เที่ยวด้วย Pass สุดคุ้ม
ของเราคือ รีวิวการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
ติดตามรีวิวของแต่ละวันในทริป
พร้อมตารางการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ Pass ต่างๆ
Day1-3 เที่ยว ชิม ช้อปย่าน “โอโมเตะซันโด・ฮาราจุกุ” ย่านดังในตัวเมืองโตเกียว
TOKYO-HAKONE-GOTEMBA-KAWAGUCHIKO/FUJI-TOKYO
หลังจากที่ ICHIGO-CHAN ได้ทานอาหารกลางวันที่ร้าน「SHIROEBITEI」เพื่อเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดใหม่จากทะเลญี่ปุ่น และตอนนี้ก็ได้เดินทางมาที่ “ชินจุกุ” ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม「SHINJUKU WASHINGTON HOTEL」จากนั้นได้เดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามของดอกแปะก๊วยที่ “ชินจุกุ เซ็นทรัล พาร์ค” และเยี่ยมชม “ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”「SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE」ไปแล้ว
ในตอนนี้เราก็จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวภายในเมืองโตเกียวกันต่อ โดยหลังจากนี้เราจะมุ่งหน้าไปที่ “โอโมเตะซันโด・ฮาราจุกุ”「OMOTESANDO・HARAJUKU」สถานที่จัดการประดับไฟอิลลูมิเนชั่นสวยงามจัดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงคริสต์มาส อีกทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งของเหล่าวัยรุ่นที่มีทั้ง「KIDDY LAND」หรือ「Onitsuka Tiger」รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ มากมายที่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งหมด
การท่องเที่ยวสุดคุ้มด้วย「ฟูจิฮาโกเน่พาส」ในตอนที่ 3 นี้ ICHIGO-CHAN จะพาเพื่อนๆ ไปช้อปปิ้งภายในย่าน “โอโมเตะซันโด・ฮาราจุกุ”「OMOTESANDO・HARAJUKU」กันค่ะ
เดินจาก “ศาลเจ้าชินจุกุ จูนิโซ คุมาโนะ”「SHINJUKU 12 SO KUMANO SHRINE」กลับไปตามทางเดิมเพื่อมุ่งหน้าไปที่สถานีชินจุกุ ซึ่งบริเวณย่านทางฝั่งประตูตะวันตกของสถานีชินจุกุนั้น จะมีทั้งร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า「YODOBASHI CAMERA」สาขาหลักที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น หรือร้านจำหน่ายกล้องมือสอง「KITAMURA CAMERA」หรือร้าน「MapCamera」ที่มีจำหน่ายทั้งกล้องรุ่นใหม่อย่าง Canon รุ่น EOS80D หรือ EOS800D (ที่ญี่ปุ่นคือ EOS Kiss9xi) และ Nikon รุ่น D7500 เท่านั้นไม่พอยังมีกล้องฟิลม์ ซึ่งนอกจากจะมีสินค้าให้เลือกหลากหลายแล้ว ยังสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่คุ้มค่าอีกด้วย
และด้านหน้าบริเวณย่าน「CAMERA STREET」ก็คือประตูตะวันตกของสถานีชินจุกุเลย จากสถานีชินจุกุ เดินทางไปยังย่าน “โอโมเตะซันโด・ฮาราจุกุ”「OMOTESANDO・HARAJUKU」นั้นเราจะนั่งรถไฟ JR สายยามาโนเตะ ไปที่ “สถานีฮาราจุกุ” กันค่ะ
เมื่อถึงอาคารสถานีชินจุกุฝั่งประตูตะวันตกแล้ว ก็เดินเรียบอาคารไปทางขวามือ จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้าสถานีอยู่ก่อนถึงสี่แยกใหญ่ทางซ้ายมือ ให้เข้าไปในอาคารสถานีเลยจากนั้นก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ลึกเข้าไปทางซ้ายมือ เพื่อขึ้นมาเจอสถานีรถไฟโอดะคิวสถานีชินจุกุ ให้เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอช่องตรวจตั๋วของสถานีรถไฟ JR ชินจุกุทางฝั่งใต้ South Entrance เลย
แต่ก่อนจะผ่านเข้าช่องตรวจตั๋ว เราจะต้องไปซื้อตั๋วรถไฟกันก่อน เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติจะอยู่ทางขวามือ เมื่อหันหน้าเข้าช่องตรวจตั๋ว
วิธีซื้อตั๋วก็ไม่ยาก ก่อนอื่นก็จะต้องเช็คราคาค่าโดยสารจากบอร์ดแผนผังเส้นทางรถไฟที่อยู่บนเครื่องจำหน่ายตั๋ว ซึ่งตั๋วจาก “สถานีชินจุกุ” ไปยัง “สถานีฮาราจุกุ” จะอยู่ที่ 140 เยน จากนั้นก็สัมผัส「Language」บนหน้าจอ เพื่อเลือก「English」และ「Ticket」จากนั้นหน้าจอก็จะแสดงตัวเลขค่าเดินทางตามภาพล่างซ้าย ให้กดปุ่มตามจำนวนค่าโดยสาร (140 เยน) ที่เช็คเอาไว้ และใส่เงินในขั้นตอนสุดท้ายเลยค่ะ
เมื่อซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ผ่านเข้าไปในช่องตรวจตั๋วฝั่งใต้ และลงบันไดไปยังชานชาลาหมายเลข 13・14 ของรถไฟสายยามาโนเตะเลย ซึ่งรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่ “ฮาราจุกุ” จะออกตัวจากชานชาลาหมายเลข 14 ซึ่งรถไฟสายยามาโนเตะ เป็นรถไฟ Loop Line ที่ใช้เวลาในการวิ่งวนรอบโตเกียว 62-69 นาที ต่อรอบ ช่วงเช้าและเย็นจะวิ่งทุกๆ 2-3 นาที ส่วนช่วงกลางวันจะวิ่งทุกๆ 4 นาที เรียกได้ว่าเป็นรถไฟที่วิ่งหนักที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องรอนานก็สามารถขึ้นรถไฟได้เลย
โดยเราจะใช้เวลาในการเดินทางจาก “สถานีชินจุกุ” ไปยัง “สถานีฮาราจุกุ” ไป 2 สถานี เป็นเวลา 4 นาที แปปเดียวเท่านั้นก็สามารถเดินทางไปที่ “ฮาราจุกุ” ได้เลย
เมื่อถึงสถานีฮาราจุกุแล้ว ก็ขึ้นบันไดที่อยู่ภายในชานชาลา จากนั้นก็ข้ามสะพานไป และผ่านช่องตรวจตั๋วออกไปเลย จากนั้นก็เดินข้ามทางม้าลายที่อยู่ตรงหน้าไป และเดินไปทางขวามือ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายที่สี่แยก ก็จะเจอย่าน “โอโมเตะซันโด”「OMOTESANDO」เลย
ย่าน “โอโมเตะซันโด・ฮาราจุกุ”「OMOTESANDO・HARAJUKU」ย่านที่เป็นแหล่งรวมของเหล่าวัยรุ่น ในส่วนที่อยู่ในกรอบสีฟ้าก็คือย่านที่เป็นศูนย์รวมร้านต่างๆ สำหรับวัยรุ่นมัธยมกับบริเวณ「TAKESHITA-DORI」ส่วนบริเวณที่อยู่ในกรอบสีเหลืองก็คือย่านบริเวณ “โอโมเตะซันโด” ที่อยู่ห่างจากสถานีฮาราจุกุเล็กน้อย ซึ่งย่านนี้จะให้บรรยากาศที่แตกต่างออกไป เนื่องจากเป็นย่านที่เป็นศูนย์รวมร้านค้าไฮแบรนด์สำหรับผู้ใหญ่
และในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงคริสต์มาสจะเป็นช่วงที่มีการประดับไฟยามค่ำคืนในย่าน “โอโมเตะซันโด” ที่ประดับด้วยไฟบนต้นเคยากิกว่า 150 ต้น เป็นระยะทางกว่า 1.1 กิโลเมตร ด้วยไฟ LED กว่า 9 แสนดวง ซึ่งในปีพ.ศ.2561 จะมีการประดับไฟตั้งแต่ช่วงวันที่ 29 พฤศจิกายน ไปจนถึง วันที่ 25 เดือนธันวาคม ถึงแม้ว่าในช่วงที่เพื่อนๆ ได้อ่านตอนนี้จะเป็นช่วงที่การประดับไฟหมดลงแล้ว แต่หากเพื่อนๆ ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนธันวาคม ก็ลองแวะมาที่ “โอโมเตะซันโด” กันดูนะคะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
และหนึ่งในไฮไลท์ของ “โอโมเตะซันโด” ก็คือห้างสรรพสินค้า「โอโมเตะซันโด ฮิลส์」ที่จะมีการประดับต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงวันคริสต์มาส ซึ่งการประดับต้นคริสต์มาสในปีนี้จะมาด้วยธีมหัวใจ และเพชรระยิบระยับสวยงาม ความสูงกว่า 7 เมตร และมีการห้อยเพชรระย้ากว่า 6000 เส้น ระยิบระยับสวยงามเป็นอย่างมาก ปีหน้าจะมาไหนธีมไหน ต้องลุ้นกันดูนะคะ
เดินจากสถานีฮาราจุกุ มาจนถึงย่านโอโมเตะซันโด ข้ามสี่แยกขนาดใหญ่ไปก็จะเจอ「KIDDY LAND」อยู่ทางขวามือ เป็นร้านจำหน่ายของเล่นที่มีคาแรคเตอร์ต่างๆ ทั้งสนูปปี้ ตัวการ์ตูนเห็ดนาเมโกะ หมีริลัคคุมะ ฯลฯ อีกมากมาย และดูเหมือนว่าคาแรคเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็น หมีริลัคคุมะ มีจำหน่ายทั้งสินค้าเฉพาะในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีแบบให้เลือกเยอะมากๆ อีกด้วย
และเมื่อเดินเลย KIDDY LAND และข้ามสะพานคนเดินไปฝั่งตรงข้ามย่านโอโมเตะซันโด และเดินไปฝั่งตรงข้ามสถานีฮาราจุกุไปเรื่อยๆ และเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกถัดไปก็จะเจอร้าน『Onitsuka Tiger』
แน่นอนว่าร้านที่ญี่ปุ่นก็จะเป็นร้านที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย หลากหลายกว่าที่ไทย และยังสามารถซื้อได้ราคาที่คุ้มกว่า และเมื่อเดินเลยไปอีกซักพัก ก็จะมีร้าน Onitsuka Tiger รุ่นท๊อปๆ กับ『NIPPON MADE』ที่รวบรวมเฉพาะสินค้าที่ผลิตที่ญี่ปุ่นเท่านั้นอีกด้วย
เดินจาก “ย่านโอโมเตะซันโด” ที่เป็นศูนย์รวมของ “โอโมเตะซันโด ฮิลส์” “Onitsuka Tiger” หรือ “KIDDYLAND” ฯลฯ อีกมากมาย กลับมาที่สถานีฮาราจุกุ และเดินออกจากสถานีไปทางซ้ายมือ ก็จะเจอกับย่าน『TAKESHITA-DORI』 ที่คึกคัก
“ย่านทาเคชิตะโดริ” ที่คึกครื้นนี้จะเปิดให้บริการทุกวัน เป็นสถานที่ชื่อดังอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งย่านนี้จะเป็นย่านสำหรับวัยรุ่นที่มีสินค้าน่ารักๆ หรือเสื้อผ้าราคาถูกมากมาย แค่เดินเล่นที่ย่านนี้ก็น่าตื่นตามากๆ เลยค่ะ
ถึงแม้ว่า “ย่านทาเคชิตะโดริ” จะเป็นแหล่งรวมร้านค้าสำหรับวัยรุ่น แต่ก็มีร้านค้าสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่เช่นกัน ทั้งร้าน「BIC CAMERA SELECT」ที่คัดสรรค์สินค้าจากร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า「BIC CAMERA」หรือร้าน 100 เยนอย่าง「DAISO」ขนาดใหญ่ เท่านั้นไม่พอยังมีร้าน Drugstore「Matsumoto Kiyoshi」หรือร้านที่เป็นแหล่งรวมกาจาปอง ฯลฯ ไม่ว่าผู้ใหญ่ หรือเด็กก็สามารถสนุกไปกับย่านนี้ได้อย่างเต็มที่
และร้านที่โดดเด่นใน “ย่านทาเคชิตะโดริ” นี้ก็คือร้านเครป ที่มีรสชาติในเลือกมากมาย นอกจากวิปครีม หรือผลไม้แล้ว ก็ยังมีเค้ก คุ๊กกี้ ฯลฯ ให้ได้ทานเล่นระหว่างเดินช้อปปิ้งในย่านนี้ ซึ่งมีร้านเครปอยู่มากถึง 19 ร้านเลยทีเดียว(ณ ข้อมูลปัจุบัน เดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ.2561) ICHIGO-CHAN ก็ไม่พลาดลองชิมเครปของร้าน『SANTAMONICA』ดูหน่อย เป็นร้านที่มีสาขาอยู่แค่ที่ย่านทาเคชิตะโดริถึง 2 ร้านเลยทีเดียว
ที่ตู้โชว์จะมีตัวอย่างเครปอยู่มากมายทั้งท้อปปิ้งวิปครีม ผลไม้ หรือเครป(แต่ละชนิด 390 เยน)ส่วน ICHIGO-CHAN เลือกเป็นหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดกับเครป「STRAWBERRY BANANA ICE」(540 เยน)ที่ประกอบไปด้วยสตรอเบอร์รี่ กล้วย ไอศกรีมวนิลา วิปครีมและซอสช๊อคโกแลต ปริมาณแบบจัดเต็ม หากต้องการเพิ่มปริมาณวิปครีมก็สามารถเพิ่มเงินได้อีกด้วย ถ้าได้มาย่านนี้ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
หลังจากช้อปปิ้งที่ย่าน “โอโมเตะซันโด・ฮาราจุกุ” และทานเครปแล้ว เราจะนั่งรถไฟ JR สายยามาโนเตะจากสถานีฮาราจุกุ ไปยัง ชินจุกุเพื่อกลับเข้าโรงแรมกันค่ะ
โดยเดินจาก “ย่านทาเคชิตะโดริ” ไปและข้ามถนนไป ก็จะเจอสถานีฮาราจุกุประตูทาเคชิตะเลย และบริเวณข้างๆ ช่องตรวจตั๋วจะมีเครื่องจำหน่ายตั๋วอยู่เพราะฉะนั้นซื้อตั๋วรถไฟเหมือนตอนขามาและไปที่ชานชาลากันเลยค่ะ
ซึ่งชานชาลาที่สถานีชินจุกุจะมีชานชาลาเดียวเท่านั้น แต่ให้ขึ้นทางฝั่งชานชาลาหมายเลข 2 กับรถไฟที่มุ่งหน้าไปสู่「ชินจุกุ・อิเคะบุคุโระ」ค่ะ
เมื่อเดินทางมาถึงสถานีชินจุกุแล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนที่อยู่ภายในชานชาลาไปและออกจากสถานีจากช่องตรวจตั๋วทางฝั่งใต้เลย
ที่บริเวณรอบๆ สถานีชินจุกุจะมีการแสดงต่างๆ อยู่มากมาย ไม่ว่าการแสดงโชว์ไหนๆ ก็ดูเหมือนมืออาชีพทั้งนั้นเลยค่ะ เรามีภาพบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆ มาฝากเพื่อนๆ ด้วยค่ะ คลิ๊กเลย!
หลังจากที่ชมโชว์ต่างๆ บริเวณสถานีแล้ว เราจะไปทานอาหารค่ำกันที่「ISOMARU SUISAN(磯丸水産)」กันค่ะ ร้าน「ISOMARU SUISAN(磯丸水産)」นี้เป็นร้านราคาประหยัดที่มีร้านอยู่ในบริเวณสถานีชินจุกุประตูตะวันตกมากถึง 3 สาขาเลยทีเดียว
ซึ่งเราจะไปทานร้านสาขาสองที่ชินจุกุตะวันตก 1 โจเมะ กันค่ะ โดยออกจากช่องตรวจตั๋วสถานีชินจุกุฝั่งประตูใต้ และตรงไปเรื่อยๆ จากนั้นเมื่อออกจากอาคารสถานีแล้วก็เดินไปทางฝั่งด้านขวามือ
เดินจากสถานีชินจุกุมาประมาณ 3 นาที ก็จะเจอร้านอิซากายะ ร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมทั้งคนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติอย่างร้าน “อิโซะมารุ ซุยซัน”『ISOMARU SUISAN(磯丸水産)』
เป็นร้านที่เปิดให้บริการทุกวัน เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็เป็นร้านที่มีเอกลักษณ์น่าเข้ามากๆ เลยค่ะ
ในตอนต่อไปเราจะพาเพื่อนๆ ไปทานร้านอิซากายะที่ชินจุกุกับร้าน “อิโซะมารุ ซุยซัน”「ISOMARU SUISAN(磯丸水産)」จากนั้นเข้าพักที่โรงแรม「SHINJUKU WASHINGTON HOTEL」กันค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ♪
【ตารางการเดินทาง Day1-3 OMOTESANSO AND HARAJUKU AREA】