และแล้วค่ำคืนของ 『Rokko YMCA』 ซึ่งครึกครื้นกว่าที่คิดเอาไว้ก็เงียบลงและได้เข้าสู่ช่วงเช้าแล้ว
วันนี้ก็เป็นวันที่จะเดินทางกลับประเทศ
ซูชิของเมืองโอซาก้า, ยัตสึฮาชิและฮานะโทโระของเมืองเกียวโต และการลองเล่นสกีที่ไม่คาดคิดพร้อมกับเนื้อหาที่เข้มข้นสุด ๆ นี่เป็นการท่องเที่ยวที่ไม่คิดว่าจะทำได้ในช่วงเวลา 3 วัน แม้ว่าจะรู้สึกใจหายนิดหน่อย แต่ก็จะใช้เวลา 1 วันสุดท้ายที่ญี่ปุ่นเพื่อดื่มด่ำไปกับเมืองโอซาก้าให้มากที่สุด
วันนี้ที่ภูเขาร็อคโคมีหิมะตก! โดยปกติแล้วหิมะก็จะตกไม่เยอะขนาดนี้ในเดือนธันวาคม ถึงจะไม่ตกเยอะจนแบบว่ากองเต็มพื้น แต่ก็ได้ยินมาว่าปีนี้อากาศหนาวมากกว่าปกติและก็มีหิมะตกในบางครั้งด้วย
ออกเดินทางจาก 『Rokko YMCA』 ภูเขาร็อคโคที่มีหิมะ
แม้แต่ขากลับ เจ้าหน้าที่ของ 『Rokko YMCA』 ก็ช่วยมาส่งให้ถึง “สถานีร็อคโค” ด้วย
วันนี้วางแผนว่าจะใช้ “KANSAI THRU PASS” สำหรับท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้าทั้งวัน จาก “สถานีร็อคโค” ก็ได้ขึ้นรถไฟขบวนที่ได้นั่งมาเมื่อวานกลับออกมา
จาก “สถานีร็อคโค” ก็ได้นั่งรถไฟแบบที่จอดทุกสถานีไปยัง “สถานีนิชิโนมิยะคิตะงุจิ” จากนั้นก็ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษซึ่งจะมาที่ฝั่งตรงข้ามเพื่อไปยัง “สถานีฮันคิวอุเมดะ”
เมื่อลงรถที่สถานีอุเมดะแล้วก็ลงบันไดไปที่ห้างใต้ดิน พอออกจากห้างสรรพสินค้าใต้ดินที่มีชื่อว่าไวตี้อุเมดะแล้วก็ไปขึ้นรถไฟใต้ดินสายทานิมาจิจาก “สถานีฮิงาชิอุเมดะ” ซึ่งเป็นของรถไฟใต้ดินของเทศบาลเมืองโอซาก้า สถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ปราสาทโอซาก้าที่สุดก็คือสถานีอันที่ 3 “ทานิมาจิยนโจเมะ”
เมื่อเดินจากทานิมาจิยนโจเมะอีกนิดก็จะเห็นปราสาทโอซาก้าอยู่ข้างหน้าเลย!!
เดินลอดใต้ประตูโอเทะมงของปราสาทโอซาก้า
ประวัติทั่วไปของปราสาทโอซาก้าก็คือเป็นปราสาทที่ถูกสร้างและซ่อมแซมขึ้นใหม่หลังจากที่ของเดิมถูกทำลายจากเหตุเพลิงไหม้ แต่ว่าประตูนี้เป็นประตูเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อเกือบ 400 ปีก่อนและยังคงถูกใช้งานอยู่เหมือนเดิม
เดินเข้าประตูไปแล้วทางด้านขวามือ จะมีร้านยากิโทริ(ไก่เสียบไม้ย่าง) และร้านทาโกะยากิ (ปลาหมึกย่าง)
ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวน ชวนให้แวะลิ้มลองจนอาจจะลืมเวลาเที่ยวไปชั่วขณะ
เดินเข้าไปในซากุระโมง ท่านจะมองเห็นปราสาทโอซาก้า『Osaka Castle』เด่นอยู่เบื้องหน้า
ภาพของปราสาทมองจากประตูเข้าไป ดูสง่างามและมีเสน่ห์มาก
หากท่านจะขึ้นไปที่เทงจูคาคุ เพียงยื่นตั๋ว KANSAI THRU PASS จะได้รับส่วนลดค่าเข้าชม 100 เยน
ลด100 เยนแต่คุ้มค่ามาก！
ท่านจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ทั่วโอซาก้า คล้ายกับตัวเมืองกรุงเทพ แต่อากาศอาจจะปลอดโปร่งกว่า
และมองเห็นวิวได้ไกล นึกย้อนไปในสมัยก่อนที่มีซามุไรอาศัยอยู่ อากาศคงจะดีและวิวคงสวยงามกว่านี้มาก
ปลาทองที่ติดอยู่บนหลังคา เรียกว่า “ชะจิโฮะโค” ช่วยให้ปราสาทดูมีสีสันสวยน่าดึงดูดยิ่งขึ้น
หลังจากเที่ยวชมปราสาทโอซาก้าแล้ว ท่านสามารถไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาดคุโระโมง
เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้เดินจากสถานี “Tanimachi 4 chome” ขึ้นสาย Chuo line ลงที่สถานี
“Sakaisujihonmachi” เปลี่ยนรถไฟขึ้นสาย Sakaisuji line และลงที่สถานี “Nihonbashi”
หากท่านมีสัมภาระมาก ท่านสามารถฝากของที่ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ
ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญของญี่ปุ่นมีหลากหลายประเภท ทั้งแบบที่ใช้บัตร IC หรือใช้สมาร์ทโฟน แบบที่ใช้สะดวก
และง่ายที่สุดคือแบบหยอดเหรียญและใช้กุญแจ ไม่ต้องจำรหัส และไม่ต้องโหลดแอพพลิเคชั่นใดๆ แค่ท่านใส่
เหรียญในช่องหยอดเหรียญและปิดกุญแจก็สามารถเก็บสัมภาระได้เรียบร้อยในทันที
ค่าธรรมเนียมอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของล็อกเกอร์ โดยทั่วไปแล้วถ้าเป็นตู้ขนาดใหญ่“Big”
ราคา 600 เยน ตู้ขนาดกลาง “Midium” ราคา 500 เยน ตู้ขนาดเล็ก “Small” ราคา 300 เยน
ทั้งนี้ท่านต้องเตรียมแลกเหรียญ 100 เยนไว้หากต้องการใช้บริการตู้ล็อกเกอร์
ท่านสามารถฝากของหรือสัมภาระต่างๆไว้ในตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ แล้วไปเดินเล่นที่ตลาดคุโระโมง
ที่ตลาดมีปลาสดๆ อาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ และของฝากจำหน่ายมากมาย เมื่อก่อนมีลูกค้าชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวชมเป็น
จำนวนมาก ปัจจุบันนี้มีทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้
มีก้ามปูยักษ์ที่คนไทยนิยมขายด้วย
ข้าวหน้าแซลมอนชูโทโระ(ทูน่าส่วนไขมัน) ราคา 1500 เยน
1500 เยน สำหรับอาหารหนึ่งชาม อาจจะดูแพง แต่สำหรับคนไทยที่โปรดปรานรสชาติของแซลมอน ราคานี้อร่อย
คุ้มค่า พลาดไม่ได้ !!
หากท่านออกจากตลICHIGO CHANาดคุโระโมงแล้ว เลี้ยวซ้ายจากถนนสายหลักซะไคซุจิ เดินตรงไปอีกประมาณ 5 นาที
จะพบกับ Den Den Town
ถ้าพูดถึงแหล่งของ “โอทากุ” ที่โตเกียวอาจจะนึกถึงอาคิฮาบาระ แหล่งที่มีชื่อเสียงสำหรับคนที่ชื่นชอบของเล่น
เช่นโมเดลหุ่น หรือซอล์ฟเกมส์ต่างๆ สำหรับที่ Den Den Town ก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่รวบรวมของเล่น และสินค้า
ต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก คนอาจจะน้อยกว่าที่อาคิฮาบาระ แต่ท่านอาจจะพบสินค้าแปลกใหม่ได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
แผนกแรกที่ท่านจะได้พบคือแผนก 『Joshin Kids Land』
จำหน่ายหุ่นกันดัมและหุ่นโมเดลต่างๆ เช่นวันพีช โดราเอมอน อุลตร้าแมน ล้วนแต่เป็นคาแรคเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากมายจากคนไทย
คาเมนไรเดอร์ ไอ้มดแดง
การ์ตูนญี่ปุ่นที่เป็นที่ได้รับความชื่นชอบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนอายุรุ่น 30 ปีขึ้นไป
โมเดลการ์ตูนวันพีช ยอดนิยมสำหรับคนไทย
เวลาเพื่อนๆ มาเที่ยวญี่ปุ่น บางทีหาซื้อจากที่ต่างๆก็ไม่พบ เมื่อพบแล้ว เลยต้องรีบซื้อไปเป็นของฝากทุกคน
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในร้านได้ทั้งหมด
สามารถเอาไปโชว์เพื่อนๆใน Instagram หรือ Facebook ได้ทันที
เข้าไปด้านในจะพบกับส่วนของ Kids land
มีของเล่นหลากหลายสำหรับเด็กๆ ชั้นสองขึ้นไปมีร้าน Tamiya จำหน่ายโมเดลหุ่นต่างๆ โมเดลรถแข่งมินิโยงคุ
และเครื่องเล่นบังคับไร้สาย เสมือนเป็นสวรรค์ของ “โอทาคุ (คนที่คลั่งไคล้)” ทุกๆท่าน
โมเดล Initial Dในเมืองไทยก็กำลังเป็นที่นิยมมาก
บางคนอาจจะเคยเห็นรถที่ติดสติกเกอร์ “Fujiwara Tofu shop” ที่เมืองไทยด้วย
พี่ชายของดิฉันขับฮอนด้า แจ๊ส แต่ก็ติดสติกเกอร์ของ Fujiwara Tofu shop ด้วยเหมือนกัน 555
รถมินิคาร์ชุดพิเศษ ราคาจะสูงเล็กน้อย
ส่วนรถโทมิคาร์ที่คนไทยนิยม ราคาถูกสุดเพียง 300 เยน เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากให้เด็กๆ
ตกเย็นไปนั่งรถชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่ Tempozan Harbor Village เป็นโปรแกรมสุดท้าย
จาก Den Den Town มาที่เทงโพซันเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้าใต้ดินจะสะดวกที่สุด ให้ขึ้นรถไฟสาย Sakaisuji จาก
สถานี Ebisucho ใกล้ๆกับ Den Den Town นั่งไปจนถึงสถานี Sakaisujihoncho ที่ผ่านมาเมื่อเช้า
หลังจากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Chuo line มุ่งหน้าไปสถานี Osakako
พอเดินออกมาจากประตูสถานีและลงไปที่ถนนด้วยประตูทางออกหมายเลข 1 …
ก็พบกับยีราฟที่ดูเหมือนของจริงออกมาต้อนรับแขก พอได้ดูดี ๆ แล้วก็เห็นว่าประกอบมาจากชิ้นส่วนตัวต่อ
พอเดินตรงไปข้างหน้าก็จะมองเห็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ เพราะว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่มากจึงไม่มีทางหลงแน่นอน
อาคารบ้านเรือนของเมืองโอซาก้าในยามค่ำคืนนั้นสวยงามมาก ช่างเป็นทิวทัศน์ที่เหมาะสำหรับจบการเดินทาง
โอซาก้าและกรุงเทพ แม้ว่าจะมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกัน แต่เมืองโอซาก้าจะดูเป็นเมืองใหญ่มากกว่าเพราะเป็นเมืองขนาดกะทัดรัด รวมถึงมีทะเลและภูเขาอยู่รอบ ๆ
เมืองโอซาก้าเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ เหมือนว่าเรือขนส่งสินค้าที่ออกจากที่นี่ไปยังกรุงเทพ (แหลมฉบัง) ก็กำลังทำงานกันอยู่ เรือที่ออกจากโอซาก้าไปยังกรุงเทพจะใช้เวลาเดินทางกี่วันกันนะ?
และแล้วเวลาขึ้นเครื่องบินก็ใกล้เข้ามาทุกที คิดว่าจะกลับไปเอากระเป๋าแล้วมุ่งหน้าไปที่สนามบินเลย พอลงมาจากชิงช้าสวรรค์แล้วก็ไปขึ้นรถบัสจากป้ายรถบัสที่มีอยู่ตรงนั้นเลยเพื่อไปยัง “นัมบะ” ซึ่งอยู่ที่โดทงโบริ ขึ้นรถบัสหมายเลข 60 แล้วมุ่งหน้าไปที่นัมบะกันเลย
สามารถนำ KANSAI THRU PASS มาใช้ขึ้นรถบัสได้ด้วยนะ
มาถึงที่นัมบะแล้ว เดินตามเส้นโดทงโบริไปประมาณ 10 นาทีก็จะไปถึงตู้ล็อคเกอร์ของสถานีนิปปมบาชิที่เอากระเป๋าไปเก็บไว้ เดินเล่นอีกหน่อยแล้วก็ค่อยเดินกลับไปเอาของ
ระหว่างทางเผลอไปได้กลิ่นหอมจากร้านโอโคโนมิยากิ เงินเพียงแค่ 680 เยนก็สามารถรับประทานโอโคโนมิยากิที่แสนอร่อยได้แล้ว
3-30/3-31/3-32
กลับมาเจอกระเป๋าที่สถานีนิปปมบาชิได้อย่างปลอดภัย
มุ่งหน้าไปสนามบินด้วยรถไฟใต้ดินสายซาไกสุจิแล้วไปต่อรถเป็นสายนันไกคูโค
อย่างแรกคือไปที่ “สถานีเทนกาจายะ” จาก “สถานีนิปปมบาชิ” พอลงรถแล้วออกจากประตูสถานี จากนั้นเดินลงบันไดตรงไปที่ “สถานีเทนกาจายะ” ของรถไฟสายนันไกได้เลย (ใช้เวลาแค่ 30 วินาทีเอง)
จาก “สถานีเทนกาจายะ” ก็มุ่งหน้าไป “สนามบินคันไซ” ด้วยขบวนรถด่วนไปสนามบินของรถไฟนันไก ที่ขบวนรถด่วนไปสนามบินก็สามารถใช้ “KANSAI THRU PASS” ได้ด้วย รถไฟที่จะไปสนามบินจะขึ้นที่ชานชาลาหมายเลข 3
เพราะว่ารถไฟจะมุ่งหน้าไปปลายทางหลายแห่งมาก เพราะงั้นจะต้องขึ้นรถไฟที่จะมุ่งหน้าไปที่ “สนามบินคันไซ” เท่านั้น
ตอนที่ขึ้นรถไฟ ถึงแม้ว่าจะมีคนแน่น แต่พอยิ่งเข้าใกล้สนามบิน ผู้โดยสารก็จะค่อย ๆ ทยอยลงจากรถไฟไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ได้นั่งครองที่นั่งขนาดใหญ่แบบนี้คนเดียว
การท่องเที่ยวโอซาก้า เกียวโต โกเบในครั้งนี้ได้ขึ้นรถไฟหลายขบวนมาก
KANSAI THRU PASS ที่ซื้อมา 4000 เยน สุดท้ายก็ขึ้นรถไฟในราคา 5000 เยน ถือเป็นการท่องเที่ยวที่คุ้มมากขึ้น 1000 เยน ข้อดีอีกอย่างก็คือพอซื้อพาสแล้วก็ไม่ต้องไปเสียเวลาซื้อตั๋วในทุก ๆ ครั้งด้วยนะ
สนามบินคันไซในยามค่ำคืนมีคนน้อยเลยเช็คอินได้ในทันที
การท่องเที่ยวในครั้งนี้ เริ่มต้นจากซุชิของร้าน Endou, ฮานะโทโระของอาราชิยามะ ต่อด้วยหิมะของภูเขาร็อคโค แล้วมาจบด้วยทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโอซาก้า ช่างเป็นช่วงเวลา 3 วันที่ฟินแบบคาดไม่ถึงสุด ๆ
แล้วจะแวะมาประเทศญี่ปุ่นใหม่นะ สวัสดีค่ะ