“เส้นทางสายอุโมงค์ซากุระ” พร้อมชมซากุระสายพันธุ์หายากในโรงกษาปณ์ญี่ปุ่นในโอซาก้า
UP DATE 17.เม.ย.2562
เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในช่วงดอกซากุระบาน โดยเฉพาะในเดือนเมษายน ถือเป็นช่วงหนึ่งที่การท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย ทั้งวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ อากาศในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญีปุ่นที่ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป และที่สำคัญก็คือ “ซากุระ” ที่บานสวยงามทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในสถานที่ที่มีซากุระบาน ภายในเมืองก็จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาชมความสวยงามของซากุระกันอย่างคึกคักในทุกๆ แห่ง และเมื่อมีผู้คนมาชมซากุระกันมากมายแต่ละสถานที่ก็จะมีร้านค้าแผงลอยมาจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และร้านขายของต่างๆ มากมายเรียงรายกันอย่างคึกคักเช่นกัน
หากพูดถึงการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นนั้น นอกจาก “โตเกียว” ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นในการท่องเที่ยวแถบคันโตแล้วแล้ว การท่องเที่ยวในแถบคันไซโดยเฉพาะเมืองรองอย่าง “โอซาก้า” ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งสถานที่ชมซากุระในโอซาก้าก็มีอยู่มากมาย โดยสถานที่ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของโอซาก้าก็คือ “โรงกษาปณ์โอซาก้า(Japan Mint)” ที่จะเปิดให้ชมอุโมงค์ซากุระที่สวยงามในช่วงเดือนเมษายนของทุกๆ ปี ดังนั้นในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศเส้นทางอุโมงค์ซากุระที่สวยงามในโรงกษาปณ์โอซาก้า (Osaka Japan Mint) กันค่ะ
『โรงกษาปณ์โอซาก้า(Japan Mint)』เป็นสถานที่จัดแสดงเหรียญกษาปณ์ หรือวัตถุโบราณที่มีความเกี่ยวข้องกับการเงิน อาคารแบบสไตล์ยุโรป โดยภายในบริเวณโรงกษาปณ์โอซาก้าแห่งนี้จะเปิดให้ได้เข้าชมซากุระในเดือนเมษายนของทุกปี(วันที่เปลี่ยนแปลงทุกปี และเช็คได้ทางเว็บไซต์) พร้อมชมซากุระสายพันธุ์หายากนานาชนิดในเส้นทางสายนี้
การเดินทางไปยัง โรงกษาปร์โอซาก้า นั้นสามารถนั่งรถไฟมายัง “สถานีเท็มมะบาชิ” (รถไฟฟ้าใต้ดินสายทานิมาจิ : Subway Tanimachi Line หรือ รถไฟเคฮัง : Keihan Private Railway) หรือ “สถานีโอซาก้าเท็มมังงุ” (JR Tozai-Sen) และใช้เวลาเดินเท้าจากสถานีเหล่านี้อีก 15 นาที ซึ่งในปีพ.ศ.2562 โรงกษาปณ์โอซาก้าได้เปิดให้เข้าชมซากุระในช่วงวันที่ 9 เมษายน ไปจนถึง 15 เมษายน เวลาตั้งแต่ 10:00 น. ไปจนถึง 21:00 น.(ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9:00-21:00 น.) สามารถเข้าชมได้ฟรี มีข้อควรระวังคือภายในโรงกษาปณ์จะไม่สามารถนำอาหารหรือเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานด้านใน
ส่วน The Mint Museum และ Mint Tour จะปิดให้บริการให้ช่วงเทศกาลซากุระ ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน ไปจนถึง 15 เมษายน
WEBSITE:https://www.mint.go.jp/category/eng
เราเข้าไปชมด้านในกันเลย เมื่อเดินเข้ามาแล้วก็จะเป็นเส้นทางอุโมงค์ซากกุระที่สวยงามมากๆ ที่นี่จะมีกฏระเบียบที่เคร่งครัดเล็กน้อยเพื่อให้ผู้ที่มาเข้าชมได้ชมซากุระอย่างทั่วถึงและสะดวกสบาย ดังนั้นจึงมีกฏว่าห้ามเดินย้อนศร ห้ามหยุดขวางทางเดิน และห้ามใช้ไม้เซลฟี่ในบริเวณนี้ เป็นต้น
โดยภายในโรงกษาณป์นี้ก็จะมีซากุระอยู่หลากหลายสายพันธุ์และหลากหลายสีสัน กว่า 134 สายพันธุ์ และมีต้นซากุระมากถึง 338 ต้น ผสมผสานกันเป็นอุโมงค์ซากุระที่สวยงาม เป็นระยะทางกว่า 560 เมตรเลยทีเดียว
คุณสามารถชมซากุระสายพันธุ์แปลกตา และดอกซากุระสายพันธุ์หายากได้ที่นี่ ซึ่งซากุระแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีช่วงเวลาดอกไม้บานที่แตกต่างกันออกไป ในแต่ละต้นก็จะมีชื่อสายพันธุ์นั้นๆ กำกับอยู่อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ป้ายชื่อสายพันธุ์จะเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น ดังนั้นในครั้งนี้เราจะมายกตัวอย่างซากุระบางสายพันธุ์ที่บานอยู่ที่นี่กัน
ต้นซากุระสายพันธุ์สายพันธุ์ต่างๆ ภายในโรงกษาปณ์โอซาก้า
เริ่มกันที่ “เบนิคาสะ”「紅笠(べにかさ)」เป็นดอกที่ผสมสายพันธุ์ระหว่าง “อิโตะคุคุริ(糸括)”และ “ซาโตะซากุระ(里桜)” ในขณะที่ดอกยังไม่บาน(ดอกตูม)จะเป็นสีชมพูเข้ม แต่เมื่อดอกไม้บานแล้วส่วนกลางดอกจะเป็นสีขาวไล่ไปบริเวณรอบนอกกลีบดอกจะเป็นสีชมพูอ่อน ดอกไม้มีกลีบดอกมากมายเป็นพู่หนาแน่น ซ้อนๆ กันรวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 50-60 กลีบต่อหนึ่งดอก สามารถชมได้ในช่วงปลายเดือนเมษายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
“ยาเอะ มูราซากิ ซากุระ”「八重紫桜(やえむらさきさくら)」เกิดจากการเพาะเมล็ดจากสายพันธุ์ “มูราซากิซากุระ” เป็นดอกซากุระที่มีกลีบดอกขนาดใหญ่ สีชมพูเข้ม กลีบซ้อนๆ กันประมาณ 11-20 กลีบต่อหนึ่งดอก ดอกไม้บานในช่วงกลางเดือนเมษายน ไปจนถึงช่วงปลายเดือน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
“ยาเอะเบนิโทระโนะโอะ”「八重紅虎の尾(やえべにとらのお)」มีศูนย์กลางการเพาะปลูกอยู่ที่เกียวโตมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีกลีบดอกขนาดใหญ่สีชมพู กลีบดอกเป็นพุ่มซ้อนๆ กับรวมแล้วประมาณ 15-20 กลีบต่อหนึ่งดอก ดอกไม้บานในช่วงกลางเดือนเมษายน ไปจนถึงช่วงปลายเดือน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
“เอเก็นจิ”「永源寺(えいげんじ)」เป็นดอกซาโตะซากุระที่เกิดขึ้นบริเวณวัดเอเก็นจิในจังหวัดชิงะ จึงมีชื่อว่า “เอเก็นจิ” มีกลีบดอกประมาณ 10-15 กลีบต่อหนึ่งดอก กลิ่นค่อนข้างแรง ในขณะที่ดอกตูมจะเป็นสีชมพูแต่เมื่อดอกไม้บานก็จะเป็นสีขาว ซึ่งดอกจะบานหันหน้าลงดินเพราะฉะนั้นจะต้องชมจากมุมด้านล่าง ดอกไม้บานในช่วงกลางเดือนเมษายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
“เบนิชิกุเระ”「紅時雨(べにしぐれ)」เกิดจากการผสมสายพันธุ์ระหว่าง “อาซุมะนิชิกิ(東錦)” และ ดอกซาโตะซากุระพันธุ์คาสุมิซากุระ ดอกซากุระสีชมพูเข้ม มีกลีบซ้อนกันเป็นพุ่มหนาแน่น กลีบดอกรวมแล้วประมาณ 25-35 กลีบต่อหนึ่งดอก ดอกไม้บานในช่วงปลายเดือนเมษายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
และนี้ก็คือตัวอย่างซากุระสายพันธุ์ต่างๆ ที่เราได้หยิบยกมาเล็กน้อย ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีอยู่มากมายภายในโรงกษาปณ์แห่งนี้เท่านั้น และการจะได้เห็นซากุระหลากหลายสายพันธุ์พร้อมๆ กันแบบนี้ยิ่งเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมากๆ เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นที่นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่เพลิดเพลินกับเทศกาลซากุระที่คุณไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ค่ะ
บรรยากาศร้านค้าแผงลอยรอบๆ โรงกษาปณ์โอซาก้า
และหลังจากที่ได้เพลิดเพลินกับซากุระกันแล้ว เราจะเดินออกไปทางส่วนด้านนอก จากประตูทางฝั่งขวามือกันเลย ซึ่งเมื่อออกมาด้านนอกแล้วก็จะเห็นร้านค้าแผงลอยเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านไก่ทอด ร้านยากิโซบะ หรือทาโกยากิ นอกจากนี้ยังมีขนมหวานอย่างเช่น เครป ผลไม้เคลือบช๊อคโกแลต เครื่องดื่ม และที่สำคัญคือมีร้านอาหารทะเล กับร้านเนื้อย่างเสียบไม้อยู่หลายร้านเลยทีเดียว
ร้านค้าแผงลอยต่างๆ มากมายมาจำหน่ายอาหารกันอย่างคึกคัก ซึ่งในบางร้านจะเป็นร้านแผงลอยที่มีโต๊ะที่นั่งโดยเฉพาะ การตกแต่งร้านก็เป็นแบบญี่ปุ่นมากๆ นอกจากจะได้ซื้ออาหารนั่งทานแบบเต็มที่สะดวกสบายแล้ว ยังจะได้รูปสวยๆ ในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นสุดๆ อีกด้วย
ซึ่งเส้นทางย่านร้านค้าแผงลอยนี้จะมีต้นซากุระอยู่ตลอดทางเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะนั่งทานร้านไหนๆ หรือบริเวณไหนๆ ก็จะได้ชมซากุระที่สวยงามไปพร้อมๆ กันอย่างเต็มที่เลยทีเดียว
นอกจากนี้บริเวณโรงกษาณ์หรือบริเวณสวนข้างๆ โรงกษาณ์แห่งนี้จะอยู่ติดกับแม่น้ำโอคาวะ (O River) ด้วย เพราะฉะนั้นคุณสามารถซื้ออาหารมาทานชมวิวซากุระ ไปพร้อมๆ กับวิวแม่น้ำสายใหญ่ เท่านั้นไม่พอยังได้ชมบรรยากาศเรือที่แล่นผ่านไปมาบริเวณนี้อยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับช่วงเทศกาลชมซากุระที่โรงกษาปณ์แห่งนี้ นอกจากคุณจะได้เพลิดเพลินกับดอกซากุระหลากหลายสายพันธุ์ หลากสีแล้ว ยังได้สัมผัสบรรยากาศงานเทศกาลในประเทศญี่ปุ่น พร้อมทานอาหาร และขนมอร่อยๆ อีกด้วย และสำหรับครอบครัวที่มากับเด็กๆ ก็ยังมีร้านของเล่นน่ารักๆ หรือร้านช้อนปลา ช้อนกุ้งให้ได้เพลิดเพลินกันอีกด้วย ยังไงลองมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้ที่ “โรงกษาปณ์ญี่ปุ่น(Osaka Japan Mint)” ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ชมซากุระชื่อดังในโอซาก้ากันดูได้เลย