)』

ปกติแล้วจากนาโงย่าถึงเซ็นแทรร์จะใช้เวลาเดินทาง 28 นาที แต่ว่าช่วงเวลาเร่งด่วนในตอนเช้าจะใช้เวลาเดินทาง 30 นาทีกว่า ๆ

มาถึงที่เซ็นแทรร์ก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมงครึ่ง เคาน์เตอร์ของ TG มักจะเนืองแน่นไปด้วยคนไทยที่ถือของฝากเต็มไม้เต็มมืออยู่ตลอด เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงก่อนที่เครื่องจะออก 2 ชั่วโมงครึ่งก็จะใช้เวลาพอดี

การเช็คอินที่ TG ในกรณีที่ใช้บริการตั๋วชั้นประหยัด ที่สนามบินนาริตะจะใช้เครื่องเช็คอินแบบอัตโนมัติและการติดแท็กที่กระเป๋าสัมภาระก็จะต้องทำด้วยตัวเองเช่นกัน แต่ว่าที่นาโงย่าจะมีพนักงานช่วยจัดการให้

เพราะว่ายังมีเวลาอยู่ เลยไปเดินสำรวจเซ็นแทรร์สักหน่อย

ที่เซ็นแทรร์นั้น มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถชมเครื่องบินในระหว่างที่กำลังแช่น้ำได้ด้วยนะ

เพราะในครั้งนี้เราจะกลับด้วยเครื่องบินในตอนเช้า ICHIGO CHAN จึงไม่ได้เข้าไปลองใช้ แต่ถ้าได้เข้าไปแช่น้ำตอนที่ใช้เที่ยวบินซึ่งออกจากกรุงเทพในตอนกลางคืนและมาถึงในตอนเช้า หรือเที่ยวบินซึ่งจะออกจากเซ็นแทรร์ในตอนกลางคืน ก็น่าจะออกไปเที่ยวได้อย่างสดชื่นอยู่นะ….

จากชั้นขาออกขึ้นไปอีก 1 ชั้น จะพบ『CHOUCHIN-YOKOCHOU』อยู่ที่ชั้น 4

ที่ชั้น 4 มีห้างสรรพสินค้าในรูปแบบอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีชื่อว่า『CHOUCHIN-YOKOCHOU』และ『RENGA-DOURI』ที่ช่วยให้สามารถเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งและร้านอาหารชื่อดังของเมืองนาโงย่าได้ด้วย

ถ้าหากได้มาที่นาโงย่าในครั้งหน้า ก็คิดว่าจะรีบมาที่สนามบินเร็ว ๆ เพื่อเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่าง ๆ ในสนามบินล่ะ

จากชั้น 4 สามารถออกไปที่『SKY DECK』ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าของอาคารผู้โดยสารได้ด้วยนะ แถมยังฟรีอีกต่างหาก

ICHIGO CHAN ก็ได้ออกไปสูดอากาศของประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินทางกลับ

พอได้ชมเครื่องบิน ก็มองเห็นเครื่องบินของการบินไทยที่ ICHIGO CHAN กำลังจะขึ้นต่อจากนี้ได้เข้ามาจอดรอแล้ว

นี่ก็จะเดินทางกลับไปกรุงเทพแล้ว ว่าแต่ครั้งหน้าจะไปที่ไหนดีน้า….

เอาไว้เจอกันใหม่นะ!!

             Go to the top Page           

◀ BACK